ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด - ตอนที่ 674 ดูแลอวี้เอ๋อร์ให้ดี / ตอนที่ 675 เจ้าจะเรียกข้าว่าพี่สาวอีกครั้งจะได้ไหม
- Home
- ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด
- ตอนที่ 674 ดูแลอวี้เอ๋อร์ให้ดี / ตอนที่ 675 เจ้าจะเรียกข้าว่าพี่สาวอีกครั้งจะได้ไหม
ตอนที่ 674 ดูแลอวี้เอ๋อร์ให้ดี
นี่พวกเขาใช้มือสังหารจำนวนมากถึงเพียงนี้ลงมือในครั้งเดียว หลิงอวี้จื้อไม่รู้ว่ามือสังหารเหล่านี้เสร็จภารกิจจัดการองค์รักษ์ลับของเซียวเหยี่ยนแล้วตามมาสมทบทางด้านนี้ใช่หรือไม่
‘หรือว่าเกิดเรื่องกับองค์รักษ์ลับทั้งหมด?’
‘ยังมีมั่วชิงอีก นางบาดเจ็บหรือเปล่า?’
หลิงอวี้จื้อเกิดคำถามขึ้นในหัวมากมาย ครั้งนี้พวกมันเริ่มต้นด้วยการวางยาพวกนางที่โรงเตี๊ยมก่อน จากนั้นค่อยลงมือ ช่างต่ำช้ายิ่งนัก
“ดูแลอวี้เอ๋อร์ให้ดี”
ทิ้งคำพูดประโยคสุดท้ายเอาไว้ประโยคหนึ่ง เจียงสือก็พุ่งตัวออกไปเข่นฆ่ามือสังหารเหล่านั้นทันที
เจียงสือเพิ่งจะสังหารมือสังหารไปถึงห้าหกคน ซึ่งถึงแม้ว่านางจะได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทว่าพละกำลังของนางก็ถดถอยจนแทบไม่มีเหลือ บัดนี้เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนชุดดำถึงสิบกว่าคน เริ่มต้นต่อสู้ไปได้ไม่เท่าไหร่ เจียงสือก็แสดงอาการพละกำลังไม่สอดคล้องกับจิตใจที่ต้องการจะต่อสู้ออกมาเสียแล้ว
ด้วยเหตุนี้บาดแผลบนร่างของเจียงสือจึงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เจียงสือในตอนนี้ฆ่าคนราวกับคลุ้มคลั่ง ดวงตาของแดงก่ำ ซึ่งคนชุดดำเหล่านั้นคาดไม่ถึงว่าที่นี่ยังมีหญิงผู้มีวรยุทธ์สูงส่งอยู่ด้วยอีกหนึ่งคน พวกมันจึงเข้าล้อมกรอบโจมตีเจียงสือเต็มกำลัง
สุดท้ายเจียงสือก็สามารถสังหารคนชุดดำทั้งหมดจนตายด้วยน้ำมือนางเพียงคนเดียวได้สำเร็จ แต่นางเองก็บาดเจ็บสาหัส เจียงสือพยายามฝืนลากสังขารเดินเข้าไปหาหลิงอวี้จื้อและเซียวเหยี่ยน แต่สุดท้ายก็ทานทนต่อไปไม่ไหว ล้มลงที่บนพื้นนั่นเอง
เจียงสือคุกเข่าอยู่กับพื้น ชุดดำที่นางสวมใส่นั้นแม้ว่าจะมองไปไม่เห็นร่องรอยคราบเลือดแต่ก็มีกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง แขนเสื้อถูกดึงทึ้งจนขาด เลือดไหลหยดเป็นทาง ที่ฝ่ามือของเจียงสือเต็มไปด้วยรอยคราบเลือดที่แห้งกรังลงไปแล้วทั้งสิ้น
“เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม!”
เจียงสือรู้ดีว่าตนเองบาดเจ็บสาหัส เกรงว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกไม่นาน สายตาที่นางทอดมองไปยังหลิงอวี้จื้อจึงเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและห่วงใย
“เจ้าจงมีชีวิตอยู่ต่อไปแทนอวี้เอ๋อร์ ข้าหวังมาตลอดว่าอวี้เอ๋อร์จะมีชีวิตอยู่และจากโลกนี้ไปตามกาลเวลาอย่างสงบ เพราะนางไม่ได้ทำอะไรผิด ข้าต่างหากที่ทำให้นางเดือดร้อนมาโดยตลอด ต่อไปข้าคงมิอาจปกป้องนางได้อีกแล้ว”
เจียงสือกล่าวจบก็ล้มฟุบลงบนพื้น เมื่อหลิงอวี้จื้อมองเห็นเลือดดวงใหญ่บนพื้น นางก็เข้าใจอะไรขึ้นมาได้ทันที
เจียงสือตายไปเสียได้ก็ดี นางตายไปไม่มีอะไรน่าเสียดายเลยสักนิด แต่ครั้งนี้เจียงสือต้องตายเพราะช่วยชีวิตนางและเซียวเหยี่ยนเอาไว้ นั่นทำให้หลิงอวี้จื้อสังสนยิ่งนัก เพราะเจียงสือนับเป็นพี่สาวที่ดีคนหนึ่ง
“ข้าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปแทนนาง”
หลิงอวี้จื้อทำได้เพียงแค่ให้สัญญากับเจียงสือเท่านั้น
ได้ยินคำสัญญาจากหลิงอวี้จื้อ เจียงสือก็วางใจ เดิมทีนางคิดที่จะสังหารเซียวเหยี่ยนหลิงอวี้จื้อ จากนั้นค่อยนำศพของเจียงอวี้ไป
ต่อมานางได้ไตร่ตรองโดยละเอียดอีกครั้ง หากทำเช่นนั้นเจียงอวี้จะต้องตายโดยสมบูรณ์ ไม่มีทางที่จะฟื้นคืนกลับมามีชีวิตได้อีก ไม่สู้ไว้ชีวิตหลิงอวี้จื้อ เพื่อให้นางมีชีวิตอยู่ต่อไปแทนเจียงอวี้
เซียวเหยี่ยนคือผู้ที่สามารถกระทำการใหญ่ได้ ต่อไปภายใหน้าไม่แน่ว่าอาจจะเป็นถึงจอมราชันย์ ถึงตอนนั้นหลิงอวี้จื้อก็จะกลายเป็นฮองเฮา เจียงสือรู้ดีว่าเซียวเหยี่ยนรักใคร่หลิงอวี้จื้อเป็นอย่างมาก เมื่อเป็นเช่นนี้ต่อไปเจียงอวี้ก็จะมีที่พึ่งพิงที่ดีในบั้นปลาย
เจียงอวี้อาจจะได้เป็นหญิงที่มีฐานะสูงศักดิ์ที่สุดในแผ่นดิน ต่อไปต้องให้กำเนิดทายาท
เมื่อคิดได้ดังนั้นเจียงอวี้จึงเลิกล้มความคิดที่จะพรากเจียงอวี้ไปจากเซียวเหยี่ยน ปล่อยให้เจียงอวี้อยู่เคียงข้างเซียวเหยี่ยนนับว่าเป็นเรื่องดี อย่างน้อยที่ก็มีเซียวเหยี่ยนที่รักนางมากอยู่เคียงข้าง นี่คือสิ่งเดียวที่นางจะสามารถทำเพื่อน้องสาวได้
ในตอนนั้นเองมั่วชิงที่ร่างทั้งร่างเต็มไปด้วยบาดแผล วิ่งถลาเข้ามาโดยที่มือหนึ่งกุมที่บาดแผลเอาไว้ เมื่อเห็นเจียงสือนอนอยู่บนพื้น หัวใจของนางก็หล่นวูบ
เจียงสือมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร คิดได้ดังนั้นมือก็เอื้อมไปเตรียมชักดาบออกจากฝัก ทันใดนั้นจียงสือที่นอนแหมอยู่ที่พื้นก็เอ่ยปากขึ้นเสียก่อน
“มั่วชิง ก่อนตายข้าจะขับกู่พิษออกจากร่างให้กับเจ้า แต่เจ้าต้องรับปากข้าหนึ่งเรื่อง ว่าเจ้าจะจงรักภักดีต่อเซียวเหยี่ยนไปชั่วชีวิต จะไม่มีวีนทรยศหักหลังเขา”
“ท่านพูดเรื่องอะไรกัน?”
มั่วชิงยังไม่จับต้นชนปลายไม่ถูกว่าตกลงแล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
“มั่วชิง เจียงสือช่วยชีวิตพวกเราไว้”
“นาง…”
มั่วชิงแสดงออกชัดเจนว่าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเป็นเจียงสือที่ช่วยชีวิตเซียวเหยี่ยนและหลิงอวี้จื้อเอาไว้ เพราะในสายตาของมั่วชิงเจียงคือคนเสียสติบ้าคลั่งมาโดยตลอด นางและเซียวเหยี่ยนคือศัตรูคู่แค้นมาช้านาน แล้วเจียงสือจะมีใจช่วยชีวิตคนได้อย่างไรกัน
ตอนที่ 675 เจ้าจะเรียกข้าว่าพี่สาวอีกครั้งจะได้ไหม
“ยื่นมือมา”
เจียงสือรู้ดีว่าเวลาของตนเหลืออยู่ไม่มากแล้ว หลังจากเอ่ยจบนางก็พยายามฝืนบังคับร่างกายให้ลุกขึ้นนั่ง
ทว่ามั่วชิงกลับไม่ขยับเขยื้อน เห็นได้ชัดว่านางยังคงไม่เชื่อใจเจียงสือ ตรงกันข้ามหลิงอวี้จื้อต่างหากที่เชื่อว่าเจียงสือตั้งใจจะช่วยชีวิตมั่วชิงจริงๆ ดังนั้นนางจึงเอ่ยปากว่า
“มั่วชิง ยื่นมือออกมาเถอะ”
“พระชายา นี่…”
“เจ้าเคยรับปากข้า ว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไป”
ในเมื่อหลิงอวี้จื้อเอ่ยปาก มั่วชิงจึงไม่อาจไม่ทำตาม
มั่วชิงเมื่อเห็นว่าเจียงสือคงไม่รอดแน่แล้ว นางถึงกับบอกไม่ถูก แม้กระทั่งในความฝันนางยังต้องการเอาชีวิตเจียงสือ แต่นึกไม่ถึงเลยว่าสุดท้ายในช่วงเวลาคับขันกลับเป็นเจียงสือที่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือนาง มั่วชิงชั่งใจอยู่นานกว่าที่จะยื่นมือออกไปตรงหน้าเจียงสือ ด้วยสีหน้าบึ้งตึง
เจียงสือใช้มีดกรีดปลายนิ้วของตนเอง จากนั้นนางก็เอื้อมหยิบขวดยาสีดำออกมาเสื้อด้านในแล้วคว้าเอายาเม็ดสีดำสนิทใส่ปากตนเอง
เจียงสือจับมือของมั่วชิงเอาไว้แล้วใช้มีดกีรดปลายนิ้วของมั่วชิง ประกบปลายนิ้วที่ถูกกรีดของตนเองและมั่วชิงเข้าด้วยกัน ใบหน้าของเจียงสือซีดขาวลงเรื่อยๆ แม้สีหน้าเจียงสือจะเหยเกอันเนื่องจากความเจ็บปวดทว่านางก็พยายามสะกดกลั้นมันเอาไว้อย่างเต็มที่
มั่วชิงรู้สึกเพียงว่ามีอะไรบางอย่างกำลังไหลเวียนอยู่ในร่างกายของตนอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากปลายนิ้วมือ ความรู้สึกเช่นนี้ทำให้นางไม่สบายตัวอย่างมาก มั่วชิงในตอนนี้จึงเริ่มหน้านิ่วคิ้วขมวด
ทางด้านของหลิงอวี้จื้อก็ค่อยๆ ประคองเซียวเหยี่ยนให้นั่งลงเสียก่อน มองจากมุมของนางในตอนนี้มองไม่เห็นอะไรนอกเสียจาสีหน้าท่าทางของคนทั้งสองมิสู้ดีทั้งคู่ หลิงอวี้จื้อดึงเศษชายกระโปรงของตนเองพันแผลห้ามเลือดให้กับเซียวเหยี่ยนเอาไว้
เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง ในร่างของมั่วชิงไม่มีกูพิษช่อนไชอยู่ภายในอีกแล้ว เจียงสือเองก็ผละนิ้วออกมา นอนแผ่หลาอยู่บนพื้นดูคล้ายกับว่าไม่มีแม้เรี่ยวแรงที่จะขยับเขยื้อนกายอีกต่อไปแล้ว
มั่วชิงรู้ดีว่าเจียงสือช่วยชีวิตตนเอง นางทอดมองไปยังเจียงสือด้วยแววตาสับสน
“เจ้าไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้า หากมิใช่เพราะอวี้เอ๋อร์ ข้าก็ยังคงจะฆ่าเจ้าอยู่ดี ข้ารู้ว่าเจ้าจงรักภักดีต่ออวี้เอ๋อร์ เช่นนั้นก็ขอให้เจ้าจงรักภักดีตลอดไป”
“นางมิใช่เจียงอวี้ นางคือนายหญิงของข้า”
เจียงสือพยายามหยักยิ้มบางเบา
“ไม่ว่าภายในของนางจะเป็นใคร แต่ร่างกายเป็นของอวี้เอ๋อร์ เช่นนั้นนางก็คืออวี้เอ๋อร์ อวี้เอ๋อร์ที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปแทนข้า มั่วชิง เจ้าต้องการแก้แค้นแทนคนในครอบครัวมาตลอด ใช่ ข้ายอมรับว่าข้าสังหารพวกเขา แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่เจ้าไม่เคยรู้ ครึ่งปีก่อนมิใช่ข้าลักพาตัวเจ้าออกมา แต่เป็นพวกเขาต่างหากที่ต้องการขายเจ้า คนของข้าได้เจ้ามาโดยบังเอิญ หากไม่มีสำนักอู่จี๋ เจ้าคงถูกขายให้กับหอนางโลมไปตั้งนานแล้ว แล้วเจ้าคิดว่าชีวิตที่นั่นจะดีกว่านี้อย่างนั้นหรือ?”
“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้”
มั่วชิงแทบไม่กล้าเชื่อในสิ่งที่เจียงสือพูด
“ถึงตอนนี้แล้วข้าจะโกหกเจ้าอีกทำไมกัน ครอบครัวของเจ้าทอดทิ้งเจ้าก่อน เป็นข้าที่ช่วยเจ้าขึ้นมาจากขุมนรก ถ่ายทอดวิชาอบรมสั่งสอนเจ้าเป็นอย่างดี แต่เจ้ากลับจะไปจากข้า แล้วเจ้าจะให้ข้าทานทนได้อย่างไรกัน”
“ข้า เจียงสือ ก่อกรรมทำเข็ญมาชั่วชีวิต และเข้มงวดกับพวกเจ้ามาโดยตลอด แต่พวกเจ้าล้วนเป็นเด็กหญิงกำพร้าที่ถูกครอบครัวทอดทิ้ง ข้ามิได้แย่งชิงลูกของใครมา แต่พวกเจ้าแต่ละคนกลับละทิ้งข้า คิดแต่จะกลับไปหาครอบครัว สิ่งเดียวที่พวกเจ้าคิดนั่นก็คือยังคะนึงหาคนที่เคยทอดทิ้งพวกเจ้าเหล่านั้น ถึงขนาดแอบลักลอบกลับไปหาพวกมัน”
เจียงสือกล่าวไปก็ไอออกมาพร้อมกับกระอักเลือด ซึ่งเลือดนั้นกลายเป็นเลือดสีดำไปเสียแล้วและที่ผิวหนังของเจียงสือก็ปรากฎกู่พิษวิ่งพล่านไปทั่ว
ทว่าเจียงสือมิได้หันมองไปยังมั่วชิงอีก นางกลับหันมองไปยังหลิงอวี้จื้อแทน
“อวี้เอ๋อร์ เจ้าจะเรียกข้าว่าพี่อีกสักครั้งได้หรือไม่?”
“พี่ ขอบคุณท่านมาก”
บุญคุณความแค้นที่ผ่านมา หลิงอวี้จื้อจะไม่เอ่ยถึงมันอีก เสียงที่เอ่ยขอบคุณออกไปในครั้งนี้มาจากหัวใจ หากไม่มีเจียงสือ พวกนางทุกคนก็คงต้องตายกันหมด ยากเย็นนักกว่าที่นางจะได้กลับมาพบกับเซียวเหยี่ยนอีกครั้ง นางไม่อยากพรากจากเขาอีก