ชีวิตที่อยู่ร่วมห้องกับสาวๆ 18+ - ตอนที่ 179
ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นผังเจี้ยนจวินหรือเป็นอยู่เสี้ยงเฉียน ในสายตาของผมตอนนี้เขาเป็นดั่งเทพทั้งคู่ ถึงขนาดพูดได้ว่า ถ้าไม่ได้มีพันธะกับจางหงหวู่ แม้ตัวเธอเองก็ราวดั่งเทพเหมือนกัน
เทพคืออะไร เทพผู้อยู่สูงส่ง จนไม่มีใครอาจเอื้อมสัมผัสได้เลย
ดังนั้นถ้าเทพเกิดการประลองวิทยายุทธกัน คนธรรมดาแบบผมก็ได้แต่แหงนหน้าขึ้นมอง อย่างน้อยก็เหมือนกับสถานการณ์ในตอนนี้
ผมจะไตร่ตรองมากไม่ได้และไม่มีทางให้คิดเยอะด้วย ดังนั้นผมจึงปล่อยความคิดทิ้งไปพร้อมกับก้นบุหรี่ที่โดนบดบี้อยู่บนพื้น ผมมุ่งหน้าเข้าไปหาลู่หย่าฉี จากนั้นก็โค้งคำนับ “สวัสดีครับคุณป้าลู่”
ลู่หย่าฉีมองช้อนขึ้นมาหาผม แต่แววตานั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยนเหมือนน้ำ ไร้ซึ่งพลังความร้ายกาจใดๆ
แน่นอนว่า สายตาที่อ่อนโยนดังสายน้ำนั้นไม่ได้เกิดจากผม
เธอทรงตัวกับพื้นด้วยขาข้างเดียว เอนตัวไปด้านหน้า พร้อมกับใช้มือขวาจับขาข้างขวา และแขนซ้ายเอนไปข้างหน้าอย่างสุดตัว
ชุดที่ใช้ฝึกโยคะเดิมทีก็รัดรูปอยู่แล้ว แต่ทรวดทรงของเธอมันเต็มเปี่ยมจนดูแน่นเด้งออกมา
ดังนั้นเรือนร่างอันเย้ายวนและเซ็กซี่ของเธอที่ถูกห่อหุ้มด้วยเสื้อผ้ารัดรูปนี้ เป็นธรรมดาที่ไม่จำเป็นต้องบรรยายให้มากเกินไปเลย
ณ จุดนี้ ส่วนที่เด้งชูชันออกมาจากกางเกงของผมมันอธิบายได้ทุกสิ่งแล้ว
แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันถูกจับจ้องอยู่ในสายตาของลู่หย่าฉีอย่างแน่นอน
“ใหญ่มาก แข็งมาก อดทนได้นานมาก”
นี่ไม่ใช่คำพูดของลู่หย่าฉี แต่เป็นคำพูดของผมเอง เธอจึงทรงตัวได้ไม่ค่อยมั่นคงแล้ว แม้กระทั่งลมหายใจที่ต้องประสานกันซึ่งเป็นจุดหลักของการฝึกโยคะก็เริ่มสั่นคลอน
และความตื่นตระหนกของเธอนี่ ก็มากพอที่จะพิสูจน์ได้สิ่งหนึ่งแล้ว
“ดูเหมือนว่า คุณลุงหยู่จะไม่สามารถทำให้คุณพอใจได้อย่างแท้จริง เขาแค่ทำให้คุณกลายเป็นผู้หญิงอีกครั้งก็เท่านั้น แต่ไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกถึงแก่นแท้ที่ผู้หญิงต้องการจริงๆ
ลู่หย่าฉีไม่สามารถรักษาท่าทางนั้นได้อีกต่อไป เธอหุบขาและยืนนิ่ง พยายามควบคุมลมหายใจเข้าออก ใช้เวลานานกว่าจะสงบลง
แต่สิ่งที่บังเอิญเกิดขึ้นก็คือ ผมก็ได้สงบสติอารมณ์ของตัวเองได้แล้วเช่นกัน
ในที่สุดริมฝีปากแดงระเรื่อทั้งสองกลีบนั้นก็ได้แยกออกจากกันและพรั่งพรูคำพูดออกมา “ถูกทุกอย่าง”
หลังจากนั้น เธอก็ได้จัดแจงเก็บชุดโยคะ แล้วสวมรองเท้ากลับเข้าห้องไป
เธอไม่ได้เชื้อเชิญให้ผมเข้าห้อง แล้วผมเองก็ไม่อยากเข้าไปในห้องกับเธอตอนที่ลู่ปู้หนานก็อยู่ที่บ้านอย่างเหตุการณ์ในตอนนี้
ผมออกจากประตูบ้านเข้าไปในรถ รอตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่มีการติดต่อจากลู่ปู้หนานเลย
ประมาณสิบกว่านาทีหลังจากนั้น ลู่ปู้หนานก็ออกมาจากสวน และขึ้นมาบนรถของผม
ผมมองจากกระจกข้างหลังก็เห็นว่า ใบหน้าของลู่หย่าฉีเต็มไปด้วยความโกรธ แต่ตกลงว่าเธอหึงลูกสาวของเธอหรือโกรธที่ผมจะมาทำร้ายลูกของเธอกันแน่ นั่นก็ไม่มีใครรู้ และผมก็ไม่สนใจมันด้วย
สิ่งเดียวที่สนใจในตอนนี้คืออยู่เสี้ยงเฉียน ถ้าเกิดอยู่เสี้ยงเฉียนรู้ขึ้นมาว่าผมไม่ได้แค่นอนกับลูกสาวทั้งสองคนของเขา แม้กระทั่งภรรยาของเขาเองก็เล่นมาแล้วทั้งคืน……
ผมคิดว่า ถูกสับเป็นหมื่นชิ้นนั้นถือว่าเป็นบทสรุปที่สวยหรูเกินไป มันจะต้องโหดร้ายกว่านั้น
พาลู่ปู้หนานไปแล้ว พวกเรายังรับจี้หลินไปด้วย แล้วคืนนั้นก็เป็นอีกคืนที่เราสนุกสุดเหวี่ยง
ในเวลานี้ ลู่ปู้หนานไปเข้าห้องน้ำ เหลือแค่ผมที่อยู่กับจี้หลินตามลำพัง
เธอบอกกับผมว่า ที่คุณพูดเมื่อคืนมันก็ถูก นี่ถือเป็นประสบการณ์ที่ไม่ธรรมดาของชีวิตเธอเลย มันเป็นดั่งตัวแต่งแต้มให้โลกของเธอมีสีสันมากขึ้น ดังนั้นเธอจึงไม่กลัวแล้ว และยังรู้สึกได้ว่าเธอมีความตื่นเต้นเล็กน้อย
“งั้นพวกเรามาใช้เวลาให้มันตื่นเต้นอีกสักครั้งกันเถอะ”
“เอาสิ ใครกลัวใคร!”
อยากจะเอาแม่แรงมาอุดปากนั้นจริงๆเลย เป็นเด็กที่ไม่รู้จักเจ็บจักจำอะไรเลย
หลังจากอยู่เล่นกับสองสาวอย่างสนุกสุดเหวี่ยง ก็ทานอาหารเย็นและถูกผมส่งกลับไปที่โรงแรม หลังจากนั้นผมก็ไปทำงาน
ผับหมอชิ่งยังคงเปิดบริการอยู่ แต่พนักงานชายกลับลดลงไปเยอะมาก
มันชัดเจนมากว่า พวกเขากำลังกลัว รวมทั้งJasonจางซานตั้นก็ไม่ได้มาปรากฏตัวในค่ำคืนนี้
แต่เรื่องพวกนี้ดูเหมือนจะไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อธุรกิจผับหมอชิ่งเลย เพราะยังไงซะที่นี่ก็มีนักเต้นชายมืออาชีพ ที่ขายศิลปะแต่ไม่ได้ขายเรือนร่าง ก็สามารถดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดี
ในพื้นที่พักผ่อนของผม ผมวางขาทั้งคู่ลงบนโต๊ะ หูฟังจังหวะเพลง มือคีบมวนบุหรี่ และปล่อยความคิดให้ล่องลอยไป
ผมกำลังนึกถึงภรรยาของท่านผู้การที่สำนักงานย่อยนั้น ถึงแม้ว่าสามีของเธอจะเป็นแค่ท่านผู้การสำนักงานย่อยนั้น แต่ก็ถือเป็นคนที่ใหญ่โตและพละกำลังของผมก็ไม่อาจต่อกรกับเขาได้
ถึงขนาดที่สามารถเรียกได้ว่า เขาคือเทพที่เอื้อมไม่ถึงอีกคนเหมือนกัน
ดังนั้น ผมจึงรอคอยที่จะได้พบกับหญิงงามที่อยู่แถวหน้าคนนั้นมาที่นี่
แต่การรอคอยครั้งนี้เริ่มตั้งแต่หนึ่งทุ่มจนถึงเที่ยงคืนแล้ว แต่เธอก็ยังไม่ปรากฏตัว
เวลาที่ล่วงเลยเข้าสู้ช่วงเช้ามืดแล้ว ลูกค้าก็ค่อยๆลดลงไปเรื่อยๆ
เมื่อคืนนี้ได้หยอกล้อคลอเคลียเรียวขาคู่สวยของจางหงหวู่อย่างคึกคักไปหน่อย จึงรู้สึกค่อนข้างเหนื่อย ผมอยากจะกลับไปพักเร็วๆแล้ว
พอผมพูดคุยกับหัวหน้าร้านเสร็จสรรพกำลังเตรียมตัวออกไป ก็มีหญิงสาวที่มีเสน่ห์อันแพรวพราวกำลังเดินเข้ามาทางประตู แล้วไหล่เราก็ปะทะกัน
“ไหล่นี้สบายจริงๆ ถึงแม้จะสัมผัสกันแค่ผ่านเสื้อผ้า แต่ก็ให้รู้สึกถึงความเนียนนุ่ม เรียบเนียน
และสัมผัสที่เต็มแน่นของความยืดหยุ่น มันดึงดูดคนได้มากจริงๆ สาวสวย ผมคิดว่าผมได้ตกหลุมรักเรือนร่างของคุณแล้วละ และยังคิดว่า ไหล่ของคุณนี่ต้องหอมนวลแน่นอน”
ผมชอบหญิงสาวทรงเสน่ห์แบบนี้ ทั้งเรือนร่างและกิริยาท่าทางอันพราวเสน่ห์ ตั้งแต่หัวจรดเท้า
มันให้กลิ่นอายของนางพญาจนทำให้คนอื่นต้องเรียกร้องความยุติธรรม ผมอยากที่จะผลักเธอให้ล้มลงไปกับพื้นแล้วจำยอมต่อผมซะตอนนี้เลย
ผู้หญิงประเภทนี้ มักเกิดมาพร้อมกับปีศาจ ที่ทำให้ความต้านทานของฝ่ายชายลดน้อยลงจนแทบจะหยุดนิ่ง
ดังนั้นผมยินยอมรับบริการจากลูกค้าคนนี้ และผมเองก็อยากรับ
เธอขยิบตาใส่ผมแล้วถามว่า “เด็กใหม่เหรอ?”
ผมหยักหน้ารับ
เธอดีดนิ้ว ผู้จัดการก็รีบกระดกก้นวิ่งมาทันที หน้าตาประจบสอพอ
“พี่ฉิน คุณสั่งได้เลย”
“คืนนี้เป็นเขาละกัน ปากหวาน ดูฉลาด รูปร่างผอมกะหร่องแข็งแรง มีเรี่ยวแรงพอ!”
หัวหน้ามีความอายเล็กน้อย แล้วมองมายังผม
การเปิดบริการตามห้องที่แขกสั่งนั้น ไม่สามารถปฏิเสธได้ แต่ตอนนี้ผมเลิกงานแล้ว ดังนั้นถ้าผม ปฏิเสธหัวหน้าเองก็คงไม่มีทางเลือกได้
แต่มันก็เห็นได้ชัดว่าผมไม่สามารถปฏิเสธได้เลย ด้านหลังของพี่ฉินคนนั้น ผมพยักหน้าอย่างไม่ค่อยเต็มใจ หัวหน้าก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
ดังนั้น จากการนำทางของผมพี่ฉินคนนั้นก็ตามผมเข้าไปในห้องรับรองส่วนตัว
เมื่อเข้าไปยังห้องรับรองส่วนตัว ไม่มีการปริปากถ้อยคำไร้ประโยชน์ใดๆออกมา พี่ฉินก็สั่งให้ผมเปิดภาพยนตร์ และยังสั่งอีกว่าต้องการหนังอเมริกา และต้องเกี่ยวกับความสัมพันธ์คนกับธรรมชาติ อย่างเช่นเรื่องของลา ตอไม้ หรือขวดเหล้านั้น
รสชาติจัดจ้าน ผมไม่เคยได้สัมผัสลิ้มรสปีศาจสาวแบบนี้มาก่อน แค่คิดก็รู้สึกถึงความเมามัน ผมตั้งตารออย่างมากที่เธอจะให้ผมกำหมัดแน่นและกระแทกเข้าไปแบบนั้น ผมรอคอยว่าเธอจะแสดงออกมายังไง
แต่ความจริงที่เกิดขึ้นมันก็พิสูจน์ได้ว่าผมคิดผิด สิ่งที่เธอชอบมองก็คือความเข้าใจในธรรมชาติทั้งหมดของผม คือธรรมชาติของผู้ชายกับลา ผู้ชายกับท่อนไม้ และผู้ชายกับเหล้า
โดยเฉพาะในตอนสุดท้าย ที่ทำให้ผมรู้สึกน่าทึ่งว่าทำไมของผู้ชายคนนั้นมันเล็กได้ขนาดนั้น?
หลังจากได้ดูวิดีโอกับปีศาจสาวผมถึงรู้ว่า ตอนแรกที่มันมีขนาดเล็กนั้นก็ใส่เข้าไปก่อน จากนั้นค่อยป้อนยาวิเศษให้ผู้ชายทาน แค่นี้ก็ได้แล้ว
สมองอันแปลกประหลาดนี้ จริงๆเลยผม…
แต่ปีศาจพี่ฉินในขณะนี้ ดูเหมือนจะตื่นเต้นเป็นพิเศษ และไล่ให้ผมไปเอาเหล้า
นี่ทำให้ผมรู้สึกกลัว แต่สุดท้ายแล้วเหล้าทั้งสองขวดก็ได้ถูกหยิบมา
แค่เป่าก็เปิดขวดได้แล้ว ปีศาจสาวนี่แข็งแกร่งมาก ยังชมอีกว่าแอลกอฮอล์ของผมรสชาติดี ไม่งั้นแค่เปิดมาสามขวดก็ทำให้เธออาเจียนจนดื่มต่อไม่ได้แล้ว
หลังจากเธอดื่มเสร็จ ผมก็โฟกัสไปยังขวดเหล้าเขาโดยไม่ละสายตา ดูเหมือนว่าเธอจะสังเกตเห็นการจ้องมองของผม แล้วยิ้มออกมาอย่างเย้ายวน
“คุณคิดเยอะไปแล้ว ฉันไม่ได้มีรสจัดขนาดนั้น อีกอย่างคุณน่าจะผ่านคนมามากมายหรือว่าคุณยังไม่เคยแตก?”
“พี่ฉินมีคนพูดไว้ว่าผู้หญิงสวยนั้นเป็นเรื่องมหัศจรรย์แล้ว หายากมากที่จะเจอเธอแถมยังเป็นคนมีจิตใจเมตตาอีก ผมคิดมาตลอดว่าไม่มีทางมีผู้หญิงประเภทนั้นอยู่แน่ๆ แต่เมื่อวันนี้ผมได้มาเจอคุณ ทำให้รู้สึกเชื่อในประโยคนี้อย่างจับใจแล้ว คุณทั้งสวยทั้งจิตใจดี ในสายตาผมคุณเป็นดั่งเทพธิดา เทพธิดาเพียงหนึ่งเดียวบนโลก”
สายตาของพี่ฉินละออกจากม่าน และมองมายังร่างกายของผม
เพราะการออกฤทธิ์อันรวดเร็วของแอลกอฮอล์สามขวดนั้น ทำให้ใบหน้าของปีศาจสาวอันเย้ายวนของเธอเปลี่ยนเป็นสีกลีบกุหลาบ แต่มันขับให้เธอดูเซ็กซี่ เย้ายวนขึ้นมาอย่างมาก เติมเต็มให้บรรยากาศมันคลุกรุ่นไปด้วยปีศาจสาว
“คุณพูดจริงหรือเปล่า?”
ผมพยักหน้าอย่างเป็นจริงเป็นจัง “ถ้าหลอกเพียงสักประโยค ขอให้ฟ้าผ่า!”
ในชั่วพริบตา ก็เกิดเสียงโหมกระหน่ำดังลั่นมาจากท้องฟ้าข้างนอก
น่าอายจริงๆ……