ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 1009
นี่เป็นโอกาสเดียวของเขา
ไป๋ยี่เฟยหยิบแผ่นเหล็กหนึ่งกำมือออกจากกระเป๋าของเขา
นี่คือสิ่งที่เขาพกติดตัวตลอดก่อนหน้านี้ แต่ว่าเขาทำแผ่นเหล็กเป็นเสื้อกล้ามใส่ไว้บนตัว เพราะฉะนั้นไม่มีคนรู้ว่าบนตัวเขาพกของพวกนี้ไว้
ไป๋ยี่เฟยเอาแผ่นเหล็กพวกนี้ออกมาประกอบเป็นมีดเล่มใหญ่ จากนั้นก็ก้าวเดินไปทางสำนักยี่เหมิง
เขาเดินมาถึงหน้าประตูสำนักยี่เหมิง ถูกยามหน้าประตูขวางไว้ “ใคร? หยุด”
สายตาที่เต็มไปด้วยแรงสังหารของไป๋ยี่เฟยจ้องหน้ายาม พูดอย่างเย็นชา “คนที่มาเอาชีวิต”
พูดจบแล้ว ร่างไป๋ยี่เฟยเคลื่อนไหว หายลับไปจากสายตาของยาม
ยามเป็นแค่ยอดฝีมือระดับที่สี่ ต่อหน้าไป๋ยี่เฟยแล้วไม่พอใช้แม้แต่น้อย
เพราะฉะนั้นพวกเขาตอบสนองไม่ทันแม้แต่น้อย แม้กระทั่งยังอยากหันไปมองตำแหน่งของไป๋ยี่เฟย
แต่ทว่าพวกเขาแค่หมุนตัวเบาๆ หัวก็ร่วงลงไป จากนั้นก็กลิ้งอยู่บนพื้นหลายรอบ
เวลาแค่ชั่วพริบตา ยามหลายคนก็ตายแล้ว
ไป๋ยี่เฟยเดินเข้าไปในสำนักยี่เหมิงอย่างไม่ได้หันกลับไปมอง
“มีศัตรูบุกรุก”
การตายของยามทำให้คนในสำนักยี่เหมิงรู้ตัว พวกเขารีบรายงานคนทั้งหมด ต่างก็พากันถืออาวุธบุกออกไป
ส่วนในห้องโถงที่อยู่ด้านในสุด ท่านดยุกได้ยินว่าไป๋ยี่เฟยมาแล้ว ก็ดีใจอย่างมาก “ดีมาก เร็ว รีบเรียกพวกเขามาหาฉันให้เร็วที่สุด”
แปดคนที่ท่านดยุกพูด ก็คือยอดฝีมือระดับที่หนึ่งแปดคนนั้น
ท่านดยุกหรี่ตายิ้ม “ฮาฮา……สำนักหลิ่วเหมินจะคิดแผนการอะไรมากมาย ไป๋ยี่เฟยเขาก็ยังมาหาฉันที่นี่ อยากแย่งผลงานของฉัน ไม่มีทาง”
ท่านดยุกลุกขึ้นจะเดินไปข้างนอก
เวลานี้ ยีหยุนพูดขึ้นกะทันหัน “ท่านดยุก ฉันรู้สึกว่ามันมีบางอย่างผิดปกติ”
“ผิดปกติตรงไหน?” ตอนนี้ท่านดยุกตื่นเต้นมาก ฟังไม่เข้าเลยแม้แต่น้อย “ว่าไปแล้ว ถึงจะผิดปกติแล้วยังไง? ไป๋ยี่เฟยมาถึงที่นี่ของเราแล้ว สำนักหลิ่วเหมินจะแย่งผลงานก็แย่งไม่ได้”
ยีหยุนกลับส่ายหน้าเล็กน้อยพูดว่า “ท่านดยุก คนทางด้านพวกเราซื้อแอคหลุมเพื่อพูดว่าพวกเราเป็นคนทำแล้ว แต่ไม่ค่อยมีประโยชน์ ยังมีคนมากกว่าพวกเราบอกว่าสำนักหลิ่วเหมินเป็นคนทำ ในเมื่อแบบนี้ แล้วไป๋ยี่เฟยทำไมถึงเชื่อว่าพวกเราเป็นคนทำล่ะ?”
ท่านดยุกได้ยินคำพูดนี้แล้วก็อึ้งไปนิดหนึ่ง จากนั้นก็พูดอย่างไม่สนใจ “ยีหยุน คุณคิดมากไปแล้ว ไป๋ยี่เฟยกำลังยุ่งอยู่กับการซ่อนตัว จะไปมีเวลาไปดูข่าวในอินเทอร์เน็ตได้ยังไง?”
ยีหยุนรู้สึกว่าก็มีเหตุผล ในใจกลับยังรู้สึกกังวล
ส่วนฉุงลี่ซือที่ได้ยินว่าไป๋ยี่เฟยมาในใจก็รู้สึกตื่นเต้นมาก แต่ก็เป็นเพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้น เธอก็เริ่มกังวลขึ้นมาอีก
ท่านดยุกตั้งใจรอไป๋ยี่เฟยมาโดยเฉพาะ ส่วนไป๋ยี่เฟยมาตัวคนเดียว จะช่วยเธอออกไปได้จริงหรือ? หรือจะกลับกันที่เขาเอาชีวิตตัวเองมาทิ้งหรือไม่?
สีหน้าที่เป็นห่วงของฉุงลี่ซือเห็นได้อย่างชัดเจน
ท่านดยุกเห็นแล้วก็หัวเราะคิกคิก พูดกับฉุงลี่ซือว่า “นายหญิง ดูท่าทางของคุณแล้วดูเหมือนจะสนใจอย่างมากนะ ไม่อย่างนั้นไปดูพร้อมผมหน่อย ว่าไป๋ยี่เฟยถูกจับตัวได้ยังไง?”
พูดจบ เขาก็ถูกยีหยุนพยุงตัวเดินออกจากห้องโถง
ฉุงลี่ซือเห็นแล้วก็อดตามไปดูไม่ได้
แต่ทว่า เมื่อพวกฉุงลี่ซือออกมา ตอนที่เห็นในสนามสำนักยี่เหมิงมีคนนอนอยู่ยี่สิบกว่าคน เธอก็ประหลาดใจ
ไป๋ยี่เฟยยืนอยู่ในสวน ในมือถือมีดแปลกอยู่เล่มหนึ่ง ส่วนรอบด้านของเขา มีคนล้อมอยู่มากมาย
แต่ทว่าไป๋ยี่เฟยเหมือนกับมองไม่เห็นพวกเขาอย่างนั้น สายตาเย็นชาเดินไปข้างหน้าทีละก้าว แต่ขอแค่คนที่จะขวางเขา ล้วนถูกเขาฟันตายในครั้งเดียว
กลิ่นคาวเลือดอันรุนแรงฟุ้งกระจายอยู่กลางอากาศ…….
เห็นไป๋ยี่เฟยในสภาพนี้ ฉุงลี่ซือรู้สึกตกใจ
เขา…….เหมือนปีศาจตัวหนึ่งที่คลานออกมาจากนรก
เวลานี้ ท่านดยุกถามฉุงลี่ซือว่า “เขาก็คือไป๋ยี่เฟย?”
ฉุงลี่ซือดึงสติกลับมา จากนั้นก็พยักหน้า
ท่านดยุกยิ้มอย่างไม่แยแส “ไม่เลว”
ยีหยุนพยักหน้าตอบรับ
ต่อจากนั้น ท่านดยุกสีหน้าเคร่งขรึม พูดว่า “จับเป็นมาให้ฉัน”
ลูกน้องพวกนั้นสำหรับคำสั่งของท่านดยุกนั้นทำตามอย่างไม่มีข้อแม้ เพราะฉะนั้นถึงจะเห็นความสามารถอันน่ากลัวของไป๋ยี่เฟย วินาทีต่อไป ตัวเองอาจจะถูกฟันตายเลยก็เป็นได้ แต่ก็ต้องพุ่งเข้าไป
พวกเขาส่วนมากล้วนเป็นยอดฝีมือระดับที่สาม ก็มียอดฝีมือระดับที่สองอยู่สิบกว่าคน
“ลุย”
คนทั้งฝูงถืออาวุธพุ่งเข้าหาไป๋ยี่เฟย
ส่วนไป๋ยี่เฟยกลับเงยหน้าขึ้นมาในวินาทีนี้ สายตามองไปที่ตัวท่านดยุก
ท่านดยุกเห็นสายตานี้ของไป๋ยี่เฟย กลับถอยหลังหนึ่งก้าวโดยสัญชาตญาณ
วินาทีต่อมา ร่างไป๋ยี่เฟยเคลื่อนไหว พุ่งเข้าหาฝูงคน
“ฟู่”
“ฟู่”
“อ้าก”
“อ้าก”
เสียงกรีดร้องดังมาตามๆกัน
ไป๋ยี่เฟยเคลื่อนไหวอยู่ท่ามกลางฝูงคน ตำแหน่งที่อยู่ต่างก็เลือดสาดกระจาย ศพก็ล้มลงไปกับพื้น
แม้กระทั่งยอดฝีมือระดับที่สองหลายคนยังไม่ทันได้หลบ ไม่ก็ถูกไป๋ยี่เฟยฟันจนบาดเจ็บ ไม่ก็ถูกฟันจนตาย
เห็นภาพนี้แล้ว ท่านดยุกตกใจอย่างฉับพลัน
เขาคิดไม่ถึงเลยว่าไป๋ยี่เฟยจะเก่งขนาดนี้ “อยู่บรรลุระดับไหนกันแน่? ไม่เหมือนเพิ่งเข้าสู่ระดับที่หนึ่งเลยแม้แต่นิดเดียว”
ยีหยุนจ้องไป๋ยี่เฟยในสวน พูดด้วยสายตาซับซ้อน “เขา…….ดูเหมือนถึงระดับหนึ่งชั้นกลางแล้ว?”
ท่านดยุกได้ยินก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที “นี่เป็นไปได้ยังไง? ในแผ่นดินใหญ่ภาพเหนือ ยอดฝีมือระดับหนึ่งมีน้อยมาก เขาจะบรรลุถึงระดับนั้นได้อย่างไง?”
ส่วนฉุงลี่ซือที่อยู่อีกด้านก็ตกใจเอามือปิดปาก
เธอรู้ว่าไป๋ยี่เฟยเก่งมาก แต่ไม่เคยเห็นท่าทางที่ไป๋ยี่เฟยลงมือกับคนอื่น
เหมือนอย่างวันนี้ ไป๋ยี่เฟยถือมีดเล่มหนึ่ง เหมือนดั่งเทพสังหารองค์หนึ่งฆ่าอยู่ท่ามกลางผู้คน เธอไม่เคยเห็นเลย
ที่แท้ ไป๋ยี่เฟยเก่งขนาดนี้
เวลานี้ มีลูกน้องคนหนึ่งพูดกับท่านดยุก “ท่านดยุก พวกพี่หั่วมาแล้ว”
พวกพี่หั่วก็คือยอดฝีมือระดับที่หนึ่งแปดคน
ทางนี้ ไป๋ยี่เฟยเพิ่งฟันคนล้มไปคนหนึ่ง ก็รู้สึกถึงสายลมแรงมาจากด้านข้าง
ชายคนหนึ่งสูงประมาณร้อยเก้าสิบถือมีดเล่มใหญ่ฟันมาทางไป๋ยี่เฟย
มีดของผู้ชายแค่ดูก็หนักมาก เกรงว่าคนทั่วไปแค่ยกยังยกไม่ขึ้น
แต่ทว่าไป๋ยี่เฟยรู้สึกได้แล้วหัวก็ไม่ได้หันไป แต่ฟันมีดในมือของเขาไปด้านข้าง มีดสองเล่มกระแทกเข้าหากัน
ท่านดยุกที่ยืนดูอยู่ไม่ไกลหัวเราะอย่างเย็นชา “กลับกล้ามาท้าทายกับราชาดาบ ไม่รู้จักเจียมตัวเลยจริงๆ”
ยีหยุนเห็นแล้วก็อดพูดอย่างเห็นด้วยไม่ได้ “ราชาดาบถึงแม้อยู่แค่ระดับที่หนึ่งชั้นต่ำ แต่ความสามารถในการใช้มีดของเขาเก่งกาจมาก เทียบเท่าได้กับยอดฝีมือระดับที่หนึ่งชั้นกลางได้แล้ว”
ผู้ชายคนนั้นที่ถูกเรียกว่าราชาดาบหัวเราะอย่างเย็นชา ในสายตาเต็มไปด้วยความเหยียบหยามไป๋ยี่เฟย
แต่ทว่า วินาทีต่อมา เขาก็รู้สึกถึงความผิดปกติ
เขารู้สึกถึงแรกหลังอ้านจิ้งมหาศาลที่มาจากมีด เหมือนดั่งตัวมีดของเขาถูกฟันไปนับครั้งไม่ถ้วน
แต่ความเป็นจริง ไป๋ยี่เฟยฟันไปแค่ครั้งเดียว
“ฟุ๊ด”
ราชาดาบกระอักเลือดออกมาทันที ส่วนมีดในมือของเขาแตกกระจายไปเลย
ตามมาด้วย ร่างของเขากระเด็นออกไปข้างหลัง
แต่ไป๋ยี่เฟยไม่ได้ให้เขากระเด็นออกไปทั้งร่าง แต่ใช้มืออีกข้างหนึ่งจับข้อเท้าของเขาไว้ ดึงกลับมา ยกมือขึ้นฟันมีดลง หัวของราชาดาบถูกตัดลงมาแบบนั้นเลย
คนที่เห็นภาพเหตุการณ์นี้ต่างพากันอึ้งไปทันที จากนั้นทุกคนก็หยุดลงมาทันที