CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ - ตอนที่ 105 เบาะแส

  1. Home
  2. ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ
  3. ตอนที่ 105 เบาะแส
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

เจียงซื่อส่ายหน้าปฏิเสธ ทว่าน้ำเสียงพูดยังคงอ่อนโยน  คงไม่ล่ะ ข้าจะไปเดินสูดอากาศเล่น ถ้าท่านจะไปถามไถ่ข่าวคราว เห็นทีข้าไปด้วยคงจะไม่สะดวก   

 งั้นก็ได้ อย่าไปไกลนักล่ะ แล้วก็ระวังตัวด้วย   

ทั้งสองพยักหน้าให้กัน จากนั้นก็ต่างคนต่างเดินแยกกันไปคนละทาง 

ผ่านไปสักพักกว่าเจียงจั้นจะรู้สึกตัว จึงรีบเร่งฝีเท้าตามอวี้จิ่นไปพลางตบฉาดลงที่ไหล่ของเขา  พี่อวี๋ชี เมื่อกี้ท่านชวนน้องสี่ของข้าไปด้วยกันหรือ   

ต่อหน้าต่อตาเขาเลยเนี่ยนะ? 

อวี้จิ่นเอามือถูปลายจมูกไปมา 

แย่แล้ว ไม่ได้สังเกตว่าเจียงจั้นก็อยู่ด้วย 

 ใช่ ข้ารู้สึกว่าแม่นางเจียงมีความคิดที่ค่อนข้างเฉลียวฉลาด ถ้ามีปัญหาอะไรจะได้หารือกันได้ทันที   

เจียงจั้นทำหน้าบึ้ง  นี่ท่านหมายความว่าข้าโง่หรือ   

อวี้จิ่นหัวเราะออกมาเบาๆ  น้องเจียงเอ้อร์ก็ไปด้วยกันเถอะ   

 ค่อยยังชั่วหน่อย   

เจียงซื่อหันกลับไปมองทั้งสองที่เดินเคียงไหล่กันไปตามระเบียงทางเดิน จากนั้นก็เดินไปที่บริเวณประตูเรือน อาหมานรีบเดินตามหลังไป 

 คุณหนู ท่านจะไปไหนเจ้าคะ   

ทั้งมืดทั้งไม่มีไฟแถมยังมีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้นอีก คุณหนูช่างกล้าเสียจริง! 

 ข้าได้ยินเสียงคนกำลังร้องไห้   

 มีคนกำลังร้องไห้งั้นหรือ  อาหมานเงี่ยหูฟัง  ไม่เห็นจะได้ยินเลยเจ้าค่ะ   

เจียงซื่อไม่ได้สนใจอาหมาน เมื่อเร่งฝีเท้าเดินลอดผ่านประตูวงเดือนไปก็หยุดฝีเท้าลง 

 คุณหนู มีเสียงร้องไห้จริงๆ ด้วย!   

เจียงซื่อหันซ้ายมองขวาแล้วถกกระโปรงขึ้นเดินตรงไปทางหนึ่ง 

ไม่ไกลจากประตูวงเดือนมีสามเณรน้อยนั่งยองๆ อยู่ที่ใต้ต้นไม้ ศีรษะที่ไร้ผมส่องเป็นประกายใต้แสงจันทร์ 

เสียงร้องที่ดังออกมานั่นก็คือเสียงของสามเณรน้อย ทว่าสามเณรเอามือปิดปากไว้เสียงร้องไห้จึงเบามาก 

เจียงซื่อนั่งยองลงข้างๆ เขา  ท่านอาจารย์ตัวน้อยเป็นอะไรไปหรือ   

สามเณรน้อยปล่อยมือออก ท่าทางตกใจ 

เจียงซื่อยิ้มออกมาบางๆ  ข้าเอง ท่านอาจารย์ตัวน้อยจำข้าไม่ได้แล้วหรือ   

สามเณรน้อยพยักหน้าลงทั้งน้ำตา  จำได้ ขนมรังไหม   

เจียงซื่อแสดงสีหน้าบอกเป็นสัญญาณให้อาหมานเอาเหอเปามาให้ จากนั้นก็ควานหาขนมรังไหมจากในกระเป๋าส่งให้สามเณรน้อย  ยังมีขนมอีกนะ ท่านอาจารย์ตัวน้อยบอกข้าได้หรือไม่ว่าร้องไห้ทำไม   

สามเณรน้อยยังอยู่ในวัยที่ไร้เดียงสาและใสซื่อบริสุทธิ์ แถมยังบวชอยู่ในพุทธศาสนาด้วยจึงมีจิตใจที่สงบ ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือคนที่หน้าตาดีมักจะได้รับคะแนนความไว้ใจจากผู้อื่นมากกว่าเสมอ เมื่อได้ยินเจียงซื่อถามแบบนี้จึงก้มหน้าลง  ศิษย์พี่ซื่อคงดีมาก เณรเสียใจ…   

เจียงซื่อถอนหายใจออก กำลังจะยกมือลูบศีรษะของสามเณรน้อย แต่พอเห็นศีรษะที่ไร้ผมก็รู้สึกว่าไม่เหมาะสมจึงหันไปตบที่แผ่นหลังเขาเบาๆ แทนแล้วเอ่ยปลอบ  ท่านอาจารย์ตัวน้อยอย่าเศร้าไปเลย อาจารย์ซื่อคงต้องได้ขึ้นสวรรค์ไปแล้วแน่นอน   

 จริงหรือ  สามเณรน้อยเงยหน้าขึ้น แววตาเป็นประกาย 

 แน่นอน อาจารย์ซื่อคงผ่านเคราะห์หามยามร้ายมาจึงเปี่ยมไปด้วยบุญบารมี  เจียงซื่อเห็นว่าสามเณรน้อยเศร้าน้อยลงแล้วจึงเปลี่ยนน้ำเสียงการพูดทันที  ทว่าศพขอบุรุษที่ตายในบ่อน้ำช่างน่าสงสารเสียจริง ข้าได้ยินมาว่าคนที่ตายโดยไม่รับความเป็นธรรมจะกลายเป็นสัมภเวสีเร่ร่อนอยู่ในโลกมนุษย์   

สามเณรน้อยยกมือขึ้นมาปิดปากไว้ 

 ท่านอาจารย์ตัวน้อยเต็มใจจะช่วยเขาหรือไม่   

สามเณรน้อยรีบพยักหน้ารับ จากนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้นอย่างทุกข์ใจ  เณรจะช่วยเขาได้อย่างไร   

 ก่อนอื่นท่านอาจารย์ตัวน้อยต้องบอกก่อนว่ารู้จักบุรุษผู้นั้นหรือไม่   

 รู้จัก เขามาพักเป็นช่วงสั้นๆ ที่วัดอยู่บ่อยๆ   

 ถ้างั้นเขามีคนที่สนิทหรือไม่   

สามเณรน้อยเอียงหัวทำท่าครุ่นคิด แล้วถามเจียงซื่อออกไป  คนในวัดหรือว่าญาติโยม   

เจียงซื่อยิ้มขึ้น  ขอแค่สนิท ท่านอาจารย์ตัวน้อยบอกมาได้เลย   

 อืม…ถ้าเป็นในวัดล่ะก็…เนื่องจากโยมคนนั้นมาบ่อยจึงรู้จักทั้งอาจารย์อาและศิษย์พี่   

 แม้แต่พวกอาจารย์อาของท่านอาจารย์ตัวน้อยก็รู้จักบุรุษคนนั้นงั้นรึ!   

 ใช่ เพราะว่ามาบ่อย มีครั้งหนึ่งเณรเห็นเขาคุยกับอาจารย์ลุงเสวียนฉือ   

 ไม่ทราบว่าเขาเริ่มมาที่วัดหลิงอู้บ่อยๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่   

สามเณรน้อยคิดไปคิดมาแล้วเอ่ยขึ้น  สองปีที่แล้ว   

เจียงซื่อหัวใจกระตุกวาบขึ้นมา เหมือนว่าจะจับอะไรบางอย่างได้คร่าวๆ แต่มันก็ยังไม่ชัดราวกับมองดอกไม้ท่ามกลางหมอกหนา ซึ่งไม่รู้ด้วยว่าจะดึงกุญแจสำคัญออกมาจากหมอกได้จากตรงไหน 

 ถ้างั้นเขาสนิทกับญาติโยมพวกนั้นหรือไม่  เจียงซื่อเก็บเอาข้อแตกต่างที่ผุดขึ้นมาในตอนนี้ไว้ในใจชั่วคราว จากนั้นก็ถามต่อ 

 ในวัดมีญาติโยมไปๆ มาๆ อยู่ตลอด เณรจึงไม่ได้ใส่ใจ แต่ว่าเณรเคยเห็นเขากับแม่นางหลี่อยู่ด้วยกัน…   

เจียงซื่อไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะได้ยินเรื่องแบบนี้จากปากของสามเณรน้อย จึงถามขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ  พวกเขาทำอะไรอยู่ด้วยกันหรือ   

 วันนั้นมันค่อนข้างดึก ดูเหมือนว่าเขาจะเอาของอะไรบางอย่างให้แม่นางหลี่ แต่เนื่องจากเณรอยู่ไกลก็เลยเห็นไม่ชัด   

ตอนนี้เจียงซื่อสามารถยืนยันความสัมพันธ์ของหลิวเซิ่งกับแม่นางหลี่ได้คร่าวๆ แล้ว 

ก่อนหน้านี้ที่หลังเขา สีหน้าของแม่นางหลี่ตอนที่เจอว่าผู้ตายเป็นหลิวเซิ่งนั้น หญิงสาวที่เกิดมาฉลาดหลักแหลมอย่างนางก็รู้ได้ทันทีว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ต้องไม่ธรรมดาแน่ 

 แม่นางหลี่มาพักอยู่ที่วัดชั่วคราวครั้งล่าสุดคือเมื่อไหร่   

 อืม…ราวๆ ครึ่งเดือนก่อน  สามเณรน้อยคิดอยู่พักหนึ่งแล้วเอ่ยขึ้น 

 แล้วโยมหลิวที่ตายไปพักอยู่ที่วัดชั่วคราวครั้งล่าสุดเมื่อไหร่   

ครั้งนี้สามเณรน้อยตอบออกมาอย่างรวดเร็ว  ครึ่งเดือนก่อนเหมือนกัน มันคือช่วงเดียวกับที่เณรเห็นเขาเอาของให้แม่นางหลี่   

เจียงซื่อจมอยู่ในความคิดพักหนึ่ง แล้วถือเอาแนวคิดแน่วแน่ที่ว่าถามเพิ่มอีกหน่อยดีกว่าถามน้อยไป จากนั้นก็เอ่ยพูดขึ้น  ครึ่งเดือนก่อนพวกเขาล้วนมาพักที่วัดชั่วคราว มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเป็นพิเศษหรือไม่   

สามเณรน้อยทำหน้างง 

เจียงซื่อเปลี่ยนวิธีการถาม  หรือว่ามีเรื่องอะไรที่ทำให้ท่านอาจารย์ตัวน้อยจำได้ขึ้นใจบ้างหรือไม่   

ในที่สุดสามเณรน้อยก็พยักหน้าลง  มี ตอนนั้นมีญาติโยมเข้ามาพักชั่วคราวอยู่ท่านหนึ่ง โยมท่านนั้นเป็นหญิงสาวแต่ว่าแต่งตัวเป็นผู้ชาย ซึ่งถูกศิษย์พี่ที่จัดการเรื่องที่พักดูออกก็เลยต้องจัดการให้นางไปพักอยู่ที่เรือนข้างแม่นางหลี่   

พอกล่าวถึงตรงนี้ สามเณรน้อยก็นึกอะไรขึ้นมาได้  ใช่แล้ว สีกาท่านนั้นกับแม่นางหลี่มาขอยันต์อยู่เย็นเป็นสุขเหมือนกันและชนิดเดียวกันด้วย   

เจียงซื่อหัวใจกระตุกวาบ รีบถามขึ้น  ท่านอาจารย์ตัวน้อยยังจำได้ไหมว่าสีกาท่านนั้นอายุเท่าไหร่ หน้าตารูปร่างเป็นอย่างไร   

ภาพแม่นางท่านนั้นยังคงติดอยู่ในความทรงจำของสามเณรน้อยอย่างชัดเจน  ดูเหมือนว่าจะเด็กกว่าโยมนิดหน่อย หน้าตาก็ดูดีมากเลย   

 นางมีชื่อเรียกอันใด เป็นคนในพื้นที่หรือไม่   

 นางแจ้งว่าตัวเองแซ่ฉือ เณรไม่เคยเจอนางมาก่อนเลย   

 แล้วสีกาท่านนั้นออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่   

สามเณรน้อยส่ายหน้า  จำไม่ได้แล้ว   

คุยสัพเพเหระอยู่ครู่หนึ่ง พอเห็นว่าถามหาข้อมูลจากปากของสามเณรได้ไม่มากแล้ว เจียงซื่อจึงยิ้มพลางเอ่ยขึ้น  ขอบคุณท่านอาจารย์ตัวน้อยมาก ตอนนี้ดึกมากแล้ว ท่านอาจารย์ตัวน้อยต้องรีบเข้านอนถึงจะได้โตไวๆ เดี๋ยวข้าให้อาหมานไปส่งท่านดีหรือไม่   

สามเณรโบกมือปัด  เณรกลับเองได้ เดี๋ยวถ้าพวกศิษย์พี่เห็นโยมวิ่งเพ่นพ่านไปมาจะถูกดุเอา   

พอเห็นสามเณรวิ่งไปไกลแล้ว เจียงซื่อถึงได้กลับ ซึ่งเจออวี้จิ่นกับเจียงจั้นที่กำลังเดินมาพอดี 

ทั้งสามจึงเดินไปด้วยกันพลางกระซิบพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูล 

 ข้าไปถามบุรุษหนุ่มผู้นั้น เขาบอกว่าได้ยินแม่เขาพูดว่าเมื่อก่อนวัดหลิงอู้เป็นวัดบนเขาที่ชำรุดทรุดโทรมแห่งหนึ่ง ตั้งแต่ที่แม่ของหลิวเซิ่งคลอดหลิวเซิ่งมา ทุกคนก็เห็นว่ามันศักดิ์สิทธิ์ได้ผลตามที่ขอ ดังนั้นทุกคนจึงแห่กันมาจุดธูปไหว้วานศาลกล่าว ชื่อเสียงวัดหลิงอู้จึงค่อยๆ เจริญรุ่งเรืองขึ้นมา…  อวี้จิ่นชะงักไปครู่หนึ่ง  ซึ่งนั่นก็หมายความว่า หลังจากที่แม่ของหลิวเซิ่งคลอดลูก ชื่อเสียงของวัดหลิงอู้ถึงได้เริ่มเจริญ   

 ข้าไต่ถามสามเณรน้อยได้ความมาเรื่องหนึ่ง หลิวเซิ่งเพิ่งจะเริ่มมาที่วัดหลิงอู้บ่อยๆ เมื่อสองปีก่อน   

เจียงจั้นพูดแทรกออกไป  ข้าก็ไปไต่ถามบุรุษหนุ่มผู้หนึ่งมา เขาบอกว่าเมื่อก่อนหลิวเซิ่งเป็นคนใช้ชีวิตเสเพลคนหนึ่ง เล่นการพนันเป็นประจำ ร้านขายเสื้อผ้าของครอบครัวเขาต้องหยุดกิจการไปพักหนึ่งเพราะเขาเป็นแบบนี้ แล้วสองปีก่อนไม่รู้ว่าได้เงินจากที่ไหนมาถึงได้เปิดกิจการขึ้นมาอีกครั้ง   

 สองปีก่อน…  เจียงซื่อพูดพึมพำ 

ตอนนั้นจะต้องมีอะไรบางอย่างที่สำคัญถูกมองข้ามไปแน่นอน! 

 

ตอนก่อน
ตอนต่อไป
  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์