ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ - ตอนที่ 145 เงินเก็บแต่งเมียของหลงต้าน
แม้ว่าเอ้อร์หนิวไม่เข้าใจสิ่งที่หลงต้านพูด แต่เมื่อเห็นว่าเจ้านายไม่ได้กลับมาด้วยมันก็รู้สึกไม่วางใจตามสัญชาตญาณ ในขณะนั้นการปลอบโยนจากนายหญิงจึงสำคัญเป็นพิเศษ
เอ้อร์หนิวถลาเข้าไปหาเจียงซื่อพลางส่งเสียงครางหงิงๆ
เจียงซื่อลูบหัวเอ้อร์หนิวอย่างเบามือ และหันไปถามหลงต้าน “คุณชายอวี๋ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจการเขตซุ่นเทียนจับตัวไปงั้นหรือ”
หลงต้านตอบอ้อมแอ้ม “เอ่อ ข้าน้อยเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจการหน่วยไหนขอรับ เจ้าหน้าที่ตรวจการในเมืองหลวงที่สามารถเข้ามาทำในส่วนนี้ได้มีหลายแห่งเหลือเกินขอรับ”
“ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าจะลองไปถามพี่ชายข้าดู”
หลงต้านรีบโบกมือทันควัน “มิต้องลำบากหรอกขอรับ ข้าน้อยให้คนไปสืบดูก็ได้ขอรับ”
เจียงซื่อครุ่นคิด
ก็ถ้าเป็นเช่นนั้น แล้วหลงต้านจะมาพูดกับนางให้มากความทำไมกัน
หลงต้านแอบสังเกตอาการของเจียงซื่อ เขาไตร่ตรองก่อนเอ่ยขึ้นว่า “คุณหนูเจียง คุณชายของพวกเราอยู่ตัวคนเดียวในเมืองหลวงแห่งนี้ ข้าน้อยต้องวิ่งวุ่นเพื่อช่วยพาคุณชายออกมา เกรงว่าจะไม่มีใครดูแลเอ้อร์หนิว คุณหนูช่วย…”
เหล่าหวังที่กำลังเฝ้าประตูอยู่รีบหลบเข้าไปในมุมกำแพง แสร้งทำเป็นว่าไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้น
“ถ้าไม่มีใครให้ข้าวเอ้อร์หนิว เกรงว่าจะอดตายขอรับ”
ดูเหมือนว่าคราวนี้เอ้อร์หนิวจะฟังรู้เรื่อง มันนอนแผ่ลงบนพื้นและทำท่าทางน่าสงสาร
เส้นเลือดบนหน้าผากของเจียงซื่อกระตุกวูบ
ที่หลงต้านพูดพร่ำเรื่องที่กังวลอยู่นานสองนานก็เพื่อจะให้นางดูแลเอ้อร์หนิว?
เดี๋ยวนะ หรือว่านี่กำลังจะบอกว่าเรื่องที่เกิดกับอวี้ชีไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย?
เจียงซื่อค่อยๆ สงบสติลงระคนรู้สึกหงุดหงิดที่เมื่อครู่ตื่นตระหนกตกใจจนควบคุมตัวเองไม่อยู่
นางคร้านจะใส่ใจว่าเขาจะเป็นหรือจะตายเต็มทน!
“อย่างนี้แล้วกัน สองสามวันนี้ก็ให้เอ้อร์หนิวไปอยู่กับพี่ชายข้าแล้วกัน”
“ไม่ได้นะขอรับ หากเอ้อร์หนิวไปอยู่ต่างที่มันจะนอนไม่หลับขอรับ”
โฮ่ง… เอ้อร์หนิวเห่าหนึ่งครั้งสื่อว่าเห็นด้วย
เจียงซื่อชำเลืองมองไปที่เอ้อร์หนิวแวบหนึ่ง
นางไม่ยักรู้มาก่อนว่าเอ้อร์หนิวมีนิสัยเช่นนั้น
เอ้อร์หนิวยื่นหน้าขึ้นพลางทำจมูกฟุดฟิดออดอ้อนเจียงซื่อ ดวงตาสีนิลใสแจ๋วส่งสัญญาณว่าหากนางไม่ตกลงมันจะร้องไห้ออกมา
เจียงซื่อถอนหายใจเบาๆ
ช่างเถอะ ไม่ว่าจะอย่างไร ในเมื่ออวี้ชีประสบปัญหา นางก็จะช่วยดูแลเอ้อร์หนิวสักสองสามวันแล้วกัน
“ถ้างั้นข้าจะหาเวลามาที่นี่ทุกวันแล้วกัน ส่วนเรื่องคุณชายอวี๋ หากเจ้าได้เรื่องอะไรมาก็อย่าลืมแจ้งข้าด้วย”
หลงต้านพยักหน้าหงึกๆ “คุณหนูเจียงวางใจได้ขอรับ หากข้าน้อยได้เรื่องอะไรมาจะแจ้งคุณหนูเป็นคนแรกเลยขอรับ คุณหนูจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง”
เจียงซื่อเม้มปาก
นางไม่ได้เป็นห่วงเสียหน่อย…
“อาหมาน ไปกันเถอะ”
เมื่อเจียงซื่อพาอาหมานกลับไป หลงต้านก็รีบวิ่งเข้าไปในเรือนด้านข้างทันที
โชคดีที่เจ้านายเป็นถึงองค์ชาย จึงไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครทำอันตรายถึงชีวิต แต่กระนั้นการจะไปสืบเรื่องเจ้านายนั้นจะขาดเงินช่วยเปิดทางไปเสียไม่ได้ ยังดีที่เขามีเงินเก็บอยู่ในหีบจำนวนไม่น้อย เอาออกมาใช้ในการสืบเรื่องเจ้านายก่อนก็น่าจะเพียงพอ
หลงต้านวิ่งไปยังจุดที่ซ่อนเงิน แต่เมื่อเห็นกองเสื้อผ้าที่กระจายเกลื่อนก็เริ่มรู้สึกทะแม่งๆ เขารีบกวาดกองเสื้อผ้าด้านบนออกและลวงมือเข้าไปคลำในหีบ
ทำไมในหีบไม่มีอะไรเลย
ใบหน้าของหลงต้านพลันเปลี่ยนสี รีบยกหีบนั้นออกมาเท ข้าวของไหลกระจัดกระจายแต่กลับไม่พบถุงเงิน
“เหล่าหวัง!” หลงต้านตะโกนเรียกเสียงแหลม
เหล่าหวังที่ยืนเอามือไขว้หลังอยู่ที่ประตูขานตอบ “มีอะไรรึ”
“มีขโมยขึ้นเรือนงั้นเหรอ”
“ไม่มีนะ”
“ถ้างั้นถุงเงินที่ข้าซ่อนไว้ในหีบหายไปไหนล่ะ” หลงต้านถามเสียงดัง
เหล่าหวังใช้นิ้วแคะหูตัวเองพลางชี้ไปที่เอ้อร์หนิว “งั้นเจ้าต้องถามเอ้อร์หนิวแล้วล่ะ”
หลงต้านพยายามข่มกลั้นให้ตัวเองใจเย็นเข้าไว้และหันไปจ้องเอ้อร์หนิว
เขาสัมผัสได้ถึงลางร้าย!
“เอ้อร์หนิว ถุงเงินของข้าล่ะ”
โฮ่ง โฮ่ง เอ้อร์หนิวปรายตาขึ้นมองฟ้า
พูดอะไร มันฟังไม่รู้เรื่อง
เหล่าหวังที่ทนดูต่อไปไม่ได้จึงเอ่ยขึ้นว่า “เอ้อร์หนิวเอาให้คุณหนูเจียงไปแล้ว”
หลังความเงียบงันชั่วอึดใจ หลงต้านก็คร่ำครวญออกมาอย่างโศกเศร้า “นั่นมันเงินทุนที่ข้าเก็บไว้ในหีบสำหรับแต่งเมียนะ เอ้อร์หนิว เจ้ามันหมาชั่ว ข้าจะจับเจ้าถลกหนัง…”
เอ้อร์หนิวเมินใส่หลงต้านพลางส่ายหางวิ่งหนีไป
ครั้นเจียงซื่อและสาวรับใช้กลับมาถึงเรือนไห่ถัง อาหมานก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ “คุณหนู ในนี้มีเงินอยู่จำนวนมากเลยเจ้าค่ะ!”
มีเงินอยู่จำนวนมาก?
เจียงซื่อเลิกคิ้ว
“คุณหนูดูสิเจ้าคะ มีตั๋วเงินเป็นปึกเลยเจ้าค่ะ”
“เก็บให้ดีล่ะ รอคุณชายอวี๋กลับมาจะได้เอาไปคืน”
“โธ่” อาหมานร้องพลางยัดถุงเงินเก็บให้เรียบร้อย “คุณหนู คุณหนูว่าคุณชายอวี๋ทำความผิดอะไรหรือเจ้าคะ เหตุใดถึงถูกจับเข้าคุก”
เจียงซื่อเอ่ยเสียงราบเรียบ “จากนิสัยของเขาจะถูกจับเข้าคุกก็มิใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด”
เป็นถึงองค์ชาย ไม่มีเรื่องอะไรที่เขาไม่กล้าทำ นางทราบเรื่องนี้มาตั้งแต่ชาติก่อนแล้ว
“คุณหนู คุณหนูไม่ต้องเป็นห่วงหรอกเจ้าค่ะ” อาหมานพูดปลอบอย่างใส่ใจ
เจียงซื่อเหมือนเป็นแมวที่ถูกเหยียบหาง “อย่าพูดจาไร้สาระหน่า!”
อาหมานแอบกลอกตา
สมัยนี้เนี่ย แม้แต่พูดความจริงยังทำไม่ได้ การจะเป็นสาวรับใช้นี่ไม่ใช่งานง่ายเลยจริงๆ
หลังจากนั้นไม่นานเจียงซื่อก็สั่งว่า “ให้เหล่าฉินไปถามอาเฟยสิว่า สามารถสืบเรื่องคุณชายอวี๋ได้หรือไม่”
อาหมาน “…” คุณหนูจะอดทนอีกหน่อยค่อยเอ่ยออกมาไม่ได้เลยหรือยังไง
“รีบไปสิ!” เจียงซื่อที่รู้สึกประหม่าเต็มประดาหันไปจ้องอาหมาน
“เจ้าค่ะ บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ” อาหมานกลั้นยิ้มเดินออกไป
เจียงซื่อลุกขึ้นและเดินไปเพียงไม่กี่ก้าวก่อนจะไปนั่งลงบนเตียง นางหยิบหมอนนุ่มขึ้นมากอดพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่
นางคงต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะปล่อยวางเรื่องคนเลวนั่นได้
รออยู่นาน อาหมานก็กลับมาพร้อมกับข่าวจากอาเฟย ซึ่งแน่นอนว่าอาเฟยคงไม่ได้ยินข่าวอะไรเกี่ยวกับอวี้จิ่น
แม้ว่าเรื่องที่อวี้จิ่นถูกแต่งตั้งเป็นอ๋องจะสร้างความฮือฮาไปทั่ว แต่เรื่องนี้กลับแพร่สะพัดอยู่เฉพาะในวังหลังและท่ามกลางเหล่าขุนนางเท่านั้น มิได้ถูกเผยแพร่ออกไปภายนอก และแน่นอนว่าแม้ข่าวลือจะแพร่ออกไปก็คงไม่มีผู้ใดฉุกคิดได้ว่าองค์ชายเจ็ดและอวี๋ชีคือคนๆ เดียวกัน ฉะนั้นอาเฟยที่ไปสืบเรื่องอวี๋ชีก็คงไม่ทันได้สังเกตในจุดนี้
ดังนั้นเจียงซื่อจึงถูกลิขิตให้ผิดหวังตามไปด้วย
ตอนที่อวี้จิ่นออกไป เขาพาเหลิงอิ่งไปด้วย ครึ่งวันหลังจากนั้นหลงต้านก็หาทางติดต่อกับเหลิงอิ่งได้ในที่สุด
“เจ้า… เจ้านายได้เลื่อนขั้นเป็นอ๋อง?” ดวงตาของหลงต้านเบิกกว้าง กรามของเขาอ้าค้างอยู่กับที่
“อื้อ” เหลิงอิ่งตอบสั้นๆ
หลงต้านใช้นิ้วจิ้มเหลิงอิ่ง “เจ้าช่วยอธิบายให้มันละเอียดกว่านี้หน่อยสิ”
ท่าทีอมพะนำของอีกคนทำให้เขาร้อนใจอย่างยิ่งยวด
“ข้าก็ไม่รู้รายละเอียด คนพวกนั้นจับตัวข้า หลังจากนั้นก็ปล่อยข้าออกมาแล้วก็แสดงความยินดีกับข้า ข้าถึงได้รู้ว่าฮ่องเต้แต่งตั้งเจ้านายขึ้นเป็นอ๋อง”
หลงต้านลูบหน้าตัวเอง “ข้าว่าเรื่องนี้มันแปลกๆ อยู่นะ เจ้าได้เจอเจ้านายหรือยัง”
“ยัง เจ้านายถูกทหารองครักษ์นำตัวไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ จากนั้นก็ถูกขังไว้ที่ฝ่ายข้าราชการพลเรือน เรื่องพวกนี้ข้าได้ยินคนอื่นพูดมาอีกที”
องครักษ์ประจำตัวองค์ชายอย่างเหลิงอิ่งสามารถจัดการภารกิจได้อย่างราบรื่นแม้ไม่มีคำสั่งอย่างละเอียดจากเบื้องบน
แต่เพราะคำสั่งของจิ่งหมิงตี้เกี่ยวข้องกับเหล่าองค์ชาย จึงไม่มีใครสนใจว่าเหล่าองครักษ์ที่ติดตามมาด้วยจะเป็นอย่างไร ฉะนั้นเหลิงอิ่งจึงถูกจับขังไว้ตั้งแต่แรก แต่เมื่อองค์ชายเจ็ดถูกแต่งตั้งขึ้นเป็นอ๋องก็รีบปล่อยตัวเขาออกมาทันที
ความจริงแล้วเรื่องนี้คงเรียกได้ว่า เมื่อคนหนึ่งบรรลุเป็นเซียน หมูหมากาไก่รอบตัวก็พลอยได้ดิบได้ดีไปด้วย
“แล้วเจ้ารู้อะไรอีก” หลงต้านเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์
“อีกสามวันเจ้านายถึงจะถูกปล่อยตัว”
อีกสามวัน เรื่องที่องค์ชายเจ็ดถูกแต่งตั้งขึ้นเป็นอ๋องก็จะกระจายไปทั่วราชอาณาจักร
แม้เจียงซื่อจะไม่ได้ข่าวคราวของอวี้จิ่นเลย แต่ก็ไม่สะดวกใจจะให้อาเฟยไปสืบเรื่องขององค์ชายเช่นกัน ในที่สุดจึงต้องไปถามจากเจียงอันเฉิง “ท่านพ่อ ช่วงนี้ข้างนอกมีข่าวคราวอะไรใหม่ๆ บ้างไหมเจ้าคะ”
“ข่าวใหม่ๆ? ในเมืองหลวงวันไหนๆ ก็มีข่าวใหม่ทั้งนั้นแหละ”
“แล้วข่าวที่เกี่ยวกับราชสำนักล่ะเจ้าคะ”
เจียงอันเฉิงครุ่นคิด “ว่าไปแล้วก็มีอยู่เรื่องหนึ่ง องค์ชายเจ็ดที่ถูกเลี้ยงที่นอกวังถูกแต่งตั้งขึ้นเป็นอ๋องแล้ว”