ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด - ตอนที่ 628 สัญญาหนึ่งเดือน / ตอนที่ 629 ให้โอกาสเราสักครั้ง
- Home
- ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด
- ตอนที่ 628 สัญญาหนึ่งเดือน / ตอนที่ 629 ให้โอกาสเราสักครั้ง
ตอนที่ 628 สัญญาหนึ่งเดือน
หลิงอวี้จื้อไม่สนอะไรแล้ว เธอกระทืบเท้าลงไปบนหลังเท้าของเฉินม่อฉือ เฉินม่อฉือเจ็บจึงขมวดคิ้วและปล่อยหลิงอวี้จื้อ
“เจ้า… เจ้าช่างบังอาจนัก” เฉินม่อฉือหน้าตาบึ้งตึงขึ้นมา “อยู่กับเรามันแย่เพียงนั้นเชียวหรือ”
“ใจหม่อมฉันมีผู้อื่นแล้วเพคะ”
หลิงอวี้จื่อรีบถอยหลังไปอีกหลายก้าว แล้วเอ่ยเน้นย้ำหนักแน่นออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ แม้เฉินม่อฉือจะเจ้าอารมณ์ แต่ไม่ใช่คนต่ำช้าไร้ศักดิ์ศรี อย่างน้อยก็ยังทะนุถนอมเธออยู่
“เช่นนั้นก็ลืมเขาไปเสีย”
“ลืมไม่ได้เพคะ”
“เราจะหายาที่ทำให้สูญเสียความทรงจำมาให้ แค่เจ้ากินมันก็จะลืมเรื่องทุกอย่างที่ผ่านมาจนสิ้น เช่นนี้จะได้อยู่ข้างกายเราไม่จากไปไหนแต่โดยดี อวี้จื้อ ในอดีตเราเคยพูดว่า หากเจ้ายอมอยู่กับเรา แม้แต่ตำแหน่งฮองเฮาเราก็ให้เจ้าได้ เซียวเหยี่ยนรักใคร่เจ้าได้ชั่วชีวิต เราก็ทำได้เช่นกัน ยามนี้อายุของเซียวเหยี่ยนนั้นแทบจะเป็นบิดาเจ้าได้แล้ว เจ้ายังจะไปหาอยู่อีกหรือ”
หลิงอวีจื้อลอบเถียงอยู่ในใจ เซียวเหยี่ยนแก่ที่ไหนกัน อายุสามสิบกว่าเป็นช่วงที่ผู้ชายมีเสน่ห์ที่สุดต่างหาก แน่นอนว่า เธอไม่ได้พูดคำเหล่านี้กับเฉินม่อฉือ เพื่อไม่ให้เป็นการยั่วยุจนเขาต้องทำอะไรบุ่มบ่ามขึ้นมาอีก
เธอรู้ว่าแคว้นเว่ยตะวันตกมียาที่ทำให้คนสูญเสียความจำอยู่จริงๆ ไม่ง่ายเลยที่เธอจะกลับมาที่นี่ได้ นางจะไม่ยอมกินยานั่นแน่ ในเมื่อเจรจากับเฉินม่อฉือไม่ได้ เช่นนั้นขั้นแรกเธอก็ต้องทำให้เฉินม่อฉือสงบลงให้ได้ก่อน
“ฝ่าบาท เรื่องความรักมิอาจฝืนใจ เช่นนั้นเอาอย่างนี้เถิด หม่อมฉันจะอยู่ในวังแห่งนี้เป็นเวลาหนึ่งเดือน ในหนึ่งเดือนนี้ฝ่าบาทมิอาจกระทำการใดๆ อันไม่สมควรต่อหม่อมฉันได้ หากผ่านไปแล้วหนึ่งเดือนหม่อมฉันก็ยังไม่อยากจะอยู่ที่วังหลวงต่อ ฝ่าบาทต้องทรงปล่อยหม่อมฉันไป ดีหรือไม่เพคะ”
ดวงตาของหลิงอวี้จื้อส่องกระจ่าง น้ำเสียงอย่างคนปรึกษาหารือ
เธอพอจะรู้นิสัยของเฉินม่อฉืออยู่บ้างไม่น้อย เธอคิดว่าเฉินม่อฉือต้องตกลงแน่ เพราะเขาเป็นคนมั่นใจในตนเอง เขาย่อมเชื่อมั่นว่าจะทำให้เธอศิโรราบได้ภายในเวลาหนึ่งเดือนนี้แน่
แล้วเฉินม่อฉือก็พยักหน้ารับปากอย่างที่เธอคิดไว้ไม่มีผิด “ได้ ระยะเวลาหนึ่งเดือนนี้เจ้าต้องอยู่ที่ศาลาฟังฝน และห้ามปฏิเสธที่จะพบเราเด็ดขาด”
เธออยากจะปฏิเสธ แต่ปัญหาคือไม่สามารถปฏิเสธได้ เฉินม่อฉือเป็นฮ่องเต้ จะไปจะมาย่อมทำได้ทั้งสิ้น
“นอกจากเวลานอนแล้ว หากอยากเสด็จมาเมื่อใดก็ย่อมได้เพคะ ฝ่าบาท ตอนนี้หม่อมฉันนอนได้แล้วหรือยังเพคะ”
ต้องมาเจอเรื่องแสนทรมานเช่นนี้ หลิงอวี้จื้อรู้ว่าเธอคงนอนไม่หลับแน่ ดูเวลาก็น่าจะตีสามตีสี่แล้ว เวรกรรมจริงๆ ไม่ได้นอนสบายๆ มาตั้งนาน ไม่ง่ายเลยที่จะได้หลับสบายๆ เช่นนี้แต่กลับถูกขัดจังหวะเสียได้
เฉินม่อฉือขยับเข้าไปข้างหน้า หลิงอวี้จื้อจึงถอยหลังด้วยไม่แน่ใจว่าเฉินม่อฉือคิดจะทำอะไร เมื่อเห็นหลิงอวี้จื้อถอยหลังไปเช่นนั้น เฉินม่อฉือก็คล้ายไม่พอใจอย่างยิ่ง เขาจึงหน้าบึ้งขึ้นมาทันที
หลิงอวี้จื้อกลับไม่พอใจยิ่งกว่า เธอขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ฝ่าบาท เราเพิ่งจะตกลงกันเมื่อครู่นี้เอง ฝ่าบาทเป็นโอรสสวรรค์ ไม่อาจกลับคำนะเพคะ”
“เรารับปากเจ้าก็จริง แต่จะเริ่มพรุ่งนี้ วันนี้เราไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามคำสัญญา”
หลิงอวี้จื้อแทบกระอักเลือดออกมา คิดไม่ถึงว่าเฉินม่อฉือจะใช้แผนนี้ เขาเป็นฮ่องเต้ หากจะเล่นเล่ห์กลเช่นนี้ หลิงอวี้จื้อย่อมไม่มีทางจะต่อต้านได้เลยแม้แต่น้อย
หลิงอวี้จื้อถอยไปชนเข้ากับขอบโต๊ะ เธอคลึงเอวตนเองครู่หนึ่ง เฉินม่อฉือเดินรุดมาหยุดตรงหน้าเธอแล้วยื่นมือออกมานวดเอวให้แทน “เจ็บหรือ เจ้ายังคงซุ่มซ่ามเช่นเมื่อก่อนไม่มีผิด”
“ฝ่าบาท ดึกแล้ว พระองค์เสด็จกลับไปพักผ่อนเถิดเพคะ พรุ่งนี้ยังต้องว่าราชการเช้าอีกไม่ใช่หรือ”
ตอนที่ 629 ให้โอกาสเราสักครั้ง
หลิงอวี้จื้อร่างแข็งทื่อไป เธอเบี่ยงกายหลบมือที่ยื่นเข้ามาหาของเฉินม่อฉือ แต่เฉินม่อฉือไม่แม้แต่จะใส่ใจ
“พรุ่งนี้เราไม่ว่าราชการเช้าแล้ว” เฉินม่อฉือมีสีหน้าไม่ยี่หระต่อสิ่งใด “อย่างไรก็ไม่มีเรื่องสำคัญอันใดที่ต้องพูด อวี้จื้อ หลายปีมานี้เราได้แต่งตั้งฮองเฮา ทั้งมีพระชา สนม ข้างกายมีสตรีห้าหกคน แต่เราไม่เคยจูบพวกนางเลย ไม่รู้เหตุใด ทุกครั้งที่จะจูบพวกนาง ในหัวก็มีแต่ภาพเจ้า เราจึงไม่ชอบจูบกับผู้อื่น”
“เรามักนึกถึงบ่ายวันนั้นเมื่อห้าปีก่อนเสมอ แม้จะรู้ว่าเจ้าไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว แต่เราก็ลืมไม่ได้ จึงได้แต่ตามหาศิลาวิญญาณกับไข่มุกเมฆสวรรค์เพื่อให้เจ้าฟื้นคืนมา”
“แม้ศพของเจ้าอยู่กับเซียวเหยี่ยน แต่เราก็ยังอยากให้เจ้าฟื้นคืนมา ขอเพียงเจ้าฟื้น ต่อให้ยังคงเป็นภรรยาของเซียวเหยี่ยนต่อไป เราก็รับได้ แต่ตอนนี้สวรรค์ส่งเจ้ามาให้เราแล้ว สรรค์ให้โอกาสเรา แล้วจะให้เราส่งเจ้าไปให้เซียวเหยี่ยนง่ายๆ งั้นหรือ ต่อให้เจ้าไม่พอใจ เราก็ต้องพยายามเพื่อตัวเองสักครั้ง อวี้จื้อ ให้โอกาสเราได้หรือไม่ เราแค่อยากได้โอกาสแค่เพียงสักครั้ง เจ้าเคยบอกว่าหากรักใครสักคนจะไม่กล้าทำร้ายเขา เราเองก็ไม่กล้าทำร้ายเจ้าเช่นกัน และจะไม่มีทางทำ เราแค่ต้องการโอกาสเท่านั้น เราเป็นถึงฮ่องเต้ มีหรือจะให้ความสุขเจ้าไม่ได้”
หลิงอวี้จื้อไม่เคยสนใจเฉินม่อฉือเลย ในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงเด็กน้อยคนหนึ่ง ส่วนเรื่องที่เขาชอบเธอ เธอรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องน่าตกใจมาตลอด และไม่เคยให้ความสนใจกับเรื่องนี้อย่างจริงจังเลย ตอนนี้ได้เห็นเฉินม่อฉือที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ทั้งยังพูดวาจาเช่นนี้กับเธอด้วยสีหน้าจริงจัง มันก็ทำให้เธอรู้สึกซาบซึ้งใจอยู่ไม่น้อย
ขอบคุณนะที่ชอบฉัน แต่ฉันคงตอบรับอะไรไม่ได้
ชั่วชีวิตนี้เธอได้มอบให้กับเซียวเหยี่ยนแล้ว ในใจไม่ทางมีใครได้อีก ไม่ว่าซ่งเฉิงหรือเฉินม่อฉือที่อยู่ตรงหน้า กับพวกเขา เธอไม่เคยหวั่นไหวเลย คิดแค่จะต้องกลับไปหาเซียวเหยี่ยนให้ได้เท่านั้น
“ฝ่าบาท จะมีความสุขหรือไม่ ไม่เกี่ยวอันใดกับฐานะหรอกเพคะ ชั่วชีวิตของเราพบเจอคนมากมาย ดังนั้น
“เจ้าอย่าได้พูดเรื่องพวกนี้กับเรา หลังจากนี้อีกหนึ่งเดือนค่อยให้คำตอบเรา”
เฉินม่อฉือพลันอุ้มหลิงอวี้จื้อขึ้น การทำเช่นนี้ทำให้หลิงอวี้จื้อตกใจยิ่ง แม้แต่พูดจายังติดอ่าง “ทำ…ทำอะไรน่ะ”
“เจ้าบอกว่าจะนอนไม่ใช่หรือ เราจะไปส่งอย่างไรเล่า”
“ไม่ต้องเพคะ หม่อมฉันมีขา”
“เราก็มีขา และขาเราก็เดินเร็วกว่าเจ้าด้วย”
เฉินม่อฉือไม่สนใจท่าทีขัดขืนของหลิงอวี้จื้อ เขาเดินอุ้มเธอไปวางลงที่เตียง
ใจของหลิงอวี้จื้อแทบจะกระดอนขึ้นมาถึงคอหอยแล้ว เธอกลัวว่าเฉินม่อฉือจะขาดสติขึ้นมา เธอคิดไว้แล้วว่าถ้าเขากล้าล่วงเกินเธอ เธอคงต้องกัดเขาแล้วล่ะ
เฉินม่อฉือวางหลิงอวี้จื้อลงบนเตียง ทั้งยังห่มผ้าให้เธอด้วย หลิงอวี้จื้อรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมา
ครั้งนี้เฉินม่อฉือไม่ได้แตะต้องเธอ เขารู้ว่าเฉินอวี้จื้อไม่ชอบให้เขาถูกเนื้อตัวเธอ ในเมื่อมีเวลาอีกหนึ่งเดือน เขาก็ไม่อยากให้หนึ่งเดือนนี้ทำให้หลิงอวี้จื้อเกลียดเขา หนึ่งเดือนนี้ เขาแค่อยากจะรักทะนุถนอมเธอ ให้เธอรู้ว่า เขาไม่ใช่เด็กน้อยเช่นเมื่อก่อนอีกแล้ว
“นอนเถิด พรุ่งนี้เราค่อยมาเยี่ยมเจ้าใหม่”
พูดจบเฉินม่อฉือก็จากไป หลิงอวี้จื้อถึงกับถอนหายใจออกมาหนักๆ อันตรายจริงๆ ไม่งั้นเธอคงต้องเป็นบ้าแน่ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเธอต้องส่งจดหมายถึงเซียวเหยี่ยนให้ได้ เธอไม่รู้จักใครเลยในวัง แม้แต่ในเมืองหลวงแห่งนี้ เธอก็รู้จักแค่เพียงจูจิ่นคนเดียวเท่านั้น ไม่รู้ว่าจูจิ่นจะเข้าวังมาบ่อยแค่ไหน หากได้พบกับจูจิ่นในวังสักครั้งก็คงดี นางต้องคอยสืบข่าวคราวของจูจิ่นให้ดีเสียแล้ว