ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด - ตอนที่ 528 เขินแล้วใช่หรือไม่ / ตอนที่ 529 ต้องทำหน้าหนาๆ ไว้หน่อย
- Home
- ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด
- ตอนที่ 528 เขินแล้วใช่หรือไม่ / ตอนที่ 529 ต้องทำหน้าหนาๆ ไว้หน่อย
ตอนที่ 528 เขินแล้วใช่หรือไม่
หลิงอวี้จื้อก้าวขาเดินมาสองสามก้าว จู่ๆ ก็หยุด ทำไมตัวเองเชื่อฟังขนาดนี้
เซียวเหยี่ยนเข้ามา ยื่นมือออกมาจับมือทั้งคู่ของหลิงอวี้จื้อ ก้มหน้าลง ถามเบาๆ
“อวี้จื้อ เจ้าเขินแล้วใช่หรือไม่”
“ใครบอก ข้าก็แค่กระหายน้ำเอง”
หลิงอวี้จื้อกล้ายอมรับเสียที่ไหน เกร็งคอร้องเสียงหลง เพราะละอายใจ น้ำเสียงจึงไม่มีความมั่นใจอย่างเห็นได้ชัด
เซียวเหยี่ยนก็ไม่ใช่เพิ่งรู้จักหลิงอวี้จื้อวันแรก ย่อมรู้ว่าหลิงอวี้จื้อเขินแล้ว ต่อหน้าเขา เธอหน้าบางอยู่เสมอ ด้วยเหตุนี้จึงกอดหลิงอวี้จื้อเบาๆ
“ให้ข้ากอดดีๆ มา”
หลิงอวี้จื้อขยับตัวเล็กน้อย เซียวเหยี่ยนกอดหลิงอวี้จื้อแน่นทันที
“อย่าขยับ ตอนนั้นในใจเจ้าไม่มีข้า ข้าจึงคิดถึงวันนี้อีกครั้ง คิดอีกว่าเมื่อไหร่ถึงจะสู่ขอเจ้าเข้าเรือนมาได้ เร็วกว่าที่ข้าจินตนาการไว้เล็กน้อย อวี้จื้อ จากนี้ต่อไป จวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ก็เป็นบ้านของเจ้าแล้ว เจ้าเป็นผู้หญิงของอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และเป็นนายหญิงแต่เพียงผู้เดียว”
หลิงอวี้จื้อซุกอ้อมกอดของเซียวเหยี่ยนอย่างว่าง่าย ค่อยๆ ปล่อยตัวตามสบาย
“อาเหยี่ยน ท่านจะตามใจข้าตลอดไปหรือไม่”
“ที่แคว้นเว่ยตะวันตกนี้ เจ้าทำอะไรก็ได้อย่างใจคิด ใครกล้าห้ามเจ้า ข้าจะเอาตราบัญชาการให้เขาดู”
“ท่านไม่กลัวข้าจะเอาชื่อท่านไปอ้างทำเรื่องไม่ดีหรือ”
“ผู้หญิงของข้าเหตุใดจะทำเรื่องไม่ดีไม่ได้”
เซียวเหยี่ยนเลิกคิ้วถาม
เห็นได้ชัดว่าประโยคนี้ใช้ได้ผลกับหลิงอวี้จื้อ เธอเริ่มปล่อยตัวตามสบายขึ้นเรื่อยๆ
“ฮ่าฮ่า นี่ท่านพูดเองนะ ข้าไม่เกรงใจแน่นอน จะต้องเอาชื่อสามีไปทำเรื่องไม่ดีแน่นอน โตป่านนี้แล้วยังไม่เคยได้เพลิดเพลินกับการรังแกคนอื่นเลย”
“อวี้จื้อ ตลอดชีวิตนี้ห้ามจากข้าไปไหนนะ”
“ท่านก็ต้องรักข้าไปตลอดชีวิตนะ”
ถึงแม้ว่าจะฟังดูโง่ๆ ไปหน่อย ใครจะไปมั่นใจคำว่าตลอดชีวิตได้ แต่ฟังแล้วก็สบายใจดี
แถมเธอก็มั่นใจด้วยว่าพวกเธอจะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต จะรักกันและกันเช่นนี้ไปตลอด ในเมื่อผ่านเรื่องราวมาด้วยกันตั้งมากมาย เธอเข้าใจความคิดของตัวเอง และเข้าใจความคิดของเซียวเหยี่ยน พวกเขาต่างก็เอาอีกฝ่ายไปอยู่ในใจของกันและกันแล้ว
เซียวเหยี่ยนตอบรับ
“อืม”
หลิงอวี้จื้อหน้ายิ้มราวกับดอกไม้ เธอเงยหน้ามองเซียวเหยี่ยน ดวงตาใสเป็นประกาย ราวกับดวงดาวบนฟากฟ้า เธอกะพริบตาให้เซียวเหยี่ยน
“อาเหยี่ยน ก้มหน้าลงสิ”
“จะทำอะไร”
“ท่านทำได้ดี ภรรยาคนนี้อยากให้รางวัลสามี”
คราวนี้เปลี่ยนเป็นเซียวเหยี่ยนก้มหน้าบ้าง หลิงอวี้จื้อจุมพิตริมฝีปากเซียวเหยี่ยนทันที เมื่อก่อนเซียวเหยี่ยนเป็นฝ่ายเริ่มตลอด วันนี้เธออยากเป็นฝ่ายเริ่มบ้าง ทำให้ดีที่สุด ไม่สามารถทำขายหน้าต่อหน้าเซียวเหยี่ยนได้
ตอนแรกเซียวเหยี่ยนตะลึง นึกไม่ว่าหลิงอวี้จื้อจะเป็นฝ่ายเริ่มจูบเขาเอง ตอนแรกเขานึกว่าหลิงอวี้จื้อมีอะไรจะพูดกับเขา เด็กคนนี้โตพอจะถ่ายทอดความรู้ให้ได้แล้วจริงๆ
เซียวเหยี่ยนผู้มีสติกลับมาแล้วก็ผันตัวไปเป็นฝ่ายรุกอย่างเร็ว หลิงอวี้จื้อขึ้นมานอนบนผ้าห่มไหมนิ่มละมุนโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว นึกได้ว่าเทียนข้างนอกยังสว่างอยู่ หลิงอวี้จื้อก็ผลักเซียวเหยี่ยนออกทันที
“เทียน…”
เธอเริ่มหายใจไม่เป็นจังหวะ ดังนั้นจึงพูดจางึมงำๆ เซียวเหยี่ยนไม่ได้ลุกขึ้น โบกมือเล็กน้อย เปลวเทียนในห้องดับวูบลงทันที
ทั้งห้องตกสู่ความมืด หลิงอวี้จื้อนึกขึ้นได้ว่าคืนวันแต่งงานเหมือนจะดับเทียนไม่ได้ ละครย้อนยุคที่เธอเล่นทุกเรื่องเป็นเช่นนี้หมด มิเช่นนั้นจะไม่เป็นมงคล ตอนนี้ตัวเองกลายเป็นคนสมองหมูไปแล้ว
เธอเริ่มร้อนใจแล้ว เรียกอย่างระมัดระวัง
“อาเหยี่ยน…”
“หืม”
“ดับเทียนแล้วจะไม่เป็นมงคลหรือไม่”
“ไม่”
“เช่นนั้นก็ดี”
พูดจบก็เพิ่มอีกประโยค
“ท่านเบาหน่อยนะ ข้ากลัวเจ็บ”
เซียวเหยี่ยนรู้สึกว่าไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขาแต่งงานกับพระชายาที่ไม่เหมือนใครจริงๆ
“อวี้จื้อ”
เซียวเหยี่ยนเรียกเบาๆ ข้างหูอวี้จื้อ
“หืม”
“ข้าอยากครอบครองเจ้า”
หลิงอวี้จื้อตอบกลับข้างหูเซียวเหยี่ยนอย่างอายๆ หนึ่งคำว่า
“ได้”
ตอนที่ 529 ต้องทำหน้าหนาๆ ไว้หน่อย
คืนนี้ ทั้งห้องอบอวลไปด้วยความรักและความงดงาม
วันต่อมาหลิงอวี้จื้อตื่นขึ้นมาพบว่าเซียวเหยี่ยนไม่ได้อยู่ข้างตัวแล้ว เธอหาวหนึ่งครั้ง เกือบลืมไปว่าตัวเองออกเรือนแล้ว พอเห็นมุ้งที่อยู่เหนือหัว ถึงนึกได้ว่าที่นี่คือจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
จากนั้นภาพเมื่อคืนก็ปรากฏขึ้นในสมองของเธอ หน้าแดงด้วยความเขินอายอย่างช่วยไม่ได้ ตายแล้ว ทำไมก็คิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ เธอตบหน้าตัวเองเบาๆ แล้วร้องเรียก
“หรูเยียน”
ได้ยินเสียงของหลิงอวี้จื้อ หรูเยียนก็พาสาวใช้ยกอุปกรณ์อาบน้ำเข้ามา ทุกคนต่างถือของคนละชิ้น เรียงแถวเป็นระเบียบ
“กี่ยามแล้วหรือ”
หลิงอวี้จื้อยังรู้สึกง่วงมาก อดหาวอีกหนึ่งหวอดไม่ได้ ร่างกายอ่อนปวกเปียกไปหมด ถ้าไม่ใช่เพราะหิว เธอก็ไม่มีทางตื่นขึ้นมา นี่ตื่นเพราะหิวล้วนๆ เธอดูถูกความแข็งแกร่งทางกายภาพของเซียวเหยี่ยนไปแล้วจริงๆ
“คุณ…”
หรูเยียนจะเรียกว่าคุณหนูอีกแล้ว รู้ตัวว่าจะเรียกผิดอีกก็รีบหยุดแล้วแก้ใหม่
“พระชายา ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงวันแล้วเจ้าค่ะ อาหารเที่ยงเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว รอพระชายาอาบน้ำเสร็จแล้วก็รับประทานอาหารเที่ยงได้เจ้าค่ะ”
อย่างนั้นก็เป็นเวลาสิบสองโมงแล้วสิ หลิงอวี้จื้อตกใจไม่เบา นึกไม่ถึงว่าจะนอนถึงสิบสองโมง น่ากลัวเกินไปแล้ว ตั้งแต่มาแคว้นเว่ยตะวันตกเธอยังไม่เคยตื่นสายขนาดนี้ สายที่สุดคือนอนถึงเก้าโมง
ส่วนใหญ่เพราะคนยุคโบราณนอนเร็ว และไม่มีกิจกรรมอะไรให้สังสรรค์นัก นอนเร็ว ก็ย่อมตื่นเร็วไปด้วย นับว่าเธอเป็นคนนอนตื่นสายแล้ว พอฮูหยินผู้เฒ่าไม่อยู่แล้ว เธอก็ไม่ต้องไปเคารพทักทายตอนเช้า สามารถนอนจนถึงตื่นเองได้ทุกวัน
“เหตุใดพวกเจ้าไม่ปลุกข้า”
หลิงอวี้จื้อบ่น
หรูเยียนปิดปากยิ้ม พูดว่า
“ท่านอ๋องสั่งไว้โดยเฉพาะเจ้าค่ะ บอกว่าเมื่อคืนลำบากพระชายาแล้ว วันนี้ไม่ต้องปลุกพระชายา ให้พระชายาพักผ่อนให้ดีๆ เจ้าค่ะ”
หรูเยียนเพิ่งพูดจบ สาวใช้คนอื่นต่างก็ก้มหน้ายิ้ม
หลิงอวี้จื้อหน้าแดงผ่าวทันที จะเป็นลม เซียวเหยี่ยนจะทำอะไรกันแน่ สั่งการแบบนี้ไม่ใช่เป็นการป่าวประกาศให้ทุกคนรู้หรอกหรือว่า เมื่อวานทั้งสองคน…
ช่างเถอะ อย่างไรทุกคนก็รู้อยู่แล้ว เธอต้องทำหน้าหนาๆ ไว้หน่อย
หลิงอวี้จื้อหัวเราะแห้งๆ
“ท่านอ๋องช่างเห็นอกเห็นจ้าข้าเสียจริง”
พูดจบเธอก็ลุกขึ้นจากเตียง อาบน้ำเสร็จแล้วก็ไปกินข้าวที่ห้องอาหาร บนโต๊ะมีอาหารหกเจ็ดอย่างวางไว้แล้ว อุดมสมบูรณ์มาก ผักและเนื้อจัดคู่เข้ากัน ประเด็นสำคัญคือเป็นของที่เธอชอบทานทั้งนั้น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเซียวเหยี่ยนเป็นคนเตรียมให้ เพียงแต่ไม่คิดว่าเซียวเหยี่ยนจะรู้ดีว่าเธอชอบอะไรขนาดนี้
นอกจากอาหารแล้ว ยังมีชาส้มโอน้ำผึ้งอีกหนึ่งกาด้วย เซียวเหยี่ยนเป็นคนละเอียดเอาใจใส่ตามคาด ดูแลเธอดีขนาดนี้ อาหารมื้อแรกของการแต่งงานดีสุดๆ
เธอกินพลางชมพลาง แม่ครัวฝีมือไม่เลวเลย มื้อนี้กินอย่างเอร็ดอร่อยเป็นพิเศษ ใช้เวลาไม่นานเธอก็กินข้าวหมดถ้วย จากนั้นก็แกรงว่าจะกินไม่อิ่ม เติมอีกหนึ่งถ้วย
เธอรู้ว่าเซียวเหยี่ยนค่อนข้างยุ่ง ปกติตอนเที่ยงจะไม่ได้กินข้าวที่จวน ตอนบ่ายถึงจะกลับจวนมาจัดการงานราชการ เธอรู้ตารางงานของเซียวเหยี่ยนชัดเจนแจ่มแจ้ง
กินข้าวเสร็จแล้วหลิงอวี้จื้อก็เอาผ้ามาเช็ดปาก ถามว่า
“ท่านอ๋องกลับมาตอนไหนหรือ”
“ท่านอ๋องเพิ่งไปได้ครู่เดียวเองเจ้าค่ะ คงยังไม่กลับมาในชั่วครู่ชั่วยามนี้”
หรูเยียนรายงานตามจริง
หลิงอวี้จื้อทำหน้าประหลาดใจ
“หา ก่อนหน้านี้อาเหยี่ยนอยู่ในจวนหรือ”
“ท่านอ๋องอยู่จริงๆ เจ้าค่ะ”
“เช่นนั้นเหตุใดไม่มาหาข้าล่ะ”
หลิงอวี้จื้อพึมพำ
“เช้าวันนี้ท่านอ๋องยุ่งอยู่ในครัว ทำกับข้าวอย่างสุดท้ายเสร็จถึงรีบร้อนออกไปเจ้าค่ะ”