ชีวิตที่อยู่ร่วมห้องกับสาวๆ 18+ - ตอนที่ 164
บทที่164 ทำไมคุณยังยิ้มออกมาได้
ผมเชื่อ ไม่ว่าจะใช้มือหรือใช้ลิ้น ที่จะทำให้เธอพอใจนั้นไม่ใช่ปัญหา
แต่ว่า ผมทำให้เธอพอใจ แต่เธอกลับใช้เพียงก้นน้อยๆของเธอทำให้ผมพอใจ นั้นมันไม่ค่อยจะสมเหตุสมผล
“หย่าฉี ผมชอบปากเซ็กซี่ของคุณ”
ลู่หย่าฉีเข้าใจในความหมายทันที “อย่าแม้แต่จะคิด ฉันไม่ทำสิ่งสกปรกแบบนั้น”
โอเค ผมว่าเธอพูดมีเหตุผล เพราะว่านั้นมันสกปรก ไม่สมควรที่จะสอดเข้าไปในร่างกายเธอ
ดังนั้นผมเลยนอนลงข้างเธอ ไม่พูดอะไร เตียงนี้มันสบายดีจริงๆ แม้ว่ามันจะดูไม่ได้แพงอะไร
“คุณทำอะไร แกล้งเป็นหมาตายแล้วเหรอ?”
“ไม่มีอะไร ผมแค่รู้สึกว่ามือและลิ้นของผมนั้นมันสกปรก ไม่สมควรสอดเข้าไปสัมผัสสิ่งมีค่าของคุณ”
คำพูดนั้นทำให้ลู่หย่าฉีเข้าใจความหมายที่สื่อออกไป เธอเอาหมอนมาตีผม
“คุณนี่มันเลว คุณมันคนเลว ฉันทำให้คุณพอใจแล้ว ทำไมคุณไม่ทำให้ฉันพอใจบ้าง!”
“พอได้แล้ว ก็เห็นชัดอยู่ว่าคุณอยากจะเพลิดเพลินกับความรู้สึกสะใจแบบนั้น แต่กลับรู้สึกไม่ได้ ดังนั้นจะมาโทษผมไม่ได้นะ!”
“คุณมันขี้โกหกหลอกลวง!”
ลู่หย่าฉีนอนลงบนเตียง หันหลังให้ผม
ผมก็หันหลังให้เธอ
พวกเราคิดว่าเวลาทะเลาะกัน คงไม่มีใครอยากมองหน้ากัน
พอผ่านไปสิบนาทีกว่า ผมก็รู้สึกว่าอากาศมันเย็น ผมเลยเอาผ้าห่มขึ้นมาห่ม สอดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม
“คุณจะทำตัวเหมือนอยู่ที่บ้านคุณเลยเหรอ ลุกขึ้นมา นั่นที่นอนของฉัน หมอนก็ของฉัน!”
ผมถึงว่าทำไมหมอนมันถึงมีกลิ่นหอม!
“ผมไม่อยากลุกเลย คืนนี้ขอนอนกับคุณที่นี่ แล้วผมก็จะไม่ช่วยคุณ จะยั่วโมโหคุณ !”
ผมทำให้ลู่หย่าฉีโมโหจริงๆ เธอลุกจากเตียง แล้วเปิดประตูเอาเสื้อผ้าโยนออกไป
“ ออกไป ออกไป ออกไป จากนี้ไปเราไม่ต้องติดต่อกันอีก!”
“รอผมตื่นนอนก่อนแล้วค่อยไป ผมกลัวออกไปแล้วเจออยู่เสี้ยงเฉียนกับหยู่ถิง!”
ในขณะที่ลู่หย่าฉีสั่นปาก จากนั้นก็มีรถขับจอดที่หน้าบ้าน ประตูใหญ่นั้นเปิดออก ‘ปรึ้น ปรึ้น’ เสียงของรถก็ดังขึ้น
ตอนนั้นผมก็รู้สึกใจหาย แต่ว่าลู่หย่าฉีนั้นรู้สึกใจหายกว่าได้อย่างชัดเจน แม้แต่เสื้อผ้าก็ไม่สวม เปลือยก้นเปล่ารีบลุกออกไปดูที่หน้าต่าง เปิดผ้าม่านออกดู
ผมถามเธอว่าใคร เธอบอกว่าเป็นรถออดี้
ผมถอนหายใจ รถออดี้เป็นของหยู่ถิง แม้ว่าหยู่ถิงจะไม่ได้เข้ามาในห้องนี้ ถ้าเป็นรถของอยู่เสี้ยงเฉียนแล้วละก็ นั่นเป็นเรื่องใหญ่เลย ผมไม่ได้มีปีกที่จะบินหนีออกไปได้ ถ้ามีปีกก็คงบินหนีไม่พ้นมือของอยู่เสี้ยงเฉียนได้
“ทำไงดี จะทำไงดี หยู่ถิงกลับมาแล้ว ถ้าถูกเธอจับได้พวกเราซวยแน่!”
ลู่หย่าฉีรู้สึกกังวล เดินวนไปวนมาในห้อง เต็มไปด้วยความกังวลใจ
ผมเอาศอกเท้าหัว แล้วก็มองไปที่เรือนร่างอันงดงามของเธอ ไม่ได้รีบร้อนอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว
“ทำไมคุณยังยิ้มอยู่ได้ คุณยิ้มออกมาได้ยังไง!!!”
ดูเหมือนลู่หย่าฉีกำลังจะเป็นบ้า
ผมจุดบุหรี่สูบ แล้วก็พูดว่า “ไปเก็บเสื้อที่คุณโยนทิ้งไปกลับมา ไม่งั้นหยู่ถิงจะมาเจอได้”
“ใช่ใช่ใช่ เสื้อผ้าเสื้อผ้า….”
ลู่หย่าฉีฮึมฮัม รีบเปิดประตูวิ่งออกไป จากนั้นก็เก็บเสื้อผ้าของผมกลับมาคืน แล้วยังถามผมอย่างละเอียดด้วยว่าในกระเป๋าเสื้อไม่ขาดใช่ไหม ตรวจดูอีกทีว่ามีรอยขาดไหม
จากนั้นผมก็พูดกับเธอ “แกล้งเดินปวดหัวลงไป แล้วไปทักทายหยู่ถิงจากนั้นก็บอกว่ากลับมานอน ไม่ต้องพูดอะไรมาก พูดมากแล้วเดี๋ยวจะไม่เชื่อ”
“แล้วคุณจะออกไปยังไงหยู่ถิงอยู่ในบ้าน คุณออกจากบ้านยังก็ต้องเจอกับเธออยู่ดี!”
“งั้นผมนอนกับคุณคืนนี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าหยู่ถิงก็ไปทำงาน ”
“คุณนอนที่นี่ไม่ได้!”
ลู่หย่าฉีพูดด้วยเสียงค่อนข้างดังและร้อนรน
ผมจ้องมองไปที่เธอ “งั้นคุณนอนที่นี่ ผมจะไปหาหยู่ถิง เดี๋ยวคืนนี้ผมไปนอนกับเธอ”
ลู่หย่าฉีรีบออกมาดักหน้าผมไว้ ขอร้องไม่ให้ผมออกไปไหน
ผมก้มลงมองข้างล่าง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมามองที่ริมฝีปากแดงเล็กของเธอ “ปากของคุณเซ็กซี่จัง”
ลู่หย่าฉีกัดฟัน แล้วกัดฟันแน่น
แต่พอผมพลิกตัวออก เธอกลับรีบมากอดผมไว้ กอดอย่างแน่น จนแทบจะติดกับตัวผม ฉันจะช่วยคุณ “ฉันจะใช้ปากช่วยคุณ ดีไหมคะ?”
ผมส่ายหน้า “ไม่ดีครับ ผมอยากสอดของผมใส่เข้าไปสัมผัสกับร่างกายคุณ”
“ไม่ได้นะ อย่างนั้นไม่ได้ คุณบ้าแล้วจะทำให้ฉันบ้าไม่ได้ ถ้าฉันท้องจะทำยังไง!!!”
ผมเปิดหน้าต่างดู พิงขอบหน้าต่างสูบบุหรี่ มองไปยังหยู่ถิงที่กำลังเดินลงจากรถแล้วก็เดินเข้าห้องไป
“ผมว่าไม่ต้องมาอธิบายอะไร เดี๋ยวอยู่เสี้ยงเฉียนก็ดีขึ้น เขาต้องให้กำเนิดเด็กกับคุณได้ ถึงเวลานั้นคุณก็คลอดออกมา ยิ่งกว่านั้น คุณคิดเราสองคนจะมีโอกาสมากพลาดสูงขนาดนั้นเลยหรอ?แล้วก็ หยู่ถิงเข้าห้องไปแล้ว คุณลองพิจารณาดูแล้วกัน รอหล่อนขึ้นมาเจอคุณ มันน่าสนใจจริงๆ……”
พูดกับลู่หย่าฉีเยอะเยะ เธอเป็นคนฉลาด เธอรู้ว่าต้องจัดการยังไง ผมกำลังคุกคามเธอ
ในที่สุด เธอก็สวมเสื้อผ้า แล้วลงไปข้างล่าง
นอนพิงที่หัวเตียง ผมก็สูบบุหรี่อีกครั้ง ผมต้องการช่วยหยู่ถิง แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า
ผมเอาโทรศัพท์ออกมา แล้วพิมพ์ข้อความ แต่ยังไม่ทันได้ส่ง
ก็ได้ยินแต่เสียงเท้าลู่หย่าฉีกำลังเดินขึ้นมา ผมเลยยังไม่ได้ส่ง แล้วก็ปิดเครื่องไป
เมื่อลู่หย่าฉีกลับเข้ามาในห้อง เธอรีบปิดประตูแล้วถอนหายใจอย่างโล่งอก ผมก็รู้เลยว่าเธอทำสำเร็จแล้ว
ผมตบเตียง เธอรู้ว่าผมหมายความว่าอะไร แต่ก็ส่ายหัวอย่างแรง ใบหน้าอันมีเสน่ห์แต่ไปด้วยความเว้าวอน
“เฉินเฟิง ฉันยอมคุณแล้ว ฉันใช้อะไรช่วยคุณก็ได้ ถ้าไม่ได้คุณก็สอดเข้าข้างหลังอีกครั้งสองครั้ง สองครั้งก็ได้ แต่อย่าสอดใส่เข้าทางด้านหน้า ฉันกลัวว่าจะทนไม่ไหว แล้วทำให้หยู่ถิงได้ยิน”
ผมไม่ได้พูดอะไร นอนลงบนเตียง เอามือรองศีรษะไว้
เธอจึงปิดไฟที่หัวเตียง เธอไม่ได้ถอดเสื้อผ้าออก แต่ตรงมาที่เตียงนอนอย่างหิวกระหาย เธอใช้มือน้อยๆของเธอช่วยผม
ผมพยายามพุ่งความสนใจไปที่การเคลื่อนไหว มีบางที่มันยังไม่ขึ้นมา ทำให้ลู่หย่าฉีกระวนกระวายใจ
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงฉีกผ้าห่มออก เมื่อมองลงไปดูหลังจากที่คิดแล้วคิดอีก ในที่สุดเธอก็ก้มหัวลงไป
พริบตาเดียว ผมก็รู้สึกถึงความอุ่นและเปียกแฉะตรงบริเวณตรงนั้น
ผมพยายามที่จะควบคุม แต่สุดท้ายมันก็ยากที่ต้านทานจากปากเล็กที่มีเสน่ห์ของเธอได้ มันค่อยๆผงาดขึ้น
ผมมองเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ เธอดูมีความสุขมาก
“ผมไม่รู้ว่ามีอะไรที่ทำคุณดีใจ”
ลู่หย่าฉีเธอดูไม่ค่อยเข้าใจความหมายของผม แต่ผมเชื่อว่าแป๊ปเดียวเดี๋ยวเธอก็เข้าใจ
จากนั้น ครึ่งชั่วโมงผ่านไป เธอมองผมด้วยแววตาที่ขมขื่น
“หัวเริ่มมึนไปหมดแล้วปะ? คุณพยายามหน่อย ถ้าคุณเร่งความเร็วอีก ผมคิดว่าประมาณครึ่งชั่วโมงผมคงเสร็จ”
ลู่หย่าฉีก็มองมาด้วยดวงตาที่เบิกกว้างเต็มไปด้วยความรู้สึกประหลาดใจและชื่นชมเป็นอย่างมาก จากนั้นก็รู้สึกสูญเสียแรง
รู้สึกประหลาดและชื่นชมอย่างมากที่ของเขาอดทนได้นานขนาดนี้ ทำให้ร่างกายอันงดงามของเธอปรารถนาต้องการอย่างมาก
เธอคิดว่าเธอไม่กล้าใช้ปากช่วยอยู่อย่างนี้อีกครึ่งชั่วโมงหัวเธอคงขยับไม่ได้แน่ๆ
จากนั้นเธอก็ถอดเสื้อในออก เผยให้เห็นเนื้อที่อวบอิ่มจากนั้นก็ทาบตัวลงไปนาบไว้กับของผม ใช้ความอวบอิ่มนั้นหนีบของผมไว้
และขยับขึ้นลงอีกครั้งและอีกครั้ง
ไม่ต้องพูดอะไร แบบนี้มันอบอุ่น เพลิดเพลินมาก และฟินมาก!
ในขณะนั้น ‘ก๊อก ก๊อก’ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
ไม่ต้องพูดถึงลู่หย่าฉีเลย แม้แต่ผมก็ยังตกใจ