ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย - ตอนที่637&ตอนที่638
ตอนที่ 637 พรุ่งนี้พักผ่อนหนึ่งวัน
เมื่อเห็นว่าวันมะรืนเธอจะต้องไปฝรั่งเศสแล้ว หลังจากที่กินมื้อค่ำเสร็จ ป๋อจิ่งชวนก็ฉุดเธอลงมาที่ชั้นล่างทันที
หลังจากเข้าประตูมา ป๋อจิ่งชวนก็ทำหน้าขรึม พลันกดเฉินฝานซิงไว้ที่ประตูโดยไม่รีรอ
“จะทำอะไร”
วิ่งเหยาะๆ มาตลอดทาง ทำให้ตอนที่เฉินฝานซิงพูดจึงมีอาการหอบเล็กน้อย
ป๋อจิ่งชวนก้มหน้าลงจ้องมองไปที่เธอ “ยังจะแกล้งโง่อีก หืม”
เฉินฝานซิงเงยหน้าขึ้นไปมองเขา ก่อนจะอมยิ้มน้อยๆ ออกมา
“ฉันฉลาดขนาดนี้ ทำไมต้องแกล้งโง่ด้วย เป็นคนโง่ก็ไม่ใช่เรื่องมีเกียรติอะไรเลย”
“…”
ป๋อจิ่งชวนเพียงแต่จ้องมองเธอ พูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ
ทว่าแต่ก็เพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้น ริมฝีปากเรียวบางของป๋อจิ่งชวนยกให้เห็นเป็นเส้นโค้งบางๆ แฝงไว้ซึ่งความเจ้าเล่ห์ชวนให้คนหลงใหล ซึ่งเห็นได้ไม่บ่อยนักบนใบหน้าที่หล่อเหลาและสูงสง่าใบนั้นของเขา
เขายื่นมือออกมาจับปลายคางของเธอไว้ ร่างสูงประชิดเข้าไปใกล้เฉินฝานซิงมากกว่าเดิม
สองนิ้วลูบไล้ไปบนกรามล่างของเธอเบาๆ ค่อยๆ ไต่ไปบนมุมปากของเธอช้าๆ
“อืม คุณฉลาดจริงๆ”
ระหว่างที่พูด เขาก็โน้มหน้าเข้ามางับลงไปที่บนเรียวปากของเธอเบาๆ น้ำเสียงต่ำแหบพร่า หนักแน่น เย้ายวนหัวใจ
“ในเมื่อคุณฉลาดขนาดนี้ งั้นคืนนี้คุณตัดสินใจแล้วกันว่าจะทำยังไง”
ดวงตาเฉินฝานซิงฉายประกาย ใบหน้าเริ่มแดงระเรื่ออย่างเห็นได้ชัด
รอยยิ้มที่เรียวปากของป๋อจิ่งชวนเผยชัดขึ้น “ทำไม หรือจะต้องให้ผมแนะนำคุณอีกหน่อย หรือว่า คุณไม่กล้า”
เฉินฝานซิงกัดริมฝีปาก มองหน้าป๋อจิ่งชวนด้วยความเขินอาย
เมื่อเห็นใบหูของเธอที่ค่อยๆ แดงขึ้นเรื่อยๆ ใบหูเล็กๆ นุ่มๆ ที่แดงก่ำดูแล้วกลับน่ารักกว่าเดิมไม่น้อย
เขาค่อยๆ มือสอดเข้าไปใต้เสื้อของเธอแล้วอ้อมผ่านเอวก่อนจะเลื่อนผ่านกระดูกสันหลังที่สวยงามขึ้นไปเรื่อยๆ เฉินฝานซิงกัดริมฝีปากแน่น ทุกครั้งที่ปลายนิ้วดูเหมือนจะมีปฏิกิริยาเบาๆ กับผิวหนัง เฉินฝานซิงกลับสัมผัสได้เพียงแค่ว่าปลายนิ้วของเขานั้นราวกับมีกระแสไฟฟ้า ทำให้เธอรู้สึกราวกับมีไฟกำลังลุกลามจากปลายเท้าขึ้นมาไปจนทั่วร่างของเธอ
จากภายในสู่ภายนอก กำลังแผดเผาเธออยู่
ร่างของเธอสั่นเทาเล็กน้อย หลังจากที่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งจึงหันหน้าไปมองป๋อจิ่งชวน
เธอคล้ายกับจะออกแรงกัดริมฝีปากมากกว่าเดิมเล็กน้อย เพื่อที่จะยับยั้งร่างกายที่สั่นเทาโดยไม่สมัครใจของตนเอง
ดวงตาคู่นั้นกำลังสั่นไหว ภายในเต็มไปด้วยประกายระยิบระยับให้เห็นลางๆ
ไม่ใช่ทฤษฎีที่มีอยู่เต็มหัวเหล่านั้นอีกต่อไป เขาทั้งคู่ได้ผ่านเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงมาแล้ว ถึงแม้ครั้งแรก ป๋อจิ่งชวนจะทำรุนแรงไปบ้าง แต่สิ่งที่สัมผัสได้ระหว่างนั้นกลับทำให้คนอยากจะลิ้มลองมันอีกครั้ง
เมื่อเห็นอารมรณ์ความลุ่มหลงภายในดวงตาของเธอ นัยน์ตาดำสนิทของป๋อจิ่งชวนก็ดูลึกลับขึ้นเรื่อยๆ
เขาเอนตัวลงก่อนจะเปิดปากแล้วงับหูข้างหนึ่งของเฉินฝานซิงไว้ เฉินฝานซิงสะดุ้งอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้ามุดต่ำลง แต่กลับแนบติดกับแผงอกของป๋อจิ่งชวน
ลิ้นอุ่นๆ ที่เปียกแฉะขดไปตามติ่งหูของเธอ สลับกับกัดเบาๆ เฉินฝานซิงรู้สึกเพียงว่าขนลุกซู่ไปทั้งตัว พลันกัดริมฝีปากแน่น ในที่สุดก็ทนกับการโลมเล้าของป๋อจิ่งชวนไม่ไหว ปล่อยตัวปล่อยใจแล้วส่งเสียงครางออกมาอย่างแผ่วเบา
“อื้ม...”
เสียงที่อัดอั้นไว้นานมีความนุ่มทุ้ม ทั้งยังหายใจหอบ ทำให้ป๋อจิ่งชวนผ่อนคลายกว่าเดิม
“คุณก็ต้องการเหมือนกัน ใช่ไหม หืม?”
เนื้อเสียงที่แหบพร่าทุ้มต่ำทำให้เฉินฝานซิงใจอ่อนระทวย ทันใดนั้น จุมพิตของป๋อจิ่งชวนก็หยุดอยู่บนแก้ม มือที่อยู่ภายใต้ร่มผ้านวดคลึงอยู่บนร่างกายของเธอ ลมหายใจเร่าร้อนรินรดอยู่บนใบหน้า
“พรุ่งนี้หยุดหนึ่งวัน ผมจะอยู่บ้านเป็นเพื่อนคุณ”
ร่างกายอ่อนปวกเปียกจนเหลือแรงอยู่ไม่มากนัก ความปรารถนาอันร้อนรุ่มที่ถูกปลุกขึ้นภายในตัวทำให้เธอยื่นแขนออกไปเกาะที่ไหลของชายหนุ่มตามสัญชาตญาณ
ตอนที่ 638 ผู้หญิงฉลาด?
ร่างกายที่อ่อนนุ่มของหญิงสาวประชิดตัวชายหนุ่มมากขึ้นตามท่วงท่า
“หืม?” ป๋อจิ่งชวนจูบลงบนหน้าเธอ ก่อนจะส่งเสียงถาม
เฉินฝานซิงกัดริมฝีปากเบาๆ ใบหน้าแดงระเรื่องพยักหน้าช้าๆ
“อืม ได้…”
ป๋อจิ่งชวนยิ้มด้วยท่าทางพอใจ “งั้นคืนนี้ยกให้เป็นหน้าที่คุณ ผู้หญิงฉลาด”
เฉินฝานซิงเงยหน้ามองเขาทันที ภายในแววตาบ่งบอกถึงความจนปัญญา
“ฉัน…”
ป๋อจิ่งชวนเลิกคิ้ว “หืม? ทำไม่เป็น?”
“…” เฉินฝานซิงกัดริมฝีปากไม่พูดจา
ป๋อจิ่งชวนกลับคว้ามือของเธอไปวางบนคอเสื้อเชิ้ตของเขา พร้อมกับพูดด้วยเสียงต่ำชวนหลงใหล
“ถอดมันออก”
เฉินฝานซิงหัวใจเต้นแรง ปลายนิ้วสั่นระรัว ก่อนจะขยับเขยื้อนภายใต้สายตาที่ร้อนแรงของป๋อจิ่งชวน
ป๋อจิ่งชวนกลับถือโอกาสนี้ประกบเรียวปากกระจับสวยได้รูปของเธอ บดขยี้ไปมา ไม่นานนักก็ค่อยๆ รุกล้ำผ่านฟันของเธอเข้าไป อุณหภูมิที่เดือดพล่านกระจายอยู่ระหว่างปากและฟัน ปลายลิ้นถูกเกี่ยวพันและปล่อยออกอีกครั้ง เขาเป็นราวกับผู้ควบคุมโดยสิ้นเชิง ซึมซับความหอมหวานทั้งหมดของเธอตามอำเภอใจ
มือที่อยู่ในร่มผ้าโอบรัดบริเวณด้านหน้าของเธอพร้อมกับสัมผัสถึงความยืดหยุ่นและอ่อนนุ่มของส่วนนั้นอย่างแผ่วเบาและรุนแรงสลับกันไป
เฉินฝานซิงถูกเขาจู่โจมจนสับสนมึนงง ทำได้เพียงแหงนศีรษะขึ้น หากจะเรียกว่าเป็นการตอบรับ ไม่สู้เรียกว่าถูกผู้ชายที่เชี่ยวชาญรอบด้านคนนี้ชี้แนะอยู่เห็นทีจะเหมาะกว่า
“อย่าหยุด ทำต่อไป”
ผ่านไปครู่หนึ่ง น้ำเสียงแหบพร่าทรงเสน่ห์ของป๋อจิ่งชวนดังขึ้น มือพลันจับมือของเธอที่วางอยู่บนปกเสื้อที่ไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหนแล้วบีบเบาๆ
ทำให้เฉินฝานซิงเพิ่งจะนึกขึ้นได้ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาต่อไปด้วยปลายนิ้วสั่นระริก
ป๋อจิ่งชวนกลับมางับริมฝีปากของเธอต่อ ประโลมจูบอย่างไม่รู้จักเบื่อ คลอเคลียอยู่อย่างนั้น
กระดุมเสื้อเชิ้ตถูกปลดออกทีละเม็ด เผยให้เห็นแผงอกกำยำ
หน้าอกที่เห็นกล้ามเนื้อชัดเจนแผ่ซ่านไอความร้อนออกมา ปลายนิ้วที่สัมผัสลงไปรับรู้ได้เพียงแค่ความร้อนรุ่ม
มือของป๋อจิ่งชวนลูบไล้ไปบนแผ่นหลังของเธอเนิ่นนาน แรกเริ่มเฉินฝานซิงกลับรับรู้ไม่ได้ ทว่าในตอนที่พันธนาการที่อยู่ตรงหน้าถูกปลดปล่อยอย่างกะทันหัน เธอถึงเพิ่งจะรู้สึกตัว
จากนั้นก็เป็นมือและสัมผัสที่อบอุ่นใกล้ชิดของเขา ทำให้รู้สึกชาไปทั้งตัว บรรยากาศรอบกายของทั้งคู่ราวกับหลุดไปอยู่ในอีกโลก ซึ่งเพียงพอที่จะให้พวกเขาลืมความสงวนท่าทีความเขินอายทั้งหมดไว้เบื้องหลัง
ความปรารถนาประดังเข้ามา เฉินฝานซิงกัดริมฝีปากเบาๆ มือที่อ่อนนุ่มราวกับไร้กระดูกสอดเข้าไปในเสื้อเชิ้ตของเขา สุดท้ายก็เป็นฝ่ายแนบตัวแอบชิดกับแผงอกเปลือยเปล่าของเขาก่อน
ร่างกายที่อ่อนโยนบอบบอบบางประชิดเข้ามา เป็นสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายโดยสิ้นเชิง
ป๋อจิ่งชวนครางออกมาเบาๆ ก่อนที่มือหนาใหญ่ของเขาจะโอบสะโพกของเธอเอาไว้พลันออกแรงกดลงแนบกับตัวเอง
“อา…”
รับรู้ได้ถึงสัมผัสที่ชัดเจนและร้อนแรงเมื่อเขาแนบชิดติดอยู่กับตรงนั้นของเธอ เฉินฝานซิงส่งเสียงร้องออกมาเบาๆ หนึ่งที ใบหน้าแดงก่ำจนแทบจะเหลือเชื่อ
“จำเอาไว้ให้ดี ผมคาดหวังกับครั้งต่อไปของคุณ”
น้ำเสียงแหบพร่าที่แทบจะไม่เหลือเสียงของป๋อจิ่งชวนดังขึ้น จากนั้นเขาก็งับลงไปบนริมฝีปากของเธอเบาๆ
ป๋อจิ่งชวนคล้ายจะควบคุมแรงของตัวเองไม่ได้ มือเขาโอบเอวของเธอเอาไว้แน่นจนแม้แต่ตนเองก็รู้สึกกังวล
สัมผัสได้ว่าร่างกายของเฉินฝานซิงอ่อนระทวย ไถลลงไปตามแผงอกของเขาอย่างไม่อาจควบคุมได้อีกครั้ง ความอ่อนนุ่มตรงหน้าอกนั้นทำให้ป๋อจิ่งชวนค่อยๆ เหงื่อซึม ก่อนจะกัดฟันพลางอุ้มเฉินฝานซิงขึ้นมาแล้วมุ่งไปยังห้องนอนที่อยู่ใกล้ที่สุด
ไม่นานนัก ทั้งสองคนก็ปลดเปลื้องทุกสิ่งต่อกันและกันอย่างตรงไปตรงมา
จูบของเขา มือของเขาราวกับเวทมนตร์วิเศษที่น่าเหลือเชื่อชนิดหนึ่ง กระแสไฟฟ้าในร่างกายไหลเวียนไปตามเส้นเลือดไม่หยุด เฉินฝานซิงทำได้เพียงเกาะไหล่ของป๋อจิ่งชวนไว้แน่นเพื่อแสวงหาความปลอบโยนอีกอย่างหนึ่ง
ช่วงเวลาที่ทั้งสองคนใกล้ชิดกันแนบแน่น ไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดเหมือนครั้งแรกอีกต่อไป ความรู้สึกเติมเต็มอีกครั้งหลังจากที่เว้นช่วงไปนาน ทำให้เธอรู้สึกได้ถึงความพึงพอใจที่แปลกใหม่จนน่าประหลาดใจ…