ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย - ตอนที่ 83 ไม่มีตรงไหนที่ไม่งดงาม! / ตอนที่ 84 เฉินฝานซิงคนนี้ไม่ว่าใครก็ห้ามแตะต้อง
- Home
- ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย
- ตอนที่ 83 ไม่มีตรงไหนที่ไม่งดงาม! / ตอนที่ 84 เฉินฝานซิงคนนี้ไม่ว่าใครก็ห้ามแตะต้อง
ตอนที่ 83 ไม่มีตรงไหนที่ไม่งดงาม!
สุดท้ายเฉินฝานซิงก็ได้เข้าไปพักในห้องที่ป๋อจิ่งชวนจัดเตรียมไว้ให้
เธออาบน้ำลวกๆ ก่อนจะรีบกลับออกมา มองไปรอบๆ ห้องที่ไม่คุ้นตาก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา
รู้สึกปลอดภัยอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ที่ผ่านมาเธอมักเคยชินกับการไม่พึ่งพาใคร ทว่าเมื่ออยู่กับป๋อจิ่งชวนแล้วกลับรู้สึกปลอดภัยอย่างถึงที่สุด!
เมื่อนึกถึงภาพที่เกิดขึ้นใต้คอนโดของเธอ การกระทำของแฟนคลับบ้าคลั่งพวกนั้นมานึกๆ ดูแล้วก็น่ากลัว
หากวันนี้ไม่ใช่เพราะป๋อจิ่งชวนยืนยันจะมาส่งเธอที่บ้าน หากไม่ใช่เพราะความคิดของเขาที่ให้อวี๋ซงขับรถของเธอ คืนนี้คงไม่ใช่แค่รถที่รักษาไว้ไม่ได้ เกรงว่าตัวเองก็คงต้องนอนจมกองเลือดเช่นกัน
โชคดีที่มีป๋อจิ่งชวน…
เธอสูดหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะปีนขึ้นเตียงไปทิ้งตัวลงบนเบาะที่นุ่มกำลังดี
วันนี้เกิดเรื่องขึ้นมากมายพอที่จะทำให้เสียพลังงานไปพอสมควร
–
อีกด้านหนึ่งในห้องหนังสือ ป๋อจิ่งชวนนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวหนา ดวงตาสีนิลลึกล้ำมืดมิด
“กดต่อไป กดมันให้ตาย ในเมื่อพวกมันอยากทำเพื่อผู้หญิงคนนั้นอย่างไม่ลืมหูลืมตากันนักล่ะก็ ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่ากระดูกของพวกมันจะแข็งสักแค่ไหน!”
น้ำเสียงของเขาดุดันกว่าทุกครั้ง ในความขุ่นมัวนั้นแฝงได้ด้วยความโหดเ**้ยม ทำเอาคนปลายสายอย่างอวี๋ซงใจกระตุกวูบ รีบน้อมรับคำสั่งของเขาด้วยน้ำเสียงทุ้มและความเคารพ
“ครับ คุณผู้ชาย”
–
รุ่งเช้าของวันที่สอง เสียงนกร้องอย่างมีชีวิตชีวาได้ปลุกเธอขึ้นมาจากห้วงนิทรา
เปลือกตาค่อยๆ เปิดออก ห้องที่ดูแปลกตาทำเธอผงะไปเล็กน้อย จากนั้นจึงค่อยๆ ดึงสติกลับมาเป็นปกติ
เธอสะบัดผ้าห่มออกแล้วก้าวลงจากเตียง ผ้าม่านเปิดออกวิวภายนอกหน้าต่างทำเอาเธอเผลออุทานด้วยความตกตะลึง
เพราะถูกบดบังด้วยความมืดมิดในยามค่ำคืน เมื่อวานวิวรอบๆ จึงยากที่จะเห็นได้ชัดเจน
ตอนนี้ดูๆ แล้ว รอบๆ บริเวณพื้นที่ราบ มีพืชใบเขียวถูกจัดตบแต่งไว้อย่างสวยงามแซมไปด้วยทางเดินเล็กๆ ที่ทำจากปูนขาวสองสามสาย ป่าไม้รอบนอกก็เขียวชอุ่ม แม่น้ำสายหนึ่งล้อมรอบคฤหาสน์หลังนี้เอาไว้
ทั้งคฤหาสน์สวยเด่นเป็นสง่าจนไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดได้
เธออดไม่ได้ที่จะชื่นชมในความฉลาดและศิลปะชั้นสูงของผู้ออกแบบและช่างฝีมือที่สร้างที่พักท่ามกลางหุบเขาแห่งนี้ขึ้นมา
เพียงแต่ที่เธอเห็นเป็นเพียงมุมหนึ่งของคฤหาสน์ในหุบเขาแห่งนี้เท่านั้น
คนคนหนึ่งต้องมีเงินมาแค่ไหน ถึงจะสามารถทำบ้านของตัวเองได้ราวกับยกสวนที่ซูโจวมาวางไว้
เธอตื่นเต้นจนแทบรอไม่ไหวที่จะได้ลงไปเดินเล่นแถวๆ นี้
เธอหันกายเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างรีบร้อน หลังจากอาบน้ำหวีผมอย่างลวกๆ เสร็จเรียบร้อยแล้วเธอก็เดินออกจากห้องไป
ห้องรับแขกด้านล่างเงียบสนิท บ่าวรับใช้กำลังวุ่นอยู่กับการเก็บกวาดห้องอยู่จนแทบไม่ได้ยินเสียง
เมื่อเห็นว่าเฉินฝานซิงลงมาแล้ว ทุกคนก็ต่างวางมือจากงาน ก่อนจะโน้มศีรษะลงด้วยความเคารพ
ผู้นำคือหญิงวัยกลางคนที่มีดวงตาเรียบเฉยและสีหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์มากนัก
“ตื่นแล้วหรือคะ คุณหนูเฉิน”
เฉินฝานซิงพยักหน้ารับเบาๆ ด้วยน้ำเสียงแหบต่ำเล็กน้อย
“ค่ะ อรุณสวัสดิ์ค่ะ”
ดวงตาที่นิ่งเฉยของจางมาฉาบไปด้วยความประหลาดใจ สีหน้าตึงเครียดผ่อนคลายลงมาเล็กน้อย
“เชิญทานมื้อเช้าได้เลยค่ะคุณหนู”
จางมายังพูดด้วยความเคารพ พวกบ่าวรับใช้ที่กำลังวุ่นอยู่ในห้องรับแขกเมื่อครู่ค่อยๆ ถอยห่างออกไปอย่างเงียบเชียบ
เฉินฝานซิงรู้สึกประหลาดใจอย่างบอกไม่ถูก
ยุคนี้สมัยนี้ต่อให้บ้านที่มีฐานะจะสามารถจ้างคนรับใช้ได้ก็จริง แต่รูปแบบก็เลิกโบราณคร่ำครึและเคร่งครัดแบบนั้นไปตั้งนานแล้ว
แต่คนรับใช้ที่นี่ ทุกคนต่างระมัดระวังเป็นอย่างดีและคอยรับใช้อย่างเชื่อฟัง
ป๋อจิ่งชวนน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรอ
ตอนที่เธอถูกจางมาพามาจนถึงห้องอาหาร อาหารก็ได้ถูกจัดเอาไว้บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว
“ป๋อจิ่งชวนล่ะคะ”
หากพูดถึงอาหารเช้าเขาควรมาเป็นส่วนหนึ่งด้วยไม่ใช่เหรอ
“คุณผู้ชายไปทำงานแล้วค่ะ และยังกำชับไว้ด้วยว่าหลังมื้อเช้าให้พาคุณไปเดินเล่นในสวน”
“อ๋อ” เฉินฝานซิงพยักหน้าเบาๆ พลางมองไปยังอาหารสุดพิถีพิถันตรงหน้าแล้วย่อตัวนั่งลงไป
หลังมือเช้า จางมาพาเธอออกมาจากคฤหาสน์
กลิ่นหอมจากไอดินและพืชเขียวชอุ่ม ความหอมสดชื่นของฤดูใบไม้ผลิผสมกับเสียงน้ำที่ไหล่เชี่ยว ทำให้เธอรู้สึกสดชื่นอย่างห้ามไม่อยู่
เธอลอบถอนหายใจกับความเป็นคนที่ไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองผิดหวังของป๋อจิ่งชวน
สร้างคฤหาสน์ในที่แบบนี้ขึ้นมาได้ ที่นี่แทบจะเรียกว่าดินแดนในอุดมคติเลย
การได้มาเหยียบที่นี่ด้วยตัวเองมันวิเศษยิ่งกว่าการยืนดูจากในห้องนอนแบบเมื่อสักครู่นี้เป็นไหนๆ
แต่ในขณะที่เธอกำลังสบายใจอยู่นั้น กลับเป็นนาทีที่เฉินเชียนโหรวข้ามผ่านได้อย่างยากลำบาก
ตอนที่ 84 เฉินฝานซิงคนนี้ไม่ว่าใครก็ห้ามแตะต้อง
แต่ในขณะที่เธอกำลังสบายใจอยู่นั้น กลับเป็นนาทีที่เฉินเชียนโหรวข้ามผ่านได้อย่างยากลำบาก
เธอนอนกระสับกระส่ายตลอดทั้งคืน
ก็เมื่อคืนดันมีติ่งเสนอหน้าเข้าไปดักรอเฉินฝานซิงที่คอนโด แถมเรื่องทุบรถก็ยังถูกเปิดโปงอีก
รู้อยู่ว่าตอนแรกเรื่องนี้ค่อนข้างเป็นเรื่องใหญ่ แต่พอถึงตอนนั้นประชาสัมพันธ์ก็ออกหน้าใช้เงินแก้ปัญหาไปให้แล้ว
ถึงอย่างไรสกุลเฉินก็ยังพอเหลือหน้าอยู่บ้าง
แต่ไม่คิดเลยว่าเรื่องมันจะบานปลายใหญ่โตขนาดนี้ ไม่ว่าฝ่ายประชาสัมพันธ์กลบข่าวยังไงก็ยับยั้งการแพร่กระจายของข่าวไม่ได้เลย
ราวกับว่ามีใครบางคนคอยตั้งตนเป็นศัตรูกับพวกเขา
พอพวกเขาจ่ายเงินปิดข่าว ก็มีคนจ่ายเงินซื้อข่าว!
พวกเขามีอำนาจมากแค่ไหน อีกฝ่ายก็มีอำนาจยิ่งกว่า
จนท้ายที่สุดหัวข้อสนทนาที่ว่า ‘ติ่งเฉินเชียนโหรวคลั่งแก้แค้นแทนไอดอลอย่างป่าเถื่อน’ ยิ่งดังกระฉ่อน
แน่นอนว่าในบรรดานั้นมีแฟนคลับของเฉินเชียนโหรวที่ประกาศศักดาว่าจะปกป้องไอดอลของพวกเขา
[เรื่องเมื่อบ่ายวันนี้ที่จัตุรัสซินซื่อเจี้ยใครเขาก็รู้กันทั่ว ยัยผู้หญิงบ้านั่นทุบเฟอร์รารี่ของเฉินเชียนโหรวของพวกเรากลางวันแสกๆ ยัยนั่นมีสิทธิ์อะไร? เชือดเนื้อเถือหนังสักหมื่นพันครั้งก็ไม่สาแก่ใจ!]
[เชียนโหรวของพวกเราทั้งแสนดีและไร้เดียงสา แต่ก็ไม่ใช่ว่าใครจะมารังแกได้ง่ายๆ นะ เห็นพวกฉันเป็นหัวหลักหัวตอเหรอ]
[นังผู้หญิงชั่วช้านั่นก็คงริษยาที่เชียนโหรวของเรามาแทนตำแหน่งเธอในสกุลซู แล้วถูกสกุลซูเตะออกมา ถึงได้จ้องหาโอกาสจะเอาคืน แล้วรถอีกคันที่โดนทุบน่ะไม่ใช่รถของประธานซูหรอกเหรอ?!]
[เชอะ ไร้ความสามารถเอง ใช้วิธีคนพาลแบบนี้ อย่าว่าแต่ทุบรถเลย ต่อให้ฆ่าคนตายก็คงไม่คณามือเธอหรอก!]
……
[อะไรคือที่บอกว่าเรื่องที่ซินซื่อเจี้ยคนเขารู้กันไปทั่ว แค่รู้ว่ารถของไอดอลของตัวเองถูกพัง ทำไมไม่ลองคิดดูบ้างล่ะว่าเพราะอะไรรถของนางถึงโดนทุบ!]
[วันนี้ฉันอยู่ในเหตุการณ์ ตอนแรกรถเฟอร์รารี่ของเฉินเชียนโหรวไม่ยอมขึ้นไปบนถนนใหญ่ แต่ขับชิดเข้ามาตรงเส้นขาวจงใจเฉี่ยวคนที่ยืนอยู่! นี่มันเป็นการเอาชีวิตคนมาสร้างกระแสนะ! กลัวคนอื่นจะไม่รู้ล่ะซิว่ารถที่เธอขับอยู่มูลค่าแปดล้านกว่า!]
[หากคนที่บ้านฉันโดนเธอเอาไปสร้างกระแสด้วยวิธีนี้นะ อย่าว่าแต่ทุบเลย นางเองจะโดนฉันโบกปากสวะนั่นสักร้อยที! เอาให้แม่นางจำหน้านางไม่ได้ไปเลย!]
เรื่องเมื่อตอนบ่ายที่จัตุรัสซินซื่อเจี้ยที่ถูกฝังกลบไปแล้วได้ถูกขุดคุ้ยขึ้นมาอีกครั้ง แต่ทุกคลิปที่มีเฉินฝานซิงโผล่อยู่ในนั้นจะถูกเบลอภาพด้วยโมเซค
ถึงขนาดที่ว่า “เฉินฝานซิง” “ฝานซิง” “คุณหนูใหญ่สกุลเฉิน” “พี่สาวของเฉินเชียนโหรว” และทุกหัวข้อที่เกี่ยวกับเฉินฝานซิงกลายเป็นคำต้องห้าม เมื่อผู้ใช้บัญชีค้นหาคำที่ใกล้เคียงกันกับข้อความดังกล่าวจะถูกบล็อกโดยทันที
ทุกแพลตฟอร์มใหญ่ๆ บนโลกออนไลน์ ไปจนถึงเว็บบอร์ดที่ไม่มีคนให้ความสนใจเองก็เป็นเช่นนี้
ดูเหมือนจะมีพวกหัวใสที่มองออกว่า ผู้หญิงที่ชื่อเฉินฝานซิงคนนี้ถูกใครสักคนปกป้องเอาไว้ตั้งแต่หัวยันเงา
และคนที่โอบอุ้มเธอขึ้นมาคนนี้ก็กำลังส่งสัญญาณเตือนพวกเขาอย่างเป็นนัยๆ ว่า…
ผู้หญิงที่ชื่อเฉินฝานซิงคนนี้ไม่ว่าใครก็ห้ามแตะต้อง
เหล่าบล็อกเกอร์สายบันเทิงที่มีจำนวนแฟนคลับมากล้นก็เข้าใจถึงความสัมพันธ์สุดพิเศษนี้ได้อย่างชาญฉลาด
ต่างก็พากันเขียนข่าวที่เนื้อความเอนเอียงไปทางเฉินฝานซิงพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย
บล็อกเกอร์ชื่อดังหลายคนต่างก็ได้เสียงตอบรับบนแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นอย่างดี ศึกบนโลกโซเชียลรู้ผลแพ้ชนะได้อย่างรวดเร็ว
ทว่าแฟนคลับของเฉินเชียนโหรวก็หาใช่พวกถือศีลกินเจ ค่อนคืนที่พวกเขาไม่ยอมหลับยอมนอนเพื่อมาจับกลุ่มรวมตัวกันอยู่ที่หน้าประตูของหลานอวิ้น
ยกโทรศัพท์ขึ้นมาปกป้องไอดอลตัวเอง
บนห้องทำงานชั้นสูงของหลานอวิ้น คิ้วของเฉินเชียนโหรวผูกเข้าหากันแน่น
เธอทอดมองลงมายังบรรดาแฟนคลับที่รวมตัวกันแต่เธอกลับไม่ได้มีความสุขแม้แต่น้อย
สรุปว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใครกันแน่