ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย - ตอนที่503แย่แล้วตอนที่504ต้องเป็นเธอแน่นอน
- Home
- ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย
- ตอนที่503แย่แล้วตอนที่504ต้องเป็นเธอแน่นอน
ตอนที่ 503 แย่แล้ว
“ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าคนอ่อนแอที่ประคองยังไงก็ลุกไม่ขึ้นที่ประธานเฉินพูดถึงเหมือนกำลังจะสื่อถึงใครบางคนอยู่เลยล่ะ”
“นั่นสิ แล้วยังมีคนที่ชอบพยุงผู้ที่อ่อนแอนั่นอีก”
“หึ พอเธอพูดแบบนี้ก็รู้สึกอย่างนั้นเลยจริงด้วย ลองนับดูสิว่าช่วงนี้เฉินเชียนโหรวก่อเรื่องไปกี่เรื่องแล้วกันแน่ หลานอวิ้นยังแข็งใจจะดันเธอต่อ ไม่รู้เลยจริงๆ ว่ากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่”
“ช่างเถอะ ช่างเถอะ อย่าพูดถึงคนที่น่ารำคาญใจพวกนั้นเลย หลานอวิ้นเจ๊งไปได้ก็ดีสิ”
“นั่นสิ นั่นสิ บริษัทเน่าๆ เจ๊งไปก็ช่าง ยังไงซะ ต่อไปอะไรที่เกี่ยวกับศิลปินในสังกัดพวกเขา ฉันจะไม่ดูมันสักอย่าง ไม่แตะต้อง ไม่อุดหนุน”
“ใช่แล้ว คว่ำบาตรหลันอวิ้นขั้นสุดไปเลย”
งานแถลงข่าวที่เกิดขึ้นเองตามอัตโนมัติโดยไม่ได้นัดหมายล่วงหน้านั้น ได้รับความสนใจจากผู้ที่กำลังติดตามเรื่องนี้อยู่ในชั่วพริบตา
คำพูดทุกคำของเฉินฝานซิง คำถามทุกคำถามของเหล่านักข่าว รวมถึงคำพูดของเหล่าแฟนคลับ ทั้งหมดถูกบันทึกเอาไว้อย่างชัดเจน
โดยเฉพาะคำพูดของเหล่าแฟนคลับ กลับยิ่งทำให้กลุ่มนักธุรกิจที่ทำงานร่วมกับหลานอวิ้นพากันตัดสินใจยกเลิกสัญญากันไปหลายราย
หลานอวิ้นตกอยู่ในภาวะอันตรายอย่างฉับพลันอีกครั้ง
หลานอวิ้นรีบออกแถลงการณ์ทันทีว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเฉินเชียนโหรวจริงๆ ‘โตวซื่ออ้าย (รักทั้งสิ้น)’ ถึงแม้จะเป็นกรรมสิทธิ์ของจี้อี้จริง แต่เฉินเชียนโหรวเองก็มีส่วนร่วมในการดัดแปลงผลงานนี้ด้วยตัวเองจริงๆ เฉินเชียนโหรวเองก็ถูกหลินสื่อเจียหลอกเหมือนกัน ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย
ทว่า ถึงแม้จะทำแบบนี้ แต่ก็กอบกู้พันธมิตรทางการค้าคืนกลับมาไม่ได้
ในระหว่างนั้นเอง เลขาของเจียงหรงหรงเดินดุ่มๆ เข้ามาในห้องทำงานด้วยสีหน้าย่ำแย่ร้อนรนจนไม่แม้แต่จะเคาะประตูห้องก่อนเข้ามา
เจียงหรงหรงสะดุ้งตกใจจนใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ก่อนจะตบโต๊ะอย่างแรง พลันลุกขึ้นยืน
ทว่ายังไม่ทันรอให้เธอต่อว่า เลขาก็รีบเอ่ยปากขึ้นมาก่อน
“ประธานเจียงคะ แย่แล้ว ได้รับข่าวจากแหล่งข่าวที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือว่ามีคนฉวยโอกาสระหว่างวิกฤตครั้งนี้ แอบกว้านซื้อหุ้นของบริษัท ตอนนี้ผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ต่างก็ขายหุ้นในมือตัวเองด้วยราคาที่ต่ำมากๆ แล้วค่ะ”
คำด่าที่อยู่บนรืมฝีปากของเจียงหรงหรงเมื่อครู่นี้ชะงักไปทันที สีหน้าของเธอซีดเซียวไร้เลือดฝาดอย่างฉับพลัน ก่อนจะซวนเซล้มตัวลงลงไปบนเก้าอี้กะทันหัน
“มิน่า…บริษัทเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ พวกผู้ถือหุ้นที่เมื่อก่อนเอาแต่เอะอะโวยวายตอนนี้กลับไม่มีความเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย ที่แท้…ที่แท้…พวกเขา…”
ใบหน้าของเฉินเชียนโหรวเองก็ซีดขาวลงไปเช่นกัน ความผิดหวังอย่างรุนแรงหลั่งไหลไปทั่วร่างกาย
ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้
เธอหันกลับไปมองหน้าจอโทรทัศน์อีกครั้ง ตอนนี้ที่ซิงเฉินกั๋วจี้บรรยากาศคึกคัก นักข่าวและแฟนคลับหนาแน่น ทุกคนต่างก็กำลังติดตามทุกความเคลื่อนไหวของซิงเฉินกั๋วจี้
อีกทั้ง เธอยังเห็นผู้รับผิดชอบจากบริษัทโฆษณา และแบรนด์สินค้านานาชาติหลายคน รวมไปถึงผู้เขียนบทละคร โปรดิวเซอร์ ผู้กำกับ ผู้รับผิดชอบจากสถานีโทรทัศน์อีกมากมายต่างก็พากันทยอยเข้าไปในอาคารซิงเฉินกั๋วจี้หลังจากที่เหล่านักข่าวกระหน่ำเก็บภาพทำข่าวเสร็จ
ทั้งหมดล้วนแต่มาติดต่อขอร่วมงานด้วยทั้งสิ้น
ยิ่งไปกว่านั้น ถึงกับมีบริษัทคู่ค้าของหลานอวิ้นรวมอยู่ในนั้นด้วย
เพียงแค่เพราะจี้อี้คนเดียว สามารถทำให้ซิงเฉินกั๋วจี้ที่เพิ่งจะเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินกิจการได้ไม่นานกลับเติบโตก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้
ถึงกับเรียกได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์ที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนในวงการบันเทิงเลยทีเดียว
สร้างความตื่นตกใจให้กับนักลงทุนในประเทศไม่น้อย
จุดพลิกผันทั้งหมดนี้เป็นเพราะงานแสดงคอนเสิร์ตเพียงแค่งานเดียว แต่ว่าหากได้ดูงานแถลงข่าวของซิงเฉินกั๋วจี้ก็จะรู้ว่า เวลานั้น ท่าทางที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นอกมั่นใจของเฉินฝานซิงได้ให้ข้อสรุปแล้วว่างานแสดงคอนเสิร์ตที่ไม่มีใครเหลียวแลนี้จะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
ไม่มีใครกล้าพูดว่าการที่ซิงเฉินกั๋วจี้ประสบความสำเร็จได้ราวกับปาฏิหาริย์นี้เป็นเพียงแค่เพราะความบังเอิญทั้งหมด
ผู้รับผิดชอบของซิงเฉินกั๋วจี้ เฉินฝานซิง เป็นอย่างที่เธอพูดไว้ไม่มีผิด เธอนั้นสายตาเฉียบแหลมจริงๆ
ตอนที่ 504 ต้องเป็นเธอแน่นอน
ผู้รับผิดชอบของซิงเฉินกั๋วจี้ เฉินฝานซิง เป็นอย่างที่เธอพูดไว้ไม่มีผิด เธอนั้นสายตาเฉียบแหลมจริงๆ
“ประธานเฉินเป็นผู้หญิงที่หลักแหลมมาก”
“เธอเล็งเห็นความสามารถในตัวจี้อี้ ถึงแม้นั่นจะเป็นประเด็นสำคัญ แต่สิ่งที่ทำให้ใครๆ ต่างก็ยกย่องนับถือเธอก็คือการกระทำที่เด็ดขาดไม่ลังเลของเธอ”
“อาศัยหลานอวิ้นและหลินสื่อเจียทำให้เรื่องนี้เน่าเฟะจนถึงขั้นสุด ในระหว่างที่ดึงดูดความสนใจของผู้คน ก็จัดคอนเสิร์ตให้กับจี้อี้โดยไม่หวังผลตอบแทน พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในหน้าประวัติศาสตร์ของการลงทุนที่เคยมีมา นี่มันยอดเยี่ยมเกินกรณีศึกษาคลาสสิกใดๆ เลย น่านับถือจริงๆ”
“กลยุทธ์เรือฟางยืมลูกเกาทัณฑ์ ในเวลาและสถานที่ที่เหมาะสม เธอใช้มันได้ดีทีเดียวเลย”
ครั้งนี้ไม่เพียงแค่ทำให้จี้อี้ดังเป็นพลุแตก แต่ทุกการกระทำของเฉินฝานซิงก็ได้รับความสนใจจากทั่วทุกสาขาอาชีพมากขึ้นไปด้วย
ความสำเร็จเติบโตของซิงเฉินกั๋วจี้ หลานอวิ้นที่ตอนนี้กำลังตกที่นั่งลำบาก ความแตกต่างราวฟ้ากับเหวที่เห็นได้ชัดเจนนี้ทำให้หลานอวิ้นกลายเป็นที่น่าขบขันของทุกคน
เจียงหรงหรงจ้องมองหน้าจอโทรทัศน์ ใบหน้าซีดขาวนั้นไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความสำนึกผิดและคิดจะปรับตัว ทว่ากลับยังคงมองเฉินฝานซิงด้วยความเคียดแค้นดังเดิม ยังคงเป็นใบหน้าที่กัดฟันกรอดด้วยความโกรธเกลียดมิคลาย
“สืบมาได้หรือยังว่าใครกำลังรับซื้อหุ้นของบริษัท”
สิ้นเสียงพูดของเจียงหรงหรง สายตาของเฉินเชียนโหรวก็เต็มไปด้วยความชั่วร้ายในพริบตา
“คุณย่า จะต้องเป็นเธอแน่ ต้องเป็นเธอแน่นอน เธอจงใจจำทำลายสกุลเฉิน ทำลายหลานอวิ้น ตอนนี้เธอมีสองพันล้านอยู่ในมือ ถ้าคิดจะซื้อหลานอวิ้น ไม่ใช่ปัญหาอะไรเลยสักนิด”
เจียงหรงหรงขมวดคิ้วมุ่นกว่าเดิม
ขณะนั้นเอง เลขาก็พูดขึ้นมา
“สืบทราบแล้ว ไม่ใช่คุณหนูใหญ่…”
เฉินเชียนโหรวและเจียงหรงหรงต่างก็หน้าเปลี่ยนสีตามๆ กัน พวกเธอมองไปยังเลขาพร้อมกัน เลขาเพียงแค่มองหน้าพวกเธอพลางส่ายหัวอย่างจนปัญญา
–
‘โตวซื่ออ้าย (รักทั้งสิ้น)’ เวอร์ชันของเฉินเชียนโหรวถูกปลดออกจากแพลตฟอร์มดนตรีใหญ่ๆ หลายที่
เพลงทั้งหมดที่ร้องบนคอนเสิร์ตของจี้อี้ เพียงแค่ไลฟ์เวอร์ชันก็ชิงอันดับต้นๆ ในชาร์จเพลงไปครองเกือบแทบทั้งหมด
‘โตวซื่ออ้าย (รักทั้งสิ้น)’ แน่นอนว่าเป็นอันดันที่หนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย ยอดดาวน์โหลดทะลุพันล้าน ยอดวิวออนไลน์ทะลุหมื่นล้าน ทั้งยังคงเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆ
ในซิงเฉินกั๋วจี้ พนักงานที่เดิมทีก็ให้ความเคารพนับถือเฉินฝานซิงมากอยู่แล้ว เวลานี้เมื่อเจอเฉินฝานซิงก็อดโค้งคำนับเธอแบบเก้าสิบองศาไม่ได้
เหล่าผู้ถือหุ้นยิ่งยินดีปรีดาจนยิ้มไม่หุบ
นี่เป็นมันสุดยอดไปเลย
ถึงแม้เธอจะบริหารจัดการบริษัทได้อย่างดี แต่แผนการตัดสินใจของเธอทุกครั้งต่างก็เป็นที่หวาดเสียวของผู้คน
ถ้าหากพลาดขึ้นมา แบบนั้นก็จะกลายเป็นเรื่องที่ต้องชดใช้กันใหญ่โตได้เลย
–
ยุ่งวุ่นวายมาหลายวันติดกัน หลังจากที่เธอมอบหมายเรื่องของจี้อี้ให้ฉีน่าดูแลไป ในที่สุด เธอก็มีเวลาว่างสักที
กลับถึงบ้าน นี่เป็นวันที่สามที่ทำงานล่วงเวลา ยังดีที่อารมณ์ของป๋อจิ่งชวนช่วงนี้ยังคงปกติดีอยู่ อ่อนโยนเอาใจใส่ ไม่ได้หาเรื่องกวนใจเธออีก
หลังจากพักผ่อนอยู่บนโซฟาได้ครู่หนึ่ง เธอถึงลุกขึ้นมาดื่มน้ำที่หยิบออกมาจากตู้เย็นสองขวด ก่อนจะเดินขึ้นชั้นบนไป
ปกติถ้าหากเธอไม่กลับมา ป๋อจิ่งชวนจะไม่อยู่ในห้องนอนคนเดียว
ว่าตามคำพูดที่เขาเคยพูดเองก็คือ เหมือนกับว่าตัวเองเป็นสาวน้อยขี้เหงาที่นอนรอให้ฮ่องเต้เสด็จมาหา
เฉินฝานซิงขำลั่นกับคำพูดนี้ของเขาตลอด แต่ปรากฎว่าทุกครั้งก็จะถูกสายตาเย็นชาของป๋อจิ่งชวนจ้องเขม็งจนต้องกลั้นขำกลับไป
เธอตรงดิ่งไปที่ห้องหนังสือ ก็เห็นป๋อจิ่งชวนนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ในชุดนอนตามที่คิดเอาไว้ สายตาของเขาจดจ่ออยู่บนหน้าจอคอมฯ
“จะกินมื้อดึกหน่อยไหม”
เฉินฝานซิงเดินเข้าไปพลันเอ่ยถามเบาๆ ก่อนจะถือโอกาสเอาน้ำที่อยู่ในมือไปวางไว้บนโต๊ะทำงาน
ป๋อจิ่งชวนเงยหน้าขึ้นมามองเธอ เนื่องจากตั้งใจทำงานด้วยสีหน้าเคร่งครียดติดกันเป็นเวลานาน ทำให้สายตาเคร่งขรึมนั้นเปลี่ยนกลับมาไม่ทัน
“ไม่หิว”
น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำ ดวงตาดำขลับเคลื่อนไหวเล็กน้อย ก่อนจะเอื้อมมือขึ้นไปนวดระหว่างคิ้ว
เฉินฝานซิงขมวดคิ้วมุ่นในทันที เธอวางน้ำในมือลง ก่อนจะเดิมอ้อมไปด้านหลังของเขา นิ้วมือเรียวเล็กที่เย็นเล็กน้อยวางลงไปบนบริเวณขมับของเขาเบาๆ