ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด - ตอนที่ 478 สุดท้ายผู้ชนะก็ย่อมเป็นนาง / ตอนที่ 479 ยุให้รำ ตำให้รั่ว
- Home
- ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด
- ตอนที่ 478 สุดท้ายผู้ชนะก็ย่อมเป็นนาง / ตอนที่ 479 ยุให้รำ ตำให้รั่ว
ตอนที่ 478 สุดท้ายผู้ชนะก็ย่อมเป็นนาง
นางเลือกทรยศเจียงสือ เหตุผลที่สำคัญที่สุดก็คือเจียงปิน ถึงแม้ตอนออกเรือนจะคอยย้ำเตือนกับตนเองว่า อย่าถือว่าตนเองเป็นผู้หญิงของเจียงปินจริงๆ เพียงแต่อยู่ด้วยกันทุกวันมาเจ็ดปี ก็ยังไหวหวั่นโดยไม่สามารถควบคุมได้
เรื่องหญ้าเย็นใจนางไม่สามารถให้เจียงปินล่วงรู้ได้ นางเคยคิดจะให้กำเนิดบุตรแก่เจียงปิน เพียงแต่เมื่อคิดถึงวิธีการของเจียงสือ ในที่สุดก็ไม่กล้า เทียบกับเรื่องลูกแล้ว นางอยากอยู่ข้างกายเจียงปินตลอดไปมากกว่า
เพียงแต่เรื่องนี้เกรงว่านางจะปิดต่อไปได้ไม่นานแล้ว นางไม่รู้ว่าเจียงสือจะยอมปล่อยมือมาจัดการนางที่ทรยศต่ออาจารย์หรือไม่ ตอนนี้นางทำได้เพียงยืนอยู่ข้างมู่หรงกวานเย่ว์อย่างมั่นคง มู่หรงกวานเย่ว์เป็นคนเดียวที่นางพอจะพึ่งพิงได้
เฉินปี้ได้ยาถอนพิษแดงทั่วธารแล้ว ก็ถือเอาไว้ในมือตลอด ต่อไปจะทำอย่างไร ในใจนางคำนวณเอาไว้แล้ว นี่เป็นโอกาสดีที่ฟ้าประทานมาให้ จะโทษก็ต้องโทษที่หลิงอวี้จื้อหาเรื่องคนไว้เยอะ แม้แต่มู่หรงกวานเสวี่ยยังไม่ชอบขี้หน้าเธอ สร้างศัตรูไว้มากเกินไป ก็ต้องรับผิดชอบผลที่ตามมา
“ซูฮว่า เจ้าไปเอากริชมาให้ข้าสักเล่มสิ”
ผ่านไปนาน เฉินปี้ถึงพูดสั่งการ
ถึงแม้ว่าซูฮว่าจะไม่รู้ว่าเฉินปี้ต้องการกริชไปทำอะไร แต่ก็ไม่ได้ถามมาก ลงไปเอากริชมาให้เฉินปี้อย่างรวดเร็ว เวลาผ่านไปสักครู่ ก็หยิบกริชเล่มหนึ่งมา
ซูฮว่าส่งกริชให้เฉินปี้ ถามด้วยความสงสัย
“คุณหนู เอากริชไปทำอะไรหรือเจ้าคะ”
เฉินปี้ไม่พูดอะไร ดึงแขนเสื้อขึ้นมา เผยแขนขาวผ่อง ซูฮว่ายิ่งสงสัย ไม่รู้ว่าเฉินปี้คิดจะทำอะไร
เฉินปี้เอากริชกรีดแขนตนเองอย่างแรง ความรู้สึกเจ็บปวดรุนแรงแผ่ซ่านไปทั้งตัว เธอเหยียดปากยิงฟันด้วยความเจ็บปวด เลือดสีแดงสดใหลหยดลงมาจากแขนไม่ขาดสาย
การกระทำของเฉินปี้ทำให้ซูฮว่าตกใจจนตะลึง รีบหยิบผ้าเช็ดหน้ามาอุดบาดแผลบนแขนของเฉินปี้ แต่เฉินปี้ปฏิเสธ เฉินปี้เบี่ยงแขนตัวเองออกไป มองแขนที่เลือดไหลไม่หยุดของตนเองอย่างไม่แยแส
“ไม่ต้องห้ามเลือด ยิ่งเยอะยิ่งดี”
พูดจบเฉินปี้ก็กรีดแขนตัวเองอีกรอย ซูฮว่าตกใจจนเกือบกรีดร้องออกมา หรือว่าคุณหนูของเธอเป็นบ้าไปแล้ว ใครที่ไหนจะเอามีดมาเฉือนตัวเอง
เฉินปี้โยนกริชในมือลง พื้นโชกไปด้วยหยดเลือดสด กลิ่นคาวเลือดจางๆ ฟุ้งกระจายทั่วห้อง เฉินปี้เจ็บจนต้องกัดฟัน สูดหายใจลึก ดึงแขนเสื้อลงอย่างระวัง ปล่อยให้เลือดเปื้อนแขนเสื้อ
“คุณหนู คุณหนูทำอะไรเจ้าคะ”
สติซูฮว่ายังไม่กลับมาจากอาการตกใจ พูดจาระมัดระวัง เห็นได้ชัดว่าตกใจการกระทำของเฉินปี้จนมึนงงไปแล้ว
เฉินปี้ทนความเจ็บปวด แต่ก็สงบนิ่งอย่างมาก
“ไปเถิด ตอนนี้ข้าจะไปจวนท่านอ๋อง”
พูดจบเฉินปี้ก็ลุกขึ้น ซูฮว่าไล่ตามไป
“คุณหนู แผลของคุณหนูลึกเช่นนี้ ไม่พันแผลหรือเจ้าคะ เสื้อผ้ามีแต่เลือด ไปหาท่านอ๋องเช่นนี้ไม่เหมาะสมกระมังเจ้าคะ!”
“หากไม่มีแผลนี้ จะไปหาท่านอ๋องง่ายๆ ได้อย่างไร ถึงเขาจะใจแข็งเป็นหินแต่ก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง หากข้าบาดเจ็บเพราะต้องการช่วยเหลือผู้หญิงของเขา ซูฮว่า เจ้าว่าท่านอ๋องจะว่าอย่างไร
ถ้าอยากได้คนคนหนึ่ง อย่างแรกสุดต้องได้ใจเขาก่อน ข้าไม่ต้องการให้เขาตกหลุมรักข้า แค่ต้องการมีตำแหน่งเล็กๆ ในใจเขา เขาเริ่มมีใจสงสารข้า ข้าก็ตั้งหลักในใจท่านอ๋องได้แล้ว
ต่อไประหว่างสองคนนี้ขอเพียงข้าได้ยุแยงสักหน่อย ไม่แน่ว่าไม่ต้องให้ข้าลงมือ หลิงอวี้จื้ออาจจะเป็นฝ่ายยอมมอบท่านอ๋องแก่ข้าเอง นี่เป็นสงครามที่ยืดเยื้อ ข้าเตรียมตัวอย่างดีแล้ว ไปเถิด! ซูฮว่า”
ความทุ่มเทของเฉินปี้ ซูฮว่านับถืออย่างยิ่ง นางรู้สึกว่าคุณหนูของนาง สุดท้ายจะได้เป็นพระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์อย่างแน่นอน สุดท้ายผู้ชนะย่อมเป็นคุณหนูของนาง หลิงอวี้จื้อไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณหนูของนาง
ตอนที่ 479 ยุให้รำ ตำให้รั่ว
พอขึ้นรถม้าแล้ว เฉินปี้ก็จงใจปล่อยผมกระเซอะกระเซิง ทำให้ตัวเองดูสะบักสะบอม ถึงค่อยลงจากรถม้า
เซียวเหยี่ยนกำลังอ่านเอกสารอยู่ในห้องทำงาน ได้ยินว่าเฉินปี้ต้องการพบเขา ฟ้าก็มืดไปนานแล้ว เหตุใดเฉินปี้ถึงวิ่งมาหาเขาดึกดื่นเช่นนี้
หรือว่าจะต้องการอะไร เขาวางเอกสารลง ลุกขึ้นไปโถงกลาง ห้องทำงานของเขานอกจากหลิงอวี้จื้อกับจูจิ่นแล้ว ก็ไม่มีใครเคยมา และเขาก็ไม่ให้คนอื่นเข้าห้องทำงานด้วย
เพิ่งจะมาถึงโถงกลางก็เห็นเฉินปี้ที่ลุกนั่งไม่เป็นสุข ผมนางกระเซอะกระเซิง หน้าขาวซีด แขนเสื้อมือซ้ายชุ่มโชกไปด้วยเลือดสีแดงสด นอกจากนั้นยังมีคราบเลือดประปรายที่กระโปรง
เห็นเซียวเหยี่ยนเข้ามา เฉินปี้ก็รีบเข้าไปหา พูดด้วยน้ำเสียงร้อนใจ
“ท่านอ๋อง ในที่สุดท่านก็มา ท่านรีบไปช่วยคุณหนูหลิงเถิด นี่คือยาถอนพิษเพคะ”
เฉินปี้หยิบขวดกระเบื้องสีดำออกมาจากออกเสื้อด้วยอาการสั่นเทา แล้วส่งให้ทันที มือของนางมีรอยเลือดเกรอะกรัง รอยเลือดสีแดงนั้นเตะตามาก ใครเห็นแล้วก็ต้องรู้สึกสงสาร
“เกิดอะไรขึ้น”
เซียวเหยี่ยนยังไม่รู้เรื่องหลิงอวี้จื้อโดนพิษ เห็นเฉินปี้เอายาถอนพิษให้ตนเองอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย สีหน้าก็ขรึมลงทันใด
เฉินปี้ตะลึง จากนั้นรีบร้อนอธิบาย
“วันนี้ตอนเช้าไทเฮาทรงจัดงานเลี้ยงในวังเพคะ หม่อมฉันกับคุณหนูหลิงตกน้ำทั้งคู่ จากนั้นพวกเราก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยกัน หม่อมฉันอยู่ในที่อับ เห็นเจียงฮูหยินป้อนยาพิษให้คุณหนูหลิง หม่อมฉันควรเข้าไปช่วยคนหนูหลิงตั้งแต่แรก แต่ว่าเจียงฮูหยินดูเหมือนจะเก่งมาก หม่อมฉันจึงไม่กล้าข้าไปเพคะ”
เฉินปี้ก้มหน้า ดูเหมือนรู้สึกผิด
“หม่อมฉันคิดไปคิดมาหลายตลบ สุดท้ายก็ไปจวนตระกูลเจียง หม่อมฉันรู้ว่าท่านอ๋องกับคุณหนูหลิงรักกันมาก
หากคุณหนูหลิงเกิดเรื่องเพราะเหตุนี้ ท่านอ๋องย่อมอยู่ไม่เป็นสุข
อีกไม่นาน พวกเราก็ต้องแต่งงานเข้าจวนท่านอ๋องด้วยกัน ข้าหวังว่าท่านอ๋องจะแต่งงานรับคุณหนูหลิงเข้าจวนอย่างมีความสุข คนที่รักกันควรจะอยู่ด้วยกัน พูดแล้วก็ละอายใจ หม่อมฉันขี้ขลาดเอง ยังดีที่เจียงฮูหยินเอายาถอนพิษให้หม่อมฉัน
ท่านอ๋อง ท่านรีบไปช่วยคุณหนูหลิงเถิด ข้าก็ไม่รู้ว่าเป็นพิษอะไร เกรงว่าช้าไปจะไม่ทันเพคะ”
ซูฮว่าที่อยู่อีกด้านคุกเข่าได้เวลาพอดี พูดอย่างน่าเวทนาว่า
“ท่านอ๋องเพคะ คุณหนูบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ ให้นางทำแผลสักหน่อย นางก็ไม่ยอมเพคะ เอาแต่กลัวว่าคุณหนูหลิงจะเกิดเรื่อง
คุณหนูหลิงเข้าใจคุณหนูผิดมากมายนัก วันนี้ตอนที่อยู่ริมทะเลสาบก็ผลักคุณหนูลงทะเลสาบไป คุณหนูตกใจมาก ตอนอยู่ที่จวนตระกูลเจียงก็ถูกเจียงฮูหยินทำร้ายร่างกาย
ท่านอ๋องต้องอธิบายคุณหนูหลิงให้เข้าใจนะเพคะ คุณหนูไม่เคยคิดอะไรเกินเลยต่อท่านอ๋องจริงๆ เพคะ นางก็ถูกไทเฮาบังคับเช่นกัน ไม่รับปากไม่ได้เพคะ”
ได้ยินซูฮว่าพูดมาก เฉินปี้ก็อ้าปากตำหนิทันที
“ซูฮว่า เจ้าหุบปาก เจ้าพูดจาอะไรเหลวไหลต่อหน้าท่านอ๋อง”
นางเงยหน้ามองเซียวเหยี่ยน ฝืนกลั้นน้ำตา
“ท่านอ๋อง หม่อมฉันไม่เป็นอะไรเพคะ คุณหนูหลิงรักท่านอ๋องมาก ถึงได้จงใจทำรุนแรงกับหม่อมฉันเช่นนั้น
หม่อมฉันไม่ได้คิดอะไรเลยเถิดกับท่านอ๋องเลยจริงๆ ตอนนี้คิดเพียงแต่จะช่วยพี่ชายเท่านั้น เมื่อใดที่พี่ชายได้ยาถอนพิษ เมื่อนั้นหม่อมฉันก็จะไปจากจวนท่านอ๋องทันที หม่อมฉันไม่เคยคิดจะเพิ่มภาระให้ท่านอ๋อง แต่ก็ยังทำให้ท่านอ๋องวุ่นวาย ขออภัยนะเพคะ ท่านอ๋อง”
เฉินปี้พูดพลางโขกหัวหนึ่งครั้ง ถึงแม้ว่าในคำพูดจะไม่ได้ประณามหลิงอวี้จื้อสักคำ แต่สีหน้าที่แสดงออกนั้น สื่อถึงการได้รับความอยุติธรรมนั้นชัดเจน ใครได้ยินก็ต้องคิดว่าหลิงอวี้จื้อก่อเรื่องโดยไร้เหตุผล
เซียวเหยี่ยนประคองเฉินปี้ขึ้นมาด้วยตนเอง
“คุณหนูเฉิน พี่ชายเจ้าจะไม่เป็นอะไร คุณหนูเฉินวางใจก็พอ”
“ขอบคุณท่านอ๋องเพคะ ท่านอ๋อง ท่านรีบไปเถิด อย่าเสียเวลาอีกเลย หม่อมฉันไม่เป็นอะไร ประเดี๋ยวจะกลับเรือนเองเพคะ”
เฉินปี้พูดเร่ง