ชีวิตที่อยู่ร่วมห้องกับสาวๆ 18+ - ตอนที่ 155
บทที่ 155 ครั้งสุดท้ายเป็นครั้งที่สาม
“คุณทั้งชีวิตนี้ไม่จำเป็นต้องคิดถึงเรื่องผู้หญิงอีก ให้ลู่หย่าฉีตรงส่วนที่แห้งแล้งตรงนั้นแห้งแล้งต่อไปละกัน หรือให้คุณใส่หมวกเขียวโดนสวมเขาสักหลายรอบ ชายชราอย่างคุณวันอากาศหนาวเย็นจะได้หลีกเลี่ยงการเป็นหวัด”
ผมกระตุ้นอยู่เสี้ยงเฉียน อาจจะทำให้เขาคิดว่าผมเสียสติไปแล้ว แต่นี่ก็เป็นบทสรุปที่ผมต้องการเหมือนกัน
ท้ายที่สุดอยู่เสี้ยงเฉียนก็หมุนตัวกลับมา หันมามองที่ผม สีหน้ายังคงแสดงออกเหมือนบ่อน้ำโบราณที่ไม่มีคลื่น สายตานิ่งสงบ ในนั้นไม่มีอารมณ์ใดๆมาปะปน มองไม่ออกเลยแม้แต่น้อยว่าโกรธหรือว่าดุร้าย
เพียงพอที่จะกล้าออกมา ผมและเขาเผชิญหน้ากันตรงๆ ไม่มีการถอยเด็ดขาด
นานพอสมควร อยู่เสี้ยงเฉียนวันนี้เป็นครั้งที่สามแล้วที่แตะกล่องบุหรี่ไม้ เขาจุดบุหรี่หนึ่งมวน จากนั้นหยิบบุหรี่จากในกล่องยื่นส่งบุหรี่มาให้ผมหนึ่งมวน
“กล้าเอาปลายปากกาแทงที่คอของผังบายี กล้าด่าฉันต่อหน้าฉัน กล้าโยนของต่อหน้าฉัน กล้านอนกับลูกสาวสองคนของฉันอยู่เสี้ยงเฉียน นานแล้วที่ไม่ได้เจอเด็กหนุ่มที่กล้าบ้าบิ่นแบบคุณ บุหรี่มวนนี้ คุณสูบได้”
ผมอยากปฏิเสธการรับบุหรี่มวนนี้จริงๆ เพราะว่านั่นมันต้องหล่อมากๆ แต่ว่าตอนนี้ผมเห็นได้ชัดว่าไม่มีคุณสมบัติที่จะแสดงความหล่อนั้น
สองมือรับบุหรี่ ช่วยอยู่เสี้ยงเฉียนจุดบุหรี่หนึ่งมวน จากนั้นผมก็จุดให้ตัวเองอีกหนึ่งมวน ฉุนมาก แรงมาก ภายในเต็มกลิ่นเจียงหูดั้งเดิม มีกลิ่นเลือดอยู่จางๆ
เงียบสงัด ยังคงเงียบสงัด เหมือนตอนที่บ้านเขาทานข้าวไม่มีผิด ไม่พูดระหว่างทานอาหาร สูบบุหรี่ก็ไม่พูดเช่นกัน
จนกระทั่งก้นบุหรี่ถูกดับในที่เขี่ยบุหรี่ ในที่สุดอยู่เสี้ยงเฉียนก็พูดขึ้น รับปากที่จุดสุดท้ายที่ผมไม่เคยได้มาก่อนให้ผม
“ความปลอดภัยแน่นอนของคุณกับจางหงหวู่ เพิ่มเติมสถานบริการกลางคืนเขตเมืองภายในวงแหวนทั้งสี่สายทั้งหมดยังคงคืนกลับให้จางหงหวู่”
จุดสุดท้ายที่ผมรับได้ก็คือ เพียงแค่รับประกันความปลอดภัยของจางหงหวู่ แม้ว่าจะไม่มีตัวผมเองก็ตาม และผมเชื่อว่า ตอนนี้การรับปากของอยู่เสี้ยงเฉียนตอนนี้นั้น เป็นจุดสุดท้ายที่เขารับได้แล้ว
ดังนั้นผมจึงโทรหาหยู่ถิง
“อยู่ห้องอ่านหนังสือของพ่อฉันแล้วโทรหาฉันทำอะไร?”
“ตรงที่เก็บของในรถของคุณ ข้างในมีโสมสีแดงอยู่ อย่าทำมันหักนะ ผมจะเอามาชงเหล้าให้คุณลุงหยู่ คุณช่วยไปหยิบมาให้หน่อยซิ”
วางสายเรียบร้อย บนใบหน้าของอยู่เสี้ยงเฉียนปรากฏรอยยิ้ม
ตั้งแต่ได้พบกัน นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเขายิ้ม ดูใจดีมาก เหมือนคุณลุงข้างบ้านทั่วไปที่มีความเมตตาและอ่อนโยน แน่นอน ผมไม่เคยเห็นตอนที่ลุงข้างบ้านคนนี้ไม่เมตตาอ่อนโยน และผมก็ไม่อยากจะเห็นเช่นกัน
“คุณมันเล่ห์เหลี่ยมจัดจริงๆ คุณเอาของแบบนั้นเก็บไว้ในรถของถิงถิง แบบนี้ไม่ว่าฉันจะค้นหายังไง ก็ไม่สามารถค้นหาตรงที่ของลูกสาวตัวเอง”
“แผนการเล็กๆของคนดื้อรั้น ไม่อยู่ในสายตาคุณลุง”
เรื่องของอยู่เสี้ยงเฉียนก็ได้ยุติลงชั่วคราว
หลังจากออกจากคฤหาสน์ตระกูลหยู่ ผมก็ถอดเสื้อนอกออก เสื้อด้านหลังนั้นเปียกไปหมด……
ออกไปเรียกรถไปโรงแรมใกล้ๆ ผมล้างตัวเล็กน้อย จากนั้นก็เอนกายบนเตียง ปิดมือถือ นอนปิดตัวอยู่ในห้องเงียบๆจนถึงตอนค่ำสองทุ่ม
จากนั้นกินอะไรง่ายๆนิดหน่อย ผมก็กลับห้องไปนอนต่อ นอนยาวไปถึงเช้าวันที่สองเวลาแปดโมง
เวลานี้ ผมรู้สึกว่าเรี่ยวแรงที่สูญเสียน้ำไปทั้งหมดนั้นฟื้นคืนกลับมาแล้ว
การเจรจากับสิงโตอย่างอยู่เสี้ยงเฉียนคนนั้น ผมตอนนี้ยังเทียบไม่ติดเลยแม้แต่น้อย
หลังจากล้างหน้าแปรงฟัน ทานอาหารเช้า เปิดมือถือ จากนั้นได้รับข้อความสองข้อความ ทั้งหมดการแจ้งเตือนจากเครือข่ายโทรศัพท์ เรื่องที่หนึ่งหยู่ถิงโทรหาผมเมื่อวานตอนค่ำสองทุ่ม อีกเรื่องหนึ่งคือแจ้งเตือนว่าเมื่อห้านาทีก่อนหยู่ถิงเพิ่งจะโทรหาผม
กดโทรศัพท์หาหยู่ถิง จากนั้นก็พบกับการบ่นของหยู่ถิง
“ยังไงกัน พอบรรลุเป้าหมายก็ถีบหัวส่งเลยเหรอ? ขนาดโทรศัพท์ของฉันก็ไม่รับ”
“ไม่ใช่แบบนั้น สนทนากับจิ้งจอกเฒ่าที่บ้านคุณเหนื่อยมาก เลยต้องพักทั้งวัน”
หยู่ถิงกลับมองว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อ เธอไม่เข้าใจเลยสักนิด
เรื่องไร้สาระ นั่นถ้าเป็นพ่อของฉัน ฉันเองก็สามารถรักษาไว้ให้เรียบง่ายสงบเหมือนน้ำได้
ไม่มีการคุยเล่นมากมาย หยู่ถิงก็พูดเข้าประเด็นทันที เธอกลับมาที่โครงการของอยู่เสี้ยงเฉียน ให้ผมพาหลิวทงมาพบเขาสักครั้งที่ห้องอ่านหนังสือเวลาสิบโมง
วางสายโทรศัพท์ของหยู่ถิง ผมก็กดโทรหาหลิวทง บอกที่อยู่ของโรงแรม จากนั้นให้เขามารับผม
ประมาณหนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น หลิวทงก็ขับรถมาถึง
บอกเขาเกี่ยวกับเรื่องของผู้ซื้อ หลิวทงร่างเริงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “คุณติดต่อยังไงถึงได้ติดต่อกับท่านอาวุโสหยู่ท่านนี้ได้?”
“เพราะมีชามแตกๆของคุณเปิดทางให้ ก็เคาะประตูตามปกติได้แล้ว”
“ชามแตกๆอะไร นั่นมันเป็นชามที่ผลิตขึ้นในราชวงศ์หยวน……”
ผมจะไปสนใจทำไมว่าผลิตจากเตาเผาที่ไหนออกมา อีกอย่างตอนนี้มันก็แตกพังเป็นชิ้นๆไปแล้ว
รอด้านนอกของคฤหาสน์ตระกูลหยู่ พอถึงเวลาสิบโมง ผมก็เข้าไปพร้อมกับหลิวทง จากนั้นก็ได้พบ อยู่เสี้ยงเฉียนในห้องอ่านหนังสืออีกครั้ง
นอกจากอยู่เสี้ยงเฉียน ในห้องอ่านหนังสือยังมีผู้อาวุโสอีกสามท่าน หลังจากที่พวกเราส่งเสริมของที่หลิวทงนำมา ผมก็รู้ถึงตัวตนของพวกเขาในทันที ผู้เชี่ยวชาญทางด้านของเก่า
ผู้เชี่ยวชาญทั้งสามคุยกับหลิวทงเรื่องของเก่า และก็ออกไปจากห้องอ่านหนังสือกับอยู่เสี้ยงเฉียน ผมอยู่ด้านหลังตามเขาไป
ลงบันได ออกจากประตู ภายในอาคารอยู่เสี้ยงเฉียนเดินอย่างช้าๆ หรือก็สามารถเรียกว่าเดินเล่นก็ได้
“รากตี้หวันเป็นของจริง แต่จะมีประสิทธิภาพเหมือนเรื่องเล่าหรือเปล่า แต่ว่าคุณสบายใจได้ การรับรองของผมไม่เกี่ยวกับผลลัพธ์ ยังคงมีผลเหมือนเดิม”
นี่ถือว่าเป็นข่าวดีเลยทีเดียว เห็นได้ชัดว่าเขาได้หาผู้เชี่ยวชาญมาประเมินราคาเรียบร้อยแล้ว
“ถ้ามีประสิทธิภาพและมีมากเกินพอ ฉันก็มีคำขออยู่ ฉันมีลูกพี่ลูกน้องอีกคน หลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์……”
หลังจากแจ้งเรื่องของเฉินหู่ให้อยู่เสี้ยงเฉียนฟัง เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา การแสดงออกของเขาเหมือนกับว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา
เดินเล่นในอาคารนานพอสมควร ก่อนที่จะกลับเข้าไปในห้องอ่านหนังสือเขาก็เอ่ยปากอีกครั้ง
“ฉันอยู่เสี้ยงเฉียนทั้งชีวิตนี้ มีแค่ฉันรังแกคนอื่น ไม่มีคนอื่นมารังแกฉัน ลูกสาวของฉันก็เหมือนกัน ในเมื่อคุณกล้าจีบเธอ มีแค่เธอทิ้งคุณแบบนั้น ไม่มีการที่คุณจะทิ้งเธอ ฉันไม่สนใจว่าคุณจะมีผู้หญิงกี่คน นั่นมันเป็นปัญหาของความสามารถของคุณ แค่เพียงเธอยินยอม ฉันจะไม่ผสมโรง ”
แล้วถ้าลูกสาวของเขาหยู่ถิงไม่ยินยอมล่ะ? ผมคิด นี่คงจะเป็นสิ่งที่เขาอยู่เสี้ยงเฉียนอยากจะพูดกับผมจริงๆ
หลังจากออกจากคฤหาสน์ตระกูลหยู่ หลิวทงใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เหมือนฤดูใบไม้ผลิที่สว่างไสวสดใส คิดว่าในกระเป๋าน่าจะนูนปูดออกมา
ดื่มเหล้าด้วยกันตอนกลางวัน หลิวทงเป็นคนจ่าย ดื่มกันอยากสนุกสนานเบิกบาน ดื่มจนกลับมาที่พักหลิวทงยังไงก็จำไม่ได้ และหลังจากตื่นมาอย่างมึนงงก็ตามหลิวทงไปตี้หวังแบบเบลอๆ
จนถึงห้องทำงานของหวงหรุงผมถึงเพิ่งคิดขึ้นมาได้ เหมือนว่าผมจะลาออกไปแล้ว
ผมนั่งกับหลิวทงที่บนโซฟา เขาส่งบุหรี่มาให้ผมหนึ่งมวน จากนั้นผมก็จุดบุหรี่
ไม่นานหลังจากนั้น ผมก็ได้ยินเขาพูดกับหวงหรุง “ฉันมีเงินแล้ว หลังจากนี้พวกเราไม่ต้องเฝ้าร้านนี้ก็ได้”
และคำตอบของหวงถิงยิ่งดูมีความสุขมาก พูดออกมา ‘ดี’
ผมขยี้ตาที่ง่วงนอนพร่าเลือน จากนั้นเลยตาสว่างตาขึ้น “พวกคุณร่วมกันสมคบคิดตั้งแต่เมื่อไหร่?”
หลิวทงเปิดใจกับผม “พวกพี่ชาย ใช้คำระวังหน่อย อะไรคือสมคบคิด พวกเรารักกันด้วยความจริงใจ!”
หวงหรุงเองก็มีใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “หลิวทงเป็นคนที่สามารถฝากฝังได้ และเขาก็ยังยินดีช่วยฉันดูแลหวงติ้งแหวนเวลาที่ฉันต้องการได้”
จากตรงคำว่า ‘และ’เป็นต้นไปนั้น หลิวทงเป็นคนที่สามารถฝากฝังได้จริงๆ อย่างน้อยผมก็ทำเป็นใจกว้างขนาดนั้นไม่ได้
หลิวทงออกไปทำธุระ ให้ผมอยู่ที่ในห้องทำงานของหวงหรุงรอสร่างเมา
หวงหรุงช่วยผมเทน้ำอุ่นมาแก้วหนึ่ง จากนั้นเดินมาตรงมาด้านหน้าส่งให้ผม
น้ำผมดื่มแล้ว ดื่มรวดเดียวหมด และร่างกายอันอ่อนนุ่มของหวงหรุงก็ถูกผมดึงเข้ามาในอ้อมกอด นั่งอยู่บนขาทั้งสองข้างของผม
“คิดดีแล้ว?”
หวงหรุงพยักหน้า “คิดดีแล้ว”
มือทั้งสองข้างไม่สนใจการยับยั้งของเธอ รุกล้ำเข้าไปในเสื้อผ้าของเธอ “ถ้าอย่างงั้นต่อไปคุณอยู่กับหลิวทง พวกเราก็คงมีอะไรกันไม่ได้อีก”
หวงหรุงเปล่งเสียง ‘อืม’กลับมา ไม่รู้ว่านี่คือการตอบผม หรือว่าเป็นเสียงครางที่ส่วนอวบอิ่มสมบูรณ์นั้นถูกนวดคลึงเล่นจนตื่นเต้นดีใจขึ้นมา
“ระดมยิงเพื่อลาจาก?”
คำถามของผม หลายนาทีหลังจากนั้นหวงหรุงถึงจะตอบกลับมา “เป็นครั้งสุดท้าย”
จากนั้น หลังจากที่ถอดกางเกงของเธอออก หลังจากกางเกงในเซ็กซี่ของเธอออก ผมก็จมเข้าไปในร่างกายอ่อนนุ่มของเธอ
ท่ามกลางเสียงครางอันยั่วยวน ผมก็นึกออกขึ้นมา เหมือนว่านี่จะเป็นครั้งที่สามแล้วที่เธอพูดออกมาว่า ‘เป็นครั้งสุดท้าย’….