ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย - ตอนที่611โหดร้ายตอนที่612ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเธอรึเปล่า
- Home
- ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย
- ตอนที่611โหดร้ายตอนที่612ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเธอรึเปล่า
ตอนที่ 611 โหดร้าย
เฉินเชียนโหรวเด้งตัวขึ้นนั่งบนเตียงคนไข้ในทันใด เธอจดจ้องอยู่กับรูปในโทรศัพท์อยู่ค่อนวัน เครื่องหน้าซีดขาวแทบจะกระจุกรวมกันด้วยแรงโทสะ
“อ๊ายยย”
เฉินเชียนโหรวจ้องมองภาพบนโซเชียลด้วยแววตาเกลียดชัง จนสุดท้ายก็อดแผดเสียงกรีดร้องออกมาและเขวี้ยงโทรศัพท์ลงกับพื้นอย่างจังไม่ได้
ปึ้งงง
เจ้าของใบหน้าซีดจัดหอบหายใจเนื่องด้วยหัวใจที่เต้นแรงด้วยความโมโห
การระเบิดอารมณ์ขึ้นมากะทันหัน ทำให้หยางลี่เวยที่อยู่เป็นเพื่อนเธอมาตลอดและกำลังพักผ่อนอยู่ข้างๆ กัน สะดุ้งโหยงลืมตาโพลงขึ้นทันใด
หัวใจที่เสียขวัญเต้น ตึกๆ ตักๆ อยู่ตลอดเวลา
“เชียนโหรวนี่…ลูกเป็นอะไร?”
เมื่อเห็นเฉินเชียนโหรวที่น่าตาดุร้ายจนแทบคล้ายจะเสียสติ หยางลี่เวยกูยิ่งตกใจขึ้นไปอีก
เฉินเชียนโหรวยกมือทาบอก เธอโมโหเสียจนต้องหอบหายใจตลอดเวลา
หลังจากใบหน้าซีดขาวด้วยความโมโห น้ำตาสองหยดก็พลันไหลรดลงมา
หยางลี่เวยมองไปยังโทรศัพท์ที่ถูกเฉินเชียวโหรวเขวี้ยลงบนพื้น ในใจก็นึกไปว่าลูกสาวของเธอคงไปเจอข่าวอะไรที่ไม่ดีเข้า เธอจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดเวยป๋อดูเช่นกัน
ทั้งเวยป๋อแทบจะถูกยึดพื้นที่ไปด้วยข่าวของเฉินเชียนโหรว
ไม่ว่าจะเป็นสารพัดข่าวฉาวทั้งหมดก่อนหน้านี้ ข่าวของรูปภาพเมื่อวาน ไหนจะรูปที่ซูเหิงไปข้องเกี่ยวกับเฉินฝานซิงวันนี้
เมื่อดูมาถึงตรงนี้ สีหน้าของหยางลี่เวยเองก็เปลี่ยนไปจนไม่น่ามอง
“เกินไปแล้ว!”
ในตอนนั้นเอง ประตูห้องก็ถูกเปิดออก เจียงหรงหรงถือไม้เท้าไว้ในมือพลางเดินเข้ามาด้วยสีน่าเคร่งขรึม
“เกิดอะไรขึ้น” เธอถามเสียงเข้ม
“คุณแม่!” หยางลี่เวยส่งโทรศัพท์มือถือให้เจียงหรงหรงไปด้วยสีหน้าย่ำแย่ถึงขีดสุด “ดูสิคะ!”
เจียงหรงหรงขยับคิ้วชนกันพลางยื่นมือออกไปรับโทรศัพท์
“ซูเหิงทำเกินไปแล้ว! เมื่อวานเขาเพิ่งจะหมั้นกับเชียนโหรวไป ทะเบียนสมรสก็จดแล้ว เชียนโหรวเข้าโรงพยาบาล เขาก็ไม่คิดจะโผล่หน้ามาให้เห็นบ้างเลย วันนี้ยังจะไปหาเฉินฝานซิงตั้งแต่หัววัน ในเน็ตมีแต่คนบอกว่าเขากลับไปขอคืนดีกับเฉินฝานซิง! เขาทำแบบนี้ได้ยังไงกัน!”
คิ้วของเจียงหรงหรงผูกกันแน่น
“ฮือๆ ฮือออ”
จู่ๆ เฉินเชียนโหรวที่อยู่ข้างๆ ก็ปิดหน้าพร้อมระบายเสียงร้องออกมา
“คุณย่า คุณแม่ หนูควรจะทำยังไง…นี่พี่เหิงเขาคิดจะทำอะไร เขาคิดจะคืนดีกับพี่สาวจริงๆ เหรอคะ…ใครๆ ก็รู้ว่าเราหมั้นกันไปแล้ว เขาทำแบบนี้ เขาเอาหนูไปไว้ที่ไหน”
สีหน้าแววตาของเจียงหรงหรงเหี้ยมเกรียม เธอทิ้งโทรศัพท์ลงบนเตียง พลางย่นคิ้วมองเธออย่างไม่นึกเข้าข้าง!
“พูดสิว่าทั้งหมดนี่ไม่ใช่เพราะแกรนหาที่เอง! ซูเหิงกับแกหมั้นกันมันเป็นเรื่องที่แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว แกคิดอะไรอยู่ถึงได้ถ่ายรูปนั้นส่งไปให้พี่สาวแก! ถ้าไม่มีรูปพรรค์นั้น มันจะเกิดเรื่องนี้ไหม!”
เสียงสะอื้นไห้ของเฉินเชียนโหรวชะงักกึก ก่อนจะร้องไห้ดังขึ้นด้วยความทุกข์ใจที่มากยิ่งกว่า
หยางลี่เวยเห็นลูกสาวมีท่าทีเสียใจเช่นนั้นก็พลอยเศร้าใจไปด้วย
การโจมตีอย่างซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดหลายวันมานี้บีบคั้นเฉินเชียนโหรวอย่างโหดร้ายเกินไป ร่างกายเธอซูบผอมลงไปไม่น้อย อีกทั้งสีหน้าก็ซีดจัดจนไม่เห็นแม้แต่สีเลือดฝาด ไม่นานมานี้เธอก็เพิ่งจะอาเจียนเป็นเลือดออกมา
ช่วงนี้เธอถูกกระทำซ้ำไปซ้ำมาจนหมดเรี่ยวแรง ซ้ำตอนนี้ยังมาถูกด่าอีก นี่มันจะไม่เป็นการซ้ำเติมกันไปหน่อยหรือ
เจียงหรงหรงใช่ว่าจะไม่รู้เรื่องนี้ เธอหย่อนตัวลงนั่งด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
ห้องทั้งห้องเงียบสงัด มีเพียงเฉินเชียนโหรวที่กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้น
เจียงหรงหรงไม่พูดไม่จา หยางลี่เวยก็ยิ่งไม่รู้ว่าต้องพูดอะไร
เรื่องนี้หากไม่ใช่เพราะเฉินเชียนโหรวทำผิดก่อน ก็คงจะไม่มาถึงขั้นนี้
ผ่านไปเนิ่นนาน ประตูห้องผู้ป่วยก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง พวกเขาเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าเป็นซูเหิง
เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่อยู่ยังคงเป็นชุดเดิมที่เขาใส่เมื่อวาน ใบหน้าอิดโรย สีหน้าเรียบเฉย เหมือนกันกับในภาพถ่ายไม่มีผิดเพี้ยน
ตอนที่ 612 ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเธอรึเปล่า
เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่อยู่ยังคงเป็นชุดเดิมที่เขาใส่เมื่อวาน ใบหน้าอิดโรย สีหน้าเรียบเฉย เหมือนกันกับในภาพถ่ายไม่มีผิดเพี้ยน
“พี่เหิง! พี่เหิง...”
เมื่อเห็นซูเหิงเดินเข้ามา เฉินเชียนโหรวก็รีบเลิกผ้าห่มขึ้นอย่างร้อนรน เธอวิ่งซวนเซลงจากเตียง ก่อนจะคว้าเอามือของซูเหิงมาจับไว้แน่น บนใบหน้าซีดขาวเต็มไปด้วยความดีใจ
“พี่เหิง ในที่สุดพี่ก็มาจนได้ ฉันรอพี่อยู่ตั้งนาน…”
เจียงหรงหรงและหยางลี่เวยเองก็ผุดลุกขึ้นจากโซฟา ก่อนที่เจียงหรงหรงจะเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นกับซูเหิง
“ไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ ในเมื่อแต่งงานแล้ว ภาระความรับผิดชอบก็เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งส่วน ไม่ว่าจะใครก็ต้องรู้จักควบคุมตัวเอง ไม่ใช่คิดจะทำอะไรก็ทำ! คิดถึงหน้าของสกุลเฉินกับสกุลซูบ้าง!”
ซูเหิงยืนอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบเชียบ ไม่มีการตอบโต้ใดๆ ใบหน้าของเขาดูเย็นชา ทิฐิสูงราวกับแพงทองแดงผนังเหล็กกล้าไม่ว่าอะไรก็ไม่อาจแทรกซึมเข้าไปได้!
เจียงหรงหรงแค่นเสียงหึออกมา ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
สีหน้าของหยางลี่เวยเต็มไปด้วยกลัดกลุ้ม เธอมองซูเหิงพร้อมเอ่ยขึ้นอย่างจนใจ
“ซูเหิง เธอสองคนต้องคุยกันดีๆ นะ ช่วงนี้เชียนโหรวต้องแบกรับอะไรหลายๆ อย่าง เธอเองก็ต้องใจกว้างๆ หน่อย…”
พูดจบ เมื่อเห็นว่าซูเหิงไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เธอจึงหันไปมองเฉินเชียนโหรวอย่างเป็นกังวลก่อนจะทอดถอนหายใจแล้วเดินออกนอกห้องไป
ประตูห้องปิดสนิทลง เฉินเชียนโหรวโอบรอบเอวของซูเหิงไว้แน่น เธอพาร่างกายอันบอบบางของตัวเองซุกเข้าในอ้อมกอดของเขา
“พี่เหิง ฉันรู้ว่าฉันผิดไปแล้ว ครั้งนี้ฉันรู้ว่าฉันผิดไปแล้วจริงๆ ยกโทษให้ฉันได้ไหมคะ”
ซูเหิงยกมือขึ้นและค่อยๆ ผลักเธอออกไป หัวใจของเฉินเชียนโหรวกระตุกวูบ เธอเพิ่มแรงกอดรัดรอบเอวของซูเหิงเอาไว้แน่นยิ่งกว่าเดิม
“เชียนโหรว ปล่อยฉันก่อน…”
“ไม่! ไม่! พี่เหิง พี่ให้อภัยฉันได้ไหม โปรดให้อภัยฉันด้วย! ฉันรู้ว่าครั้งนี้ฉันผิดไปแล้วจริงๆ ให้ฉันไปขอโทษกับพี่สาวดีไหมคะ ฉันไม่ควรส่งรูปนั้นให้พี่เขาเลย…แต่ว่า…พี่เหิง ฉันทำแบบนี้เพราะอยากให้พี่เขารู้สึกไม่ดีและยอมถอยไป เธอทำฉันเสียหน้าในงานประมูลการกุศล เพราะเธอยังไม่ตัดใจจากพี่…”
ซูเหิงปิดดวงตาลง จู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนว่าเรี่ยวแรงที่มีพลันเหือดหาย “ตอนนั้นฉันก็ขอเธอแต่งงานไปแล้ว…”
เฉินเชียนโหรวน้ำตาร่วงกราว เธอส่ายหน้าพลางเอ่ยว่า “แต่ฉันกลัวว่าพี่จะถูกพี่สาวแย่งไป!”
“แล้วเมื่อไหร่เธอจะเลิกกลัว! ก่อนแต่งงานเธอก็กลัว แต่งงานแล้วเธอก็ยังกลัว! เมื่อไหร่มันจะจบลงสักที พูดไปพูดมา สรุปได้ว่าเธอก็แค่ไม่ยอมเชื่อใจฉัน…”
จู่ๆ เสียงของซูเหิงก็แปรเปลี่ยนไปอย่างเกลี้ยวกราด เขามองหญิงสาวด้วยสีหน้าที่ผิดหวังและเหินห่าง แววตาซับซ้อนเกินจะบรรยาย
“เชียนโหรว...จริงๆ ตอนนี้ฉันก็สงสัยนะว่า…เธอที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันในตอนนี้ คือตัวตนที่แท้จริงของเธอรึเปล่า! ก่อนหน้านี้…เธอเป็นคนที่มักถูกฝานซิงรังแกคนนั้นจริงๆ รึเปล่า งานแข่งขันเปียโนเมื่อหกปีก่อนไม่เกี่ยวอะไรกับเธอจริงๆ รึเปล่า ตอนเรียนมหาวิทยาลัย ฝานซิงขโมยสูตรน้ำหอมของเธอจริงๆ รึเปล่า ตอนที่พวกเธอตกมาจากดาดฟ้าเรือจนตกน้ำไปทั้งคู่ในตอนนั้น สรุปว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ และอีกหลายๆ เรื่อง…เชียนโหรว เธอ…”
ใบหน้าซีดจัดของเฉินเชียนโหรวแทบจะโปร่งแสงไปในทันใด หัวใจเธอกระตุกวูบ ร่างกายก็อ่อนยวบจนแทบจะทรุดลงกับพื้น!
เธอหลบสายตาเขาเล็กน้อย ทั้งยังควบคุมความลนลานในดวงตาไม่ได้ไปชั่วขณะ
“ไม่…”
เธอก้มศีรษะพลางส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไม่ พี่เหิง เรื่องของฉันกับพี่สาวก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยจะคิดเล็กคิดน้อยเลยนะ…ฉันรู้ว่าพี่เขาไม่ได้ตั้งใจ…เรื่องพวกนั้นก็แค่อุบัติเหตุเท่านั้นเอง…พี่จะมาสงสัยฉันแบบนี้ไม่ได้นะ…พี่ก็รู้มาตลอดไม่ใช่เหรอ”