ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 1050
ไป๋ยี่เฟยดูถูกเขามาก
คิดว่าตอนนั้นเมิ่งฉิงเกือบจะฆ่าไป๋ยี่เฟยได้ แต่ตอนนี้ แม้แต่กระบวนท่าเดียวของไป๋ยี่เฟยเขาก็นังไม่ไหว
ไป๋ยี่เฟยหมุนกายไปทางเหลียงเหว่ยชาว เขาย่อกายลง ยื่นนิ้วหนึ่งออกไป จิ้มไปบนหน้าผากของเหลียงเหว่ยชาว
เหลียงเหว่ยชาวอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าหนี ในใจไม่ยินยอม เขาตะคอก “นี่มันเป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด! นายจะเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง?”
ไป๋ยี่เฟยสีหน้าไร้อารมณ์เอ่ยว่า “เพียงแค่ฉันใช้แรงนิดเดียว วันนี้เธอก็ต้องตายอยู่ที่นี่”
เหลียงเหว่ยชาวถลึงตามองไป๋ยี่เฟย ในดวงตาไม่ความไม่อยากจะเชื่อ ในเวลาเดียวกันก็เต็มไปด้วยเจตนาร้าย
แต่ทว่า ไม่ว่าจะอย่างไร เธอก็ต้านทานไป๋ยี่เฟยไม่ได้ ทำได้เพียงปล่อยให้เขากดขี่
เพียงแต่ ไป๋ยี่เฟยพลันหัวเราะเสียงหนึ่ง ก็ค่อยๆเก็บมือของตัวเองกลับมา “เหอะ ล้วนเป็นหมากที่น่าสงสารกลุ่มหนึ่งเท่านั้น”
เอ่ยคำพูดนี้จบ เขาลุกขึ้นยืน หมุนกายเตรียมจากไป
ก็เป็นในตอนนี้ ในดวงตาของเหลียงเหว่ยชาวปรากฏร่องรอยของความเกลียดชังสายหนึ่ง เสียง“ฉึก”ครั้งหนึ่ง มีดสั้นเล่มหนึ่งพุ่งออกจากมือของเธอออกไป ชี้ไปที่หัวใจของไป๋ยี่เฟย
กลับเป็นในตอนนี้ เงาร่างของไป๋ยี่เฟยพลันหายไปจากสายตาของเหลียงเหว่ยชาวทันที
รอจนเมื่อเขาปรากฏตัวอีกครั้ง ไป๋ยี่เฟยก็มาถึงด้านหน้าของเธอ ชี้นิ้วหนึ่งไปที่กลางหว่างคิ้วของเธอ
“อึก!”
เหลียงเหว่ยชาวเบิกตากว้าง ร่างกายแข็งทื่อ แม้แต่คำพูดสุดท้ายก็พูดไม่ออก จากนั้น “ผลั่ก”เสียงหนึ่ง ล้มลงไปบนพื้น
ตายแล้ว
ส่วนมีดสั้นเล่มนั้นที่ลอยออกไป เพราะว่าไม่มีเป้าหมาย หลังจากอยู่ในอากาศก็ตกลงไปบนพื้น
“แกร๊ง….”
เห็นฉากนี้ เต้าจ่างและเมิ่งฉิงอดไม่ได้ตัวสั่นขึ้นมา พวกเขาลากร่างกายที่บาดเจ็บถอยหลังไปทีละก้าว หลังจากถอยไปจนถึงตำแหน่งที่แน่นอนแล้ว ก็รีบลุกขึ้นมา หมุนกายวิ่งหนีไป
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้สนใจพวกเขา แต่ว่าเดินกลับไป หยิบกล่องเถ้ากระดูกของฉุงลี่ซือขึ้นมาอีกครั้ง
ส่วนฉุงเฉ่าซินถูกทำให้ตกใจจนล้มลงกับพื้นตั้งนานแล้ว
ไป๋ยี่เฟยก็ไม่ได้สนใจเขา ก้าวเท้าเดินจากไป
ทันใดนั้น ฉุงโยวหมิงหยิบมีดเล่มหนึ่งพุ่งไปทางไป๋ยี่เฟย “ฆ่านาย!”
ไป๋ยี่เฟยเตะเบาๆก็ทำให้เขาลอยออกไปแล้ว แล้วก็มาถึงข้างกายเขาด้วยความรวดเร็ว จับมือของเขาไว้ แต่ว่ามีดของเขา ฟันไปทางฉุงโยวหมิง
กลับเป็นในตอนนี้ ฟางหยันพลันพุ่งเข้ามา บังอยู่ด้านหน้าร่างของฉุงโยวหมิง แล้วคุกเข่าลงไป ขอร้องอย่างขมขื่น “พี่ไป๋ อย่า! อย่าฆ่าเขา!”
มีดของไป๋ยี่เฟยหยุดลงที่บนศีรษะของฟางหยัน เห็นความตื่นตระหนกและขอร้องในดวงตาเธอ อดไม่ได้ที่เผยความโกรธออกมาสายหนึ่ง
“คนที่แม้แต่ความเป็นตายของน้องสาวแท้ก็ยังไม่สนใจแบบนี้ คนที่ไม่เลือกวิธีการเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย เธอปกป้องเขาทำไม? เขาสามารถเสียสละได้แม้กระทั่งญาติสนิท เขาก็เป็นสัตว์เลือดเย็นที่ไรความรู้สึกตัวหนึ่งเท่านั้น!”
ฟางหยันสั่นสะท้าน น้ำตาไหลออกจากหางตาทันที “แต่ว่า ถึงอย่างไรเขาก็เป็นสามีของฉันนะ!”
ไป๋ยี่เฟยตกตะลึง หลังจากนั้นได้สติขึ้นมา
สำหรับฟางหยันแล้ว ไป๋ยี่เฟยเป็นเพียงแค่เพื่อนคนหนึ่ง ส่วนฉุงโยวหมิงเป็นสามีของเธอ คนในครอบครัวเธอ
“แคร๊ง!”
ไป๋ยี่เฟยปักมีดลงบนพื้น จากนั้นก็เอ่ยเสียงเย็นชากับคนตระกูลฉุง “ตั้งแต่วันนี้ไป ฉุงลี่ซือและตระกูลฉุงของพวกนายไม่มีความเกี่ยวข้องกันอีก”
พูดเสร็จเขาก็เดินไปที่ประตู
แต่ว่าเดินไปได้ครึ่งทางก็ถูกฟางหยันขวางไว้ เธอยังคงคุกเข่าอยู่ด้านหน้าไป๋ยี่เฟย “พี่ไป๋ พี่จะพาเธอไปที่ไหน?”
“เธอตายไปแล้ว พาไปด้วยมีประโยชน์อะไร? มากที่สุดก็สามารถลบหลู่ตระกูลฉุง ตระกูลฉุงก็จะโดนคนเยาะหยัน แต่ถ้าพี่ให้เธออยู่ ตระกูลฉุงจะต้องจัดงานฝังให้ลี่ซืออย่างยิ่งใหญ่”
ไป๋ยี่เฟยกลับหัวเราะเสียงเย็น “จัดงานฝังอย่างยิ่งใหญ่?”
“พวกเขาไม่มีคุณสมบัตินี้”
ไป๋ยี่เฟยเอ่ยจบก็จะจากไป ฟางหยันรีบลุกขึ้นมา ตะโกนเสียงดังว่า “งั้นพี่ล่ะ? อาศัยฐานะอะไรมาพาเธอไปด้วย? แล้วใช้ฐานะอะไรมาฝังเธอ?”
“หรือว่าพี่ต้องการให้เธอเป็นวิญญาณไร้บ้านให้กลับหรือ?”
คำพูดหลุดออกมา เท้าของไป๋ยี่เฟยก็หยุดลง จากนั้นเขาก็สูดหายใจเข้าลึกๆครั้งหนึ่ง สุดท้ายมุมปากก็ประดับรอยยิ้มแล้วจากไป
……
สุสานจินไห่
มีหลุมศพใหม่อยู่ที่นี่ เป็นหญิงสาวอ่อนวัยงดงามคนหนึ่ง
ไป๋ยี่เฟยยืนอยู่หน้าหลุมฝังศพ ย้อนคิดถึงรายละเอียดเล็กๆที่อยู่ร่วมกันกับฉุงลี่ซือ ในใจเศร้าสลด และเป็นทุกข์
หลิวเสียก็ยืนอยู่ที่นี่ เธอมองดูหลุมฝังศพที่อยู่ข้างหน้า ดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัย “ที่แท้เธอก็เป็นสาวงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวงหรือ?”
“ใช่”
“อายุน้อยขนาดนี้ก็ไม่อยู่แล้ว น่าเสียดาย!”
“ใช่แล้ว”
“งั้นเธอตายได้อย่างไร?”
“โชคร้ายเกินไป”
“หา?”
“เธอเกิดในตระกูลฉุง โชคร้ายเกินไป”
หลิวเสียฟังคำพูดของไป๋ยี่เฟยไม่เข้าใจโดยสิ้นเชิง ก็เอ่ยว่า “ดังนั้นพวกเรามาเมืองหลวงก็เพื่อฝังเธอหรือ?”
“อืม” ไป๋ยี่เฟยพยักหน้า หลังจากนั้นก็ส่ายหน้า “เดิมทีฉันคิดจะพาเธอกลับบ้าน แต่ว่าตอนนี้ไม่แล้ว”
“ทำไมล่ะ?” หลิวเสียถาม
ไป๋ยี่เฟยเอ่ยว่า “เพราะว่า นั่นไม่ใช่บ้านของเธอแล้ว บ้านของเธอก็ไม่คู่ควรกับเธอ”
หลิวเสียพยักหน้า แต่ว่าที่จริงแล้วก็ไม่เข้าใจ
เธอเหลือบมองชื่อบนหลุมฝังศพ ทำเหมือนกำลังคิด
หลุมฝังศพเขียนว่า : หลุมศพฉุงลี่ซือภรรยาที่รักของไป๋ยี่เฟย
ที่สำนักยี่เหมิงแห่งหนานเหมิน ตอนนั้นฉุงลี่ซือเอ่ยว่า “นายช่วยฉันไว้ ไม่ว่าจะยังไง ในใจของนายก็ต้องมีฉัน”
ไป๋ยี่เฟยตอนนั้นปฏิเสธ “ไม่มี”
ฉุงลี่ซือกลับใช้โอกาสนี้จูบเขาครั้งหนึ่ง ทำให้ไป๋ยี่เฟยตกอกตกใจ
และไม่ว่าไป๋ยี่เฟยจะพูดอย่างไร ฉุงลี่ซือก็ยอมรับเขาแล้ว ยังบอกว่าไม่ว่าเขาจะมีหรือไม่มีภรรยาและลูก ก็ติดตามเขาแน่นอนแล้ว ยังถือว่าเขาเป็นสามี ถึงขั้นยังเรียกเขาว่า‘สามี’
ย้อนคิดกลับไปทีละฉากๆ ขอบตาของไป๋ยี่เฟยก็แดง
เขาเอ่ย “จากนี้ต่อไป เธอก็คือภรรยาของฉันไป๋ยี่เฟยแล้ว เธอมีชื่อสถานะ เธอไม่มีทางกลายเป็นวิญญาณไร้บ้าน”
……
ไป๋ยี่เฟยยืนอยู่หน้าหลุมศพเป็นเวลานาน ถึงขั้นลืมเวลาไป
จนถึงตอนที่หลิวเสียหิวจนท้องร้องโครกครากขึ้นมา ถึงได้เอ่ยปากพูดกับไป๋ยี่เฟย “พี่ไป๋ ฉันหิวแล้ว”
ไป๋ยี่เฟยได้สติกลับมา มองเวลาครู่หนึ่ง ตอนนี้หกโมงกว่าแล้ว คิดดูในสายตาของคนปกติก็ฟ้าก็มืดลงแล้ว
ไป๋ยี่เฟยพยักหน้า “ไปเถอะ”
ไป๋ยี่เฟยพาหลิวเสียไปจากสุสาน มาถึงร้านบะหมี่แห่งหนึ่ง
หลิวเสียสั่งบะหมี่ชามใหญ่หนึ่งชาม กินอย่างใจป้ำเป็นพิเศษ อีกทางหนึ่งยังถามอย่างเป็นกันเองว่า “พี่ไป๋ ฉันรู้สึกว่าคนมากมายชอบพี่นะ? แม้แต่สาวงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวงก็ชอบพี่”
ไป๋ยี่เฟยมองออก ว่าหลิวเสียอยากรู้มาก อีกทั้งยังสงสัยอยากรู้มาตลอดทางแล้ว เธออยากรู้ว่าระหว่างไป๋ยี่เฟยและฉุงลี่ซือเกิดเรื่องราวอกสั่นขวัญหายอะไรขึ้น
อีกทั้งตอนที่ไป๋ยี่เฟยยังเป็นหนุ่มยากจน แทบจะเป็นเรื่องที่ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดๆ หลังจากการเปลี่ยนแปลงของเขา คนที่ตามจีบเขามาตลอดทางก็ค่อยๆเพิ่มมากขึ้นแล้ว
เริ่มแรกเขาไม่เข้าใจ ถึงตอนนี้ก็สามารถมองเห็นอะไรบางอย่างได้แล้ว ดังนั้น ตอนนี้เขาเข้าใจถึงความคิดเล็กๆในใจของหลิวเสียมาก
ไป๋ยี่เฟยเอ่ยว่า “ใช่ ผู้หญิงที่ชอบฉันมีเยอะมากจริงๆ อีกทั้งเยอะกว่าที่เธอเคยเจอมา ยังมี พวกเธอไม่มีใครสักคนที่มีความสุข พวกเธอล้วนเจ็บปวดมาก”
“ฉันและพี่ชายของเธอก็นับว่าเป็นเพื่อนสนิทกัน ก็พูดความจริงกับเธอแล้วกัน ฉันเป็นผู้ชายเลวคนหนึ่ง ดังนั้น เธออย่ามายั่วยุฉัน ไม่เช่นนั้น เธอก็จะเจ็บปวดมาก”
“ยังมีอีกประโยคหนึ่ง เธอควรจะเป็นแบบไหนก็เป็นแบบนั้น อย่าได้แต่งตัวเองเป็นสาววัยสามสิบกว่าที่ดูเป็นผู้ใหญ่ ไม่เหมาะกับเธอ”
หลิวเสียตกตะลึง เบิกตากว้าง กะพริบตาปริบๆ ถามอีกว่า “จริงหรือ?”
ไป๋ยี่เฟยพยักหน้า
หลิวเสียพลันร้องไห้ขึ้นมา “ฉันยังคิดว่าแบบนี้จะดูดีมาก…..”