ชีวิตเกษตกรในต่างโลก - ตอนที่ 10 สุนัข
ผ่านมาแล้ว 30 วันหลังจากพวกลูกสุนัขเกิด
พวกมันเติบโตขึ้นมาก ตอนนี้หน้าตาคล้ายกับคุโระและชิโระแล้ว
แล้วก็ การค้นพบครั้งใหม่
เขาเริ่มงอกขึ้นจากบริเวณหน้าผากของลูกสุนัข
….
พอมองดูคุโระกับยูกิ ก็จะเห็นร่องรอยของเขาที่หักไป
เรื่องที่ไม่รู้สึกตัวมาก่อนเลยก็คือ แม้จะตัดพวกลูกสุนัขออกไป คุโระกับยูกิปล่อยให้ผมลูบหลัง แต่ไม่ให้สัมผัสบริเวณศีรษะ
ตั้งแต่ช่วงที่เขาพวกลูกสุนัขเริ่มงอก พวกมันก็ปล่อยให้ผมลูบหัวได้แต่…
ส่วนที่เหลือของเขาที่หักไปดูน่าเห็นใจ
จะงอกกลับมาใหม่ไหมนะ
ว่าไปแล้ว ไม่ใช่สุนัขหรอกเหรอ
เอาเถอะ เรื่องที่เขากำลังงอกใหม่ ผมไม่ได้ติดใจอะไรเป็นพิเศษ
ที่นี่ต่างโลกนี่นะ
ถึงจะมีเขางอกก็ไม่เห็นเป็นอะไร
ถ้าตอนเล่นด้วยรู้สึกเจ็บก็ทนเอาแล้วกัน
ฮะฮะฮะ
เพราะเขาพวกมันมีรูปร่างคล้ายกับมีดเหล็ก เลยอยากให้หยุดวิ่งเข้าใส่ด้วยสีหน้าเริงร่าสักหน่อย
พืชที่ปลูกกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
ส่วนมากก็ออกผลแล้ว มะเขือเทศกับสตรอเบอรีเองก็เริ่มมีสีแดงใกล้พร้อมเก็บเกี่ยว
แคร์รอตกับมันฝรั่งมีใบอุดมสมบูรณ์อันเป็นที่เรื่องที่น่ายินดี
คงเก็บเกี่ยวได้ในไม่ช้า
ส่วนเรื่องแปลงที่เคยแยกเอาไว้
อิงจากผลลัพธ์แล้ว ถ้ายิ่งดูแลดีก็จะยิ่งเติบโตรวดเร็วขึ้น
โดยสรุปคือ แปลงที่ทั้งรดน้ำและให้ปุ๋ยจะเติบโตเร็วที่สุด รองลงมาคือ แปลงที่แค่ให้ปุ๋ย แปลงที่แค่รดน้ำ และแปลงที่ไม่ลงมือทำอะไรเลย ตามลำดับ
ถึงแม้จะเป็นแปลงที่ไม่ได้ลงมือทำอะไรเลยก็ยังสามารถปลูกพืชได้
เพราะเป็นต่างโลก หรือเพราะ [อุปกรณ์เกษตรสารพัดประโยชน์] กันนะ
พอมาพิจารณาเรื่องเก็บเกี่ยว ก็พบกับปัญหาเข้า
มีผลผลิตเยอะเกินไป
ถึงแม้ว่าถ้าผมเปลี่ยน [อุปกรณ์เกษตรสารพัดประโยชน์] เป็นคามะ* กรรไกร หรือมีดแล้วเก็บเกี่ยวจะไม่เสียแรง แต่แค่คิดก็ทำเอาเวียนหัวแล้ว
หมายเหตุ คามะ คือ เคียวชนิดหนึ่ง
คงจะให้พวกคุโระมาช่วยไม่ได้สินะ
ผมต้องลงมือคนเดียว
ไม่ได้ไม่อยากทำนะ…
คงมีแต่ต้องทำสินะ
ผมพยายามเต็มที่แล้ว
หนึ่งแปลงใช่เวลาครึ่งวัน 12 แปลงใช้เวลาไป 8 วัน แต่ก็เสร็จจนได้
ตอนแรกตั้งใจจะใช้โพรงเป็นที่เก็บผลผลิต แต่ใส่ไม่หมดเลยขนไปที่ที่พักผมแทน
ปัญหาข้อที่ 1
เพราะมะเขือเทศเริ่มสุกแล้ว ต้องรีบทาน
โชคยังดีที่พวกคุโระช่วยกินอย่างเต็มอกเต็มใจเลยผ่านปัญหาไปได้
ปัญหาข้อที่ 2
สตรอเบอรีเองก็เริ่มสุกแล้วเช่นกัน ต้องรีบทาน
ดูเหมือนจะถูกปากพวกคุโระเหมือนกัน
แต่มีแค่ยูกิกับคุโระยงที่กินอย่างยินอกยินดี
ดูเหมือนจะถูกปากตัวเมีย แต่ไม่ใช่กับตัวผู้
ผมเองก็ทานอย่างพอใจ
ปัญหาข้อที่ 3
ด้วยเหตุนี้ผลผลิตทั้งหมดเลยกำลังจะเสีย ต้องรีบกิน
(TN: ปัญหาเดียวกันนี่หว่า )
ปัญหาข้อที่ 4
ไม่มีเครื่องปรุง
ปัญหาข้อที่ 5
ไม่มีเครื่องครัว
ฮุฮุฮุ…
แค่เกษตรกรรมอย่างเดียวใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์ไม่ได้แน่
พอไม่มีเกลือ แม้แต่ข้าวโพดต้มก็ไร้รสชาติ
งั้นต่อไป ปลูกข้าวดีกว่า
ใช่แล้ว ถ้าข้าวล่ะก็แค่หุงก็ทานได้เลย….เครื่องครัว…กรรม
ปัญหากำลังพอกพูนขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว
หลังจากการเก็บเกี่ยวเสร็จสิ้น ระหว่างนั้นก็ทานผลผลิตเฉย ๆ ไปก่อน พร้อมกับลงมือทำเครื่องครัว
ฟักทองตอนยังไม่สุกค่อนข้างแข็ง
ผมทำกระดานสำหรับย่างขึ้นมาจากหิน
ผมตัดหินขนาดใหญ่ด้วย [อุปกรณ์เกษตรสารพัดประโยชน์] เกี่ยวแล้วขนมาวางในรูปแบบที่สามารถก่อไฟบริเวณข้างใต้ได้
ดูแล้วเหมือนโต๊ะหินเลย
จะใช้ [อุปกรณ์เกษตรสารพัดประโยชน์] ตัดให้บางลงกว่านี้ก็ได้ แต่การจะกำหนดความหนาที่แน่นอนนั้นเป็นเรื่องยาก เพราะหินอาจจะแตกด้วยน้ำหนักของตัวมันเองได้
เสร็จแล้ว แต่ถ้าไม่ผ่านความร้อนเป็นเวลานาน ๆ ก่อนก็คงไม่มีประโยชน์ล่ะนะ
ตอนนี้คงได้แค่นี้ล่ะนะ
ต่อไปก็ มีดทำครัว
ผมสามารถใช้ [อุปกรณ์เกษตรสารพัดประโยชน์] หั่นผลผลิตได้ แต่อยากจะได้มีดหั่นเนื้อตอนที่ใช้ [อุปกรณ์เกษตรสารพัดประโยชน์] ทำให้เนื้อเบาลงอยู่
เจ้านี้ก็จะทำจากหินเหมือนกัน
นำก้อนหินขนาดพอประมาณมาตัดเป็นทรงมีด แล้วลับส่วนใบมีด
สามารถตัดเนื้อกระต่ายได้อย่างง่ายดาย คงจะใช้ได้แล้ว
คิดเผื่อเรื่องสำรอง ทำไว้สัก 3 เล่มแล้วกัน
ต่อไปก็ หม้อ
ผมทำขึ้นมาโดยตัดจากหินขนาดใหญ่
เพราะถ้าเป็นไม้คงจะไหม้
สร้างด้วย [อุปกรณ์เกษตรสารพัดประโยชน์] เป็นเรื่องง่ายก็จริง แต่มันหนัก
ถ้าหาดินเหนียวได้ค่อยเอามาทำหม้อดินเผา
ยังไงซะ ก็ได้หม้อมาแล้ว
ผมทำฝาหม้อจากหินมาด้วย แต่พอคิดถึงตอนมันร้อนก็ตัดสินใจทิ้งไป
เปลี่ยนมาใช้ไม้แทน
กลายเป็นปัญหานิดหน่อยเพราะพวกคุโระดันคิดว่าเป็นจานร่อนอันใหม่
—————
สวัสดีท้ายตอนครับ
ผมขอถอนคำพูดครับ ! ตอนนี้ไม่ยาวเท่าไหร่ แต่ต้องนั่งเทียบเนื้อหากับต้นฉบับ จนตาแทบแตก
เอาเถอะ
ราตรีสวัสดิ์ ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าครับ