ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ - ตอนที่ 570 ลูกสาว
หมอตำแยทั้งหกเดินไปมารอบตัวเจียงซื่อ หนึ่งในหมอตำแยคนหนึ่งรับเด็กมาดูก่อนเลยว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย
เป็นเด็กผู้หญิง…
หมอตำแยใจดิ่งลงไปทันที ทว่ากลับไม่แสดงความรู้สึกใดออกมาทางสีหน้า ส่วนหมอตำแยอีกคนหนึ่งเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เด็กอย่างคล่องแคล่วแล้วใช้ผ้าห่มผืนเล็กที่อ่อนนุ่มห่อตัวไว้ จากนั้นอุ้มไปให้เจียงซื่อดู
“ขอแสดงความยินดีด้วยเพคะพระชายา เป็นบุตรสาว หน้าตาน่ารักน่าชังเหมือนท่านเลยเพคะ”
ในใจหมอตำแยเหล่านี้รู้ดีอยู่แล้ว ยิ่งเป็นครอบครัวที่ร่ำรวย ก็ยิ่งให้ความสำคัญกับเด็กผู้ชาย ซึ่งในราชวงศ์นั้นการมีผู้สืบสกุลจึงเป็นเรื่องใหญ่ยิ่งกว่า
พระครรภ์แรกของพระชายาอ๋องนั้นเป็นคุณหนู ซึ่งไม่เป็นที่รักเท่ากลับคลอดพระโอรสแน่นอน
พวกนางแสดงความยินดีต่อพระชายาอ๋อง ทว่าก็รู้สึกกังวลในใจ
เป็นหมอตำแยมาเป็นเวลานานล้วนเจอมาทุกเหตุการณ์ บางคนพบว่าเป็นบุตรี สตรีที่คลอดบุตรส่วนมากต่างร้องไห้ใจสลาย ยิ่งไปกว่านั้นยังมีบางคนที่จิตใจอำมหิตเห็นว่าเป็นเด็กผู้หญิงก็แอบเอาไปทิ้งเงียบๆ
ช่างน่าสงสาร น่าเวทนาเกินไปแล้ว
แน่นอนว่าหลังจากที่พวกเขามีชื่อเสียงก็พบเจอเรื่องเหล่านี้น้อยลงมาก ครอบครัวที่ร่ำรวยอย่างน้อยก็ไม่ยากแค้นที่จะเลี้ยงเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ยังไม่เคยเจอเอาไปทิ้งหรือเอาไปถ่วงน้ำสักคน
เจียงซื่อหมดเรี่ยวหมดแรง พยายามลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก แล้วเจอเข้ากับเด็กทารกน้อยคนหนึ่ง
ทารกหลับตาปี๋พร้อมกับร้องไห้เสียงดัง
เจียงซื่อยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้
เจ้าตัวน้อยชอบดิ้นไปมาตอนอยู่ในท้องของนาง พอออกมาเสียงร้องไห้ก็ดังโวยวายเลยทีเดียว น่าจะเป็นเด็กที่คึกคักร่าเริงพอตัว
เมื่อเห็นรอยยิ้มอันเด่นชัดของเจียงซื่อ หมอตำแยที่อุ้มทารกไว้ก็กล้าที่จะเอามาใกล้ๆ นาง แนบชิดกับใบหน้านาง
วินาทีนั้น น้ำตาของเจียงซื่อร่วงโรยลงมาทันที
มันไม่ใช่ความเสียใจ แต่ก็ไม่ใช่ความดีใจ น้ำตามันไหลพรั่งพรูออกมา ไม่อาจต้านทานได้
มันเป็นความรู้สึกแห่งการผูกพันทางสายเลือด
ตั้งแต่นี้ไป บนโลกนี้จะมีเด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่มีเลือดเนื้อเชื้อไขของนางกับอวี้จิ่นอยู่ในตัว
ที่แท้ความรู้สึกของการเป็นแม่ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง
“พระชายาอ๋องอย่าร้องไห้เลยเพคะ ระวังตาจะเจ็บเอานะเพคะ” หมอตำแยที่อุ้มเด็กไว้ลุกลี้ลุกลนขึ้นมาเล็กน้อย
หรือว่าพระชายาอ๋องจะไม่ดีใจ
เจียงซื่อยิ้มออกมา “ข้าดีใจ อุ้มเด็กออกไปให้ท่านอ๋องดูเถอะ”
หมอตำแยถึงได้โล่งใจ อุ้มทารกออกไปข้างนอก
อวี้จิ่นที่อยู่ข้างนอกได้ยินเสียงทารกร้องไห้แล้ว ขณะที่กำลังจะถีบจี้หมัวมัวที่ขวางไว้ หมอตำแยก็ออกมาได้ทันเวลาพอดี
“ขอแสดงความยินดีกับท่านอ๋องด้วยเพคะ พระชายาได้คลอดบุตรสาวออกมาแล้ว”
“เป็นผู้หญิงงั้นหรือ” อวี้จิ่นสาวเท้าก้าวเข้าไป
หมอตำแยยิ้มร่าพลางเอ่ยขึ้น “ผลิดอกออกผล[1]…”
พระชายาอ๋องดูเหมือนจะพอใจ แต่ท่านอ๋องไม่ชอบงั้นหรือ
อวี้จิ่นยืนอึ้งมองทารกน้อยที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยย่นในผ้าห่อตัวสีแดงผืนใหญ่
“ท่านอ๋องเจ้าคะ”
อวี้จิ่นยื่นนิ้วมือออกไป จิ้มที่ใบหน้าของทารกเบาๆ “นี่…พระชายาอ๋องคลอดออกมาหรือ”
เด็กคนนี้ น่าเกลียดอย่างกับลิง ยังจะเป็นเด็กผู้หญิงอีก…
หมอตำแยได้แต่อึ้งกับคำถาม “อะแฮ่มอะแฮ่ม ท่านอ๋องช่างมีอารมณ์ขันเสียจริงนะเพคะ”
หากไม่ใช่พระชายาเอกคลอด หรือว่าจะแปลงกายออกมาจากในก้อนหินกัน
ท่านอ๋องไม่ชอบจริงๆ ด้วย!
ทารกน้อยถูกบิดาบุ่มบ่ามเขามาจิ้มตัว จึงร้องไห้โฮขึ้นมากะทันหัน
อวี้จิ่นท่าทางลุกลี้ลุกลน “นางร้องไห้แล้ว…จี้หมัวมัว รีบให้แม่นมเข้ามาปลอบเร็ว ข้าจะเข้าไปดูพระชายาอ๋อง”
อวี้จิ่นสาวเท้าพุ่งเข้าไป จี้หมัวมัวกลอกตาใส่
หมอตำแยได้แต่ตกตะลึง สืบถามจากจี้หมัวมัวอย่างระมัดระวัง “ท่านอ๋องเห็นว่าพระชายาอ๋องคลอดออกมาเป็นบุตรสาว เกรงว่าคงจะ….”
จี้หมัวมัวยิ้มร่า “ท่านอ๋องชอบสุดๆ ไปเลย นำคุณหนูไปให้แม่นม และไปรับรางวัลเถอะ”
หมอตำแยที่อยู่ข้างนอกไม่เข้าใจหรอก ไม่รู้หรอกว่าเพียงแค่เป็นเด็กที่พระชายาอ๋องให้กำเนิด อย่าว่าแต่เป็นบุตรีเลย แม้จะเป็นลิง ท่านอ๋องก็ไม่มีทางไม่ชอบ
อะแฮ่มอะแฮ่ม นางคงจะถูกท่านอ๋องยั่วโมโหจนตาลายไปแล้ว เหตุใดถึงได้วิจารณ์มั่วซั่วอยู่ในใจ
จี้หมัวมัวรู้สึกเล็กน้อยว่าภาพลักษณ์อันสุขุมของนางใกล้จะพังทลายลงแล้ว เมื่อจัดการกับความรู้สึกตัวเองเสร็จก็รีบไปจัดการธุระต่อไปอย่างรวดเร็ว
พระชายาอ๋องคลอดได้อย่างราบรื่น ต่อไปมีเรื่องให้ต้องยุ่งวุ่นวายอีกเยอะเลย จะต้องส่งจดหมายไปให้ในวังจนกระทั่งพระมารดาของชายาอ๋องโดยเร็ว
กลิ่นคาวเลือดในห้องยังไม่หายไป อีกทั้งในเดือนหกยิ่งไม่ให้เปิดหน้าต่าง จึงรู้สึกราวกับอยู่ในลังถึง
อวี้จิ่นมองไปยังคนที่นอนอยู่บนเตียง
ใบหน้าซีดเผือดเส้นผมที่ยุ่งเหยิง ผ้าปูที่นอนที่ถูกจับจนยู่ยี่…
หัวใจเขากระตุกวาบขึ้นมากะทันหัน รีบเดินเข้าไปอยู่ข้างเจียงซื่อ จับมือนางไว้แน่น “อาซื่อ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”
เจียงซื่อลืมตาขึ้น น้ำเสียงเหน็ดเหนื่อย “เหนื่อยมาก อาจิ่น ข้าอยากจะนอนพักก่อน เจ้าออกไปเถอะ”
“ได้ เจ้านอนเสียเถิด”
เจียงซื่อหลับตาลงอีกครั้ง
สำหรับผู้ที่คลอดลูกครั้งแรก ความเจ็บปวดทรมานนี้มันกินพลังไปเยอะมาก
อวี้จิ่นกลับไม่ขยับเขยื้อน
ภายในห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นคาวเลือดจางๆ ทำให้เขาราวกับรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดรวดร้าวที่เจียงซื่อรับมือเมื่อก่อนหน้านี้
เวลานี้อวี้จิ่นมีเพียงความคิดเดียวอยู่ในหัว ไม่เอาลูกแล้ว ไม่มีลูกเพิ่มแล้ว ลูกสาวที่เหมือนกับลิงคนเดียวก็พอแล้ว
อาเฉี่ยวถอนสายบัวลงต่อหน้าอวี้จิ่น “ท่านอ๋อง ท่านออกไปก่อนเถอะเจ้าค่ะ จะต้องเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้พระชายาอ๋องก่อนเจ้าค่ะ”
อวี้จิ่นพยักหน้า เหลือบมองเจียงซื่อ แล้วถึงได้เดินออกไป
อากาศข้างนอกสดชื่นขึ้นมาทันที
“ลูกข้าล่ะ” อวี้จิ่นถามจี้หมัวมัวออกไปตรงๆ
จี้หมัวมัวเอ่ยขึ้น “แม่นมกำลังป้อนนมให้คุณหนูเพคะ”
เมื่อได้ยินว่าแม่นมกำลังป้อนนมให้ลูก อวี้จิ่นก็ล้มเลิกความคิดที่จะไปดู หลังจากลังเลสักพักก็เอ่ยกระซิบถามจี้หมัวมัวออกไป “ทารกที่เพิ่งคลอด ล้วนหน้าตาน่าเกลียดเช่นนี้หรือ”
จี้หมัวมัวหนังตากระตุกขึ้นมาทันที เอ่ยพูดท่าทางจริงจัง “คุณหนูไม่ได้น่าเกลียด คุณหนูน่าจะเป็นทารกเพิ่งคลอดที่ดูดีที่สุด เพราะยังไงก็เหมือนพระชายาอ๋องเจ้าค่ะ”
อวี้จิ่นนึกกลับไปถึงทารกที่ใบหน้ามีแต่รอยย่น รู้สึกเริ่มสงสัยสายตาของจี้หมัวมัว
……
เที่ยงคืนแล้ว ไฟในเรือนหลักของจวนฉีอ๋องยังคงสว่างจ้า
ฉีอ๋องรีบเดินเข้ามา พระชายาอ๋องพลิกตัวลุกขึ้นทันที
“ยังไม่นอนอีกหรือ”
พระชายาฉีอ๋องจะนอนหลับลงได้อย่างไร
นางตั้งท้องช้ากว่าเจียงซื่อไปเล็กน้อย ถ้าหากยังไม่แท้ง ก็คงต้องเตรียมการคลอดลูกแล้ว ทว่าตอนนี้กลับทำได้เพียงแต่นอนพลิกไปพลิกมาเพื่อรอฟังข่าวจากทางจวนเยี่ยนอ๋อง
“พระชายาเยี่ยนอ๋องคลอดแล้วหรือ”
ตั้งแต่จวนเยี่นอ๋องมีข่าวแพร่งพรายออกมาว่าพระชายาเยี่ยนอ๋องมีอาการใกล้คลอดกำเริบ ทางจวนฉีอ๋องก็ได้ส่งคนจากทางนี้ไปจับตาดูแล้ว ตอนนี้ท่านอ๋องกลับมา แสดงว่าต้องมีอะไรบางอย่าง
“คลอดแล้ว”
“คลอดเมื่อไหร่” พระชายาฉีอ๋องนึกถึงเรื่องนี้ออกมาได้เป็นสิ่งแรก
ฉีอ๋องเม้มริมฝีปากเอ่ยขึ้น “หลังเที่ยงคืน”
พระชายาฉีอ๋องรู้สึกท้อใจเล็กน้อย
หลังเที่ยงคืนก็เป็นต้นเดือนหก หากคลอดก่อนสักประเดี๋ยวก็ยังอยู่ในเดือนห้าแล้ว เหตุใดเรื่องดีๆ ถึงเกิดขึ้นแต่กับพระชายาเยี่ยนอ๋องหมดนะ
นางคิดคำถามข้อที่สองออกมาทันที “เป็นคุณชายหรือคุณหนู”
ครั้นนี้ฉีอ๋องถึงได้ยิ้มออกมา “คุณหนู”
“อืม เด็กผู้หญิงสินะ…” พระชายาฉีอ๋องโล่งอกขึ้นมาทันที
ถ้าหากเป็นผู้ชายล่ะก็ พระชายาเยี่ยนอ๋องก็จะอยู่เหนือนางยิ่งขึ้น เกรงว่าหากเป็นเช่นนั้นคงจะรู้สึกไม่สบายใจไปอีกนาน
ฉีอ๋องก็โล่งใจขึ้นเยอะเช่นกัน
หลังจากที่จิ้นอ๋องล้ม จุดมุ่งหมายสำคัญอันดับแรกของเขาก็คือดึงไท่จื่อลงมา ทว่าคิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าเจ็ดจะโดดเด่นได้ขนาดนี้
มีชื่อเสียงที่ดีท่ามกลางราษฎร และได้ยินมาว่าเสนาบดีจ้าวที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งใหม่ก็เทิดทูนเจ้าเจ็ดมาก ถ้าหากคลอดบุตรชายออกมา เจ้าเจ็ดคงจะสูงส่งเทียมฟ้าไปแล้ว แต่ดีที่พระชายาอ๋องคลอดคุณหนูออกมา ภัยคุกคามจึงน้อยลงมาก
คู่สามีภรรยาฉีอ๋องยิ้มพร้อมกับสบตากัน จากนั้นก็เข้านอน
เช้าวันรุ่งขึ้น ข่าวเรื่องพระชายาเยี่ยนอ๋องคลอดคุณหนูก็ถูกส่งเข้าไปในวังแต่เช้า
[1] ผลิดอกออกผล ได้ลูกสาวก่อนลูกชายจะตามมา