ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 109
บทที่ 109
“ไป๋ยี่เฟย!” หลี่เสว่เรียกเขาด้วยความตื่นตกใจ พลางกระโดดเข้าไป
ไป๋ยี่เฟยยังสลบอยู่ ไม่ได้ยินเสียงของหลี่เสว่
หลี่เสว่นั่งอยู่บนโซฟา ยื่นมือเข้าไปดูมือของไป๋ยี่เฟย จึงเห็นบาดแผลที่ทั้งลึกและยาวบนฝ่ามือของเขา และรอยเย็บแผลด้านข้างรอยแผลนั้น
มองไปเห็นแต่บาดแผลที่เต็มไปด้วยเลือด หลี่เสว่อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา
“เจ้าโง่!”
รู้ทั้งรู้ว่ามีแผลอยู่ที่มือของตัวเอง ยังปากแข็งไม่ยอมพูด ตอนนั้นที่ตัวเขาสั่น คงเป็นเพราะบาดแผลนี้!
หลี่เสว่พูดโทษตัวเอง ที่มัวเอาแต่ใจตัวเอง แต่กลับลืมว่าไป๋ยี่เฟยเพิ่งจะต่อสู้กับชายไร้สติคนนั้น และลืมถามว่าไป๋ยี่เฟยบาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า
มองดูไป๋ยี่เฟยที่หลับลึก ในใจรู้สึกทั้งโกรธทั้งขำ สุดท้ายหล่อนลุกขึ้นไปหยิบผ้าห่มมาห่มบนตัวทั้งสอง ตัวเองนอนอยู่ในอ้อมอกของเขา และนอนหลับไปด้วยกัน
เช้าวันรุ่งขึ้น ไป๋ยี่เฟยฝันเห็นมีดปอกผลไม้ที่กำลังจะแทงเข้ามาที่หน้าอกของตัวเอง จึงตกใจตื่น หายใจหอบหนักมาก
จากนั้นเขาจึงพบว่าหลี่เสว่นอนอยู่ในอ้อมอกของตัวเอง
มองดูใบหน้าที่หลับใหลของหลี่เสว่ ไป๋ยี่เฟยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกทอดถอนใจ
นึกถึงตอนที่พวกเขาเพิ่งแต่งงาน หลี่เสว่ยังใช้มีดปอกผลไม้จี้คอของตัวเอง ขู่ว่า “เราเป็นเพียงแค่การแต่งงานตามสัญญา ไม่ใช่การแต่งงานจริงๆ ถ้านายกล้าแตะต้องฉัน ฉันจะฆ่าตัวตายเดี๋ยวนี้”
ต่อมา คนในครอบครัวต่างพากันไม่ชอบตัวเขา และยังเยาะเย้ยเขาสารพัดอย่าง หลี่เสว่พูดขึ้นด้วยความนิ่งเรียบ : “ขอบคุณสำหรับความเมตตาที่นายมีต่อพวกเขา แต่พวกเราไม่ได้รู้สึกอะไรต่อกัน ถึงเวลาแล้ว พวกเราหย่ากันเถอะ!”
หลังจากนั้น อีกครั้งที่ตัวเองดื่มจนเมา พูดพร่ำเพ้อถึงหลี่เสว่ และวิ่งไปที่ห้องของหล่อนอย่างกะทันหัน จนทำให้หลี่เสว่กลัวจนถือมีดปอกผลไม้จ้องตัวเองทั้งคืน
ตอนนี้ หลี่เสว่กำลังนอนหลับสบายในอ้อมอกของเขา
สามปีแล้ว ทัศนคติของหลี่เสว่ค่อยๆเปลี่ยนไป เขารู้สึกดีใจมากเหลือเกิน
“ซี้ด!”
ไป๋ยี่เฟยอยากยื่นมือออกไปสัมผัสหลี่เสว่ แต่เมื่อยื่นมือออกไป ความเจ็บปวดของรอยแผลที่ฉีกขาดทำให้เขาต้องกรีดร้องออกมา
หลี่เสว่ได้ยินเสียงนั้น ขมวดคิ้ว ตื่นขึ้นมา
“ฉันไปทำอาหารก่อน” หลี่เสว่รีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ปกปิดความเขินอายของตัวเองไว้
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกเสียใจเล็กน้อย ถ้าเขาไปทำเองได้คงจะดีมาก
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ ไป๋ยี่เฟยกำลังจะออกจากบ้าน
หลี่เสว่ห้ามเขาไว้ “ออกไปไหน?”
วันนี้นัดกันไว้ว่าจะไปหานายท่านหลี่แล้ว แต่ก็พูดตรงๆไม่ได้ ทำได้เพียงตอบกลับว่า : “มีธุระที่บริษัท”
หลี่เสว่ไม่พอใจ “ห้ามออกไป!”
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกสงสัย น้อยครั้งที่หลี่เสว่จะยืนกรานกับความคิดตัวเองหนักแน่นขนาดนี้ แต่เรื่องนี้เขาจำเป็นต้องไปวันนี้!
“เสว่เอ๋อ มีเรื่องสำคัญมากจริงๆ” ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างหมดทางเลือก
หลี่เสว่ลังเลสักพัก พูดขึ้น “ไปก็ได้ แต่พวกเราต้องไปโรงพยาบาลกันก่อน”
“เอ่อ โอเค!” ไป๋ยี่เฟยพยักหน้าตอบรับ สภาพมือของตัวเองในตอนนี้ ถ้าไม่จัดการ เกรงว่าจะติดเชื้อได้
หลี่เสว่เป็นคนขับรถ ทั้งสองเดินทางมาถึงโรงพยาบาล
เมื่อหมอเห็นฝ่ามืออันเหวอะหวะ พูดขึ้นด้วยเสียงนิ่งเรียบ : “วัยรุ่นหนอ เคยได้รับบาดเจ็บที่มือมาก่อนแล้ว ยังถูกบาดจนแผลเปิดอีกครั้ง ไม่รู้จักรักชีวิตของตัวเองบ้าง”
ไป๋ยี่เฟยพยักหน้าตอบกลับ “ครับๆๆ ต่อไปไม่กล้าแล้วครับ”
เมื่อพูดจบ หลี่เสว่ก็พูดถามขึ้น : “ก่อนหน้านี้นายบาดเจ็บได้ยังไง? ไหนบอกว่าถูกหินกดทับไม่ใช่เหรอ?”
ไป๋ยี่เฟยชะงักไปสักพัก จากนั้นเล่าเรื่องราวในวันนั้นให้ฟังคร่าวๆ แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดที่ไม่สำคัญ เพราะเกรงว่าหลี่เสว่จะคิดมาก ไม่อยากให้หล่อนต้องกังวลใจมากขึ้น
หลังจากที่หลี่เสว่ได้ยินเช่นนั้น รู้สึกผิดกับตัวเองมาก หล่อนคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะเจอเรื่องแบบนี้หลังจากที่เขาออกไป ตัวเองกลับไม่สนใจจะถามเขาบ้างเลย ทันใดนั้นรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะกับการเป็นภรรยาเลยแม้แต่น้อย
เมื่อออกจากโรงพยาบาล ไป๋ยี่เฟยพูดขึ้น : “เธอกลับไปก่อนเถอะ! ฉันไปทำธุระแล้วจะกลับไป”
หลี่เสว่ส่ายหน้า “ยังไงฉันก็ลางานแล้ว ฉันไปกับนายแล้วกัน อีกอย่าง มือของนายเป็นแบบนี้ ยังขับรถได้เหรอ?”
“…ก็ได้” ไป๋ยี่เฟยพยักหน้าลง แค่ไปบ้านตระกูลหลี่ ไม่มีอะไรอยู่แล้ว
หลังจากหลี่เสว่ขึ้นรถและถามว่าจะไปที่ไหน ไป๋ยี่เฟยจึงตอบกลับว่า : “กิจการผลไม้หลี่ซื่อกรุ๊ป”
“หลี่ซื่อกรุ๊ป? นายไปทำอะไรที่นั่น?”
ไป๋ยี่เฟยจึงทำได้แค่ตอบกลับว่า : “อันที่จริงวันนี้ฉันเป็นตัวแทนของโหวจวี๋กรุ๊ปเพื่อมาซื้อกิจการของหลี่ซื่อกรุ๊ป”
หลี่เสว่เงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นขับรถออกไปทันที
ถึงตอนนี้ อารมณ์ของหลี่เสว่ยังคงสับสน โดยเฉพาะเรื่องราวในตอนนี้ที่หลี่ซื่อถูกซื้อกิจการโดยโหวจวี๋ เกิดเรื่องขึ้นมากมายในระยะเวลาอันสั้นแบบนี้ จึงรู้สึกไม่เหมือนเรื่องจริงเท่าไหร่
ห้องประชุมกิจการผลไม้หลี่ซื่อกรุ๊ป
นายท่านหลี่เรียกทุกคนในตระกูลหลี่เข้าประชุม
นายท่านหลี่นั่งตรงที่ประธาน กวาดสายตามองทุกคน พูดขึ้น : “อีกประเดี๋ยวท่านประธานแห่งโหวจวี๋กรุ๊ปจะมาซื้อกิจการที่หลี่ซื่อ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หลี่ซื่อก็คือบริษัทภายใต้โหวจวี๋กรุ๊ป”
ทุกคนได้ยินเช่นนั้นเงียบทันที
แม้ว่าข่าวคราวเรื่องนี้ จะได้ยินกันมาก่อนแล้วบ้าง แต่เมื่อได้ยินนายท่านหลี่พูดเช่นนี้ จึงรู้สึกทุกข์ใจอยู่เหมือนกัน
นายท่านหลี่พูดขึ้นต่อ : “แต่ ก่อนที่จะถูกซื้อกิจการ ฉันมีเรื่องจะประกาศ”
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้น รีบนั่งตัวตรงมองไปยังนายท่านหลี่ทันที
หลี่ฝานรีบนั่งตัวตรงยืดอก ราวกับรู้ว่าเขากำลังจะประกาศเรื่องอะไร สีหน้าเต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง
“ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หลี่ฝานจะเป็นผู้ดำรงตำแหน่งประธานของกิจการผลไม้หลี่ซื่อกรุ๊ป ขอให้ทุกท่านให้การต้อนรับเขาด้วย”
ทุกคนต่างพากันตกตะลึง ไม่ค่อยอยากปรบมือให้เท่าไหร่นัก จากนั้นพากันมองไปที่หลี่ฝาน
อันที่จริงทุกคนล้วนเข้าใจดีว่าหลี่ฝานเป็นหลานที่นายท่านหลี่รักและเอ็นดูมากที่สุด การสละตำแหน่งประธานให้หลี่ฝาน ถือเป็นการจัดเตรียมตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดีให้กับหลี่ฝาน
เพราะหลังจากที่โหวจวี๋กรุ๊ปซื้อกิจการไป ตำแหน่งนี้ จะถูกลดระดับลงมา แต่หากอยู่ในตำแหน่งประธาน จะถูกลดขั้นยังไงก็ยังสูงกว่าตำแหน่งทั่วไปแน่นอน
แต่หลี่ฝานกลับไม่คิดถึงเรื่องผลประโยชน์ที่แอบแฝงอยู่ เพียงแค่รู้สึกดีใจ ที่ในที่สุดเขาก็ได้นั่งอยู่ในตำแหน่งนี้ นี่ถือเป็นตำแหน่งในฝันของเขา
นายท่านหลี่รีบพยักหน้าตาม พูดขึ้น : “ต่อไปขอเชิญท่านประธานคนใหม่กล่าวอะไรสักเล็กน้อย”
หลี่ฝากยืนขึ้นด้วยความตื่นเต้น เดินตรงไปที่ด้านข้างของนายท่านหลี่ จากนั้นพูดกับนายท่านหลี่ : “คุณปู่ควรจะลุกขึ้นได้แล้วรึเปล่าครับ?”
นายท่านหลี่ตกใจตะลึง
คนอื่นก็ตกใจเช่นกัน หลี่ฝานกำเริบเสิบสานเกินไปรึเปล่า?
หลี่ฝานพูดต่อ : “ที่นั่งตรงนี้ให้ประธานนั่งไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้ผมเป็นประธานคนใหม่ ไม่ควรนั่งตรงนี้หรือครับ?”
เมื่อหลี่ต้าไห่ได้ยินเช่นนั้น สีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาทันที : “มีอะไรก็พูดไป นั่งตรงไหนมีอะไรต่างกันงั้นรึ?”
“ทำไมจะไม่ต่าง? ผมเป็นประธาน ก็ควรนั่งที่ประธาน” หลี่ฝานพูดด้วยความไม่พอใจ
หลี่ต้าไห่ยังอยากจะต่อว่าเขา แต่นายท่านหลี่กลับลุกขึ้นก่อน “ควรจะสละที่ให้แล้ว”
หลี่ฝานเห็นเช่นนั้นจึงมองไปที่หลี่ต้าไห่ด้วยความหยิ่งผยอง จากนั้นนั่งลงในที่นั่งประธาน กวาดสายตามองผู้คนโดยรอบอย่างเพลิดเพลิน สุดท้ายจึงกระแอมขึ้น
“ดีมาก ตอนนี้ผมดำรงตำแหน่งประธาน แม้ว่าพวกเรากำลังจะถูกโหวจวี๋กรุ๊ปเข้าซื้อกิจการ แต่ทุกคนไม่ต้องกังวลใจไป มีโหวจวี๋คอยหนุนหลัง การเติบโตของบริษัทในอนาคตไม่จำเป็นต้องพูดมาก ผมในฐานะประธาน จะแสวงหาผลประโยชน์ที่ดีมากขึ้นให้กับทุกคน”
“แน่นอนว่า ก่อนอื่น เพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ของทุกท่าน ผมขอประกาศว่าตอนนี้ได้ทำการโอนหุ้น10%ของทุกคนมาไว้ที่ผมแล้ว ทุกคนสบายใจได้ ผมจะไม่นำหุ้นของพวกคุณไปทำอะไร เพียงแค่โอนมาไว้ที่ผมชั่วคราวเท่านั้น ยังไงเงินก็ยังเป็นของพวกคุณ”
“ว่าไงนะ?”
ทุกคนต่างพากันตกตะลึง
“ทำแบบนี้ไม่เหมาะสม” นายท่านหลี่พูดขึ้น
หลี่ฝานพูดอธิบาย : “ไม่ครับ เหมาะสมมาก พวกคุณก็รู้ดีว่า โหวจวี๋กรุ๊ปกำลังจะซื้อกิจการของพวกเรา หุ้นในมือของทุกคนต้องได้รับผลกระทบอย่างแน่นอนและอาจจะถูกยึดคืนไปจำนวนมาก ในฐานะที่ผมเป็นประธาน คิดเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องหนักหนาอะไร นี่ถือว่าผมทำไปเพื่อผลประโยชน์ของพวกคุณ”