ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย - ตอนที่621ฉันไม่ต้องการตอนที่622ยังไม่ตัดใจ
- Home
- ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย
- ตอนที่621ฉันไม่ต้องการตอนที่622ยังไม่ตัดใจ
ตอนที่ 621 ฉันไม่ต้องการ
เรื่องพวกนี้ฟังดูแล้วก็น่าอับอายจริงๆ
“ช่างเถอะ คอนโดในหมู่บ้านหมิงซื่อยกให้เธอไปหนึ่งหลัง แล้วก็ยกโรงงานทอผ้าให้เธอแล้วกัน”
“อะไรนะ แม่คะ แบบนี้…ไม่ได้นะ แบบนี้ไม่ยุติธรรมกับพวกเราสองแม่ลูกนะ”
หยางลี่เวยได้ยินการจัดแจงของเจียงหรงหรงก็รีบร้องเสียงหลงออกมาทันที
ทำให้เจียงหรงหรงถึงกับถลึงตาใส่ด้วยความหงุดหงิด
ปรากฏว่าในเวลานี้เฉินฝานซิงกลับพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“สินเดิมที่พวกคุณคนสกุลเฉินยกให้ ฉันไม่ต้องการ”
หยางลี่เวยหน้าตาระรื่น
เฉินซั่งหวาพลันรีบส่งเสียงพูดออกมาอย่างไม่เห็นด้วย “ฝานซิง อย่าพูดบ้าๆ”
เฉินฝานซิงไม่ได้สนใจพวกเขา เพียงแต่พูดต่อ
“ฉันต้องการแค่สินเดิมที่แม่เก็บไว้ให้กับฉัน เพราะงั้น…
ไม่ว่าจะเป็นอาคารยูนิตแบบโบราณที่รอบนอกที่สาม โรงน้ำชา ร้านเสื้อผ้า หรือคอนโดในหมู่บ้านหมิงซื่อและคอนโดจินอวี้เหลียงย่วนทั้งสองหลัง และคฤหาสน์ที่ชานเมืองตะวันออกหลังนั้น แล้วยังมีร้านกาแฟ ร้านคาราโอเกะ สตูดิโอโยคะ ร้านเครื่องลายคราม ร้านหยก โรงงานทอผ้าโต่วซิง อีกทั้งยังมีร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านหนังสือ…พวกเขา ไม่มีสิทธิ์แตะต้องแม้แต่น้อย”
ประโยคสุดท้าย เสียงของเฉินฝานซิงหนักแน่นกว่าเดิม อีกทั้งยังแฝงไว้ซึ่งความเยือกเย็นที่ทำให้ผู้คนรู้สึกหนาวเหน็บ ฟังดูแข็งกร้าวจนไม่อาจคัดค้านได้เลยสักนิด
หยางลี่เวยหน้าเสียลงไปถนัดตา
ทว่าเฉินฝานซิงกลับหยิบกระเป๋าขึ้นมาพลางมองไปที่แต่ละคนที่สีหน้าแทบจะเป็นอารมณ์เดียวกันทั้งหมด ก่อนจะยกมุมปาก “ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าคุณผู้หญิงหยางมีความสามารถแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ในเวลาสั้นๆ ไม่กี่ปี กลับสร้างกิจกรรมเสริมขึ้นมาได้มากมายขนาดนี้ แถมยังบังเอิญคล้ายคลึงกับของที่แม่ของฉันเก็บไว้ให้ฉันพอดีเลย แต่ว่านี่ไม่ใช่ประเด็นหลัก ฉันคิดว่า คุณนายสกุลซูถ้ามาได้ยินเรื่องสินเดิมพวกนี้ จะต้องดีใจแย่แน่เลย สกุลเฉินเงินทองเฟื่องฟู ตบแต่งลูกสะใภ้ที่เชิดหน้าชูตาขนาดนี้”
หยางลี่เวยเริ่มมีสีหน้ากระอักกระอ่วน หันไปมองทางเจียงหรงหรงด้วยสายตาวิงวอนขอความช่วยเหลือ
“แม่…”
ของพวกนั้นที่ให้เฉินเชียนโหรวก็เป็นร้านที่อยู่ในมือของจีเฟิ่งเหมียนจริงๆ
อีกอย่างเธอก็เข้าไปพูดคุยกับไช่จิ้งอี๋มาแล้ว
ถ้าหากเฉินฝานซิงไม่ให้แตะต้อง แล้วเธอจะไปเอาของเยอะแยะมากมายอย่างนั้นออกมาได้อย่างไร
ไม่ใช่พูดไว้แล้วหรอกเหรอว่าจะให้ทนายหาเวลาไปโอนย้ายกรรมสิทธิ์ของพวกนั้นมาน่ะ
เจียงหรงหรงคิ้วขมวดมุ่นมองเฉินฝานซิงพร้อมกับเอ่ยขึ้น “แม่ของเธอคือคนสกุลเฉิน หล่อนไปแล้ว ของที่เหลือเอาไว้ก็ต้องเป็นของสกุลเฉินไปโดยปริยาย ฉันมีอำนาจในการจัดแจงของพวกนั้น”
“งั้นคุณก็ไปคุยกับทนายเองแล้วกัน”
เฉินฝานซิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป
“แม่…นี่มัน…”
“อ้อ จริงสิ…”
จู่ๆ เฉินฝานซิงก็นึกอะไรขึ้นมาได้ หันหลังกลับมาอย่างกะทันหัน แล้วมองไปยังหยางลี่เวยพร้อมกับพูดขึ้น
“ร้านพวกนี้ที่อยู่ภายใต้ชื่อของแม่ฉัน แปดปีมานี้ กำไรทั้งหมดได้เท่าไร ทางที่ดีคุณก็คืนให้ฉันในวันแต่งงานของฉันวันนั้นอย่าให้ขาดแม้แต่สตางค์เดียว อย่าลืมล่ะ”
หยางลี่เวยร่างกายอ่อนเปลี้ย ไถลตัวลงไปจากโซฟา
แปดปี กำไรจากร้านค้าตั้งหลายร้านขนาดนี้ แทบจะเป็นราคาสูงเสียดฟ้าเลยนะ
กี่ปีมานี้ที่เธอถลุงเงินไป ยิ่งไปกว่านั้นก็ถูกเจียงหรงหรงหยิบออกไปชดเชยค่าเสียหายจากการขาดทุนของหลานอวิ้น ตอนนี้เงินที่มีอยู่ในมือพวกนั้น เป็นเงินที่เธอรักษาไว้ได้อย่างยากลำบาก เธอจะยอมคายออกมาอีกได้อย่างไร
ยิ่งไปกว่านั้นต่อให้เอาออกมาจริงๆ ก็ไม่พออยู่ดี
“ไม่ ไม่ มีร้านตั้งหลายร้านที่อยู่ในสภาพขาดทุน กำไรจากทางนี้ก็เอาไปเสริมให้กับทางนั้นแล้ว แทบจะไม่เหลือกำไรอะไรเลยด้วยซ้ำ ฉันจะเอาอะไรไปคืนให้เธอ”
“งั้นเหรอ แต่ว่าเรื่องพวกนี้ ถึงเวลาให้สำนักงานพาณิชย์ตรวจสอบ แป๊บเดียวก็รู้”
สุดท้าย เฉินฝานซิงไม่แยแสใบหน้าเหยเกของหยางลี่เวยและเจียงหรงหรง เธอยกยิ้มมุมปากอย่างสบายใจ อีกทั้งยังพูดย้ำคำพูดที่พูดก่อนหน้านี้อีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูมีความหมายลึกซึ้งและหนักแน่นกว่าเดิม
“จำไว้ วันแต่งของฉันวันนั้น ที่เป็นของฉันทั้งหมดจะต้องคืนให้ฉัน นั่นเป็นเงินที่เยอะมากๆ เลยนะ…”
ตอนที่ 622 ยังไม่ตัดใจ
หยางลี่เวยได้ยินดังนั้นก็กลอกตาไปมา ปิดปากแน่นไม่พูดอะไรอีก
“หยุดนะ” เมื่อเห็นว่าเฉินฝานซิงกำลังจะไป เจียงหรงหรงก็รีบตะคอกออกมาทันที
เฉินฝานซิงเลิกคิ้วขึ้น หันไปมองเธอด้วยสายตาเรียบเฉย “ประธานเจียงยังมีธุระอะไรเหรอ”
สีหน้าของเจียงหรงหรงย่ำแย่กว่าหยางลี่เวยอย่างเห็นได้ชัด “ตอนนั้นที่แม่แกเข้ามาในบ้านสกุลเฉิน สินเดิมสักอย่างก็ไม่มี ถ้าหากไม่ได้สกุลเฉินช่วยหนุน แม่แกไม่มีทางทำอะไรแบบนี้ออกมาได้หรอก…”
“ยังไม่ตัดใจอีกเหรอ” เฉินฝานซิงตัดบทด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ฉันจะบอกพวกคุณให้นะ อย่ามาคิดบัญชีอย่างละเอียดกับฉัน ประธานเจียง แบบนี้ยิ่งทำให้เห็นว่าคุณสิ้นไร้ไม้ตอกแล้วจริงๆ แม่ของฉัน ตอนนั้นไม่ได้มีสินเดิมอะไรติดตัวมา แต่พวกคุณสกุลเฉินให้สินสอดกับแม่ฉันสักสตางค์ไหม ตอนนั้นที่แม่ฉันแต่งเข้ามา สกุลเฉินของพวกคุณสภาพเป็นแบบนี้ หรือว่าคุณไม่ได้รู้อยู่แกใจหรอกเหรอ ถ้าไม่ใช่แม่ฉัน หลานอวิ้นคงพังไปตั้งนานแล้ว ถ้าไม่ใช่แม่ฉัน สกุลเฉินกลายเป็นตระกูลตกอับไปตั้งนานแล้ว ถ้าไม่ใช่แม่ฉัน ไม่มีทางเลี้ยงพวกหมาป่าหิวโซอย่างพวกคุณให้มายืนตะโกนปาวๆ ใส่หน้าฉันในวันนี้อย่างนี้ได้หรอก”
ระหว่างที่พูด สายตาของเธอก็ไปหยุดอยู่บนตัวหยางลี่เวยอีกครั้ง สีหน้าเฉยชา
“คุณหยางตั้งท้องต้องดูลมฟ้าอากาศ ตอนที่บ้านสกุลเฉินไม่มีอะไรเลย คุณแอบอยู่แสนไกล แต่พอสกุลเฉินเริ่มมีหน้ามีตา ท้องของคุณคิดจะโตก็โตขึ้นมาได้”
เฉินฝานซิงมองไปรอบๆ คฤหาสน์หลังใหญ่โตโอ่อ่า พลางแสยะหัวเราะอย่างแดกดัน “บ้านที่แม่ฉันทุ่มเทเลือดเนื้อสร้างมันขึ้นมา ตอนนี้กลายเป็นที่เลี้ยงมือที่สามและลูกสาวของมือที่สาม ยิ่งไปกว่านั้นยังคิดจะฮุบของทั้งหมดของแม่เอาไว้อีก…”
เธอหันไปมองทางหยางลี่เวยช้าๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “คุณหยาง คุณไม่กลัวว่ากินมากเกินไปแล้วจะติดคอตายหรอกเหรอ”
“เธอ…” หยางลี่เวยถูกพูดถึงจนหูแดงหน้าแดง กำลังคิดจะตอบโต้ แต่กลับถูกคำพูดของเฉินฝานซิงขัดขึ้นมาก่อน
“ฉันกับแม่ของฉัน บางทีชะตาชีวิตอาจยังขาดมือที่สาม ฟ้าดินเลยส่งคู่แม่ลูกมือที่สามมาเพื่อฉกฉวยโอกาสโดยเฉพาะมายังตรงหน้าพวกเรา สกุลเฉินก้าวหน้าแล้ว คุณก็ได้ตำแหน่ง สกุลซูรุ่งเรืองแล้ว ลูกสาวของคุณก็ได้ตำแหน่ง เหอะ…”
เฉินฝานซิงยิ่งพูดก็ยิ่งกระแทกกระทั้น เธอกับแม่สมแล้วที่เป็นแม่ลูกกัน แม้แต่โชคชะตาก็ยังคล้ายกันขนาดนี้
“ตามไม่ทันลูกไม้ของพวกคุณคู่แม่ลูก เป็นเพราะฉันกับแม่ฉันไร้ความสามารถ แต่ว่า คิดจะชุบมือเปิบ นั่งเสวยสุขอยู่บนความมั่งคั่งที่พวกเราสร้างขึ้น พวกคุณฝันไปเถอะ สกุลเฉินและสกุลซู ฉันจะคอยดูว่าพวกคุณจะยอมอยู่ไปได้อีกนานแค่ไหน…”
หยางลี่เวยและเฉินเชียนโหรวถูกแดกดันจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน จากความอับอายกลายเป็นความโกรธเคือง
“เฉินฝานซิง เธอคิดว่าเธอแน่แค่ไหนกัน สกุลเฉินและสกุลซูจะล้มง่ายๆ อย่างที่เธอพูดเลยหรือไง ตอนนี้ถึงแม้สถานการณ์หลานอวิ้นจะไม่สู้ดีนัก แต่ไม่มีทางถูกกดไปตลอดแน่ ซูซื่อ ครอบครัวใหญ่กิจการก็ใหญ่ เธอคิดว่าเธอแตะนิดแตะหน่อย จะทำอะไรพวกได้อย่างนั้นเหรอ ยิ่งไปกว่านั้น…”
“ยิ่งไปกว่านั้น เชียนโหรวของพวกคุณก็คือ Rossana ผู้โด่งดันอันดับต้นของเอเชีย กำลังจะเข้าแข่งขันระดับนานาชาติ อีกทั้งจะต้องชนะฉันอย่างแน่นอน ขอแค่เอาชนะฉันได้ หลานอวิ้นไม่เพียงแค่กลับมารอดอีกครั้ง ซูซื่อก็จะยกระดับขึ้นไปอีกขั้นด้วย แบบนี้ สกุลซูและสกุลเฉินสองสกุลจับมือกัน ครอบครองทุกอย่างในเมืองนี้ ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ ใช่ไหม”
เฉินฝานซิงพูดแทรกคำพูดของหยางลี่เวยอีกครั้ง เธออ่านใจของพวกเธอทั้งหลายได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง
หยางลี่เวยเชิดปลายคางขึ้นเล็กน้อย “เธอรู้ก็ดี ยังไงเธอก็เป็นคนสกุลเฉิน แต่กลับดื้อดึงขนาดนั้น ถึงเวลาถูกคนกดจนโงหัวไม่ขึ้นแล้วอย่ามาคิดเสียใจภายหลังล่ะ…เธอยังสาวยังแส้ เธอน่ะ…จะยอมอ่อนข้อให้กับที่บ้านบ้างไม่ได้หรือไง”
พูดจาแข็งกร้าวอยู่นาน สุดท้ายก็ต้องยอมโอนอ่อน ในใจหยางลี่เวยยังคงนึกถึงสินเดิมพวกนั้นที่ต้องเตรียมไว้ให้เฉินเชียนโหรวอยู่