ชีวิตเกษตกรในต่างโลก - ตอนที่ 28 ไฮเอลฟ์
——
[เรียค่ะ] (ริอะ)
[ริสค่ะ] (รีสึ)
[ริริค่ะ]
[ริฟค่ะ] (รีฟุ)
[ริคอตค่ะ] (ริคอตโตะ)
[ริเสะค่ะ]
[ริต้าค่ะ] (ริตะ)
เรีย ริส ริริ รีฟ ริคอต ริเสะ ริต้า
หญิงสาวทั้งเจ็ดที่พึ่งจะแนะนำตัวนั้นทั้งหมดอยู่เผ่าเดียวกัน และมีหูยาว
[เอลฟ์?]
[อันที่จริงพวกเราคือไฮเอลฟ์….แต่จะเรียกเอลฟ์ก็ไม่มีปัญหาค่ะ]
แล้วมันต่างกันอย่างไรล่ะนั้น
[พวกเรามาที่นี้ตามคำแนะนำของคุณเทียร์
ขอรบกวนด้วยค่ะ
ขอพวกฉันอาศัยอยู่ที่นี้ด้วยจะได้ไหมคะ]
[เอ่อ…คือ]
พอผมหันไปหาเทียร์ เธอก็ที่ใช้มือทั้งสองวางลงบนไหล่ของผม พร้อมขยับใบหน้าเข้าประชิด
[ฉันจะอธิบายอดีตอันขมขื่นของพวกเธอให้เอง]
พวกเธอซึ่งเป็นไฮเอลฟ์ตั้งถิ่นฐานและใช้ชีวิตอยู่บริเวณห่างออกไปทางเหนือ โดยเมื่อสองร้อยปีก่อน พวกเธอถูกลากเข้าไปพัวพันกับสงครามของมนุษย์และพบกับการล่มสลาย
ด้วยเหตุนั้นเผ่าพันธุ์จึงกระจัดกระจาย พวกเธอเลยต้องระหกระเหินเร่ร่อนไปพร้อมกับค้นหาที่ตั้งรกรากใหม่ล่ะมั้ง
[ตลอดมาพวกเราใช้ชีวิตอยู่ในผืนป่าโดยเคลื่อนย้ายไปเรื่อย ๆ ค่ะ]
[หากไร้ซึ่งที่อยู่อาศัยที่มั่นคง การสืบพันธุ์เองก็จะไม่สามารถทำได้เช่นกันค่ะ]
[ขอรบกวนด้วยค่ะ]
พวกเธอทุกคนก้มหัวขอร้อง
ดูเหมือนในเผ่าของพวกเธอนั้นไม่มีธรรมเนียมในการก้มหัวข้อร้อง แต่ก่อนหน้านี้ เทียร์เป็นคนสอนเรื่องมารยาทในการร้องขอให้
เพราะแบบนั้นจึงรู้สึกได้ว่าพวกเธอยังไม่คุ้นเคยกับการกระทำแบบนี้
ถึงอย่างนั้นหญิงสาวทั้งเจ็ดคนก็ยังก้มหัวขอร้องผม
นั่นทำให้ผมรู้สึกประม่านิดหน่อย
ก็ผมไม่เคยมีประสบการณ์จำพวกนี้นี่น่า
[คาดหวังเรื่องแรงงานได้ด้วยนะ ขอร้องล่ะ]
[ฉันเองก็เห็นด้วยนะ
ไฮเอลฟ์เป็นเผ่าพันธุ์ที่ยอดเยี่ยม แถมยังหน้าตาดีกันอีกด้วย
พวกเธอเองก็ยังอายุน้อย ๆ กันใช่ไหมล่ะ?]
เทียร์ดึงดันข้อเสนอโดยมีลูคอยสนับสนุน
[ฉันมีอายุมากที่สุด สี่ร้อยปีกับอีกเล็กน้อยค่ะ]
[ฉันมีอายุน้อยที่สุด ราว ๆ สามร้อยปีค่ะ]
ผมแยกความแตกต่างของส่วนร้อยปีของเรียที่อายุมากที่สุด กับริต้าที่อายุน้อยที่สุดไม่ออกเลย
เท่าที่เห็นทุกคนน่าจะเป็น นักศึกษาหุ่นดี? หรืออาจแค่จะราว ๆ เด็กมัธยมปลาย
ทุกคนล้วนเป็นสาวงาม ไม่รู้เพราะเป็นเอลฟ์หรือเปล่า
หรือไม่ก็เพราะเป็นสายสาวน่ารัก
ยังไงก็…..ความประสงค์ในการตั้งรกราก….
ผมรู้สึกยินดีจากใจจริงเลยที่จะมีกำลังคนเพิ่ม
[ที่นี่มีผู้อยู่อาศัยหลาย ๆ แบบอยู่ ดังนั้นขอแค่ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน ก็ไม่มีปัญหา]
ด้วยเหตุนี้ ผมจึงอนุญาตให้พวกเธอมาอาศัยอยู่ด้วย
[ขอบพระคุณมากค่ะ]
[จะพยายามอย่างสุดความสามารถเลยค่ะ]
[ขอรบกวนด้วยนะคะ]
พวกเธอทั้งเจ็ดคนส่งเสียงร้องแห่งความเปรมปรีดิ์ออกมา
พวกเธอทั้งเจ็ดคนหมดสติหลังจากได้เจอซาบุตง แล้วก็อีกครั้งหลังจากได้เจอพวกคุโระ
เพิ่งเคยเห็นคนหมดสติไปเพราะเห็นพวกคุโระเป็นครั้งแรกเลยแฮะ
….
ไม่ถูกกับพวกสุนัขหรือเปล่านะ
หลังจากนั้น ผมก็สร้างกระท่อมขึ้นเพื่อให้พวกเธอใช้เป็นที่พัก
ผมคิดว่าให้พวกเธอเจ็ดคนอยู่รวมกัน แทนที่จะแยกกันอยู่น่าจะเป็นเรื่องที่ดี เลยตัดสินใจสร้างกระท่อมหลังใหญ่
ด้วยความที่เป็นกระท่อมหลังเบ้อเริ่ม มันก็ไม่ใช่กระท่อมแล้วสิ
เป็นแค่บ้านเฉย ๆ
พอเป็นขนาดสำหรับอยู่อาศัยเจ็ดคนแล้ว แค่วันเดียวคงไม่เสร็จ
ให้พวกเธอนอนในเต็นท์ที่เอาติดตัวมาด้วยไปก่อนสักพักแล้วกัน
ผมรับฟังความต้องการของพวกเรียเรื่องตำแหน่งในการสร้างกระท่อม
ได้ข้อสรุปก็คือ บริเวณทางตะวันตกของเขตไร่ใหม่ ทางใต้ของอ่างเก็บน้ำ
อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของที่พักผม
อาจจะแยกห่างออกไปสักหน่อย แต่เหมือนพวกเธอจะไม่ขัดข้องอะไร แล้วตกลงเป็นบริเวณดังกล่าวด้วยความยินดี
เพราะอะไรกันล่ะ?
ถ้าแบ่งพื้นที่ตะวันตกเฉียงใต้ออกเป็น 4*4 ส่วน ทั้งสิ้น 16 ส่วนเท่ากับแปลงเกษตร โดยพื้นที่ที่พวกเธอต้องการให้สร้างก็คือใจกลางพื้นที่ดังกล่าวโดยเยื้องไปทางทิศเหนือเล็กน้อย
บริเวณโดยรอบนั้นไม่มีอะไรเลย สร้างไว้เดี่ยว ๆ แบบนั้นจะรู้สึกเหงาเอานะ….
เอาเถอะ ยังไงก็จะตอบรับความต้องการให้เท่าที่ได้อยู่แล้ว ก็เอาตามที่บอกมาแล้วกัน
หลังจากนั้น ก่อนอื่นก็สร้างรั้วและขุดคู เพื่อแบ่งพื้นที่ด้วย
คูส่วนที่เชื่อมต่อกับไร่ใหม่….ลองคิดดูนิดหน่อยแล้วก็ปล่อยไว้แบบนั้น
พื้นที่สำหรับคนอยู่อาศัยเนี่ย ยิ่งแน่นหนาเท่าไหร่ยิ่งดีแหละนะ
หลังจากนั้นก็ กำหนดบริเวณที่จะก่อสร้างห้องน้ำกับบ่อน้ำแล้วก็ลงมือสร้าง
คิดเผื่อหลังจากนี้ไปแล้ว เดี๋ยวสร้างห้องใต้ดินสำหรับทิ้งขยะเอาไว้ด้วยดีกว่า
ผมสามารถทำให้ขยะให้กลายเป็นปุ๋ยได้ด้วย [อุปกรณ์เกษตรสารพัดประโยชน์] แต่พวกเธอทำแบบนั้นไม่ได้
ดังนั้นแล้วพื้นที่ทิ้งขยะคือสิ่งจำเป็น
ถึงหน้าที่ในการขุดเอย การตัดไม้เอยจะเป็นงานของผมเพียงคนเดียว แต่หน้าที่การก่อสร้างหลังจากเตรียมวัสดุอย่างไม้แล้ว พวกเธอเจ็ดคนเป็นจัดการ
ไม่สิ พวกเธอเหนือกว่าผมทั้งด้านพละกำลัง และฝีมือ
ทั้งวิธีที่พวกเธอใช้แปรรูปไม้เอย การประกอบเอย นำมาใช้อ้างอิงได้ดีทีเดียว
ถ้าผมเข้าไปจุ้นจ้านระหว่างที่ทำงานคงมีแต่เกะกะเอาเสียเปล่า ๆ เลยปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเธอไป
ผมลงมือขุดหลุม ปรับหน้าดินให้แข็งแรง รวบรวมไม้ตามที่พวกเธอบอก
ผ่านไปราวสิบวัน บ้านซุงหลังงามก็เสร็จสิ้น
แถมยังมีชั้นลอยที่ผมยอมแพ้ไปแล้วด้วย
เป็นอาคารสองชั้น
….
แอบรู้สึกอิจฉาเล็ก ๆ
แต่ว่า ผมได้เรียนรู้แล้ว
กรรมวิธีในการก่อสร้างของพวกเธอน่ะ
ฮุฮุฮุ
สร้างของใหม่แทนกระท่อมที่ใช้เป็นที่พักอยู่ตอนนี้ก็น่าจะดีเหมือนกัน
บ้านซุงทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า สร้างโดยยื่นออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้
พอผ่านโถงทางเข้าบ้านไป จะเจอห้องโถงขนาดใหญ่พร้อมห้องทานอาหาร
ดูเหมือนจะเป็นสถานที่สำหรับให้ทุกคนใช้ทานอาหารหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน
ที่ใจกลางห้องมีพื้นที่ปิดที่ทำให้สามารถจุดไฟได้อยู่
กองไฟอิโอริที่ไม่ได้ฝังอยู่ในพื้นงั้นเหรอ?
เป็นของที่คล้าย ๆ กัน
ทั้งด้านซ้ายและขวาของห้องโถงมีประตูอยู่ ตามความรู้สึกของผมก็น่าจะเป็นห้องครัวไม่ก็ห้องอาบน้ำ ทว่ากลับเป็นห้องเก็บของ
ทั้งสองด้านมีบันไดเชื่อมต่อไปยังชั้นสองของอาคาร
ชั้นสองตั้งอยู่ด้านเหนือห้องเก็บของ ส่วนที่อยู่ในห้องโถงหลักนั้น มีเพียงทางเชื่อมไปยังทั้งสองฝั่งเท่านั้น
จึงทำให้รู้สึกว่าห้องโถงนั้นดูกว้างขวางเป็นพิเศษ
พอลองขึ้นไปยังชั้นสอง ก็พบว่ามีประตูเรียงกันอยู่ในระยะห่างเท่า ๆ กัน
ดูเหมือนจะเป็นห้องส่วนตัว
ห้องสร้างในแบบเน้นความลึก ด้านในมีเตียง ตู้ แล้วก็โต๊ะอยู่อย่างละชิ้น
ทั้งหมดนั้นผมเป็นทำขึ้นมาเอง
สนับสนุนโดย [อุปกรณ์เกษตรสารพัดประโยชน์] ครับ
แม้พวกเธอจะมีเทคนิคเหนือกว่า แต่ก็เทียบความเร็วกับผมซึ่งมี [อุปกรณ์เกษตรสารพัดประโยชน์] อยู่ไม่ได้
เอาเถอะ ถ้าไม่ถูกใจเดี๋ยวก็คงทำใหม่กันเองนั่นแหละนะ
ฝั่งละสี่ห้อง รวมทั้งหมดก็แปดห้อง
ดูเหมือนจะปล่อยว่างเอาไว้ห้องหนึ่ง
หมอนรองนั่งเอย เครื่องนอนเอย ผ้าม่านที่ติดเอาไว้ก็เช่นกันเป็นของที่ซาบุตงกับลูก ๆ ทำเอาไว้ จะออกปากไปเลยว่าไม่น่าไม่ปัญหาอะไรที่พวกเรียจะมาใช้เป้นห้องนอนก็คงได้ล่ะนะ
อื้ม ดีเลย
กว่าบ้านซุงหลังนี้จะสร้างเสร็จ ระหว่างนั้นพวกเธอก็คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตที่นี่ไปโดยปริยาย
ดูจะประทับอกประทับใจในรสชาติของผลผลิตของไร่เป็นพิเศษ
ของโปรดก็คือ ข้าวโพด หัวไชเท้า มะเขือม่วง และก็กระเทียมด้วย ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน
ในแง่ของภาพลักษณ์แล้ว อยากให้หยุดทานกระเทียมในพรวดเดียวจังเลยนะ
บางครั้งบางคราว ก็ออกไปล่ากับพวกคุโระ แล้วยังแสดงฝีมือในการใช้ธนูให้เห็นอีกด้วย
ที่พวกคุโระไม่ได้ระแคะระคายที่ออกไปด้วยกันเนี่ย คงจะมีฝีมืออยู่พอตัวทีเดียว
แถมยังคอยเป็นคู่สนทนาเรื่องเสื้อผ้าให้ทั้งซาบุตงและลูก ๆ ได้อีก ผมเคยค่อนข้างวางใจ
[หากมีปัญหาอะไรแจ้งได้เลยนะคะ]
[เข้าใจแล้วค่ะหัวหน้าหมู่บ้าน]
อนึ่ง พวกเธอเรียกผมว่า ‘หัวหน้าหมู่บ้าน’
ผมคัดค้านไปแล้วแต่ไม่ก็เป็นผล
ตอนแรกยังเรียกผมว่า ‘ราชา’ เอย ‘ท่านผู้ปกครองที่ดิน’ เอย ถือว่าดีขึ้นแล้วล่ะมั้ง
ตอนพยายามดึงดันให้เอา ‘ท่าน’ ออกจาก ‘ท่านหัวหน้าหมู่บ้าน’ เนี่ยลำบากแทบแย่
หลังจากที่หมดหน้าที่ในการช่วยพวกเรียสร้างบ้านแล้ว ในช่วงกลางคืนของวันต่อมาซึ่งผมกลับมาทำงานตามปกติของผม พวกเธอก็เคลื่อนทัพเข้ามาในห้องพักของผม
[มะ มีอะไรกันงั้นเหรอ]
พวกเธอตอบกลับคำถามของผม ด้วยท่าทีราวจะบอกว่าเรื่องพวกนี้มันของตายอยู่แล้วยังไงยังงั้น
[สืบพันธุ์ค่ะ]
[นี่ก็เพื่อเผ่าพันธุ์ ขอรบกวนด้วยค่ะ]
[คุณเทียร์บอกว่า ถ้ามาอยู่ที่นี่ก็จะได้รับเมล็ดพันธุ์…..ฉัน จะพยายามค่ะ]
ผมร้องขอความช่วยเหลือจากลูกับเทียร์ แต่ก็เปล่าประโยชน์
แล้วผมก็ได้รู้ถึง
เหตุผลที่ว่าทำไมถึงเลือกที่จะสร้างบ้านซุง ณ ใจกลางเขตตะวันตกเฉียงใต้
นั่นก็เพื่อที่หลังจากนี้ จะสามารถสืบพันธุ์ได้สมใจอยาก ไงล่ะ
ผมขัดขืนแล้ว ทว่าก็พบกับความปราชัย
จะต่อว่าผมที่จิตใจอ่อนแอก็ได้
หลังจากนั้น
หลังจากผ่านการเสวนากันในหมู่ผู้หญิง เรื่องคิวก็ถูกตัดสิน
ไม่ถงไม่ถามสุขภาพผมเลยสักคำ
แล้วคุโระนิกับมาสะยูกิก็เข้ามาปลอบผมซึ่งนั่งซึมกอดเข่าอยู่มุมห้อง
——
←ประมาณ 5 กิโลเมตรเป็นแม่น้ำ
หมายเหตุ
畑 = ไร่ 犬 = สุนัข 新畑 = ไร่ใหม่
池 = อ่างน้ำ 建設中 = ระหว่างก่อสร้าง
家 = บ้าน 下水路 = ทางน้ำใต้ดิน
果実 = ผลไม้ 東南 = เขตตะวันตกเฉียงใต้
——
บทเรียนที่ได้รับจากนิทานเรื่องนี้ก็คือ
‘กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมหวนสนอง’
555555555555