ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด - ตอนที่ 486 พบอวิ๋นซั่วอีกครั้ง / ตอนที่ 487 ทำอย่างไรนางถึงจะลดกำแพงลง
- Home
- ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด
- ตอนที่ 486 พบอวิ๋นซั่วอีกครั้ง / ตอนที่ 487 ทำอย่างไรนางถึงจะลดกำแพงลง
ตอนที่ 486 พบอวิ๋นซั่วอีกครั้ง
ถนนใหญ่คึกคัก คลาคล่ำไปด้วยผู้คนทุกหนแห่ง หลิงอวี้จื้อแง้มม่านรถม้าด้วยความเบื่อหน่ายสุดขีด เห็นข้างนอกอากาศไม่เลว กลับจวนไปก็ไม่มีอะไรทำ ลงไปเดินเล่นเสียเลยดีกว่า
เธอใช้ให้รถม้าหยุด พูดกับมั่วชิงและหรูเยียนว่า
“พวกเจ้าไปเดินเล่นบนถนนใหญ่เป็นเพื่อนข้าหน่อย”
สองคนต่างรู้ว่าหลิงอวี้จื้ออารมณ์ไม่ดี พยักหน้ารับคำ หรูเยียนประคองหลิงอวี้จื้อลงรถม้า ยิ้มพูดว่า
“ข้างนอกคึกคักขนาดนี้ คุณหนูชอบความคึกคักมาตลอด ไปดูว่ามีอะไรอยากซื้อหรือไม่กันหน่อยเถิดเจ้าค่ะ”
“พวกเจ้าพกเงินมาหรือยัง”
มั่วชิงส่ายหน้า หรูเยียนหยิบถุงเงินออกมาจากอกเสื้อ พูดด้วยความกระดากใจ
“อุ๊ย มีเงินตำลึงแค่ก้อนเดียวเจ้าค่ะ คุณหนูใช้ประหยัดหน่อยนะเจ้าคะ สามารถซื้อของว่างทานได้ไม่น้อยเลยเจ้าค่ะ”
หลิงอวี้จื้อหยิบถุงเงินมาจากมือหรูเยียน แสดงท่าทางภาคภูมิ
“ถุงเงินนี้ข้าดูแลเอง ในเงินตำลึงก้อนเดียวนี้ พวกเจ้าดูว่าอะไรเข้าตาก็ซื้อไปเลย ข้าออกเงินเอง หากเจอที่ไหนที่ลงบัญชีไว้ก่อนได้ พวกเจ้าก็ลงบัญชีไว้ ตอนนี้คุณหนูคนนี้ไม่ขัดสนเงินทอง”
“เช่นนั้นบ่าวไม่เกรงใจนะเจ้าคะ”
หรูเยียนแหย่ให้หลิงอวี้จื้อสบายใจ ตอบรับอย่างไม่อ้อมค้อม
หลิงอวี้จื้อยิ้มให้ทั้งสองคน ราวกับคนไม่มีเรื่องอะไร ทุกข์เพียงใดก็ไม่สามารถคร่ำครวญทอดถอนใจทุกวันได้ ฟ้ายังไม่ถล่ม ดวงตะวันยังคงอยู่ ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลยจริงๆ
นายบ่าวสามคนเดินเล่นไปตามถนน ด้วยเหตุที่อากาศดี สองข้างถนนใหญ่จึงเต็มไปด้วยร้านแผงลอย ของกินและของเล่นต่างๆ มีครบทุกสิ่ง หลิงอวี้จื้อสนอกสนใจ ดูอันนี้ จับอันนั้น เพียงแต่ไม่ซื้ออะไรเลย
หรูเยียนกับมั่วชิงจับตาดูหลิงอวี้จื้อทุกฝีก้าว กลัวว่าเธอจะเดินพลัดหลง บางครั้งคุณหนูของพวกนางก็เหมือนเด็กน้อย เด็กบางคนจะถูกของเล่นที่ชอบดึงดูดความสนใจไป
ตอนนี้เอง จู่ๆ หลิงอวี้จื้อก็หยุดลงตรงร้านหมอดู ไหนๆ ก็ว่างแล้ว ดูเรื่องแต่งงานหน่อยก็แล้วกัน! ดูสิว่าป้ายทำนายจะเขียนว่าอย่างไร เธอไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว แต่ถือว่าหาที่พึ่งทางใจสักอย่าง
“คำนวณดวงครั้งหนึ่งเท่าไร”
หลิงอวี้จื้อนั่งยองๆ กับพื้นพลางถาม
หมอทำนายดวงที่ก้มหน้าอยู่ตลอดได้ยินเสียงหลิงอวี้จื้อ ก็ตกใจสะดุ้งอย่างแรงทันที เงยหน้าขึ้นอย่างเร็ว ทำหน้ากระอักกระอ่วนขณะเรียกว่า
“พี่สะใภ้…”
หลิงอวี้จื้อก็อึ้งเช่นกัน เวรกรรม อะไรจะมหัศจรรย์พันลึกเช่นนี้ นึกไม่ถึงว่าจะเป็นอวิ๋นซั่ว เขาติดเคราดำหน่อยหนึ่ง แสร้งทำตัวลึกลับด้วยการสวมชุดลัทธิเต๋า ลักษณะเช่นนั้นทำให้คนอดขำไม่ไหว
นึกไม่ถึงว่าเขาจะกลายเป็นหมอทำนายดวงปากว้า แม้เป็นนักต้มตุ๋นก็ยังต้องรู้วิธีทำนายบ้าง อวิ๋นซั่วไปเรียนเรื่องพวกนี้ตอนไหน
“เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”
“ทำมาหากิน”
“เจ้าคำนวณปากว้าเป็นหรือ”
“ก่อนนี้เคยเรียนกับหมอผีในยุทธภพมาบ้าง พูดส่งเดชไปก็ไม่มีปัญหา”
อวิ๋นซั่วไม่กล้ามองหลิงอวี้จื้อ ท่าทางละอายใจตลอดเวลา
“เจ้ามิได้มาหาอาเหยี่ยนที่เมืองหลวงหรอกกระมัง!”
อวิ๋นซั่วเงียบ ผ่านไปสักครู่ถึงพูดว่า
“ได้ยินว่าพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้จะแต่งงานกันแล้ว จึงมาดูสักหน่อย ข้าก็รู้ว่าพวกเจ้าไม่อยากเจอข้า ข้าดูอยู่ที่นี่ หากพวกเจ้าแต่งงานกัน จะต้องผ่านถนนใหญ่เส้นนี้แน่”
เมื่อเห็นอวิ๋นซั่ว หลิงอวี้จื้อก็นึกถึงเรื่องที่ตำบลเถาหยวนขึ้นมาอีก ถึงแม้อวิ๋นซั่วจะไม่อยากทำร้ายชาวบ้านตำบลเถาหยวน แต่เรื่องนี้ก็เกี่ยวข้องกับเขาเต็มๆ ด้วยเหตุนี้เธอจึงแสดงท่าทีเป็นมิตรไม่ลงเมื่อเจออวิ๋นซั่ว
“รู้ว่าอาเหยี่ยนไม่ยินดีพบเจ้า เจ้าก็ยังวิ่งแจ้นมาที่นี่เพื่ออะไร อวิ๋นซั่ว เจ้าออกไปจากเมืองหลวงเถิด! กลับไปเรียนหนังสือที่สำนักวิชาหงเต๋อให้ดี ต่อไปสอบเป็นข้าราชการ ตระกูลอวิ๋นยังไม่ล่มสลาย อนาคตต้องพึ่งพาเจ้าเพียงผู้เดียวแล้ว”
ตอนที่ 487 ทำอย่างไรนางถึงจะลดกำแพงลง
อวิ๋นซั่วส่ายหน้า
“ข้าลาออกตั้งแต่ออกมาจากสำนักวิชาหงเต๋อแล้ว ต่อไปจะไม่กลับไปอีก
พี่สะใภ้ ข้าไม่ได้คิดจะสร้างความวุ่นวายให้กับเจ้าและพี่ชาย ข้าเพียงมาดูเท่านั้น ข้ารู้ดีว่าข้าทำผิด
ถึงแม้ชาตินี้พี่ชายจะไม่ยอมรับข้า ข้าก็ไม่โทษเขา พี่สะใภ้ ได้ยินมาว่ายังมีพระชายารองอีกคนที่จะแต่งเข้าจวนกับเจ้า เรื่องนี้เป็นความจริงหรือไม่”
“เรื่องนี้รู้กันไปทั่วถนนใหญ่ เจ้าว่าจริงหรือไม่”
หลิงอวี้จื้อลุกขึ้น ทุบๆ ขาที่นั่งจนชา
“จะไปไม่ไป เจ้าตัดสินใจเอง ข้ากลับก่อน”
พูดจบหลิงอวี้จื้อก็เตรียมจะไป จู่ๆ อวิ๋นซั่วก็เรียกหลิงอวี้จื้อไว้
“พี่สะใภ้ เจ้าอยากดูดวงมิใช่หรือ เช่นนั้นดูสักหน่อย ข้าไม่คิดเงิน”
“รู้อยู่ว่าเจ้าดูไม่เป็น ข้ายังจะดูอีกหรือ ข้าไม่ได้บ้านะ”
พูดจบหลิงอวี้จื้อก็พามั่วชิงกับหรูเยียนออกไป
อวิ๋นซั่วนั่งอยู่หน้าแผงลอยของตนเอง จู่ๆ ก็เก็บแผงออกจากตำบลเถาหยวนมาแล้ว เขาคิดตลอดว่าอยากทำอะไรสักหน่อยเพื่อชดเชยความผิดของตนเอง แต่กลับไม่มีเรื่องอะไรที่ตนเองทำได้
กลับเมืองหลวงมาคราวนี้ได้ยินว่าเซียวเหยี่ยนจะแต่งงานแล้ว เขาคิดจะมารับบรรยากาศมงคลสักหน่อย นึกไม่ถึงว่าเพิ่งมาถึงเมืองหลวงก็ได้ยินว่าเซียวเหยี่ยนยังต้องการรับพระชายารองมาอีกคน ซ้ำยังแต่งเข้าจวนพร้อมหลิงอวี้จื้อด้วย
ตอนที่อยู่ตำบลเถาหยวนเขาเห็นชัดเจนว่า หลิงอวี้จื้อกับเซียวเหยี่ยนเหมาะสมกันมาก สองคนรักกันด้วยใจจริง เขาหวังว่าจะช่วยหลิงอวี้จื้อกับเซียวเหยี่ยนทำอะไรได้บ้าง
ความคิดนี้เดิมทียังอยู่แค่ในใจ เพิ่งเห็นความเหนื่อยล้าในแววตาของหลิงอวี้จื้อ มองปราดเดียวก็รู้ว่าไม่ได้พักผ่อนดี ตัดสินใจแน่แล้วว่าจะต้องช่วยพวกเขา
เขาเก็บของสำหรับคำนวณดวงชะตา เปลี่ยนเสื้อผ้าไปที่จวนตระกูลเฉิน คิดจะฉวยโอกาสมั่วเข้าไปในจวนตระกูลเฉิน เห็นจวนตระกูลเฉินกำลังประกาศรับสมัครคนงานตรงหน้าประตูพอดี เขาก็เข้าไปสมัครทันที ขอเพียงได้เข้าใกล้เฉินปี้ เขาจะต้องช่วยธุระได้แน่นอน อวิ๋นซั่วมีท่าทางซื่อสัตย์ จึงเข้าจวนตระกูลเฉินไปอย่างราบรื่น
ณ จวนอู๋อ๋อง
เฉินเซี่ยวหรูกำลังฝึกเขียนอักษรอยู่ในห้องทำงาน เขาเขียนพระราชกรณียกิจตัวใหญ่ๆ บนกระดาษเซวียนจื่อสีขาว เพราะว่าชาติกำเนิดค่อนข้างต่ำต้อย ฮ่องเต้องค์ก่อนไม่ได้ให้เขาทำงานอะไรสำคัญตั้งแต่เด็ก องค์ชายคนอื่นก็มองไม่เห็นหัว แม่แท้ๆ ของเขาเคยเป็นสาวใช้ของพระชายาซีหนานอ๋องมาก่อน นี่กลายเป็นป้ายกำกับตัวเขาที่ไม่สามารถลบได้ เวลาคนอื่นพูดถึงเขาก็จะทำหน้าดูถูกเรียกเขาว่าลูกชายคนใช้ของพระชายาซีหนานอ๋องคนนั้น
เกิดในตระกูลราชวงศ์ แต่ได้รับเพียงสายตาเย็นชา ทำให้ความคิดที่จะเป็นฮ่องเต้ผุดขึ้นตั้งแต่เด็ก เขาอยากเหยียบย่ำคนที่ดูถูกเขาทุกคนไว้ใต้เท้า ให้ทุกคนดูให้ดีๆ ว่า เขาควบคุมแคว้นเว่ยตะวันตกอย่างไร
เพื่อจะบรรลุจุดประสงค์นี้ เขาแอบซ่อนตัวเองมาโดยตลอด อดทนมาโดยตลอด แอบซุ่มทุ่มเททำหลายอย่าง แต่ก็ยังไม่พอที่จะไปถึงบัลลังก์ฮ่องเต้ ถูกเซียวเหยี่ยนแย่งนำไปหนึ่งก้าว
ตอนนี้อุปสรรคใหญ่ของเขาคือเซียวเหยี่ยน แล้วดันไปรักผู้หญิงของเซียวเหยี่ยนอีก เห็นอยู่ชัดๆ ว่าไม่ได้ แต่ก็ยังหวั่นไหวเพราะยั้งใจไม่อยู่
เดิมทีเขาอยากหลอกใช้หลิงอวี้จื้อเพื่อจัดการเซียวเหยี่ยน แต่ตนเองกลับมีความคิดที่ไม่ควรมีเสียก่อน จนมาถึงตอนนี้ เขาไม่ได้เข้าใกล้หลิงอวี้จื้อตามที่วางแผนเอาไว้เลย แต่กลับยิ่งห่างไกลกันไปทุกที
ตอนนี้เซียวเหยี่ยนจะสู่ขอเฉินปี้ นี่เป็นโอกาสดีที่สุดที่จะแยกเซียวเหยี่ยนกับหลิงอวี้จื้อออกจากกัน เพียงแต่ถึงแม้แยกพวกเขาได้ เขาก็เข้าใกล้หลิงอวี้จื้อไม่ได้
ตอนนี้หลิงอวี้จื้อดูเหมือนจะมีอคติกับเขาอย่างลึกซึ้งมาก แม้แต่จะคุยกันก็ยังไม่อยากคุยกับเขาสักเท่าไร ต้องทำอย่างไรหลิงอวี้จื้อถึงจะยอมลดกำแพงที่ขวางกั้นเขาไว้ลง
เขาคิดคำนวณในใจเรียบร้อยแล้ว ยกพู่กันขึ้นเขียนจดหมายหนึ่งฉบับ เขียนเสร็จแล้ว เขาก็เอาจดหมายใส่ซอง เอาจดหมายให้หวางเฉิงที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ส่งจดหมายนี้ไปจวนตระกูลเฉิน”
หวางเฉิงไม่เข้าใจเจตนารมณ์ของเฉินเซี่ยวหรู แต่ไม่ได้ถามอะไรมาก พยักหน้ารับคำ
“ขอรับ ข้าน้อยจะไปเดี๋ยวนี้”