ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย - ตอนที่629ให้ผมจูบคุณก่อนตอนที่630ดูว่าเขากล้าดีแค่ไหน
- Home
- ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย
- ตอนที่629ให้ผมจูบคุณก่อนตอนที่630ดูว่าเขากล้าดีแค่ไหน
ตอนที่ 629 ให้ผมจูบคุณก่อน
ชาติตระกูลของสุกลป๋อ เธอย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ ถึงแม้จะไม่ต้องกังวลว่าคุณย่าจะคัดค้าน แต่คนอื่นๆ ของสกุลป๋อล่ะ
พ่อแม่ ปู่ของป๋อจิ่งชวน หรือแม้แต่กระทั่งคนอื่นๆ พวกเขาจะมีท่าทีอย่างไรกัน
ไม่ใช่เธอเป็นกังวลมากเกินไป แต่ปัญหาเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นเรื่องที่มีอยู่และต้องเผชิญหน้ากับมัน
เมื่อสังเกตได้ถึงปฏิกิริยาตอบสนองเล็กๆ ของเธอ ป๋อจิ่งชวนก็ออกแรงบีบมือของเธอเบาๆ
“ไม่มีใครบงการเรื่องของผมได้ ไม่ว่าใครก็ทำไม่ได้ทั้งนั้น”
เฉินฝานซิงเงยหน้าขึ้นไปมองเขาปราดหนึ่ง ใบหน้าเผยให้เห็นรอยยิ้มที่อบอุ่นออกมา
จืดจางมาก แต่เป็นยิ้มแสนปลอดภัย และเป็นยิ้มที่แฝงไว้ซึ่งความปลอบโยน
รอยยิ้มแบบนั้น ทำให้ป๋อจิ่งชวนใจเต้นขึ้นมากะทันหัน
เฉินซั่งหวาถอนหายใจอย่างรุนแรนก่อนจะส่ายหน้าเล็กน้อย
นี่มันใช่ปัญหาที่จะตัดสินใจเพียงคนเดียวได้เสียที่ไหน
ถ้าหากเป็นแค่ตระกูลร่ำรวยธรรมดาทั่วไปก็พอได้ แต่นี่คือป๋อซื่อ…
ตระกูลยิ่งใหญ่ระดับที่แม้แต่ทั่วโลกก็ถึงกับต้องยอม
สมัยก่อนที่ฮ่องกง สิ่งที่ทำก็คือการลับค้าอาวุธเปิดกิจการสถานบันเทิง ธนาคารใต้ดิน การค้ามนุษย์ เห็นชีวิตมนุษย์เป็นเหมือนมดตัวเล็กๆ
กิจการของสกุลป๋อยิ่งใหญ่ นายหญิงของนายท่านสกุลป๋อมีมากมายจนนับไม่ถ้วน เพียงแต่ว่าทายาทที่เหลือรอดมาได้เพราะกลอุบายต่างๆ นั้นไม่นับว่ามากนัก อย่างคุณชายในตอนนี้ก็ยังมีพี่น้องอีกสองคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเหล่าพี่น้องที่คอยจ้องจะทำลายป๋อซื่อ
ประตูสู่สกุลป๋อนี้ เข้าไปได้ แต่ก็เหมือนกับขึ้นหลังเสือที่เต็มไปด้วยอันตราย
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากไม่คู่ควร นายท่านคนนั้นของสกุลป๋อจะยอมรับหญิงสาวที่ช่วยเหลืออะไรหลานชายตัวเองไม่ได้เลยได้อย่างไร
นี่ฟังดูแล้วเป็นเรื่องที่สวยงามทรงเกียรติ แต่ในความเป็นจริงล่ะ
เฉินฝานซิงมองไปยังเฉินซั่งหวา สายตาที่หนักแน่นบริสุทธิ์หยุดนิ่งอยู่นานก่อนจะเอ่ยขึ้นมาช้าๆ
“คุณปู่ ไม่ต้องกังวล เขาเป็นคนที่หนูชอบ และหนูเลือกแล้ว หนูยินดีจะแต่งงานกับเขาเอง หนูจะเชื่อฟังคำพูดคุณปู่ จับตาดูเขาให้ดีหน่อย แล้วหนูก็เชื่อใจเขา”
เฉินซั่งหวาชำเลืองไปมองเธออย่างลึกซึ้ง ก่อนจะถอนหายใจออมาอีกครั้ง
“ฉันรู้ว่าฉันควบคุมเธอไม่ได้ แต่ขออย่าให้เธอนึกเสียใจภายหลัง ฉันก็ไม่ได้มีความหวังอย่างอื่น แค่ใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุขแข็งแรงก็พอ”
ใบหน้าของเฉินฝานซิงโอนอ่อนลงมา ความซาบซึ้งประดังเข้ามาในใจ
“หนูรู้ค่ะ คุณปู่”
“เอาละ ไปพักผ่อนเถอะ” ระหว่างที่เฉินซั่งหวาพูดก็หยิบไม้เท้าขึ้นมาประคองตัวเองให้ลุกขึ้น
เฉินฝานซิงส่งเขาไปยังห้องรับรองแขก หลังจากจัดแจงทุกอย่างให้เขาเข้าที่เข้าทางจึงออกมาจากห้องพร้อมกับปิดประตู
จากนั้นก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วยกมือขึ้นมาเสยผมเล็กน้อย
ทว่าขณะนั้นเธอกลับรู้สึกว่าร่างกายเบาขึ้นอย่างกะทันหัน แล้วถูกคนอุ้มขึ้นมา
“ว้าย”
เฉินฝานซิงร้องเสียงเบา พลันจับไหล่ของชายหนุ่มไว้ตามสัญชาตญาณ
ในห้องนี้ คนที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดว่าจะทำเรื่องแบบนี้ แน่นอนว่าไม่มีทางมีใครให้สงสัยเป็นคนที่สอง
เมื่อตั้งสติได้ หลังจากที่มองเห็นใบหน้างดงามของชายหนุ่มอย่างชัดเจนแล้ว เฉินฝานซิงมองเขาด้วยสายตาติเตียนเล็กน้อย เนื่องจากคำนึงถึงคุณปู่ที่อยู่หลังประตูกั้น เธอจึงจงใจกดเสียงให้เบาลง
“คุณทำอะไร”
นัยน์ตาดำขลับจดจ้องไปยังที่เธอวูบหนึ่ง ก่อนจะก้มหน้าจุมพิตลงบนเรียวปากของเธอเบาๆ จากนั้นก็อุ้มเธอขึ้นไปชั้นบน
–
เดินตรงดิ่งขึ้นไปถึงห้องนอน ป๋อจิ่งชวนใช้เท้าถีบประตูห้องให้เปิดออก แล้วกดทับเธอไว้กับบานประตูทันที
เฉินฝานซิงมองเขาด้วยอาการหอบ “คุณ…”
“ให้ผมจูบคุณก่อน”
ฝ่ามือหนาใหญ่ของป๋อจิ่งชวนดึงเสื้อเชิ้ตที่จุกอยู่ในกระโปรงออกมา ก่อนจะสอดเข้าไปเพื่อสัมผัสกับผิวเนื้อเนียนละเอียดอุ่นๆ ของเธอโดยตรง ทั้งยังประกบแนบกับลำตัวของเธอชิดกว่าเดิม
ตอนที่ 630 ดูว่าเขากล้าดีแค่ไหน
เฉินฝานซิงร่างกายสั่นสะท้าน ริมฝีปากแดงระเรื่อขยับเล็กน้อย ยังไม่ทันได้พูดตอบอะไร ป๋อจิ่งชวนก็พลันประชิดเข้ามาประกบลงไปบนริมฝีปากที่เขาเฝ้าคิดถึงมาทั้งวันแล้ว
มือทั้งสองข้างของเฉินฝานซิงจับเสื้อเชิ้ตบริเวณแผงอกของเขาไว้แน่น พร้อมกับเงยหน้าตอบรับจูบที่ดูดดื่มราวกับจะกลืนกินเธอเข้าไปของป๋อจิ่งชวน
ผ่านไปครู่ใหญ่ กว่าป๋อจิ่งชวนจะผละตัวออกมา แนบชิดหน้าผากพลางมองใบหน้าที่แดงก่ำของเธอ
ขาทั้งคู่ของเฉินฝานซิงอ่อนระทวย หลายครั้งที่ลำตัวสั่นไหวไถลลงมาด้านล่าง สุดท้ายเกินกำลังที่จะทรงตัวด้วยแรงของตัวเองได้จึงแอบแนบลำตัวชิดติดกับร่างของป๋อจิ่งชวนเพื่อเป็นที่หนุนค้ำ
ป๋อจิ่งชวนเข้าใจทันที ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วอุ้มเธอขึ้นไปที่ขอบเตียง หน้าผากเนียนขาวแวววาวอยู่ตรงหน้า ป๋อจิ่งชวนเข้าไปจุมพิตเบาๆ
จากนั้นก็ประคองเส้นผมของเธอพลางพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำฟังดูอันตราย
“ฝานซิง คุณไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น ผมจะไม่ยอมให้ใครทำร้ายคุณได้”
เฉินฝานซิงอมยิ้มพร้อมกับส่ายหน้าเล็กน้อย ก่อนจะจับมือของป๋อจิ่งชวนเอาไว้
“ฉันรู้ คุณไม่มีทางทำแบบนั้น แต่ว่า ฉันไม่ได้ต้องการให้คุณปกป้องฉันตลอดเวลา ฉันปกป้องตัวเองได้ ฉันไม่อยากเป็นตัวถ่วงของคุณ ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่อยากเป็นจุดอ่อนของคุณด้วย”
แววตาดำสนิทของป๋อจิ่งชวนสั่นระริกอย่างเห็นได้ชัด
ทันใดนั้นเอง ภายในหัวพลันนึกถึงคำพูดที่เธอเคยพูดก่อนหน้านี้ เธอเคยบอกแต่แรกแล้วว่า เธอไม่อยากเป็นภาระของเขา เธอต้องการให้เขาเดินไปข้างหน้าอย่างเต็มที่ ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงเธอ…
ที่แท้ เธอคำนึงถึงปัญหานี้มาตั้งนานแล้ว…
รู้มาตั้งนานแล้วว่าต่อไปอาจจะต้องเผชิญหน้ากับปัญหา แต่เธอก็ยังคงเลือกที่จะเชื่อเขา
ในขณะที่ป๋อจิ่งชวนกำลังเหม่ลอย เฉินฝานซิงก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง
“เพราะงั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะไม่ไปจากคุณ…”
ป๋อจิ่งชวนโอบกอดเธอไว้แน่น “คุณคิดว่าผมจะยอมปล่อยให้คุณไปเหรอ”
เฉินฝานซิงพยักหน้า แววตาจริงจังกว่าปกติ
“ใช่”
ดวงตาดำขลับของป๋อจิ่งชวนจ้องมองไปที่เธอ จู่ๆ ก็หัวเราะออกมาเสียงเบา
“เป็นไปได้ยังไง ในเมื่อเป็นคุณของผมแล้ว คุณก็จะเป็นของผมไปตลอดชีวิต ไปจากผม? อย่าแม้แต่จะคิด”
เฉินฝานซิงเลิกคิ้ว ใบหน้าเผยให้เห็นรอยยิ้มแห่งความสบายใจ
ป๋อจิ่งชวนมองเธออย่างหมดหนทาง ไม่รู้ว่าอยู่ๆ ก็คิดอะไรขึ้นมาได้จึงยื่นมือออกไปดีดหน้าผากเธออย่างกะทันหัน
“โอ๊ย คุณทำอะไรน่ะ เจ็บนะ”
เฉินฝานซิงร้องด้วยความเจ็บพร้อมกับกุมหน้าผากเอาไว้พลางจ้องเขาเขม็งด้วยสายตาตัดพ้อ
ป๋อจิ่งชวนยื่นมือไปดึงมือของเธอออก มองดูบริเวณที่ตัวเองเพิ่งดีดลงไปเมื่อครู่นี้ เห็นรอยแดงเป็นแถบอย่างที่คิดไว้
ในขณะที่ฝ่ามือของเขาคลึงอยู่บนนั้นเบาๆ ปากก็ยังคงบ่นเอ็ดอยู่
“อยากจะรู้จริงๆ ว่าในสมองของคุณนี่ วันๆ คิดอะไรอยู่บ้าง ทำไมเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้คุณก็คิดออกมาได้”
เฉินฝานซิงซุกตัวเข้าไปในอ้อมกอดของเขาแล้วซบลงกับไหล่ ก่อนจะพูดอย่างตรงไปตรงมา
“แบบฉันนี่เรียกว่ากันไว้ดีกว่าแก้ คิดถึงเรื่องที่มีโอกาสจะเกิดไว้ก่อน ถึงจะไม่ลนลานทำอะไรไม่ถูกตอนที่เรื่องนั้นเกิดขึ้นจริงๆ”
ป๋อจิ่งชวนยกยิ้มมุมปาก ท่าทางที่กำลังนวดหน้าผากให้เธอผ่อนแรงจนเบาลงไปอย่างรู้สึกได้
“ดูคุณสิ เก่งขนาดนี้เชียว”
เฉินฝานซิงหันไปมองเขา ดวงตาฉายประกายวิบวับ “งั้นคุณก็ต้องระวังหน่อยนะ คนที่เก่งอย่างฉันแบบนี้ ถ้าหากโดนคนอื่นแย่งไป คุณจะทำยังไง”
ได้ยินดังนั้น ป๋อจิ่งชวนก็รีบปล่อยเธอออกทันที
“ทำยังไงน่ะเหรอ ถึงเวลาผมคงต้องดูว่าในตัวผู้ชายคนนั้นกล้าดีมากแค่ไหนกัน”