ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย - ตอนที่679เพิ่งเคยได้ยินครั้งแรกตอนที่680ไม่ผ่านเข้าตาเธอ
- Home
- ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย
- ตอนที่679เพิ่งเคยได้ยินครั้งแรกตอนที่680ไม่ผ่านเข้าตาเธอ
ตอนที่ 679 เพิ่งเคยได้ยินครั้งแรก
คำพูดของเฉินฝานซิงทำเอาหยางลี่เวยชะงักกึก ไม่พูดไม่จาไปค่อนวัน
เธออยากจะด่านังเด็กชั่วนี่ให้กระเจิง ถึงขนาดที่อยากฉีกหัวใจมันอกมาด้วยซ้ำไป!
แต่คนเยอะขนาดนี้ เธอทำได้เพียงแค่กัดฟันทน!
พูดอีกอย่าง สภาพของเธอในตอนนี้ก็ทำเรื่องพวกนั้นได้ไม่สะดวกเท่าไหร่นัก
แม่ห้าชาติ?
แม่ห้าชาติกับผีแกน่ะสิ!
ตรรกะบ้าบออะไร!
“เธอ…เธอ…เธอรังแกคนอื่นมากเกินไปแล้วนะ!”
หยางลี่เวยโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ คล้อยหลังจากที่นัยน์ตาประกายแสงวาวโรจน์ ลูกตาของเธอก็กลอกกลิ้งอยู่ในกรอบตารอบสองรอบ จากนั้นน้ำตาร้อนๆ ก็เอ่อล้นออกมาจากกรอบตาในทันที
เพียงแค่ก้นสัมผัสเข้ากับโซฟา เธอก็ร้องไห้กระซิกออกมาเสียดื้อๆ
เมื่อทุกคนเห็นว่าเธอเป็นเช่นนั้น สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนสีไปทันที
“เฉินฝานซิง แกยังหลงเหลือจิตสำนึกอยู่บ้างไหม” เจียงหรงหรงเองก็โทสะจนลูกตาแทบจะถลนออกมาจากเบ้า
“ฉันดีใจมาก ที่จิตสำนึกของฉันไม่ได้ถูกเปลี่ยนไปให้เหมือนกับของพวกคุณ”
“แก…”
เจียงหรงหรงหวังจะพูดต่อ ทว่ากลับถูกเฉินฝานซิงตัดบท
“เอาเถอะ หกร้อยห้าสิบล้านฉันก็รับมาแล้ว ครั้งนี้ฉันคำนวณผิดพลาด ประเมินความไร้ยางอายของพวกคุณต่ำไปเอง ดังนั้น ความหมายของพวกคุณคือ สินเดิมที่พวกคุณจะให้ฉันเตรียมก็คือหุ้นสิบห้าเปอร์เซ็นต์ที่คุณปู่เคยให้ฉันก่อนหน้านี้แค่อย่างเดียวถูกไหม”
เธอว่าพลางก็เบนสายตาไปมองหน้าของเจียงหรงหรงกับเฉินเต๋อฝาน
โดยเฉพาะตอนที่สายตาของเธอเคลื่อนไปหยุดลงที่ใบหน้าของเฉินเต๋อฝาน เธอก็จงใจจะหยุดมันให้นานขึ้นอีกหลายนาที
ในปีนั้น เฉินเต๋อฝานได้ชอบพอกับคนที่ไม่มีพื้นฐานครอบครัวอะไรเลยอย่างจีเฟิ่งเหมียน หรือจะพูดให้ชัดเจนขึ้นก็คือ ในตอนนั้นเขายังพอมีจิตใจที่บริสุทธิ์อยู่บ้าง
แม้ว่าสุดท้ายเขาจะทำผิดในเรื่องที่ผู้ชายส่วนใหญ่ต่างก็ผิดพลาดกัน แต่เหตุผลส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะความหูเบาของเขา
หูเบา นั่นก็เป็นเพราะเขาขาดความหนักแน่นในความคิดของตัวเอง มักจะคิดว่าสิ่งที่ใครต่อใครพูดนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้องอยู่เสมอ
ในความคิดของเขา จีเฟิ่งเหมียนนั้นไว้ใจได้มาตลอด เมื่อจีเฟิ่งเหมียนตายไป เขาเองก็รู้สึกผิดอยู่ไม่น้อย
ดังนั้นสำหรับเฉินฝานซิง แท้จริงแล้วส่วนลึกในใจของเขาเองก็รู้สึกผิดอยู่เช่นกัน
การที่ถูกเฉินฝานซิงจ้องเขาอยู่เช่นนั้น เขาเองก็แอบข่มใจเอาไว้ไม่อยู่
หยางลี่เวยมองเฉินเต๋อฝาน ความกังวลเล็กน้อยผุดขึ้นที่กลางใจ
เธอกลัวว่าเขาจะใจอ่อนยอมปล่อยหุ้นที่เหลืออยู่เจ็ดเปอร์เซ็นต์ในมือให้เฉินฝานซิงไป
ไม่มีใครรู้จักลูกตัวเองดีไปกว่าผู้เป็นแม่ เมื่อเห็นว่าเฉินเต๋อฝานลังเลอยู่หลายวินาที ก่อนที่จะอ้าปากเตรียมพูด เจียงหรงหรงจึงรีบเอ่ยขึ้น สกัดคำพูดที่เฉินเต๋อฝานกำลังจะพูดออกมาให้กลืนกลับลงคอไป
“แกไม่มีวี่แววว่าจะแต่งงานด้วยซ้ำ จะรีบร้อนอะไรนักหนา!”
เฉินฝานซิงจ้องมองเจียงหรงหรงด้วยแววตาเฉยเมย ใบหน้าของเธอถูกประดับไปด้วยรอยยิ้มจางๆ
เจียงหรงหรงเม้มปาก เธอเองก็รู้สึกพูดอะไรไม่ออกเช่นกัน หลังจากที่เงียบไปครู่หนึ่งเธอก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“…ฉันค่อยเพิ่มคอนโดเป็นสินติดตัวให้แกด้วยก็ได้ หากแกยังไม่พอใจอีก งั้นเมื่อถึงตอนนั้น แกก็เอาของหมั้นที่ฝ่ายเจ้าบ่าวให้มากลับไปด้วยเลยก็แล้วกัน!”
ได้ฟังดังนั้น เฉินฝานซิงจึงช้อนสายตาขึ้น นัยน์ตาสีดำสนิทเคลื่อนมองไปยังเจียงหรงหรงอย่างช้าๆ
แม้สายตาจะไม่ทุกข์ร้อนเช่นนั้น ทว่ากลับทำเอาคนคนถูกมองรู้สึกชาวาบไปทั้งร่างกาย ราวกับถูกแช่แข็งไปเสียดื้อๆ
“คุณหมายความว่า…เมื่อถึงตอนนั้นให้ฉันเอาของหมั้นที่ฝ่ายชายให้มาทำเป็นสินเดิมที่พวกคุณให้ฉัน แล้วให้ฉันเอากลับไปงั้นเหรอ”
เจียงหรงหรงขมวดคิ้ว “ทำไม แบบนี้แกก็ยังไม่พอใจอีกงั้นเหรอ”
เฉินฝานซิงขำเยาะเสียงหนึ่ง พลางส่ายหน้า
“ฉันก็เพิ่งจะเคยได้ยินว่า ผู้หญิงแต่งออกไปแล้วบ้านเจ้าสาวจะเอาของหมั้นที่ฝ่ายชายให้มา ให้ผู้หญิงกลับไปอีกทีแบบนี้เป็นครั้งแรก…”
“ฝานซิง” ในตอนนั้นเอง จู่ๆ เฉินซั่งหวาที่นิ่งเงียบมาโดยตลอดก็ได้เอ่ยขึ้น
เฉินฝานซิงหันมองไปยังเขา ด้วยสีหน้าเรียบนิ่งเฉกเช่นทุกครั้ง
“เอาแบบนี้แล้วกัน ถึงตอนนั้นของหมั้นที่บ้านเจ้าบ่าวให้มาหลานก็เอากลับไปเถอะ”
ตอนที่ 680 ไม่ผ่านเข้าตาเธอ
“เอาแบบนี้แล้วกัน ถึงตอนนั้นของหมั้นที่บ้านเจ้าบ่าวให้มาหลานก็เอากลับไปเถอะ”
เฉินฝานซิงย่นคิ้ว
เฉินซั่งหวากลับพูดขึ้นอีกครั้งว่า
“ทิ้งไว้ที่บ้านสกุลเฉิน ก็ได้เปรียบพวกเขาอีกเปล่าๆ”
นัยน์ตาเฉินฝานซิงเปล่งประกาย เธอมองไปยังเฉินซั่งหวาอีกครั้ง กลับได้เห็นว่าเขากำลังส่ายหน้าน้อยๆ ให้กับเธออยู่
เธอดึงสายตากลับมา พร้อมกระตุกมุมปากขึ้นเล็กน้อย
ทว่าไม่ทันที่เธอจะได้แสดงความคิดเห็นอะไร เจียงหรงหรงก็กลับเค้นขำเสียงเย็นขึ้นในเวลานี้
“ของที่สกุลซูรับปากว่าจะให้สกุลเฉินในครั้งนี้ คือสิ่งที่คนทั้งเมืองผิงเฉิงเห็นแล้วจะต้องอิจฉาตาร้อน ฝานซิง…เหอะ พวกนอกคอกตั้งแต่เกิดอย่างมันน่ะเหรอ อย่าว่าแต่แต่งงานเลย ต่อให้แต่งออกไปแล้ว คุณคิดว่าบ้านสามีของมันจะไว้หน้ามันสักแค่ไหน แล้วจะให้ของหมั้นเยอะแค่ไหนกันเชียว คุณคิดเหรอว่าฉันจะตื่นตาตื่นใจกับของหมั้นพวกนั้น”
เฉินซั่งหวาขำหึออกมาเสียงหนึ่ง “ใช่สิ สายตาของเธอเจียงหรงหรงสูงเสียดฟ้า ได้เขยดีมีความสามารถอย่างซูเหิงก็ปานได้ขี่หลังมังกร แน่นอนว่าการยืนอยู่บนยอดเขาสูง จนต้องมองผู้คนลอดผ่านรูจมูก [1]แบบนี้ก็ต้องไม่มีอะไรผ่านเข้าตาเธออยู่แล้ว!”
“หึ…”
เจียงหรงหรงยกยิ้มหยัน แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธถ้อยคำถากถางเหล่านั้นของเฉินซั่งหวา
ราวกับว่าในใจของเธอ คำพูดเหล่านั้นของเฉินซั่งหวา ล้วนแต่เป็นความจริงทั้งสิ้น
ทางที่ดีคุณควรเตรียมตัวให้ดี หกร้อยห้าสิบล้านของพวกเขา ซื้อได้มากกว่าแค่หุ้นสิบห้าเปอร์เซ็นต์ของคุณ…
คำพูดก่อนหน้านี้ของป๋อจิ่งชวน ตอนนี้มันได้เกิดขึ้นจริงๆ แล้วทุกประการ
หกร้อยห้าสิบล้าน หุ้นสิบห้าเปอร์เซ็นต์ในมือของเธอ หุ้นในมือของเจียงหรงหรงและเฉินเต๋อฝานรวมกันทั้งหมดสิบหกเปอร์เซ็นต์ บัดนี้ มันได้ตกอยู่ในมือของเฉินเชียนโหรวคนเดียว ทั้งหมดรวมๆ กันก็สามสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์!
เมื่อพูดในมุมของผู้ถือหุ้นคนหนึ่ง เฉินเชียนโหรวกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของหลานอวิ้นไปแล้ว
ที่เจียงหรงหรงพูดอยู่ปาวๆ ว่าจะช้าหรือเร็วมันก็ต้องเป็นของเฉินเชียนโหรว ดูท่าทางแล้ว คงเป็นจริงเช่นนั้นไม่ผิดเพี้ยน
เธอใจกว้างจริงๆ ที่ไว้เนื้อเชื่อใจในตัวเฉินเชียนโหรวถึงขั้นนี้!
“แค่ปากพูดมันไม่น่าเชื่อถือ ทำให้เป็นลายลักษณ์อักษรเถอะ”
เธอไม่อยากเห็นหน้าของเจียงหรงหรงและสองแม่ลูกหยางลี่เวยกับเฉินเชียนโหรวอีกต่อไปแล้ว การ ‘หารือ’ กันในครั้งนี้ แทบจะเป็นสิ่งที่เธอคาดการณ์เอาไว้แล้วทั้งนั้น
แค่ได้ยินเฉินฝานซิงพูดเช่นนั้น เจียงหรงหรงก็ตีคิ้วขมวดขึ้นด้วยความชิงชัง
“ทำลายลักษณ์อักษรอะไร”
“ก็เรื่องที่คุณรับปากว่าจะให้สินเดิมฉันไง โทษทีนะ แต่เป็นนักธุรกิจ ควรมีหลักฐานไว้จะดีกว่า”
เจียงหรงหรงเม้มปาก “กะอิแค่คอนโดหลังเดียว แกยังกลัวว่าฉันจะผิดคำพูดกับแกงั้นเหรอ”
เฉินฝานซิงมองเหยียดเธอ “คุณเองก็รู้นี่ว่าแค่ ‘คอนโดหลังเดียว’?”
ความกดดันฉาบทับขึ้นบนสีหน้าของเจียงหรงหรง เธอเร่งหากระดาษปากกาขึ้นมาในเดี๋ยวนั้น
‘ขอรับปากว่าจะมอบสินเดิมให้แก่หลานสาวคนโตเฉินฝานซิง ให้นำของหมั้นจากบ้านสามีกลับไปได้ นอกเหนือจากนี้ ยังเพิ่มคอนโดที่ไหนสักที่หนึ่งให้เป็นสินติดตัว’
ทำเลของคอนโดหลายแห่งของสกุลเฉิน ทุกที่ล้วนแล้วแต่มีความโดดเด่น สำหรับเจียงหรงหรงแล้ว หากไม่บังคับให้เธอระบุให้ชัดเจนล่ะก็ ถึงตอนนั้นไม่แน่ว่าเธออาจจะไปซื้อที่ใหม่ที่ไหนสักแห่งที่ห่างไกลความเจริญให้เธอก็ได้
แน่นอนว่าหยางลี่เวยและเจียงหรงหรงเองก็คิดเช่นนั้น แต่ในเมื่อตอนนี้พูดไปขนาดนั้นแล้ว ถึงอย่างไรก็มีคอนโดอยู่หลังหนึ่ง ที่นับว่าดีที่สุดสำหรับเธอ และก็ไม่ฟังดูน่าเกลียดจนเกินไป
อีกอย่าง เมื่อถึงตอนนั้น หลานอวิ้นเองก็คงไม่สนใจคอนโดหลังนั้นแล้ว
ดังนั้นเจียงหรงหรงจึงหน้าใหญ่ใจป้ำอย่างที่น้อยครั้งจะได้เห็น ยกคอนโดที่มีทำเลและมีราคาในตลาดอยู่พอสมควรให้กับเธอไป
เอกสารขนาดเอสี่แผ่นหนึ่ง สุดท้ายแล้วก็ถูกเขียนลงไปเพียงแค่สองบรรทัดครึ่ง แม้แต่ครึ่งของครึ่งหน้าก็ยังไม่ถึงด้วยซ้ำไป
เฉินฝานซิงมองอย่างถากถาง เจียงหรงหรงเองก็กดดันอยู่ไม่น้อย
แต่ทว่าเมื่อนึกไปถึงเช็คมูลค่าหกร้อยห้าสิบล้านหยวนในกระเป๋าของฝานซิงแล้ว ความอึดอัดเพียงเล็กน้อยนั้นก็อันตรธานหายไปในทันที
[1] มองคนลอดผ่านรูจมูก มองคนอย่างดูถูก