ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ - ตอนที่ 447 การเสียชีวิตของซูซื่อ
องค์หญิงใหญ่หรงหยางคือฆาตกรตัวจริงที่ฆ่าท่านแม่ เรื่องนี้มิได้สร้างความประหลาดใจให้แก่เจียงซื่อ แต่สิ่งที่ทำให้นางรู้สึกประหลาดใจคือการที่องค์หญิงใหญ่หรงหยางยืมมือโหยวซื่อต่างหาก
ในขณะที่ความเงียบงันเข้าปกคลุม กลับมีเสียงของโหยวซื่อก้องขึ้นในหู “ในตอนนั้น อี้เอ๋อร์เพิ่งจะอายุได้ขวบเดียว มีอยู่วันหนึ่งองค์หญิงใหญ่หรงหยางเรียกให้ข้าไปพบ พร้อมมอบกล่องใบเล็กให้ข้า ในกล่องนั้นมีหนอนแบบเมื่อครู่ ไม่สิ ความจริงแล้วมิควรเรียกว่าหนอน ต้องเรียกหนอนพิษกู่จะถูกกว่า นางบอกกับข้าว่า หนอนพิษกู่จะขยับตัวเมื่อมันได้กลิ่นคาวเลือด ตราบใดที่นิ้วกลางบนมือข้างซ้ายของคนผู้นั้นมีรอยกรีด หนอนพิษกู่ก็จะฝังตัวเข้าไป และจะอยู่เป็นกาฝากที่บริเวณหัวใจของคนผู้นั้น ใช้เวลาไม่นาน ผู้ถูกอาศัยจะเริ่มมีอาการภาวะหัวใจล้มเหลวและเสียชีวิตลงในที่สุด โดยที่ไม่มีผู้ใดเอะใจ…”
“พอแล้ว เจ้าแค่พูดมาว่าเหตุใดองค์หญิงใหญ่หรงหยางต้องทำถึงขนาดนี้!” เหล่าอี๋หนิงโหวแผดเสียงคำราม
“เหตุใดถึงต้องทำขนาดนี้งั้นหรือ” โหยวซื่อดึงมุมปาก พร้อมมองไปที่เจียงซื่อด้วยสายตาเหยียดหยาม “การที่ซูเคอไปถวายธูปมิใช่เพราะลอบนัดพบกับแม่ทัพชุยหรอกรึ”
“ไร้สาระสิ้นดี!” เจียงจั้นโมโหจนเส้นเลือดบนหน้าผากปูดโปน กำปั้นหนักทุบลงที่โต๊ะตัวเล็กเบื้องหน้าโหยวซื่อ
“ที่บอกว่าท่านแม่ของข้าลอบนัดพบกับแม่ทัพชุย เป็นเพียงการคาดเดาของเจ้าเอง หรือออกจากปากองค์หญิงใหญ่หรงหยาง”
“องค์หญิงใหญ่หรงหยางพูดเองกับปาก” ความลับนี้เก็บซ่อนอยู่ในใจมานานแสนนาน มาถึงตอนนี้ โหยวซื่อก็ไม่อยากทนเก็บงำอีกต่อไปแล้ว
“ดังนั้น นางถึงได้มาหาข้า ให้ข้าฆ่าซูเคอ แม่ทัพชุยจะได้ลืมนางเสียที…”
ลุงใหญ่แซ่ซูโกรธขึ้ง ฝ่ามือหนักสะบัดลงบนหน้าผู้เป็นภรรยาถึงสองครั้ง เขาเค้นเสียง “นางสั่งให้เจ้าทำร้ายอาเคอ เจ้าก็ทำงั้นรึ หากนางสั่งให้เจ้าไปตาย เจ้าก็จะไปรึ”
“แล้วข้าจะทำอย่างไรได้” โหยวซื่อย้อนถามเสียงแหลมพร้อมแก้มสองข้างที่บวมแดง “องค์หญิงใหญ่หรงหยางเอาลูกๆ ของข้ามาขู่ นางบอกว่า หากข้าไม่ทำ นางจะเอาชีวิตลูกของข้า! ซูซาน ข้าเป็นแม่ หากข้าไม่ทำตามคำสั่งของนาง ให้ข้ามองดูลูกๆ ของข้ามีอันเป็นไปอย่างนั้นหรือ”
ยิ่งนางพูด อารมณ์ของนางก็ยิ่งดำดิ่ง นางบีบมือของลุงใหญ่ซูพลางถามด้วยน้ำเสียงอ่อนล้าแหบแห้ง “เจ้าบอกมาสิ ข้าควรทำเช่นไร ข้าควรทำเช่นไร”
ครั้นว่ามาถึงตรงนี้แล้ว โหยวซื่อก็แตกสลายโดยสมบูรณ์ นางร่ำไห้เสียงดังสนั่น
นางเคยมีชีวิตสมรสที่ราบรื่น ไร้มลทิน หากมิใช่เพราะซูเคอไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ มือของนางคงไม่ต้องเปื้อนเลือด ความลับที่หนักอึ้งทำให้นางไม่อาจข่มตาหลับอย่างสงบได้เลยสักวัน
“ทั้งหมดเป็นเพราะน้องสาวของเจ้าและแม่ทัพชุยที่ยังมีเยื่อใยต่อกัน ข้าถึงถูกบีบให้กลายเป็นคนเช่นนี้…”
“หุบปาก!” ทันใดนั้น ประตูห้องก็ถูกเปิดออก เหล่าฮูหยินเดินมาโดยมีบ่าวรับใช้ข้างกายช่วยพยุง
สีหน้าทุกคนแปรเปลี่ยนโดยพลัน
“ท่านแม่มาได้อย่างไร”
เหล่าฮูหยินก้าวเชื่องช้าไปหยุดอยู่ที่หน้าโหยวซื่อ ริมฝีปากของนางเริ่มมีสีเข้ม สีหน้าดีขึ้นกว่าก่อนมากแล้ว
“ใครบอกเจ้าว่าอาเคอและแม่ทัพชุยยังมีเยื่อใยต่อกัน”
โหยวซื่อเบะปากเยาะเย้ย “ก็มิใช่หรอกรึ ในเมืองหลวงมีใครไม่รู้บ้างว่าซูเคอและแม่ทัพชุยสนิทสนมกันจนเกินเลย เมื่อนางไม่ได้แต่งงานกับแม่ทัพชุย จึงไม่มีผู้ใดอยากรับเป็นภรรยา ถึงได้นั่งหงาวอยู่ที่เรือนตั้งหลายปีกว่าจะแต่งเข้าไปอยู่ในจวนตงผิงปั๋ว...”
“ให้ตายเถอะ!” เหล่าฮูหยินเค้นเสียง ทั้งหมดตกตะลึง เว้นแต่เหล่าอี๋หนิงโหว
โหยวซื่อชะงักงัน
ในความทรงจำของนาง แม่สามีเป็นหญิงชราที่สงบและมีอารมณ์มั่นคง มิได้แตกต่างจากผู้อาวุโสในจวนอื่นๆ เท่าใดนัก
เหล่าฮูหยินมิได้ใส่ใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร นางก่นด่าตามที่ใจปรารถนา “เสียดายที่อุตส่าห์เกิดในตระกูลสูงศักดิ์ แต่ทว่าปากกลับพ่นออกมาแต่ของเน่าเสีย ตอนนั้นข้าคงตาบอดตาสั้นถึงได้ให้คนเช่นเจ้ามาแต่งงานกับเหล่าต้า!”
เจียงอีเข้าไปช่วยพยุงเหล่าฮูหยิน พร้อมกล่าวโน้มน้าวเสียงเบา “ท่านยาย อย่าเพิ่งโมโหไปเลย เกรงว่าร่างกายจะแย่เอานะเจ้าคะ”
แม้สติของเหล่าฮูหยินในตอนนี้จะอยู่เหนือการควบคุม ทว่าเอวของนางยังเหยียดตรง นางยกมือปรามหลานสาว “ถ้าเก็บไว้รังแต่จะทำลายสุขภาพ สู้ข้าปลดปล่อยออกมา มีแต่จะทำให้ร่างกายดีขึ้น วันนี้ข้าจะด่าให้สาแก่ใจ!”
หญิงชราพ่นคำด่าออกมาราวๆ ชั่วเวลาจิบชาหนึ่งถ้วย นิ้วของนางชี้ไปที่ปลายจมูกของโหยวซื่อ “จวนโหวของพวกข้าไม่เคยแต่งงานเพราะหวังผล ในตอนนั้นข้าให้หลิวมาหม่าจับตาดูอาเคอเอาไว้ อาเคอยังเป็นหญิงสาวบริสุทธิ์ ข้าถึงได้ยอมยกนางให้จวนตงผิงปั๋ว จริงอยู่ที่อาเคอและชุยซวี่ชอบพอกันมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก แต่ถึงกระนั้นนางก็มิเคยทำเรื่องเลยเถิด แต่เจ้ากลับคิดว่าแม่ของเด็กทั้งสามจะลอบมีสัมพันธ์กับชุยซวี่งั้นหรือ”
“พี่สาวมิใช่คนเช่นนั้น” น้ารองซูกล่าวอย่างอดไม่ได้
เจียงอีก็เช่นกัน “ความสัมพันธ์ของท่านพ่อและท่านแม่ดีมาตลอด ข้ายังจำได้ดีว่าก่อนที่ท่านแม่จะจากไปนางเคยบอกว่าไม่เสียดายที่ได้แต่งงานกับท่านพ่อ ท่านพ่อเป็นคนสำคัญที่สุดในใจของท่านแม่”
นางยังไม่ลืมเสียงร้องไห้ของท่านพ่อตอนที่ได้ยินประโยคนั้น เป็นการร้องไห้ฟูมฟายไม่ต่างจากเด็กน้อย
และท่านแม่ก็ค่อยๆ หลับตาลงอย่างอาลัยอาวรณ์ต่อหน้าท่านพ่อและลูกๆ
โหยวซื่อยังคงนิ่งเงียบ
เหล่าฮูหยินมิอาจระบายความคับข้องใจได้หมด น้ำเสียงยังเจือด้วยความเดียดฉันท์ “อาเคอไร้ความผิด แค่เพียงองค์หญิงใหญ่หรงหยางหมายตาว่าที่คู่หมั้นของนาง งานวิวาห์แสนสุขถึงได้ล้มไม่เป็นท่า ชื่อเสียงของนางป่นปี้ และท้ายที่สุด เรื่องนี้ก็มาพรากชีวิตของนางไป อสรพิษเช่นเจ้าไม่โทษองค์หญิงใหญ่หรงหยางที่อำมหิตและไร้ยางอาย ไม่โทษที่ตัวเองโง่เง่า แต่กลับโทษว่าเป็นความผิดของอาเคอ หากเรื่องนี้มิได้พิสูจน์ว่าเจ้าโง่เง่าดักดาน จะพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดได้อีก”
“ข้าไม่มีทางเลือก…” โหยวซื่อพึมพำ
เหล่าฮูหยินหัวเราะเยาะ “อย่ามาอ้างว่าองค์หญิงใหญ่หรงหยางขู่เจ้า! นางกล้าออกปากขู่เจ้าเช่นนั้น หากเป็นข้า ข้าคงป่าวประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ถึงตอนนั้นองค์หญิงใหญ่หรงหยางก็จะไม่กล้าทำอะไรสวินเอ๋อร์และคนอื่นๆ เจ้าเองก็มิต้องนั่งเฝ้าอธิษฐานขอพรให้สวินเอ๋อร์และคนอื่นๆ แคล้วคลาดปลอดภัย โหยวซื่อ เจ้าคิดว่าองค์หญิงใหญ่หรงหยางไม่ห่วงภาพลักษณ์ของตัวเองงั้นหรือ ต่อให้นางจะไร้ยางอาย แต่ฝ่าบาทหาเป็นเช่นนั้นไม่!”
โหยวซื่อนิ่งอึ้งไปโดยสมบูรณ์
เหล่าฮูหยินไม่แม้แต่จะชายตามองไปที่ลูกสะใภ้ นางหันหลังกลับไปบอกลุงใหญ่ซู “ในเมื่อนางเป็นภรรยาของเจ้า และเป็นมารดาของสวินเอ๋อร์ เรื่องนี้ข้าไม่ขอมีส่วนเอี่ยว ค้างหนี้ย่อมต้องใช้หนี้ฉันใด ติดค้างชีวิตใครก็ย่อมต้องชดใช้ด้วยชีวิตฉันนั้น เจ้าก็พิจารณาเอาเถิดว่าจะส่งนางให้ทางการ หรือปล่อยให้เป็นไปกรรมที่นางก่อ”
ครั้นว่าจบ เหล่าฮูหยินก็เอื้อมมือไปหาเจียงซื่อ “ซื่อเอ๋อร์ พาข้ากลับไปที่ห้อง”
เจียงซื่อเข้ามาพยุงอีกข้างพลางบอก “ข้ายังมีอีกคำถามหนึ่ง”
โหยวซื่อมองมาที่นางแล้วก็หัวเราะอย่างไม่มีเหตุผล “เหล่าฮูหยินมิได้บอกเองหรือว่าการข่มขู่ไม่เป็นผล”
ในเมื่ออย่างไรนางก็จะต้องตาย นางก็ไม่มีความจำเป็นต้องสนองความสงสัยใคร่รู้ของใคร
เจียงซื่อยิ้มเย็นชา “โลกนี้ใครต่างก็รู้ว่าองค์หญิงใหญ่หรงหยางแย่งว่าที่คู่หมั้นของท่านแม่ มีข่าวลือแพร่ไปเช่นนั้นกลับไม่มีผู้ใดเอะใจเลยสักนิด แต่ถ้าหากมีข่าวลือว่าพระชายาเยี่ยนอ๋องไม่พอใจทายาทของอี๋หนิงโหว เจ้าคิดว่าคนอื่นๆ จะคิดเช่นไร เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาอาจจะคิดว่า มารดาของทายาทอี๋หนิงโหวเป็นคนวางยาน้องสาวสามีและแม่สามี หากเป็นเช่นนั้น ข้าก็ไม่เห็นต้องลงแรงให้เหนื่อยเปล่า ในเมื่อการมีแม่เช่นเจ้าก็ทำให้คนเป็นลูกโชคร้ายมากพอแล้ว…”
ใบหน้าของโหยวซื่อซีดเผือด
เจียงซื่อขู่นางอีกแล้ว!
คนพวกนี้ได้ยินว่าเจียงซื่อจะทำลายสวินเอ๋อร์แล้วจะไม่ดูดำดีเลยหรือ
ความคิดมากมายว่ายวนไปมา สุดท้ายนางก็เลือกอนาคตของบุตร จึงกลั้นใจเอ่ย “อยากถามอะไรก็ถามมา”
“เจ้าไปได้หนอนพิษกู่ที่ทำร้ายท่านยายมาจากที่ใด”