ชีวิตที่อยู่ร่วมห้องกับสาวๆ 18+ - ตอนที่ 183
กู้ฟางเฟยปิดปากเงียบ นี่บ่งบอกว่าเธอไม่อยากจะพูด เธอยังไม่อยากจะพูดเรื่องราวของเธอที่อยู่ในใจออกไป
ในเมื่อเธอไม่อยากจะพูดปกติแล้วผมเองก็ไม่สามารถจะบังคับได้เช่นกัน
ตอนที่ผมจะเอ่ยปากเปลี่ยนบทสนทนา เธอก็พูดออกมาอีกครั้ง
“ช่างเถอะ ก็ไม่ใช่ว่าเป็นอะไรที่ไม่สามารถพูดได้สักหน่อย ปีนั้นฉันก็เป็นเหมือนคุณ ก็ออกมาขายเหมือนกัน แต่ว่าฉันโชคดีกว่าคุณ ทำเพียงระยะเวลาสั้นมากๆ ก็ได้พบคนคนหนึ่ง จากนั้นเขาก็รับฉันมาเป็นภรรยา……”
กู้ฟางเฟยพูดออกมามากมาย แต่ว่าจริงๆแล้วเรื่องของเธอนั้นถึงจะดูเหมือนไม่ใช่เรื่องของซูเสี่ยวฉิน หรือจะพูดให้ถูก เรื่องที่แท้จริงนั้นถูกเธอจงใจพูดรายละเอียดออกมาแล้ว
“ตอนแรกยังมีพี่น้องอยู่กับฉันอยู่อีกคน สามีของฉันอยากจะเอาพี่น้องคนนั้นของฉันมาเป็นเมียน้อยให้ได้ พี่น้องฉันคนนั้นไม่ยอม ฉันเองก็ไม่ยอม ฉันไม่ได้ท้อง และก็ไม่ได้อยากยึดครองเขาคนเดียว ฉันแค่ไม่อยากให้พี่น้องคนนั้นของฉันถูกรังแกล่วงเกินแบบฉันก็เท่านั้นเอง”
“แต่ว่าช่วงนี้ในที่สุดเธอก็ถูกสามีของฉันจัดการ แต่ว่าได้ยินมาว่าชั่วดียังไงไม่รู้มีเด็กหนุ่มยื่นมือช่วยเหลือเธอไว้ นี่เลยทำให้เธอไม่โดนทำร้ายรุนแรง”
พี่น้องของเธอคนนั้น น่าจะเป็นจางหงหวู่อย่างแน่นอนทีเดียว
ผมหยอกล้อเบากับมือเล็กแสนอ่อนนุ่มคู่นั้นของกู้ฟางเฟย พอตอนที่อยากจะพูดอะไรออกไปบางอย่าง เสียงของเธอก็ดังขึ้น “ช่างเถอะ ทั้งหมดเป็นเรื่องน่าปวดหัว ไม่พูดถึงมันแล้ว เวลาอยู่กับคุณเท่านั้นที่ฉันรู้สึกได้ถึงความสุข”
รับรู้ได้ถึงความอบอุ่นในอ้อมกอด ผมค่อยๆจูบไปที่ใบหูของเธอ จากนั้นยืดตัวให้ตรงยิ่งขึ้น ค่อยถูเบาๆช้าๆที่รอบสะโพกที่แสนเต่งตึงและกระชับนั้น
“ฟางเฟย ความสุขแบบนี้ คุณไม่ต้องการอย่างงั้นเหรอ?”
กู้ฟางเฟยที่หันหลังให้ผมนั้นหมุนตัวกลับมา จากนั้นก็จูบผม มองผมด้วยตาที่ใสปิ๊งคู่นั้น “คุณต้องการไหม?”
ผมคิดว่าเธอจะพูดประโยคไร้สาระ ดังนั้นจึงจู่โจมปิดปากเล็กๆที่เซ็กซี่ของเธอ จากนั้นก็ยื่นลิ้นออกมา ลื่นตรงเข้าไปในปากของเธอ ชักนำไปกระตุ้นลิ้นอันหอมหวานนั้น
ไม่นาน ภายในห้องก็เริ่มมีเสียงหายใจถี่กระชั้นของกู้ฟางเฟยออกมา
ทันใดนั้น ผมก็ยื่นมือออกไปขาที่ยาวตรงน่าหลงใหลนั้นของเธอ และใช้ศีรษะสำรวจความแน่นของความอวบอิ่มสีขาวนั้น ให้จูบและดูดที่เธอชอบ ปลุกให้ไฟแห่งความปรารถนาของเธอนั้นลุกโชนมากยิ่งขึ้น เสียงร้องครางท่วมท้นออกมา……
หลังจากกระตุ้นไปเกือบยี่สิบนาที กู้ฟางเฟยมีความคลุ้มคลั่งเล็กน้อย ผ้าห่มโดนถีบไปอยู่ด้านข้างอย่างรวดเร็ว ร่างกายอันบอบบางขาวนวลผุดผ่องทั้งหมดนั้นบิดเบี้ยวไปมา เหมือน เหมือนงูขาวผ่องตัวหนึ่ง เสียงครางอันอ่อนหวานไพเราะนั้นดังไม่หยุดอยู่ในหู
หลังจากที่นิ้วมือไปถึงขาที่สวยงามส่วนท้าย ขณะที่เพิ่งสัมผัส เสียงครางของกู้ฟางเฟยนั้นกลายเป็นเสียงคร่ำครวญที่แสนมีเสน่ห์ ความปรารถนาแล้วความคาดหวังได้รับการเติมเต็มขณะนั้นในที่สุด
“ฟางเฟย ผู้หญิงนั้นทำมาจากน้ำ นี่ไม่มีคำไหนที่โกหกเลยจริงๆด้วย”
บนใบหน้าของฟางเฟยโดนแต้มไปด้วยสีแดง ไม่รู้ว่านี่เป็นเพราะความตื่นเต้นหรือว่าเป็นเพราะอายกันแน่ สีแดงนั้นยังไงก็เป็นสีแดงที่แสนมีเสน่ห์ ทำให้คนเราได้รับการเติมเต็มความคาดหวังแห่งรัก รวมไปถึงสัญชาตญาณความปรารถนาที่จะเอาชนะ
“คุณลองบอกมาหน่อยสิ ถ้าเกิดผมอยากเริ่มพุ่งชนขึ้นมา มันน่าจะเหมือนก้อนหินที่โยนลงไปในน้ำหรือเปล่า ที่สาดกระเซ็นจนเป็นคลื่นน้ำ?”
ใบหน้ารูปไข่ที่สวยน่าชื่นชมตรงหน้าคนนี้นั้นเริ่มแดงหนักขึ้น และดวงตาแพรวพราวมีเสน่ห์
ผมกระตุ้นเธอด้วยประโยคต่อประโยค นิ้วมือเองก็ไม่หยุดที่จะลูบคลำอย่างเบามือ ทำให้กู้ฟางเฟยเข้าสู่ความบ้าคลั่งโดยสมบูรณ์
“เฉินเฟิง ให้ฉัน……”
จากการกระตุ้น ในที่สุดผมก็หยอกล้อสำเร็จจนกู้ฟางเฟยมีไฟแห่งความปรารถนาขึ้น หรือจะพูดว่าไฟแห่งความปรารถนาของเธอนั้นไปถึงเกือบที่จะถึงระดับสูงสุดแล้ว ทำให้เธอนั้นอ้อนวอนอย่างหื่นกระหายเป็นอย่างมาก
ไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อง และไม่มีคำพูดไร้สาระเลยสักประโยค ผมยกขาสวยเรียวยาวของเธอคู่นั้นขึ้นมา จากนั้นก็ยันกายเข้าไปด้านหน้า
ผมไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก ผมกลัวว่าจะผิดพลาดเหมือนครั้งที่แล้วที่อยู่กับเธอซ้ำอีก แต่เรื่องไม่คาดคิดก็ยังเกิดขึ้นอีก
ขณะตอนที่ผมเพิ่งได้สัมผัสร่างกายอันบอบบางของเธอนั้นเอง อยู่ดีๆเธอก็ร้องอย่างหวาดกลัวออกมาเสียงดัง จากนั้นก็ตัวสั่นอยู่ข้างๆ ขดตัวอยู่ในผ้าห่ม ตัวสั่นเทิ้มไปทั้งตัว เหมือนกับว่าไปเจออะไรที่น่าหวาดกลัวเป็นอย่างมากเข้าไป
“เป็นอะไรไป ฟางเฟย?”
“มีคน ข้างๆมีคน!”
คำพูดของกู้ฟางเฟยทำผมตกใจ ถึงกับในหัวของผมปรากฏภาพผังเจี้ยนจวินมายืนอยู่ข้างๆแล้วมองมาด้วยสายตาเคียดแค้น
แต่ผมหันหัวไปมอง ในห้องว่างเปล่า มีเงาคนซะที่ไหนกัน ออกมาดูที่ห้องรับแขกก็ไม่มีคน ประตูเองก็ยังถูกลงกลอนไว้ เป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนเข้ามา
จากนั้นผมก็เข้าใจแล้ว อุปสรรคในใจของเธอนั้น ท้ายที่สุดก็ยังก้าวผ่านไปไม่ได้ ดังนั้นผมมาที่เตียง โอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขน พยายามปลอบโยนให้ดีที่สุด
นานพอสมควร อารมณ์ของเธอสุดท้ายก็สงบลง พูดเสียงต่ำออกมา : “ขอโทษ……”
“ไม่มีอะไรหรอก ในใจของคุณมีเรื่องราวที่ทำให้หวาดกลัวหนาวสั่นอยู่ ผมยินดีที่จะทำให้คุณอบอุ่น อบอุ่นอย่างสมบูรณ์ จนกระทั่งถึงวันหนึ่งที่คุณวางใจปล่อยวางได้ทั้งหมด”กู้ฟางเฟยพยักหน้าเบาๆ หัวเล็กๆของเธอฝังเข้าไปในหน้าอกของผมในทันที “เฉินเฟิง ขอบคุณคุณมากจริงๆ คุณคือผู้ชายที่ดีที่สุดที่ฉันเคยเจอมา ไม่เคยที่จะบังคับฉันเลย และคุณยังต้องอดทนอย่างแสนลำบากตั้งแต่แรกจนจบเลย”
ต้องพูดว่า กู้ฟางเฟยเป็นคนที่เข้าใจคนได้อย่างถ่องแท้ เพียงแต่ว่าเข้าใจคำพูดนั้นไม่ได้มีผลต่อการเข้าใจการกระทำเลย
ผมจ้องมองไปที่ปากเล็กๆของเธอ จากนั้นก็ลูบคลำเบาๆไปที่ความอวบอิ่มกลมกลึงนั้น สุดท้าย ผมเองก็ตัดสินใจที่จะค่อยๆขยับไปกระตุ้นที่ร่างกายของเธอ
“ฟางเฟย ถ้าอย่างงั้นคุณใช้เท้าเล็กอันแสนเซ็กซี่ของคุณช่วยผม ได้ไหม?”
กู้ฟางเฟยไม่ได้ตอบ เธอปีนขึ้นมาที่หัวเตียง จากนั้นขาทั้งคู่ของเธองอออกไปด้านนอก เท้าเล็กๆของเธอย้ายมาใกล้ด้านหน้า
เธอใช้การกระทำจริงออกมาเป็นคำตอบให้ผม ผมกางขาทั้งคู่ออก คว้าตรงนั้นมาสัมผัสเท้าเล็กที่อ่อนนุ่มละเอียดอ่อนนั้นไว้ ค่อยเอามาใกล้ๆกัน จากนั้นมองไปที่เธอด้วยแววตาลึกซึ้ง ค่อยๆเริ่มรับรู้ถึงความรู้สึกที่ตรงนั้นได้สัมผัสกับเนียนนุ่มเรียบลื่นของเท้าเล็กๆนั้น
เธอเขินอายมาก เหมือนกับสาวน้อยอายุสิบเจ็ดสิบแปดปีที่ยังไม่มีประสบการณ์เรื่องอย่างว่า นี่ทำให้ใบหน้าที่แสนเธองดงามมีเสน่ห์นั้น ดูเหมือนว่าจะเพิ่มความสวยงามหยาดเยิ้มเข้าไปอีก ยิ่งเต้มเต็มความเย้ายวน และยิ่งเพิ่มความหลงใหลเข้าไปอีก…หลังจากยี่สิบกว่านาทีเต็มๆ ในที่สุดกู้ฟางเฟยก็เอ่ยปากออกมา
“เฉินเฟิง เท้าฉันชาจนเจ็บไปหมดแล้ว ฉันใช้มือช่วยคุณดีไหม”
ผมเองก็ยังไม่ได้ตอบเธอออกไป ปล่อยเท้าเล็กๆคู่นั้นของเธอที่แดงไปหมดแล้ว และนอนลงบนเตียง
พริบตาเดียว เธอค่อยๆนอนคว่ำลงมาที่บนร่างกายของผม โน้มหัวลงมาจูบผม ยิ่งไปกว่านั้นยังใช้หน้าอกอันอวบอิ่มของเธอนั้นลูบไล้เบาๆที่หน้าอกของผม ถูไถไปมา และมืออันขาวงดงามละเอียดอ่อนนั้น ตอนนี้ก็ยิ่งไม่ว่าง ค่อยใช้แรง รูดไถอย่างต่อเนื่อง……หลังจากเวลาผ่านไปประมาณยี่สิบนาที ผมกัดลิ้นที่กวนอยู่ในปากของผมเบาๆ
“ฟางเฟย ผมมีความรู้สึกแล้ว”
กู้ฟางเฟยตอบรับออกมา จากนั้นก็ปล่อยมือ ออกจากร่างกายของผม
ผมคิด ต่อไปเธอใช้ตรงไหนช่วยผมปลดปล่อยออกมา เป็นปากเล็กๆสีแดง หรือว่าหน้าอกอวบอิ่ม หรือจะเป็นปากเล็กๆสีชมพูนุ่มนิ่ม แต่ความจริงที่เกิดขึ้นต่อไปที่บอกผมนั้น ผมคิดมากเกินไป เธอนิสัยไม่ดีเอามากๆ ค่อนข้างร้ายกาจ
เธอนอนลงบนเตียง จากนั้นม้วนตัวเข้าไปในผ้าห่มแล้วหัวเราะคิกคัก
ตอนที่เริ่มมีความรู้สึก เธอเลือกที่จะหยุดมือ ไม่ทำต่อแล้ว นั่นทำให้ผมอดกลั้น……
ผมในเวลานี้ อยากที่จะเปิดผ้าห่มของเธอออกจริงๆ จากนั้นก็พุ่งเข้าไปร่างกายอันอ่อนนุ่มมีเสน่ห์นั้นของเธออย่างรุนแรง แต่ไม่ว่ายังไงก็ต้องข่มใจกับความปรารถนาชั่วแล่นนี้
ต้องมีสักวัน ผมจะทำให้เธออ้อนวอนให้ผมเข้าไป ผมเชื่อมั่นอย่างงั้น
หลังจากสงบลง ผมนอนลงข้างๆเธอ จากนั้นกอดเธอไว้ในอ้อมแขน
“เฉินเฟิง ฉันนี่เป็นคนไม่ดีมากๆเลยใช่ไหม?”
“ใช่ ทำไมเหรอ คุณมีจิตสำนึกขึ้นมา อยากจะใช้ร่างกายชดใช้ให้ผม?”
กู้ฟางเฟยทำเพียงยิ้มออดอ้อน เหมือนสาวน้อยที่ทำเรื่องอะไรผิดมา แต่ว่ารอยยิ้มของเธอนั้น ช่างสวยหวานหยดย้อยเสียเหลือเกิน ทำเอาคนใจสั่นสะท้าน
หลังจากที่กระตุ้นลูกคลำเบาๆ ผมก็นึกถึงซูเสี่ยวฉินขึ้นมา เลยเริ่มที่จะพูดอย่างสุภาพ
“วันนี้ผมเจอผู้หญิงคนหนึ่ง เธอเหมือนว่าจะบ้า เหมือนปีศาจที่บ้าคลั่งมาก บังคับให้ผมกินฉี่ของเธอ แล้วยังบอกว่าผู้ชายเธอชื่ออะไรนะ……ชื่ออะไรที่มาจากสิ่งของ เหรียญของตั่น โก๋หรืออะไรนี่ละ”
ชั่วพริบตาเดียว ผมรู้สึกชัดเจนมากว่ากู้ฟางเฟยที่อยู่ในอ้อมกอดนั้นตกตะลึง
ทันใดนั้น เสียงของเธอก็ดังขึ้น “ตั่นโก๋ซูน”