ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย - ตอนที่649&ตอนที่650
ตอนที่ 649 ปัญหาค่อนข้างจะรับมือยาก
เฉินฝานซิงเงยหน้าขึ้นมา มองไปทางเธอวูบหนึ่งด้วยความเฉยชา
“แบบนั้นก็สมใจเธอพอดีเลยไม่ใช่เหรอ นอกบ้านต่างเมือง ไม่ได้มีคนเยอะแยะดูอยู่ จะเสแสร้งแกล้งทำอีกทำไม”
เฉินเชียนโหรวกะพริบตาปริบๆ ก่อนที่มุมปากจะค่อยๆ ยกขึ้นมาช้าๆ
“เธอเข้าใจฉันผิดไปแล้วจริงๆ ฉันอยากจะให้เธอเข้ารอบจากใจจริง เคยพูดไว้แล้วนี่ว่าจะทำให้เธอขายหน้าคนทั้งโลกบนเวทีการแข่งขันกระดับนานาชาติ เธอคิดดูสิ ถ้าแม้แต่รอบคัดเลือกเธอยังผ่านเข้าไปไม่ได้ ฉันต้องผิดหวังน่าดูเลย”
เฉินฝานซิงก็ยกยิ้มมุมปากพลางมองไปที่เธอ “งั้นเหรอ งั้นฉันคงต้องตั้งใจจริงๆ จังๆ สักตั้งแล้ว พยายามไม่ให้เธอผิดหวัง…”
เฉินเชียนโหรวพยักหน้า “ไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้อีกแล้ว แต่ว่าจะทำได้จริงๆ เหรอ สิ้นไร้ไม้ตอก ประกอบกับวัตถุดิบในการแข่งขันไม่เพียงพอ เธอคิดจะเข้ารอบ…ยังไงก็ สู้ๆ แล้วกัน…”
ขณะนั้นเอง อันลี่น่าก็เดินออกมาจากสนามแข่ง
เฉินเชียนโหรวรีบเข้าไปหา กุมมืออันลี่น่าด้วยสีหน้าคาดหวังพร้อมกับเอ่ยถาม :
“เป็นยังไงบ้าง ผ่านไหม”
อันลี่น่าดวงตาแดงก่ำ พลางสายหน้าด้วยสีหน้าเศร้าหมอง
“ไม่ น้ำมันหอมระเหยหลักที่ฉันต้องการหมดแล้ว…”
เฉินเชียนโหรวแสดงสีหน้าเสียใจออกมาทันที “น่าเสียดายจริงๆ เลย…”
พูดถึงตรงนี้ สายตาของเธอพลันเหลือบไปมองเฉินฝานซิง ก่อนจะพูดต่อ “ตอนนี้น้ำมันหอมระเหยขาดไปเยอะหรือเปล่า”
อันลี่น่าพยักหน้า “น้ำมันหอมระเหยเกือบครึ่งใกล้จะหมดแล้วทั้งนั้น…”
ระหว่างที่พูดก็หันไปเห็นเฉินฝานซิงที่อยู่ไม่ไกลขึ้นมากะทันหัน ทำให้ในใจทั้งโกรธทั้งอาย
เมื่อไม่นานมานี้เธอเพิ่งจะถากถางเฉินฝานซิงไป พริบตาเดียวเธอก็ถูกเขี่ยตกรอบเสียแล้ว
มองดูสีหน้าของเธอ ถึงแม้จะดูไม่มีอารมณ์อะไรเท่าไรนัก แต่ไม่ว่าจะมองอย่างไรอันลี่น่าก็รู้สึกว่าเธอกำลังประชัดประชันตัวเองอยู่ดี
“ได้ใจอะไร อย่าว่าแต่สิ้นไร้ไม้ตอกเลย ต่อให้ไม่ใช่ แต่ตอนนี้ด้านในวัตถุดิบหายไปตั้งเยอะขนาดนั้น เธอจะเอาอะไรไปเข้ารอบ”
“เอาละ เอาละ อย่าเศร้าไปเลย ครั้งนี้ก็ถือว่ามาลองเวทีแล้วกัน ครั้งหน้าค่อยพยายามใหม่ก็ได้”
เฉินเชียนโหรวไมได้ใส่ใจกับอันลี่น่าสักเท่าไรนัก ไม่ว่าจะเข้ารอบหรือไม่ สำหรับเธอแล้วก็ไม่ได้เป็นภัยอะไรแต่อย่างใด เพียงแต่ว่าถ้าเธอเข้ารอบ ก็อาจจะส่งผลดีกับซูซื่อขึ้นมาได้อีกนิดๆ หน่อยๆ
การแข่งขันดำเนินไปเรื่อยๆ จนถึงตอนเที่ยงก็ยังไม่จบ เฉินฝานซิงที่เป็นผู้เข้าแข่งขันกลุ่มสุดท้าย ในที่สุดก็ได้เข้าไปในสนามแข่งในตอนบ่ายสองโมงตรง
การคาดเดาก่อนหน้านี้ไม่ผิดเลยแม้แต่น้อย น้ำมันหอมระเหยหมดไปสองในสามส่วนแล้ว แอลกอฮอล์ก็เหลือไม่มากนัก เครื่องแก้วสำหรับใส่น้ำหอมก็ล้มระเนระนาดไม่เป็นที่ สนามแข่งขันสุดแสนยุ่งเหยิง
หันไปดูคณะกรรมกี่ท่านที่นั่งอยู่ด้านล่างเวที นั่งมาจนใกล้จะหกชั่วโมงแล้ว เวลานี้สีหน้าหมดความอดทนอย่างชัดเจน ไม่มีการแสร้งปิดบังเลยสักนิด เห็นได้ชัดว่าความอดทนต่อการแข่งขันครั้งนี้ใกล้จะหมดลงเต็มทีแล้ว
ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นมองเห็นของสภาพน่าอนาถบนเวที ไม่แม้แต่จะแข่ง บางคนถึงขั้นโกรธจนเสนอให้ฝ่ายผู้จัดเพิ่มวัตถุดิบทั้งหมดให้ครบ
แต่ว่าน้ำมันหอมระเหยไม่ใช่สิ่งของธรรมดาทั่วไป ที่พวกเขาคำนวณไว้แต่แรกนั้นมีพอเหลือเฟืออย่างแน่นอน
แต่ใครจะไปคิดว่าผู้เข้าแข่งขันในตอนนี้ไม่คิดที่จะประหยัดหวงแหนน้ำมันหอมระเหยเลยสักนิด ยิ่งไปกว่านั้นยังมีหลายคนคิดไม่ซื่อ ตั้งใจใช้น้ำมันหอมระเหยให้หมดเพื่อตัดโอกาสผู้เข้าแข่งขันด้านหลัง
เวลานี้จะนำน้ำมันหอมระเหยมาเพิ่มให้ ไม่มีทางทันแน่นอน
ถึงแม้ว่านี่จะเป็นจุดบกพร่อง แต่ว่าไม่ว่าเรื่องอะไรต่างก็มีเหตุผลที่ไม่อาจจะคัดค้านได้ หลายๆ ครั้งดวงก็เป็นปัจจัยที่สำคัญมากอย่างหนึ่ง
ในสนามแข่งที่กว้างขวางใหญ่โต บนชั้นวางหลังเวทีที่ยาวถึงหกสิบกว่าเมตร น้ำมันหอมระเหยทั้งหมดวางเบียดเสียดอัดแน่นอยู่เต็ม น้ำมันหอมระเหยกว่าพันชนิด ปรากฏว่ากลับถูกพังจนอยู่ในสภาพแบบนี้ เหตุผลบางประการในนั้น แค่ลองคิดๆ ดูก็พอจะเข้าใจดี
เฉินฝานซิงมองซ้ายทีขวาที น้ำหอมระเหยที่เหลืออยู่จะนำมาผสมให้เข้ากันนั้นเป็นเรื่องยากจริงๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องให้ถูกใจเข้าตากรรมการ
คิ้วของเฉินฝานซิงเริ่มขมวดเข้าน้อยๆ ปัญหานี้ ค่อนข้างจะรับมือยากอยู่จริงๆ
ทว่าขณะนั้นเอง ม่านของที่จัดงานก็ถูกเปิดออกจากด้านนนอก...
ตอนที่ 650 ฮือฮา
ทว่าขณะนั้นเอง ม่านของที่จัดงานก็ถูกเปิดออกจากด้านนนอก...
ทุกคนต่างก็หันไปมองทางหน้าประตู ก็ได้พบกับพระมเหสีมาทิลด้าเดินเข้ามา…
กรรมการทุกคนต่างพากันลุกขึ้นยืนยกมือวางไว้บนหน้าอกเพื่อถวายความเคารพต่อพระมเหสีมาทิลด้า
ฝ่ายผู้จัดงานรีบร้อนเข้าไปต้อนรับ เดินขนาบด้านข้าง
“พระมเหสีเสด็จมาแล้ว?”
มาทิลด้ายิ้มด้วยใบหน้าที่อ่อนโยน “อืม ไม่อยากจะพลาดการแข่งขันวันนี้น่ะ”
สีหน้าของผู้จัดเปลี่ยนไปเล็กน้อย ตอนนี้การแข่งขันดำเนินมาถึงผู้เข้าแข่งขันกลุ่มสุดท้ายแล้ว วัตถุดิบหลายอย่างขาดแคลน โดยภาพรวมแล้วเรียกได้ว่าพวกเขายอมสละผู้เข้าแข่งขันกลุ่มนี้ไปโดยสิ้นเชิงแล้ว
ตอนนี้พระมเหสีเสด็จมา เกรงว่าจะต้องผิดหวัง
“อะแฮ่ม…”
พระมเหสีมาทิลด้าได้รับเชิญให้ไปยังที่ประทับ เพียงแต่ระหว่างทางที่เดินไปได้กระแอมออกมาเบาๆ
ฝ่ายผู้จัดรีบสั่งให้คนเอาน้ำมาให้
“พระมเหสีทรงไม่สบายพระวรกาย?”
มาทิลด้ายิ้มจางๆ พร้อมกับส่ายหน้า “ก็แค่ไอนิดหน่อย นานๆ ทีจะมีอาการแบบนี้”
“พระองค์ทรงงานจนเหน็ดเหนื่อย”
พระมเหสีเพียงแต่อมยิ้มน้อยๆ ดวงตาสีเขียวมรกตหันไปมองบนเวที ในขณะที่สายตาพลันเหลือบไปเห็นเฉินฝานซิง นัยน์ตาก็ชะงักงันไปเล็กน้อย
เมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาของพระมเหสีมาทิลด้า เฉินฝานซิงหันหน้ามาตอบรับสายตาเธอด้วยการพยักหน้าเบาๆ
ท่าทางที่ดูนิ่งขรึมและสง่า ไม่เกรงกลัวนั้น ทำให้สายตาของพระมเหสีมาทิลด้าฉายประกายชื่นชมและความสงสัยเล็กน้อย
“แข่งไปถึงไหนแล้ว”
ท้ายที่สุดพระมเหสีก็ละสายตาออกมาแล้วหันหน้าไปถามผู้รับผิดชอบงานที่อยู่ข้างๆ
“พระมเหสี การแข่งขันรอบคัดเลือกตอนนี้ดำเนินมาถึงผู้เข้าแข่งขันกลุ่มสุดท้ายแล้ว”
“งั้นเหรอ ดูเหมือนจะบังเอิญจริงๆ เลยนะ”
“แหะ…แหะ แหะ…” ฝ่ายผู้จัดอยากจะร้องไห้แต่ก็ไร้ซึ่งหยดน้ำตา เขาไม่รู้สึกบังเอิญเลยสักนิด
“อะแฮ่ม…” พระมเหสีกระแอมออกมาเบาๆ อีกครั้ง สุดท้ายก็โบกมือ “ให้พวกเขาไปแข่งต่อเถอะ”
“ค่ะ”
สายตาของเฉินฝานหยุดอยู่บนตัวพระมเหสีมาทิลด้าครู่หนึ่ง ก่อนที่สุดท้ายจะหันหลังเดินไปยังชั้นวางน้ำมันหอมระเหย ลังเลอยู่นาน ในที่สุดก็เจอน้ำมันหอมระเหยขวดหนึ่งที่วางอยู่ด้านบนของชั้นวาง
เป็นน้ำมันหอมระเหยที่ไม่โดนแตะต้องมาก่อนเลย จัดเป็นน้ำมันหอมระเหยประเภทที่ไม่ค่อยมีใครนิยมสักเท่าไร
แล้วก็ยากที่จะมีฝ่ายผู้จัดที่เตรียมพร้อมให้ครบครันรอบด้านขนาดนี้
หลังจากนั้นก็ค่อยๆ หาวัตถุดิบที่พอจะใช้ประโยชน์ได้ จึงจดจ่ออยู่กับการสร้างสรรค์ผลงานไปโดยปริยาย
สุดท้ายผู้ที่เข้างานมาห้าสิบคน จากตอนแรกที่เลือกจากไปเพราะน้ำหอมระเหยมีไม่พอ สามสิบกว่าคน จึงเหลืออยู่สิบกว่าคน มีเพียงแค่สองคนที่แย่งชิงน้ำมันหอมระเหยจำนวนไม่มากมาได้สองสามขวดและได้เข้ารอบไปแบบพอถูๆ ไถๆ
สุดท้ายเหลือเพียงแค่เฉินฝานซิงคนเดียว
เวลานี้กรรมการแต่ละคนต่างก็หมดความอดทนไปตั้งนานแล้ว เฝ้ารอเพียงแต่จะได้กลับพักผ่อนให้เต็มที่สักครู่หนึ่งหลังจากที่แข่งจบ
ทั้งๆ ที่รู้ดีอยู่แล้วว่าไม่อาจะมีผลงานไหนทำให้ตะลึงได้อีกแล้ว แต่กลับต้องนั่งเปลืองแรงอยู่ตรงนี้เพียงเพราะเฉินฝานซิง
พระมเหสีมาทิลด้าก็ดันดูเหมือนจะสนใจในตัวเธอเป็นพิเศษ คอยแต่จ้องมองเธออยู่ตลอด
สุดท้าย เฉินฝานซิงราวกับว่าสร้างสรรค์ผลงานเสร็จแล้ว กรรมการหลายๆ คนและพระมเหสีมาทิลด้าล้วนแต่ได้เห็นเธอเงยหน้าขึ้นนมาสักที
และแล้วดวงตาที่เย็นชาแต่กลับเต็มไปด้วยความมั่นใจและสติปัญญาก็กวาดตามองไปบนเคาน์เตอร์ปราดหนึ่ง สุดท้ายก็เห็นหลอดแก้วทดลองที่ยังไม่ได้ใช้หลอดหนึ่ง
เธอยกมือขึ้น ก่อนจะสะบัดลงมา
“เพล้ง” เสียงกระจกแตกกระจายดังลั่น ทำเอาผู้คนหลายคนในงานต่างก็สะดุ้งตกใจ
“ผู้เข้าแข่งขันท่านนี้ นี่คุณจะทำอะไร”
จงใจทำลายอุปกรณ์ต่อหน้าสายตาผู้คนมากมาย นี่เห็นพวกเขาเป็นของตายหรืออย่างไร
เฉินฝานซิงกลับไม่ได้พูดอะไร การกระทำถัดมาของเธอก็ยังคงสามารถทำให้ผู้คนฮือฮาด้วยความตกใจ
พระมเหสีมาทิลด้าเองก็อดร้องอุทานออกมาเบาๆ ไม่ได้…