ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย - ตอนที่677เชื่อมั่นในตัวเธอตอนที่678เป็นแม่เธอได้ห้าชาติ
- Home
- ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย
- ตอนที่677เชื่อมั่นในตัวเธอตอนที่678เป็นแม่เธอได้ห้าชาติ
ตอนที่ 677 เชื่อมั่นในตัวเธอ
เฉินฝานซิงหลุบสายตาลงมอง แล้วยื่นมือออกไปรับเช็คใบนั้นขึ้นมาดู
หกร้อยห้าสิบล้านหยวน หลังจากที่ตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยแล้ว เฉินฝานซิงจึงหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วเก็บเช็คใบนั้นลงไป
เจียงหรงหรงหรี่มองการกระทำของเธอ ด้วยความกลัวว่าเธอจะฮุบเงินก้อนนั้นไป
ทว่าไม่นาน เธอก็เห็นว่าเฉินฝานซิงหยิบซองเอกสารซองหนึ่งออกมาจากกระเป๋า
แม้จะมองไม่เห็นว่าสิ่งที่ถูกบรรจุอยู่ภายในซองเอกสารนั้นคือสิ่งใด ทว่านัยน์ตาของเจียงหรงหรง หยางลี่เวย และเฉินเต๋อฝานก็ลุกวาวขึ้นทันที
เฉินเชียนโหรวตื่นเต้นจนหน้าซีดไปเล็กน้อย สองมือที่ประสานกันไว้ตรงหน้าบีบเข้าหากันแน่น เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นท่วมทั้งฝ่ามือ หัวใจดวงหนึ่งเต้นกระหน่ำซ้ำยังตื่นเต้นจนแทบจะกระดอนหลุดออกมาจากอก
สีหน้าท่าทางของทุกคนตกอยู่ในสายตาของเฉินฝานซิง เธอลอบกระตุกริมฝีปากยิ้มเย้ยหยันขึ้น
จากนั้นจึงดันเอกสารในมือไปไว้ตรงหน้าของเจียงหรงหรง
เธอเบี่ยงตัวแล้วพิงไหล่ข้างหนึ่งเข้าหาโซฟา พลางขยับปาก เอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มเหยียด
“หนังสือโอนหุ้น เซ็นซะสิ”
เจียงหรงหรงหยิบซองนั้นขึ้นมาแล้วดึงเอกสารที่อยู่ข้างในนั้นออกมา
เธอไล่อ่านอย่างละเอียดไปหนึ่งครั้ง เมื่อแน่ใจแล้วว่าเฉินฝานซิงไม่ได้เล่นตุกติกกับพวกเธอ รอยยิ้มจากใจจริงจึงผุดขึ้นบนใบหน้า
ทว่าเธอไม่ได้เซ็นชื่อตัวเองลงไป แต่กลับส่งมันให้กับเฉินเชียนโหรว
“โหรวเอ๋อร์ เธอเซ็นซะสิ”
จู่ๆ หัวใจเฉินเชียนโหรวก็เต้นกระหน่ำด้วยความตื่นเต้น ใจของเธอสุขล้นจนเกินต้านทาน ทว่าใบหน้ากลับยังคงแสดงออกถึงความลังเลอยู่เล็กน้อย
“คุณย่า…”
เมื่อมองออกถึงความสงสัยของเฉินเชียนโหรว เจียงหรงหรงจึงกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “เซ็นสิ จะช้าจะเร็วก็ต้องเป็นของเธออยู่ดี หากฉันเซ็นแล้วค่อยโอนให้เธอทีหลังมันจะวุ่นวายกว่านี้”
เฉินเชียนโหรวมองหนังสือโอนหุ้นในมือของเจียงหรงหรงตาไม่กะพริบ ฝ่ามือที่สอดประสานเข้าด้วยกันเย็นเยียบ
เนิ่นนานกว่าที่เธอจะยกมือขึ้นรับเอกสารฉบับนั้นมา นิ้วตรงขาวสะอาดงดงามสั่นระริกน้อยๆ จนไม่อาจสังเกตเห็น
“ขอบคุณค่ะคุณย่า หนูจะพยายามให้มากขึ้น”
เจียงหรงหรงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “อืม ย่าเชื่อมั่นในตัวเธอ”
แม้ว่าหัวใจของเฉินฝานซิงจะด้านชาไปนานแล้ว แต่เมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า ใจของเธอก็สั่นคลอนขึ้นมาอย่างไม่อาจหักห้าม
ในที่สุดความเศร้าใจที่ห่างหายไปนาน ก็เอ่อล้นขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจ
เชื่อมั่น…
ทำไมสำหรับพวกเขาแล้ว มันถึงเป็นสิ่งที่ได้มาอย่างง่ายดายนัก
เธอเก็บคางลงเล็กน้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความเย็นชา แววตาเยือกเย็นจ้องมองความอบอุ่นที่สองย่าหลานตรงหน้ามอบให้แก่กัน นัยน์ตาคู่นั้นไร้ความรู้สึก ยากจะคาดเดาอารมณ์ใดๆ
เฉินเชียนโหรวรับปากกาที่หยางลี่เวยที่นั่งอยู่ข้างๆ ยัดใส่มือมาให้ แล้วค่อยๆ จรดปากกาลงเซ็นชื่อตัวเองลงไป ท่ามกลางสายตาของทุกคน
ขณะที่เส้นสุดท้ายจะถูกตวัดลงไป เฉินเชียนโหรวก็เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เธอลอบเลิกคิ้วขึ้นเยาะเย้ยเฉินฝานซิง สายตาที่ส่งผ่านมามีเพียงความยั่วยุและความลำพองใจ
เฉินฝานซิงกวาดมองเธออย่างเย็นเยียบ กรีดยกมุมปากขึ้นพลางยืดนั่งตัวตรง สองขาไขว้เข้าหากัน ก่อนจะพิงร่างลงไปบนโซฟาใหม่อีกครั้ง แล้วประจันหน้ากับเฉินเชียนโหรว
จากนั้นจึงยิ้มขึ้นน้อยๆ แล้วพูดว่า “ยินดีด้วยนะ”
พวกเขานึกไม่ถึงว่าเฉินฝานซิงจะพูดจาทำนองนี้ออกมา ต่างก็มองไปยังเธอด้วยความประหลาดใจ แต่ยิ่งไปกว่านั้น ก็คือการเตรียมจะรับมือกับเธอ
แต่ในเมื่อตอนนี้มีหุ้นสิบห้าเปอร์เซ็นต์อยู่ในมือแล้ว พวกเขาก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลอีก
ทั้งเงินทั้งของหมดห่วงแล้ว
เธอไม่เชื่อว่าเฉินฝานซิงจะเล่นอุบายอะไรกับหุ้นสิบห้าเปอร์เซ็นต์นี้ได้!
คิดได้เช่นนั้น เฉินเชียนโหรวเองก็คลี่ยิ้มขึ้นอย่างอ่อนโยน แล้วเอ่ยขึ้นเสียงเบาว่า
“ขอบคุณนะคะพี่ แต่ว่าหลานอวิ้นไม่ใช่ของฉันแค่คนเดียว ฉันหวังว่าต่อไป ฉันกับพี่จะทำให้หลานอวิ้นก้าวหน้าไปด้วยกันได้นะคะ”
ตอนที่ 678 เป็นแม่เธอได้ห้าชาติ
“ขอบคุณนะคะพี่ แต่ว่าหลานอวิ้นไม่ใช่ของฉันแค่คนเดียว ฉันหวังว่าต่อไป ฉันกับพี่จะทำให้หลานอวิ้นก้าวหน้าไปด้วยกันได้นะคะ”
เฉินฝานซิงกระตุกมุมปาก “ในเมื่อบอกว่าจะให้ช่วยกันพยายามเพื่อบริษัท งั้นทำไมถึงได้คิดหาทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้หุ้นในมือของฉันไป”
คำพูดที่ฟังดูเรียบเฉยไร้ความรู้สึก กลับสร้างความอึดอัดให้ฉาบทับขึ้นบนใบหน้าของเฉินเชียนโหรว หางตาของเธอกระตุกเบาๆ
เฉินฝานซิงเปิดโปงความจอมปลอมของเธออย่างไม่ไว้หน้า ก็ในเมื่อทำไปเพื่อผลประโยชน์และสิทธิ์ที่มากขึ้น จะประดิษฐ์คำพูดที่สวยหรูแบบนี้ขึ้นมาเพื่ออะไร
“ฉันยังมีบริษัทของตัวเองให้ต้องดูแล ในเมื่อประธานเจียงไว้ใจเธอขนาดนั้น หวังว่าเธอจะไม่ทำให้เขาผิดหวัง ส่วนฉัน…ขอเป็นแค่หุ้นส่วนสบายๆ ก็พอแล้ว เงินปันผลเล็กๆ น้อยๆ ของทุกปีนั่นก็ไม่เลว”
เจียงหรงหรงหน้าขรึมลง
ประเด็นไหนที่ไม่ควรพูด ก็พูดประเด็นนั้น
เฉินฝานซิงยังคงถือหุ้นอยู่อีกสิบห้าเปอร์เซ็นต์ คิดแล้วเธอก็ฉุนอยู่เหมือนกัน
ทำไปทำมา ในมือของเธอก็ยังเหลือหุ้นอยู่อีกมากมายขนาดนั้น
เฉินฝานซิงเอื้อมไปหยิบแก้วน้ำบนโต๊ะขึ้นมาจิบไปหนึ่งคำ แล้วเอ่ยขึ้นต่อไปอย่างเรียบเฉยว่า
“ว่าต่อสิ ไม่ใช่ว่าจะคุยเรื่องสินเดิมของเราสองคนด้วยรึไง”
เจียงหรงหรงสูดหายใจเข้าลึกๆ ไม่ว่าเรื่องอะไรเธอก็จะต้องตกเป็นฝ่ายถูกเฉินฝานซิงจูงจมูกให้เดินอยู่เสมอ
หลังจากที่พิงร่างลงบนโซฟาแล้ว น้ำเสียงเยือกเย็นก็เอ่ยขึ้น
“ของที่แม่แกทิ้งเอาไว้ให้พวกนั้น เราจะไม่แตะต้องก็ได้ แต่อย่าลืมเสียล่ะว่า ถึงยังไงแม่ของแกก็ยังคงเป็นคนของสกุลเฉิน สินเดิมที่แม่แกให้แก ก็ย่อมมีส่วนหนึ่งที่เป็นของสกุลเฉิน”
“…” เฉินฝานซิงเลิกคิ้วขึ้น เธอกรีดยิ้มเย็นขึ้นอย่างไม่ปกปิด
“ดังนั้น เพื่อความเป็นธรรมกับเชียนโหรว หุ้นสิบห้าเปอร์เซ็นต์ของพ่อแกกับฉัน จะถูกแบ่งให้เชียนโหรวคนละแปดเปอร์เซ็นต์! แกมีอะไรจะโต้แย้งไหม”
เฉินฝานซิงเลิกคิ้วสูง “ฉันล่ะ”
เจียงหรงหรงตีคิ้วขมวด “ปู่แกยกหุ้นสิบห้าเปอร์เซ็นต์ให้แกไปรวดเดียว แกยังไม่พออีกรึไง แถมในกระเป๋าแกยังมีเงินหกร้อยห้าสิบล้านอีก!”
“หึ…” จู่ๆ เธอก็เค้นขำออกมาเสียงเย็น “พวกคุณถือเงินของสกุลเฉินมาซื้อหุ้นของฉันให้เฉินเชียนโหรว! นี่เรียกว่ายุติธรรมงั้นเหรอ”
“…”
เฉินฝานซิงยกมือขึ้นกุมหน้าผาก เธอคลี่ยิ้มออกมาอย่างจนใจ จากนั้นจึงวางข้อศอกไว้บนที่เท้าแขนด้วยท่าทีผ่อนคลาย
“ปิดปากเงียบไม่เอ่ยถึงสินเดิมของฉันไม่พอ ฉันยังต้องเทเงินออกมาเป็นสินเดิมให้เธออีก นี่ฉันเป็นพ่อหรือเป็นแม่เธอกันแน่”
“จองหอง!”
สิ้นคำพูดของเฉินฝานซิง เสียงแห่งความเดือดดาลของเจียงหรงหรงก็แผดดังขึ้น
ทว่าเฉินฝานซิงกลับทำเพียงแค่ปรายตามองเธออย่างเฉยชา ต่อด้วยการหันมองไปยังเฉินเชียนโหรวแล้วพูดต่อไปว่า
“หรือถ้าตอนนี้เธอเรียกฉันว่าพ่อหรือแม่ ฉันจะยอมเตรียมสินเดิมให้เธอส่วนหนึ่งด้วยความเต็มใจก็ได้นะ ว่าไงล่ะ”
เฉินเชียนโหรวที่หน้าแดงก่ำจากความสุขเมื่อครู่ที่รู้ว่าเจียงหรงหรงและเฉินเต๋อฝานได้มอบหุ้นให้เธอไปกว่าครึ่ง แต่มาตอนนี้รอยยิ้มของเธอก็แข็งทื่อลงอย่างช้าๆ และค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยความอัปยศ
เธอขบริมฝีปาก จ้องมองเฉินฝานซิงด้วยใบหน้าเจ็บใจ พลางเอ่ยขึ้นเสียงแผ่ว
“พี่คะ…”
“เรียกแม่สิ”
“เฉินฝานซิง!” จู่ๆ หยางลี่เวยก็แผดเสียงแหลม ตามมาด้วยเสียงร้องซี้ดด้วยความเจ็บปวด
“คุณแม่คะ คุณแม่ คุณแม่อย่าวู่วามสิคะ รั้งแผลหมดแล้ว…” เฉินเชียนโหรวหันไปดูแผลตรงปากให้กับหยางลี่เวยด้วยสีหน้าสงสาร
หยางลี่เวยสะกดกลั้นความเจ็บ พร้อมทั้งถลึงตามองเฉินฝานซิง
“ถึงยังไงฉันก็อาวุโสกว่าเธอ! เชียนโหรวเป็นลูกสาวของฉัน! เธอพูดออกมาแบบนี้ เธอเห็นฉันเป็นอะไร เธอมันไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี?!”
เฉินฝานซิงกลับเอ่ยออกมาอย่างไม่ทุกข์ร้อน
“หรือพวกคุณไม่คิดว่าคนไหนให้เงินคนนั้นก็คือผู้มีพระคุณหรอกเหรอ ในเงินหกร้อยห้าสิบล้านนั่น อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีหุ้นส่วนของฉันอยู่หนึ่งร้อยล้านแล้วไม่ใช่เหรอ เมื่อเทียบกับเงินยี่สิบล้านของพวกคุณแล้ว ฉันก็พอจะเป็นแม่ให้เธอได้สักห้าชาติ!”