ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด - ตอนที่ 536 หลิงจื่อเฉิงเกิดเรื่องแล้ว / ตอนที่ 537 อย่าตระหนก
- Home
- ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด
- ตอนที่ 536 หลิงจื่อเฉิงเกิดเรื่องแล้ว / ตอนที่ 537 อย่าตระหนก
ตอนที่ 536 หลิงจื่อเฉิงเกิดเรื่องแล้ว
กลับจวนอ๋องแล้ว อู่จิ้นก็กลับมาจากการสืบข่าวคราวแล้ว สองคนเข้าไปในห้องทำงานด้วยกัน อู่จิ้นตามเข้ามาข้างหลัง เซียวเหยี่ยนถามว่า
“สถานการณ์เป็นอย่างไร”
“ทูลท่านอ๋อง พระชายา คุณชายหลิงถูกจับเข้าคุกใหญ่แล้ว ภายในคุกใหญ่มีทหารคุมเข้ม ผู้ที่ดูแลเรื่องนี้คือหานอวี่ขอรับ
ข่าวคราวจากข้างในถูกปกปิดมิดชิด ข้าน้อยต้องทุ่มเทมากกว่าจะสืบรู้ว่า คนของไทเฮาค้นเจอจดหมายที่หลิงจื่อเฉิงเขียนโต้ตอบกับเว่ยอ๋องสองสามฉบับ ในนั้นพูดถึงเรื่องการก่อกบฏ นี่เป็นหลักฐานที่แน่นหนาขอรับ”
หานอวี่เป็นคนสนิทของมู่หรงกวานเย่ว์ เรื่องนี้ก็เท่ากับว่ามู่หรงกวานเย่ว์เคยสอบปากคำแล้ว ตอนนี้สาเหตุสำคัญที่สุดคือหลักฐานชัดเจน มิเช่นนั้นไม่ว่าหลิงจื่อเฉิงจะถูกขังที่ไหน เซียวเหยี่ยนก็จะสามารถปล่อยเขาออกไปได้
ตอนนี้มีหลักฐานแน่นหนา ซ้ำยังเป็นข้อหากบฏอีก คนตั้งมากมายคอยจับจ้องอยู่ เซียวเหยี่ยนไม่สามารถเล่นพรรคเล่นพวกอย่างโจ่งแจ้งได้ อยากจะพลิกคดี มีความเป็นไปได้เพียงสองประการ ประการหนึ่งคือเว่ยอ๋องไม่ยอมรับ อีกประการหนึ่งคือหาหลักฐานที่หลิงจื่อเฉิงถูกใส่ร้ายเจอ
“คนที่เอาจดหมายใส่ในเสื้อผ้าของพี่ชายได้มีเพียงคนเดียว นั่นคือชิวจวี๋ ชิงชิงไม่สามารถทำเรื่องเช่นนี้ได้แน่นอน นังผู้หญิงคนนี้คิดจะทำอะไร เดิมทีนางอยากได้ความรุ่งเรืองมั่งคั่ง ตามเหตุผลแล้วควรจะเอาชนะใจพี่ชายถึงจะถูก จะมาทำเรื่องให้ร้ายพี่ชายได้อย่างไร”
หรูเยียนก็คอยรินชาให้พวกเขาอยู่ข้างๆ ได้ยินว่าพูดถึงชิวจวี๋ หรูเยียนก็วางเครื่องชาลง รีบคุกเข่าลงกับพื้น
“ท่านอ๋อง พระชายาเพคะ บ่าวคิดไม่ถึงเลยว่าบัดนี้แล้วชิวจวี๋ยังทำเรื่องเหลวไหลเลอะเทอะอีก วอนท่านอ๋องและพระชายาโปรดให้อภัยด้วยเพคะ”
“หรูเยียน เจ้าลุกขึ้น เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า ข้ากับท่านอ๋องต้องสืบเรื่องนี้ให้กระจ่าง หากจับชิวจวี๋มา พิสูจน์ว่านางทำเรื่องนี้จริง ข้าจะไม่ปล่อยนาง หรูเยียน หวังว่าเจ้าจะเข้าใจ”
หรูเยียนกัดริมฝีปาก นางรู้ว่าหลิงอวี้จื้อให้โอกาสชิวจวี๋มาหลายครั้งแล้ว เป็นชิวจวี๋เองที่ไม่รู้จักคุณค่า ได้คืบจะเอาศอกไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
เมื่อก่อนนางยังสามารถขอร้องแทนชิวจวี๋ได้ ระยะนี้นางไม่ได้พบชิวจวี๋เลย แม้แต่จะพูดถึงก็ไม่ได้พูดถึง ครั้งนี้นางก็ไม่สามารถวอนขอให้ชิวจวี๋ได้อีกแล้ว
เซียวเหยี่ยนยังมีงานต้องจัดการ หลิงอวี้จื้อกลับห้องแล้ว รอสักครู่ มั่วชิงก็กลับมา หลิงอวี้จื้อรีบถาม
“เป็นอย่างไรบ้าง เจอชิวจวี๋หรือไม่”
มั่วชิงส่ายหน้า
“ไร้ร่องรอยชิวจวี๋แล้วเจ้าค่ะ ข้าน้อยถามคนที่อาศัยอยู่แถวนั้นแล้ว พวกเขาบอกว่าเมื่อคืนเห็นชิวจวี๋ออกไปคนเดียว จากนั้นก็ไม่เห็นนางกลับมา ไม่รู้ว่าออกนอกเมืองไปแล้วหรือไม่”
เมื่อคืนเป็นวันแต่งงานของพวกเธอ ความสนใจของทุกคนต่างมุ่งมาที่งานแต่ง หากชิวจวี๋ฉวยโอกาสนี้ออกนอกเมืองไปก็ไม่ใช่จะเป็นไปไม่ได้ เช่นนี้ก็พิสูจน์ได้หมดแล้วว่า เรื่องนี้ชิวจวี๋นั่นแหละที่เป็นคนทำ
หลิงอวี้จื้อให้ตามชิวจวี๋มาก็เพื่อถามให้รู้เรื่อง ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังคือใคร ไม่มีความจำเป็นเลยที่จะต้องทำกับหลิงจื่อเฉิง เรื่องนี้เกรงว่าเป้าหมายคือเธอนั่นแหละ
“มั่วชิง ส่งคนค้นหาต่อไป ถึงแม้เมื่อคืนนางจะออกนอกเมืองไปแล้ว ก็ไปไม่ได้ไกล ส่งคนไปหาทั้งในเมืองและนอกเมือง”
มั่วชิงพยักหน้า
“ข้าน้อยจะสั่งการไป พระชายาวางใจได้”
ตอนนี้คนที่หลิงอวี้จื้อเป็นห่วงที่สุดกลับเป็นลู่ชิงชิง ถึงแม้ว่าปากนางจะพูดตัดความสัมพันธ์ขนาดนั้น แต่นางยังมีความรู้สึกกับหลิงจื่อเฉิงแน่นอน เพราะว่ารักเขา ดังนั้นจึงยอมรับเรื่องที่เขาพัวพันกับผู้หญิงคนอื่นไม่ได้ ตอนนี้หลิงจื่อเฉิงเกิดเรื่องแล้ว ลู่ชิงชิงไม่สามารถยืนดูอยู่เฉยๆ ได้
ตามคาด ไม่นานก็มีสาวใช้เข้ามารายงาน
“พระชายาเพคะ ลู่อี๋เหนียงแห่งจวนท่านมหาเสนาบดีขอเข้าพบเพคะ”
“รีบเชิญเข้ามา”
เพิ่งจะนึกถึงลู่ชิงชิง นางก็มาแล้วจริงๆ เธอรู้ว่าลู่ชิงชิงมาเพราะเรื่องหลิงจื่อเฉิงแน่นอน
ตอนที่ 537 อย่าตระหนก
ลู่ชิงชิงเดินจ้ำอ้าวเข้ามาในห้องหลิงอวี้จื้อ ฝีเท้าเร่งรีบ สีหน้าออกอาการร้อนใจอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อเห็นหลิงอวี้จื้อ นางก็คุกเข่ากับพื้น น้ำตาไหลเป็นสองสาย ดวงตายังบวมแดง เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านี้ร้องไห้มา สีหน้าซีดเซียวมาก
” อวี้จื้อ โปรดช่วยชีวิตจื่อเฉิงด้วยเถิด! ตอนนี้มีเพียงเจ้าที่ช่วยเขาได้แล้ว”
เห็นลู่ชิงชิงคุกเข่าให้ตนเอง หลิวอวี้จื้อก็รีบยื่นมือไปประคองลู่ชิงชิง
“เจ้าทำอะไร รีบลุกเร็วเข้า ชิงชิง มีเรื่องอะไรลุกขึ้นมาก่อนค่อยว่ากัน”
“เรื่องของจื่อเฉิงเจ้าคงได้ยินมาแล้ว เขาไม่มีทางก่อกบฏเด็ดขาด ต้องถูกคนใส่ร้ายแน่นอน อวี้จื้อ เจ้าต้องช่วยเขานะ”
ลู่ชิงชิงไม่ยอมลุกขึ้น ทำเพียงอ้อนวอนแล้วอ้อนวอนอีก ขอให้หลิงอวี้จื้อช่วยเขา นอกจากหลิงอวี้จื้อ นางก็ไม่รู้จะไปขอร้องใครแล้ว
พอเกิดเรื่องชิวจวี๋แล้ว หลิงจื่อเฉิงก็มาหานางหลายครั้ง เพียงแต่นางคอยหลีกเลี่ยงไม่พบหน้าหลิงจื่อเฉิงอยู่ตลอด
ถึงแม้หลิงจื่อเฉิงจะบุกเข้ามา นางก็ไม่พูดไม่จาเย็นชาอย่างยิ่ง หลายครั้งเข้า หลิงจื่อเฉิงก็ไม่มาหานางอีก เดิมทีนางคิดว่าทั้งสองคนคงจะเป็นเช่นนี้ไปตลอดชีวิต คิดไม่ถึงว่า หลิงจื่อเฉิงจะถูกจับเข้าคุกใหญ่ด้วยข้อหาก่อกบฏ
หากไม่ใช่เพราะนางมีสถานะเป็นแค่นางบำเรอ แม้แต่นางก็จะต้องเข้าคุกไปด้วยกัน
ตอนที่นางรู้ข่าว ก็เห็นหลิงจื่อเฉิงถูกทหารลากออกไปพอดี
หลิงจื่อเฉิงตะโกนใส่นางเสียงดัง บอกให้อย่าเข้ามา ถึงแม้นางจะเข้าไปก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้ ด้วยเหตุนี้จึงถูกสาวใช้ดึงเอาไว้ ทำได้เพียงดูหลิงจื่อเฉิงถูกนำตัวไปต่อหน้าต่อตา
นาทีนั้น ภายในใจของนางระส่ำระสาย ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณอย่างไรอย่างนั้น ในหัวสมองมีเพียงความคิดเดียว นั่นก็คือต้องช่วยหลิงจื่อเฉิง
หลายวันมานี้ นางหักใจไม่ยอมพบหลิงจื่อเฉิง นางหลงคิดว่าตัวเองไม่ได้รักหลิงจื่อเฉิงแล้ว คราวนี้ได้คำตอบแล้วว่า ที่แท้นางยังรักหลิงจื่อเฉิงอยู่
มิเช่นนั้นคงไม่ร้อนใจขนาดนี้ ไม่มีทางสงบใจลงได้เลย แม้จะใช้ชีวิตของตนไปช่วยหลิงจื่อเฉิงได้ นางก็ยินดี นางไม่มีทางจินตนาการได้เลยว่าหากหลิงจื่อเฉิงตายในคุก นางจะเป็นอย่างไร จะเผชิญกับชีวิตที่เหลืออยู่อย่างไร
หลิงอวี้จื้อดึงลู่ชิงชิงขึ้นไม่ได้ พยักหน้าให้หรูเยียน สองคนออกแรงดึงลู่ชิงชิงขึ้นมา ร่างกายของลู่ชิงชิงอ่อนปวกเปียกไปหมด สองคนประคองนางนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ
“ชิงชิง เจ้าอย่าใจร้อน เรื่องนี้ข้ารู้แล้ว ท่านอ๋องก็จะช่วย พยายามอย่างสุดความสามารถลบล้างความผิดให้เขา หากลบล้างไม่ได้ ก็จะรักษาชีวิตของเขาเอาไว้ เจ้าทำใจให้สงบรอฟังข่าวเถิด อย่าตระหนก”
ได้ยินหลิงอวี้จื้อพูดเช่นนี้ ลู่ชิงชิงก็วางใจลง เช่นนี้ก็ดี นางรู้ว่าหลิงอวี้จื้อต้องมีวิธี
หลิงอวี้จื้อรินชาให้ลู่ชิงชิง ยื่นให้ลู่ชิงชิง ลู่ชิงชิงรับชาที่หลิงอวี้จื้อยื่นมาให้ มือยังสั่นอยู่ ต้องพยายามถึงจะทำให้ตัวเองนิ่งได้ แล้วจึงดื่มชาร้อนไปหนึ่งคำ
“เรื่องนี้ชิวจวี๋น่าจะเป็นคนใส่ร้ายพี่ชาย นางหายตัวไปแล้ว ข้าส่งคนไปตามตัวนางอยู่
พี่ชายก็หน้ามืดตาบอด ผู้หญิงดีๆ ไม่รู้จักรักษาไว้ ดันไปยุ่งอยู่กับผู้หญิงมาดร้าย พูดอะไรก็ไม่ฟัง หาเรื่องเองก็ต้องรับกรรมเองแท้ๆ”
ลู่ชิงชิงก้มหน้า
“เกิดเรื่องเช่นนี้แล้ว ต่อไปเขาก็เห็นธาตุแท้ของชิวจวี๋แล้ว อวี้จื้อ เจ้าอย่าตำหนิจื่อเฉิงอีกเลย หลายวันมานี้ข้าไม่สนใจเขาเอง เขาก็คงจะหดหู่ใจ เดิมเขาก็เป็นคนใจอ่อนอยู่แล้ว ชิวจวี๋ก็อ่อนแอเช่นนี้ ก็ไม่น่าแปลกใจที่เขาจะใจอ่อน”