ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย - ตอนที่421ขอป่วนสักหน่อยตอนที่422การพึงระวังคนคิดร้ายก็ขาดไม่ได้
- Home
- ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย
- ตอนที่421ขอป่วนสักหน่อยตอนที่422การพึงระวังคนคิดร้ายก็ขาดไม่ได้
ตอนที่ 421 ขอป่วนสักหน่อย
เฉินฝานซิงหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง ใบหน้าค่อยๆ เผยรอยยิ้มเยือกเย็นและมีเลศนัยออกมาช้าๆ สายตาของเธอจดจ้องเข้าไปในดวงตาของเฉินเชียนโหรว น้ำเสียงเย็นชาที่ไม่มีท่าทีเร่งรีบดังขึ้น
“เธอ…แน่ใจนะว่าจะติดใจเอาความกับฉันเรื่องนี้”
เฉินเชียนโหรวเริ่มกระวนกระวาย เธอรีบร้อนข่มสายตาร้อนรนนั้นของตนเอง ทว่าสายตาของเฉินฝานซิงกลับราวกับมีแรงดึงดูดมหาศาลที่ทำให้เธอดิ้นไม่หลุด
สุดท้าย เมื่อเฉินฝานซิงละสายตาจากเธอ เธอถึงจะรู้สึกโล่งขึ้นมาได้ แววตาที่เคร่งเครียดผ่อนคลายลง ทำให้ความลนลานของเธอนั้นยากจะปกปิดเอาไว้
“ฉัน…ฉันก็แค่สงสัยก็เท่านั้น ในเมื่อมันก็เป็นผลงานที่ปรุงออกมาในช่วงแข่งขันทั้งคู่…”
“พอได้แล้ว!”
ภาษาฝรั่งเศสที่ฟังดูเกรี้ยวกราดดังขึ้น จากนั้นก็มีเสียงทุบโต๊ะดังตามมา เอเลนลุกขึ้นจากเก้าอี้กรรมการอย่างรวดเร็ว
ทุกคนมองไปที่เขาด้วยความตกใจ หลังจากที่ลองน้ำหอมที่ไม่ได้ใช้ในการแข่งขันขวดนั้นของเฉินฝานซิง สีหน้าเขาก็ดูไม่ค่อยสู้ดีมาตลอด ใครๆ ก็คิดว่าเฉินฝานซิงทำให้เขาโกรธเข้าแล้ว ทว่าสุดท้ายเขากลับให้คะแนนเต็มหน้าตาเฉย สีหน้าหลังจากนั้น ก็ไม่ได้กลับมาดูปกติดังเดิม แต่กลับแย่ลงเรื่อยๆ ด้วยซ้ำ
แต่ว่าสุดท้ายความสนใจของผู้คนถูกนักข่าวก่อกวน ไม่มีใครสนใจอาการของเอเลน
แต่กลับคิดไม่ถึงว่า เอเลนจะระเบิดอารมณ์ออกมาในเวลาแบบนี้
เฉินเชียนโหรวก็รู้สึกตกใจน้ำเสียงดุดันที่ดังขึ้นกะทันหันจนคอหด พลันกะพริบตาถี่ สุดท้ายเมื่อหันไปดูบนเวทีก็เห็นชายหนุ่มกำลังโกรธจนเก็บอาการไว้ไม่ได้อีก
เมื่อเห็นชายหนุ่มกำลังจ้องมาที่ตัวเองด้วยใบหน้าแข็งกร้าว เธอก็รู้สึกใจคอไม่ดี
เอเลนยกมือขึ้นแล้วชี้มาที่เฉินเชียนโหรว พร้อมกับพูดภาษาฝรั่งเศสรัวออกมาเป็นชุด
“เธอหุบปากไปเลย น่าขายหน้าจริงๆ ถ้าหาไม่ใช่เพราะกลับคำพูดไม่ได้ แม้แต่ 0.1 คะแนนฉันก็ไม่คิดจะให้เธอ เธอยังมีหน้ากล้าใช้คำว่า ‘รักเดียว’ นี้กับมันอีก เป็นการดูถูกทั้งผลงานชิ้นนั้น และคำคำนั้นด้วย พวกหน้าไม่อาย”
หลังจากที่เอเลนพูดจบ ก็ดึงเก้าอี้ไปด้านหลังอย่างแรง ก่อนจะหันหลังเดินจากไปด้วยความโมโห
ล่ามมีท่าทีกระอักกระอ่วน รู้สึกลำบากใจจนทำตัวไม่ถูก หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ตัดสินใจไม่แปลคำพูดเหล่านั้นออกมา เพราะนี่นับว่าเป็นการตำหนิที่รุนแรงที่สุด ไม่ เรียกว่าเป็นคำด่าที่ร้ายแรงที่สุดเลยก็ว่าได้
หลังจากที่พิจารณาถึงเรื่องปัญหาหน้าตาของคนในประเทศอย่างรอบคอบแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ เธอเลือกที่จะไม่แปลประโยคพวกนี้ พร้อมกับรีบเดินตามเอเลนออกไปติดๆ
ผู้คนตะลึงงัน
ล่ามจะออกไปดื้อๆ แบบนี้เลยเหรอ
แล้วเมื่อกี้ที่เอนเลนยืนชี้หน้าพูดใส่เฉินเชียนโหรวอยู่ตั้งนาน สรุปแล้วเขาพูดอะไรกันแน่
“เมื่อกี้คนฝรั่งเศสคนนั้นพูดอะไร เธอฟังรู้เรื่องไหม”
“ไม่เลย ฉันก็ไม่เข้าใจภาษาฝรั่งเศสเหมือนกัน”
“น่าเสียดายจัง ดูท่าทางเหมือนจะโกรธมากๆ เลย ดูเหมือนจะไม่พอใจเฉินเชียนโหรวเอามากๆ”
“เขาไม่พอใจทุกคนนั่นแหละ ทำหน้าเหม็นเบื่อมาตลอด อย่างกับตัวเองเก่งมากอะไรแบบนั้น แม้แต่ตอนที่ให้คะแนนเต็มเมื่อกี้ก็ยังทำท่าเหมือนไปโกรธใครมา”
“แต่ว่าฉันสงสัยมากเลยว่าเมื่อกี้เขาพูดอะไรกันแน่ ฉันสังเกตล่ามด้วยนะ สีหน้าเธอนี่กระอักกระอ่วนสุดๆ”
“ฉันก็สงสัยเหมือนกัน…”
กระนั้นแล้ว ทุกสายตาจึงพากันจับจ้องไปยังเฉินฝานซิงที่ยืนอยู่บนเวทีโดยไม่ได้นัดหมาย
เพราะว่าในตอนแรก เธอใช้ภาษาฝรั่งเศสสื่อสารกับเอเลนมาตลอด
ในที่นี้ คนที่เข้าใจภาษาฝรั่งเศส แน่นอนว่าใครๆ ต่างก็รู้ดีว่าเป็นเธอ
เฉินฝานซิงได้ยินคำพูดของเอเลนก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
เมื่อเห็นสายตาของผู้คนที่มองมาทางเธอด้วยความคาดหวัง เธอเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินเข้ามายืนข้างพิธีกร แล้วคว้าไมโครโฟนไปพูด
ตอนที่ 422 การพึงระวังคนคิดร้ายก็ขาดไม่ได้
เมื่อเห็นสายตาของผู้คนที่มองมาทางเธอด้วยความคาดหวัง เธอเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินเข้ามายืนข้างพิธีกร แล้วคว้าไมโครโฟนไปพูด
“เมื่อครู่นี้ อาจารย์เอเลนบอก ผลการแข่งขันก็ออกมาแล้ว อย่าทำเรื่องที่ไม่จำเป็นอีกเลย อีกทั้ง เขายังพูดชมเฉินเชียนโหรวอย่างอ้อมๆ อีกด้วยว่าผลงานของเธอโดดเด่นมาก ถ้าหากตั้งใจสู้อีกหน่อย อนาคตยาวไกลไม่มีที่สิ้นสุดแน่ หวังว่าคุณเฉินเชียนโหรวจะพยายามต่อไป และเฝ้ารอผลงานของเธอในการแข่งขันรอบนานาชาติ”
“อ๋อ…ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง…”
“นั่นสิ ผลการแข่งขันก็กำหนดแล้ว พูดอะไรต่อไปอีกก็ไม่มีความหมาย ไม่ใช่ว่าแค่กลายเป็นที่สองเองหรอกเหรอ คะแนนก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่เลวอยู่นี่”
“ใช่แล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดยังไงก็คือการแข่งขันระดับนานาชาติรอบสุดท้ายอยู่ดี นั่นถึงจะเป็นประเด็นหลักที่แท้จริง”
“แต่เมื่อกี้ดูสีหน้าท่าทาง และน้ำเสียงที่เอเลนพูด ดูท่าทางเขาโมโหมากเลยนะ ดูเหมือนจะห่างไกลกับคำว่า ‘ชมอย่างอ้อมๆ’ คำนี้มากเลยนะ”
“คนต่างชาติน่ะ นิสัยอารมณ์ก็ต้องไม่เหมือนพวกเราอยู่แล้ว”
เมื่อเอเลนลุกออกไปแล้ว คณะกรรมการคนอื่นเองก็ไม่นั่งอยู่ต่อ พากันเก็บของแล้วลุกเดินออกไปจากที่นั่งกรรมการ
หลังจากที่ได้ฟังเฉินฝานซิง ‘แปล’ คำพูดของเอเลน ทุกคนก็ค่อยๆ เลิกติดใจเรื่องนี้
เฉินเชียนโหรวที่ได้ยินประโยคนี้ สีหน้าก็ดูผ่อนคลายลงไปไม่น้อย
“เชียนโหรว ยินดีด้วยนะ เข้าไปแข่งรอบนานาชาติได้”
“ใช่ ยินดีด้วย อีกอย่างอาจารย์เอเลนนั่นก็ดูถูกใจเธอมาก เขาคาดหวังกับเธอมากเลยนะ”
“ฉันว่าฉันเข้าใจความหมายที่เขาให้เธอ 4.9 คะแนนนะ เขาอาจจะกำลังอยากบอกว่า เธอเป็นคนเก่งอยู่แล้ว แต่ยังคงมีช่องว่างให้พัฒนาได้อีกเยอะ ขอแค่ตั้งใจ ต่อไปเธอจะต้องเอาชนะทุกคนได้แน่”
เวลานี้ ก็มีนักข่าวบางส่วนที่รุมล้อมอยู่รอบกายเฉินเชียนโหรว “ยินดีกับคุณเฉินเชียนโหรวด้วยที่ได้เข้ารอบไปแข่งต่อระดับนานาชาติ ดูเหมือนอาจารย์เอเลนจะคาดหวังกับคุณมากๆ เลย ไม่ทราบว่าคุณมีโครงร่างของผลงานที่จะใช้แข่งขันในรอบนานาชาติแล้วหรือยัง พอจะเปิดเผยกับพวกเราสักเล็กน้อยได้ไหม อย่างเช่น เป็นผลงานที่สื่อถึงความรู้สึกแบบไหน หรือว่ามีแรงบันดาลใจมากจากอะไร”
คำพูดสรรเสริญเหล่านั้นทำให้อารมณ์ของเฉินเชียนโหรวกลับมาปกติเหมือนเดิม ใบหน้าซีดขาวค่อยๆ กลับมามีเลือดฝาดอีกครั้ง สีหน้าก็กลับมาปกติดีดังเดิม ใบหน้าอ่อนหวานเผยรอยยิ้มบางๆ ที่แฝงไว้ซึ่งความภูมิใจของผู้ชนะ อกผ่ายไหล่ผึ่งหลังยืดตรง น้ำเสียงอ่อนโยนฟังเสนาะหู
“ขอบคุณอาจารย์เอเลนที่เมตตา ฉันจะทำการค้นคว้าให้ช้าลงและละเอียดขึ้น เพื่อจะได้สร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิมขึ้นมาให้ได้ จะไม่ทำให้เขาผิดหวัง และจะพยามยามให้ได้สิบคะแนนในสายตาเขา ไม่สิ หนึ่งร้อยคะแนนในสายตาเขาให้ได้…
ส่วนเรื่องผลงานในการแข่งขันรอบนานาชาติ ฉันคิดเอาไว้บ้างแล้ว แต่ต้องขออภัยจริงๆ เรื่องนี้ฉันยังบอกไม่ได้ ในเมื่อทุกคนต่างก็เฝ้ารอกันขนาดนี้ ถ้าอย่างนั้นก็ขอให้ทุกคนช่วยติดตามการแข่งขันนี้กันเยอะๆ นะคะ”
“กลัวว่าจะมีคนขโมยความคิดของคุณเหรอ”
เฉินเชียนโหรวเพียงแค่อมยิ้มเล็กน้อย พร้อมกับเงียบไปครู่หนึ่ง เท่ากับว่าเป็นการให้คำตอบว่า ‘ยอมรับ’ อยู่เป็นนัยๆ จากนั้นเธอก็พูดขึ้นอีกว่า
“ฉันเชื่อว่าคนที่ได้สิทธิ์เข้ารอบการแข่งขันปรุงน้ำหอมรอบนานาชาติทุกคนล้วนแต่มีความสามารถ ฉันเชื่อว่าพวกเขาทุกคนก็คงเหมือนกับฉันที่อยากจะออกแบบผลงานที่น่าพอใจที่สุดและไม่เหมือนใครที่เป็นของตัวเองเพียงคนเดียว ส่วนเรื่องกังวลว่าจะถูกขโมย…ถึงแม้ฉันจะเชื่อใจทุกคน แต่การพึงระวังคนคิดร้ายก็ขาดไม่ได้ ยังไงซะ…ฉันก็เคยผ่านเรื่องแบบนี้มาก่อน ไม่ป้องกันไม่ได้ค่ะ”
นี่เป็นการเอ่ยพาดพิงถึงใครบางคนอย่างชัดเจน ผู้คนในงานมีใครบ้างที่จะไม่รู้
สายตาของทุกคนจึงทอดมองไปทางเฉินฝานซิงโดยอัตโนมัติ
ซูเหิงที่เฝ้าดูเหตุการณ์อยู่ก็ขมวดคิ้วมุ่นในทันที รีบลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไปหาเฉินเชียนโหรว
“พี่เหิง”
เฉินเชียนโหรวตะโกนเรียกชื่อซูเหิงด้วยความดีใจ ซูเหิงส่งยิ้มให้เธอด้วยความอ่อนโยน
ทั้งสองคนส่งยิ้มให้กัน ภายในสายตาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่อัดแน่นท่วมท้น ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา หญิงสาวใบหน้าสะสวย ท่าทางก็ดูสูงสง่า เป็นที่น่าอิจฉาของคนจำนวนไม่น้อยจริงๆ
ขณะนั้นเอง มีนักข่าวคนหนึ่งพูดเย้าขึ้นด้วยท่าทางสบายๆ