ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย - ตอนที่483เหลือเชื่อตอนที่484งมงาย
ตอนที่ 483 เหลือเชื่อ
ยามที่เธอได้เห็นโพสต์แรกบนเวยป๋อของตัวเอง เธอก็แทบจะสำลักน้ำลายตาย!
ที่แท้เมื่อยี่สิบนาทีก่อนหน้านี้เฉินฝานซิงก็ได้ช่วยเธอโพสต์ประกาศเรื่องที่จะมีการจัดคอนเสิร์ตขึ้นที่จัตุรัสอิ๋นเหอไปตอนที่เธอกำลังกล่าวสรุปในงานแถลงข่าว!
เธอสูดหายใจเข้าจนเต็มปอด นิ้วมือที่สั่นระรัวกดลงไปอ่านคอมเม้นที่มีมากถึงหมื่นกว่าข้อความ ไม่น่าแปลกใจเลยแม้แต่น้อยที่แต่ละข้อความ จะล้วนแล้วแต่เป็นคำด่าทอ...
“ยังจะกล้าจัดคอนเสิร์ตอีก? ไปตายซะ!”
“นังขี้ก็อป เสียเชื่ออาจารย์ซื่อจริงๆ ไม่สมกับที่เป็นลูกสาวอาจารย์ซื่อเลย!”
“เหอะๆ อาหารค่ำมื้อสุดท้ายเหรอ”
“นังคนน่ารังเกียจ ไสหัวออกไปจากโลกดนตรีซะ! ไสหัวแกออกไปจากวงการบันเทิงซะ!”
…ถ้อยคำด่าทอว่อนไปทั่วหน้าจอ ฉีน่ามองจี้อี้ด้วยความกังวลใจเล็กน้อย ทว่ากลับพบว่าสีหน้าของเธอกลับดูสงบนิ่ง
จนกระทั่งอ่านมาจนถึงข้อความสุดท้าย ทันใดนั้นฉีน่าก็กลับได้เห็นรอยยิ้มที่ไม่จริงจังนักปรากฏขึ้นบนใบหน้าของจี้อี้
“อะไร เธอยิ้มอะไร” ฉีน่าถามอย่างอดไม่อยู่
จี้อี้เงยหน้าขึ้นมองเธอด้วยใบหน้าซีดขาวที่เปี่ยมไปด้วยความยินดี
“คนพวกนี้บอกว่าจะมางานคอนเสิร์ต…”
ในใจของฉีหน้าเปี่ยมไปด้วยความปิติ “จริงเหรอ!”
ทว่าเธอกลับดีใจได้ไม่เกินสองวิ ประโยคต่อมาของจี้อี้ก็ทำเอาเธอต้องหุบยิ้มลงทันที!
“มาดูฉันขายขำ…”
เมื่อฉีน่าได้เห็นใบหน้าซื่อๆ ใสๆ ไร้พิษภัยของเธอ สัญชาตญาณความเป็นแม่ก็เอ่อล้นออกมาจนต้องยื่นมือไปลูบบนศีรษะของอีกคน!
“สู้ๆ!”
“ฉันทำได้แน่!”
ในตอนนั้นเองเฉินฝานซิงกลับเอ่ยขึ้น!
“ความมั่นใจและความกล้าหาญยังไม่มากพอ รีบกลับไปแต่งเพลงซะ! คอนเสิร์ตสามหมื่นคน ก็ควรเพิ่มแรงกดดันให้ตัวเองมากว่านี้!”
“แต่ว่า…ยังไม่รู้เลยนะว่าจะถึงสามหมื่นคนรึเปล่า…”
จี้อี้หันไปพูดกับเฉินฝานซิงด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้มเรียกให้ฉีน่าที่ยืนอยู่ข้างๆ กันหันกลับมาจ้องเธอเขม็ง!
ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่สงบเสงี่ยมแบบนี้จะไปทำอะไรได้
เฉินฝานซิงเลิกคิ้วมอง ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ไม่มีการเอ่ยสิ่งใดออกมา
จี้อี้ไม่รู้สาเหตุ ทว่าเธอเผลอกวาดตาไปมองโทรศัพท์อยู่วูบหนึ่ง ทำให้รู้ว่าตอนนี้เป็นเวลาสิบสองนาฬิกายี่สิบนาทีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เธอรีบเปิดเว็บไซต์ขายบัตรคอนเสิร์ต อันที่จริงเธอเตรียมจะแย่งซื้อบัตรสักจำนวนหนึ่งเอาไว้ก่อนแล้วเพื่อไม่ให้ตัวเองเสียหน้า ทว่าเมื่อมองความเคลื่อนไหวของการซื้อขายบัตรคอนเสิร์ต เธอก็ถึงกับต้องตะลึงตาค้าง
ไม่อยากเชื่อ…
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะหมดแล้ว……
บัตรผ่านประตูสามหมื่นใบถูกแย่งกันจนหมดเกลี้ยงภายในครึ่งชั่วโมง?
แกร๊ก เธอประหลาดใจจนแม้แต่โทรศัพท์ยังถูกปล่อยให้ร่วงตกลงจากมือสู่โต๊ะน้ำชา
ฉีน่าสงสัย จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูสีหน้าเธอเองก็ดูแข็งทื่อไม่ต่างกัน!
นี่…
นี่มันจะเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
“มื้อเที่ยงฟรี…สุดท้ายก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าสินะ…” ฉีน่าพึมพำ
เฉินฝานซิงกลับมองเธออย่างเรียบเฉย
“เธอคิดมากไปแล้ว ฉันว่าคนส่วนใหญ่ก็คงจะตั้งใจเข้าไปปาไข่เน่าใส่เธอเสียมากกว่า!”
ฉีน่าส่งสายตาเห็นใจไปหาจี้้อี้ในทันที
ทว่าจี้อี้กลับลุกพรวดขึ้นมาจากโซฟา “ฉันจะกลับไปแต่งเพลงแล้ว!”
ทิ้งคำพูดไว้เสร็จแล้ว เธอก็หยิบประเป๋าขึ้นมาแล้ววิ่งพรวดออกจากห้องไป!
ฉีน่าตกอยู่ในความฉงนอีกครั้ง
“ฉันไม่เคยเห็นเธอกระปรี้กระเปร่าเท่านี้มาก่อนเลย!”
เฉินฝานซิงกระตุกมุมปากขึ้นไม่พูดจา!
“ต่อไปก็แค่รอคอนเสิร์ต!”
-
แน่นอนว่าการกระทำต่อเนื่องเช่นนี้ของเฉินฝานซิงเรียกเสียงคัดค้านมาได้ไม่น้อย ในทุกๆ วันจะมีบรรดาแฟนคลับบ้าคลั่งของเฉินเชียนโหรวมาด่าเธออยู่ที่ด้านล่างบริษัท!
แม้จะถูกผู้รักษาความปลอดภัยลากตัวไปทุกครั้ง แต่ก็ยังจะมารวมตัวกันอย่างไม่ลดละ ช่างเป็นปณิธานที่โลกต้องสะเทือน
เมื่อเห็นท่าทียืนกรานเช่นนั้นของจี้อี้ เฉินเชียนโหรวจึงโทรตรวจสอบเพื่อความมั่นใจกับหลินสื่อเจียอีกครั้ง เมื่อได้ยินคำยืนยันครั้งแล้วครั้งเล่าของหลินสื่อเจีย เธอจึงได้สบายใจขึ้นเป็นปลิดทิ้ง
เธอยังคงเดินหน้าทำการกุศล สั่งสมความนิยม เตรียมเพลงใหม่ รอถ่ายภาพกับ ‘หงซิ่ว’ และช่วงชิงถ้วยรางวัลราชินีแห่งเสียงเพลงประจำฤดูร้อนของปีนี้!
ตอนที่ 484 งมงาย
แน่นอนว่าป๋อจิ่งชวนไม่มีทางพลาดงานแถลงข่าวของหลานอวิ้นและงานแถลงการณ์ของซิงเฉินกั๋วจี้ไปได้
เมื่อเห็นเฉินฝานซินมีความมั่นใจเปี่ยมล้นและดูเป็นมืออาชีพมาขนาดนี้ เขาก็เผลอกระตุกมุมปากขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
ป๋อจิ่งหางทำหน้าเหลือเชื่ออยู่ไม่ห่าง!
ผู้หญิงคนนี้ช่างห้าวหาญเสียจริงๆ ช่วงมรสุมแบบนี้ยังจะกล้าทำสัญญากับคนอย่างจี้อี้อีก!
ไปเอาความมั่นใจมหาศาลขนาดนั้นมาจากไหน
“จัตุรัสอิ๋นเหอ? บัตรผ่านประตูสามหมื่นใบฟรีๆ ไหนจะค่าเสื้อผ้าหน้าผมของจี้อี้และพวกค่าใช้จ่ายจิปาถะอีกล่ะ นี่ไม่เหยียบร้อยล้านเข้าไปแล้วเหรอ เธอจะไปเอาเงินมากมายขนาดนั้นมาจากไหนกัน”
ป๋อจิ่งชวนเปลี่ยนท่าที ทว่าท่าทางเรียบเฉยนั้นดันถูกป๋อจิ่งหางมองออกถึงความภาคภูมิใจที่ซ่อนอยู่ในนั้น!
“ฉันให้เอง”
หากการกลอกตามองบนไม่ดูขัดต่อภาพลักษณ์ที่สง่าและสูงส่งของเขา เขาคงกลอกตาไปแล้วสักสิบตลบ
เขากะไว้แล้วเชียว!
“ฉันรู้ดีว่าพวกนายสองคนรักกันหวานชื่น แล้วก็รู้ด้วยว่านายมีเงิน แต่ก็ใช่ว่านายเอาเงินมาเผาเล่นแบบนี้! เธอก่อเรื่องอย่างเอาแต่ใจเพราะมีคนให้ท้ายแบบนี้ นายจะไม่ทำอะไรสักหน่อยเหรอ”
ป๋อจิ่งชวนตวัดตามองเขา “ฉันสบายใจจะให้เงินเธอไปก่อเรื่องเอง หรือนายมีปัญหา”
ป๋อจิ่งหางสายหน้าปฏิเสธอย่างไม่ลังเล “ฉันไม่มีปัญหา!”
แค่ร้อยล้านเองไม่ใช่เหรอ
ใครมันจะไปมีปัญหากันล่ะ!
ยังไงก็ถูกกว่าโดนซ้อมเป็นไหนๆ!
ป๋อจิ่งชวนเลิกคิ้วขึ้นไม่พูดไม่จา เขาหันหน้าเข้าหาคอมพิวเตอร์แล้วเลื่อนไปยังงานแถลงข่าวของซิงเฉินกั๋วจี้ ก่อนจะกรอไปยังนาทีที่เฉินฝานซิงปรากฏตัวออกมาสู่สายตา!
ป๋อจิ่งหางกลอกตาอย่างไม่อาจห้ามใจ!
พอเห๊อะ!
ตั้งแต่เขาเข้ามา พี่ชายของเขาก็กำลังดูคลิปนี้อยู่แล้ว เขาก็เห็นว่ามันดูไปสามรอบแล้ว นึกไม่ถึงว่ารอบนี้ก็ยังจะดูไม่หนำใจอีก!
ไม่เบื่อจริงๆ เหรอ
สงสัยคงรอให้ดอกไม้บานบนหน้าก่อนล่ะมั้งถึงจะรู้สึกรำคาญ
เขาส่ายหน้าและถอนหายใจเฮือกหนึ่งในใจ!
ไม่นึกไม่ฝันเลยจริงๆ ว่าพี่ชายร่วมสายเลือดของเขา ผู้ชายตายด้าน ที่ไม่เคยมีข่าวเรื่องเสือผู้หญิงเลยสักครั้ง จู่ๆ จะมากลายเป็นคนงมงายได้แบบนี้…
-
คอนเสิร์ตของจี้อี้คือเรื่องสำคัญในเรื่องสำคัญที่ใกล้เข้ามาทุกที มีเวลาเตรียมตัวแค่ครึ่งเดือน ยิ่งสิ่งที่ต้องเตรียมมีมากแค่ไหน เฉินฝานซิงก็ยิ่งยุ่งขึ้นมากเท่านั้น
ถึงขนาดที่หลายวันมานี้ เธอแทบจะใช้เวลาส่วนใหญ่ขลุกอยู่กับจี้อี้
ที่คฤหาสน์ของจี้อี้ ฉีน่าและผู้ช่วยอีกสองคนที่ถือมื้อเที่ยงมาเปิดประตูเข้าไป
ในห้องรับแขก เฉินฝานซิงส่ายหน้าไปมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด น้ำเสียงฟังดูเรียบเฉยและเด็ดขาด!
“ไม่ได้! คิดจะเล่นเพลงทำนองช้าๆ พวกนี้ เพลงที่บรรยายความรู้สึกแบบนี้ไปถึงตอนจบเหรอ!
ไม่รู้เหรอว่า พอถึงตอนนั้นคนพวกนั้นที่มาดูคอนเสิร์ตเธอ ไม่ได้มาเพื่อให้กำลังใจเธอนะ! พวกนั้นส่วนใหญ่เป็นพวกที่รักในเสียงเพลง เป็นแฟนคลับของแม่เธอ และเป็นแฟนคลับของเฉินเชียนโหรว! พวกเขาไม่ได้ไปให้เชียร์เธอ แต่ไปเยาะเย้ยเธอด้วยความชิงชังต่างหาก พวกนั้นคงไม่มาทนฟังเธอร้องเพลงพวกนี้ตั้งแต่ต้นจนจบหรอก!”
จี้อี้เป็นกังวลอยู่เล็กน้อย แค่ได้ฟังคำพูดนี้ของเฉินฝานซิง หัวใจเธอก็พลอยสั่นไหวไปตามๆ กัน
“งั้นต้องทำยังไงล่ะ”
“ร็อกแอนด์โรล ดีเจ” เฉินฝานซิงใช้โอกาสนี้ตัดสินใจอย่างฉับพลัน
“…” จี้อี้นิ่งสนิทไปชั่วขณะหนึ่ง
“ต้องสะเทือนอารมณ์มากพอ ตอนแรกต้องกุมหัวใจผู้ชมให้อยู่หมัด! เพราะฉะนั้นการเปิดเวทีเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด! จี้อี้ เธอทำได้ไหม”
จี้อี้ใครครวญอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า
“อื้ม” เฉินฝานซิงตอบรับ ก่อนจะกำชับขึ้นอีกครั้ง
“กินข้าวกันก่อน”
ทว่าในขณะที่ทุกคนกำลังยกตะเกียบขึ้นมาเตรียมจะลงมือจัดการกับอาหาร เสียงออดหน้าบ้านกลับดังขึ้น
ผู้ช่วยนามซ่งเหมี่ยวหยัดกายขึ้นเดินไปเปิดประตู
“คุณ…”
น้ำเสียงของซ่งเหมี่ยวฟังออกได้ถึงความโมโหอย่างเห็นได้ชัด!
ทุกคนในห้องนั้นต่างก็แหงนศีรษะขึ้นไปมอง ก่อนที่สีหน้าของพวกเธอจะอึมครึมลงไปตามๆ กัน