ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ - ตอนที่ 660 ช่วยเหลือ
หิมะน้ำแข็งปกคลุมไปทั่วผืนดิน บนถนนหนทางเต็มไปด้วยหิมะหนาเป็นชั้น ล้อรถต้องเลื่อนผ่านท่ามกลางหิมะ ซึ่งมันส่งผลกระทบกับความเร็วในการไปต่อ
เนื่องจากไปได้ช้าลง อากาศภายในรถจึงอบอ้าวเล็กน้อย
เจียงซื่อเปิดผ้าม่านที่หนาเตอะออก ลมที่หนาวเหน็บเข้ากระดูกถือโอกาสทะลวงเข้ามา ทำเอาความอบอ้าวภายในรถหายวับไปในพริบตา
ผู้อาวุโสฮวาที่พิงกำแพงรถลืมตาขึ้นมา มองสังเกตเจียงซื่อ
ถึงจะแปลงกายกลายเป็นหลานสาวแล้ว แต่ว่าวิชาแปลงกายก็ไม่สามารถทำให้เหมือนทุกประการได้ ผู้ที่สามารถทำได้อย่างเชี่ยวชาญหากไม่สังเกตอย่างละเอียดก็จะดูไม่ออก ซึ่งมันก็ดีมากแล้ว
ผู้อาวุโสฮวาแอบจ้องมองเจียงซื่ออยู่เงียบๆ นึกถึงตอนที่คนเป่ยฉีสองคนนั้นแย่งขากระต่ายย่างในวัดผุพัง แล้วนางพูดว่าให้วางลงด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ผู้อาวุโสฮวาเข้าใจได้ทันที สตรีผู้นี้ไม่ชอบถูกเอารัดเอาเปรียบ ไม่ควรจะไปยั่วโมโหนาง
เจียงซื่อรู้สึกได้ว่าผู้อาวุโสฮวากำลังสังเกตตัวเองอยู่ แต่ไม่ได้หันกลับไป นางมองไกลออกไปแทน
เท่าที่เห็นตอนนี้ทั่วทุกที่เต็มไปด้วยหิมะขาวบริสุทธิ์ ดูเหมือนผืนดินจะเหลือเพียงสีเดียว
นอกจากรถม้าของพวกเขา ก็ไม่มีรถม้าคันอื่นสัญจรแล้ว
ทันใดนั้นเจียงซื่อหรี่ตาลง ยื่นหน้าออกไปดูอย่างอดไม่ได้
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง นางก็ตะเบ็งเสียงออกมา “หยุดก่อน”
เพียงเหล่าฉินดึงบังเหียนม้า รถม้าก็หยุดลงกะทันหัน
หลงต้านเดินมาที่ข้างหน้าต่าง “นายหญิงมีอะไรจะรับสั่งขอรับ”
เจียงซื่อชี้นิ้วออกไป “พวกเจ้าดูนั่นสิ มีคนนอนคว่ำหน้าอยู่ตรงนั้นคนหนึ่งใช่หรือไม่”
หลงต้านมองตามที่นางชี้ออกไป
ห่างออกไปจากถนนเส้นหลัก บนพื้นที่เต็มไปด้วยหิมะมีเงาของร่างหนึ่ง ดูคลับคล้ายคลับคลาเป็นรูปร่างคน
หลงต้านทำหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา “นายหญิงรอประเดี๋ยว บ่าวจะไปดูให้ขอรับ”
เจียงซื่อพยักหน้า “ไปเถอะ”
หลงต้านวิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว พอเข้าไปใกล้ก็เห็นร่างนั้นได้อย่างชัดเจน จึงตกใจเล็กน้อย
คนที่นอนคว่ำหน้าอยู่ในหลุมหิมะ สวมเสื้อกันหนาวสีฟ้าแกมน้ำเงิน ดูจากแผ่นหลังแล้วน่าจะยังเป็นเด็ก
หลงต้านเดินเข้าไปพลิกตัวขึ้นมา เผยให้เห็นใบหน้าที่ซีดเผือดเพราะความหนาวของเด็กคนหนึ่ง
หลงต้านเบิกตาโพลงขึ้นมาทันทีอย่างอดไม่ได้
เด็กคนนี้คือคนที่พวกเขาเคยเจอ ซึ่งก็คือปู่หลานคู่นั้นที่เข้ามาพักค้างแรมในวัดผุพังเมื่อคืนนี้ และก็เป็นหนึ่งในผู้เคลื่อนย้ายศพที่ผู้อาวุโสฮวาบอก
เด็กคนนี้แข็งตายไปแล้วหรือ แล้วปู่ของเขาล่ะ
หลงต้านได้แต่สงสัยในใจ แล้วยื่นมือออกไปตรวจดูลมหายใจของเด็กที่จมูก
ไม่รับรู้ถึงลมหายใจ
หลงต้านรีบถอดเสื้อกันหนาวบนตัวของเด็กออก
เนื่องจากก่อนหน้านี้เด็กนอคว่ำหน้าอยู่ เสื้อกันหนาวได้กลายเป็นน้ำแข็ง เขาจึงต้องออกแรงไปมากพอสมควรเพื่อเปิดออก จากนั้นก็เอาหูแนบไปที่บริเวณหัวใจของเด็กน้อย ได้ยินเสียงหัวใจเต้นเบาๆ
หลงต้านตาเป็นประกายขึ้นมา ตะโกนลั่นออกไปอย่างอดไม่ได้ “ยังมีชีวิตอยู่!”
มีเสียงหนึ่งแทรกเข้ามา “อุ้มเขาเข้าไปในรถม้าก่อน”
หลงต้านเงยหน้าขึ้นก็เจอเข้ากับเจียงซื่อที่ไม่รู้ว่ามาอยู่นี่ตั้งแต่เมื่อไร จากนั้นเอ่ยพูดด้วยความลังเลเล็กน้อย “อุ้มเข้าไปในรถหรือขอรับ”
รถม้าเป็นที่โดยสารของเจียงซื่อและผู้อาวุโสฮวา หากนำร่างของผู้เคลื่อนย้ายศพที่เย็นเฉียบนี้เขาไปวางด้านใน…
“เร็วเข้า ชักช้าอยู่นั่นเดี๋ยวก็แข็งตายหรอก” เจียงซื่อพูดเร่ง
ถึงแม้นางจะเป็นคนจัดการเรื่องใหญ่น้อยได้อย่างเลือดเย็น แต่นางก็ยังคงมีความเห็นอกเห็นใจอยู่บ้าง
เกิดเป็นคน การตัดสินใจเข้าไปช่วยคนใกล้ตายนั้นเป็นเรื่องง่ายมาก
หลงต้านไม่ลังเลอีกต่อไป อุ้มเด็กชายเข้าไปในรถม้าทันที
ผู้อาวุโสฮวาที่เดิมนั่งอยู่ในรถไม่ได้ลงมา เมื่อเห็นว่าเป็นเช่นนี้จึงทำได้เพียงย่อตัวเดินออกมาจากในรถ
เจียงซื่อยืนอยู่ด้านนอกรถมอบหมายงานให้หลงต้าน “ถอดเสื้อผ้าของเขาออกให้หมด แล้วใช้ผ้าห่มห่อตัวเขาไว้ จากนั้นลองป้อนน้ำอุ่นให้ทีละน้อย”
หลงต้านขานรับ พลางรีบจัดการตามคำสั่งทันที
เหล่าฉินไม่ได้เข้าไปช่วย
การเดินทางครั้งนี้มีผู้ร่วมเดินทางทั้งหมดสี่คน หน้าที่ที่สำคัญที่สุดของเขากับหลงต้านก็คือดูแลความปลอดภัยของพระชายาอ๋อง ตอนนี้หลงต้านกำลังช่วยชีวิตคนอยู่ สิ่งที่เขาต้องทำก็คืออยู่รอบๆ พระชายาอ๋อง ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น
เจียงซื่อยืนอยู่ด้านข้างโพรงหิมะ สังเกตอย่างละเอียดอยู่ครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็เอ่ยถามเหล่าฉินออกไป “เหล่าฉิน เจ้าว่าปู่ของเด็กคนนั้นอยู่ที่ใดกัน”
ฟังดูเหมือนเป็นคำถามปกติ ทว่ากลับทำเอาเหล่าฉินสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย พลางมองลงไปในโพรงหิมะ
หากจะเรียกว่าโพรงหิมะ ให้เรียกว่าอุโมงค์น้ำแข็งน่าจะเหมาะกว่า
ด้านบนปกคลุมด้วยหิมะ ด้านล่างเผยให้เห็นขอบน้ำแข็งแตก รวมไปถึงร่องรอยที่เด็กชายนอนคว่ำหน้าทิ้งไว้
เหล่าฉินสักเกตดูอย่างละเอียด เอ่ยปากพูดขึ้น “ที่นี่น่าจะเป็นแอ่งน้ำ ไม่รู้ว่ามันลึกและกว้างเท่าไหร่ คงถูกหิมะที่ตกอย่างหนักเมื่อวานกลบหมดไปหมดแล้ว ปู่ของเด็กคนนั้น…บางทีอาจจะอยู่ใต้ชั้นน้ำแข็ง…”
หยุดไปครู่หนึ่ง เหล่าฉินหันไปมองเจียงซื่อ พูดความคิดเห็นของตัวเองออกมา “บ่าวคิดว่าไม่จำเป็นต้องช่วยขึ้นมาแล้ว”
ถ้าหากปู่ของเด็กชายคนนั้นอยู่ข้างล่าง เห็นได้อย่างชัดว่าคงไม่รอดแล้ว
ถึงแม้ว่าเจียงซื่อจะเห็นอกเห็นใจ ทว่าก็ไม่ได้อยากโต้แย้ง เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าลง “ไปดูกันเถอะว่าหลงต้านจะช่วยเด็กคนนั้นให้ฟื้นขึ้นมาได้หรือไม่”
จนกระทั่งถึงตอนนี้ผู้อาวุโสฮวายังคงเงียบไม่พูดไม่จา ราวกับว่าสำหรับนางแล้วสิ่งสำคัญที่สุดมีแค่การพาตัวเจียงซื่อกลับไป ส่วนเรื่องอื่นไม่ได้อยู่ในความสนใจของนาง
ผ่านไปสักพัก ก็ได้ยินเสียงตะโกนดีอกดีใจของหลงต้านดังลอดออกมา “ฟื้นแล้ว!”
เจียงซื่อเดินเข้าไป ยืนมองอยู่ที่ข้างนอกหน้าต่าง
เด็กชายที่ถูกห่อตัวด้วยผ้าห่มลืมตามองจ้องหลงต้าน
หลงต้านรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ตบหน้าเด็กชายเบาๆ “เจ้าหนู ในที่สุดก็ฟื้นแล้ว โชคดีที่เจอกับพวกข้า เจ้าถึงได้รอดจากประตูนรกมาได้”
เด็กชายกลอกตาไปมา จู่ๆ ก็ดิ้นรนลุกขึ้น
หลงต้านรีบกดไว้ “อย่าเพิ่งขยับตัว มือและเท้าของเจ้าล้วนชาไปหมด ยังไม่กลับมาอุ่นเหมือนเดิมเลย”
เด็กชายไม่สนใจคำเตือนของหลงต้าน หันหน้าออกไปทางหน้าต่างพลางตะโกนลั่น “ท่านปู่…”
ขณะที่ตะโกน ก็ประจันหน้ากับดวงตาของสตรีที่ยืนอยู่นอกรถ
เด็กชายตะลึงไปครู่หนึ่ง ดูเหมือนจะรู้สึกผิดที่ตะโกนใส่หน้าสตรี จึงออกแรงดึงหลงต้านพร้อมกับพูดขึ้น “ขอร้องล่ะ ช่วยท่าปู่ของข้าด้วย…”
“แล้วท่านปู่ของเจ้าล่ะ”
“ท่านปู่ตกลงไปในอุโมงค์น้ำแข็ง…” เมื่อพูดถึงตรงนี้ ดูเหมือนว่าเด็กชายจะนึกอะไรออก ก้มหัวลงด้วยท่าทางห่อเหี่ยว
บางทีอาจเป็นเพราะติดตามท่านปู่เคลื่อนย้ายศพ เด็กชายผู้นี้จึงมีสติปัญญาเฉลียวฉลาดมากกว่าเด็กในวัยเดียวกัน หลังจากที่ตื่นตัวในตอนแรกก็กลับมาสู่ท่าทีสงบนิ่ง มองหลงต้านด้วยสายตาวิงวอน “ได้โปรดปล่อยข้าลงไปจากรถเถิด”
หลงต้านเลิกคิ้วขึ้น “เจ้าจะลงไปทำอะไรตอนนี้”
เด็กชายตาแดงก่ำ ทว่าไม่ร้องไห้ออกมา “ปู่ของข้ายังอยู่ในอุโมงค์น้ำแข็ง ข้าจะไปช่วยเขาขึ้นมา”
“คงไม่รอดตั้งนานแล้ว…”
“ข้ารู้” เด็กชายสูดจมูก น้ำเสียงสะอื้นเล็กน้อย “แต่ว่าข้าไม่อาจปล่อยให้ท่านปู่อยู่ที่นี่ได้ ข้าจะพาเขากลับบ้าน”
หลงต้านเหลือบมองเจียงซื่ออย่างอดไม่ได้ เมื่อเห็นว่านางไม่มีท่าทีต่อต้านอะไร จึงถอนหายใจพูดออกมา “เจ้าพูดมาซิ พวกเจ้าตกลงไปในอุโมงค์น้ำแข็งได้อย่างไร”
“ข้ากับท่านปู่รีบเดินทาง ท่านปู่เดินนำหน้า ข้าเดินตามหลัง พื้นหิมะก็ปกติ ทว่าเมื่อท่านปู่ก้าวไปข้างจู่ๆ ก็ตกลงไป ข้าดึงอยู่นานแล้วทุกอย่างก็มืดลง จากนั้นก็ไม่รู้อะไรอีกแล้ว พอตื่นขึ้นมาอีกทีก็อยู่บนรถ…”
“เอาล่ะ ดูเหมือนว่าอุโมงค์น้ำแข็งจะลึกพอควร เจ้าหนู เจ้ารออยู่ที่นี่ ข้าจะไปดูให้ว่าสามารถงมปู่ของเจ้าขึ้นมาได้ไหม อย่าได้คาดหวังไปล่ะ ให้มันเป็นไปตามโชคชะตา”
หลงต้านลงจากรถ เดินไปยังบริเวณหลุมหิมะ
เด็กชายพยายามคลานไปอยู่ริมหน้าต่าง มองออกไปนอกหน้าต่าง
เวลาค่อยๆ ผ่านไปทีละนิด ขณะที่เด็กชายรู้สึกว่าร่างกายเริ่มมีแรงขึ้นมา ในที่สุดหลงต้านกับเหล่าฉินก็ร่วมแรงกันงมศพที่แข็งทื่อร่างหนึ่งขึ้นมาได้