ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 112
บทที่ 112
หลี่ฝานเห็นเช่นนั้น รู้ว่าเรื่องนี้ไม่ง่ายอย่างที่เขาคิดแน่นอน เขาจึงหวาดกลัวขึ้นมาทันที
“คุณปู่ๆ ผมจะทำยังไงดี? ผม…” เขาไม่อยากเป็นผู้อำนวยการห้องน้ำอะไรนั่น
ไป๋ยี่เฟยมองหลี่ฝานและหัวเราะ “ตำแหน่งนี้ไม่ดีเหรอ? ฉันรู้สึกว่าเหมาะสมกับนายมากเลยนะ”
“เหมาะสม? นายตั้งใจเล่นแง่กับฉัน?” หลี่ฝานพูดด้วยความโกรธ
ไป๋ยี่เฟยหุบยิ้มทันที พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “นายต่างหากที่เล่นแง่!”
หลี่ฝานจ้องมองตาเขม็ง ยังไม่ทันได้ตอบโต้อะไร เสียงของไป๋ยี่เฟยก็ดังขึ้นต่อ
“โง่ งานการไม่ทำ ถือตัวเองเป็นใหญ่ ไม่มีความสามารถยังอยากมีตำแหน่งสูง ถ้าหลี่ซื่ออยู่ในกำมือของนาย แม้ว่าจะมีโหวจวี๋ แต่นายก็คงทำให้หลี่ซื่อล่มจมได้แน่นอน!”
“ฉันให้ตำแหน่งนี้กับนาย ไม่ได้ไล่นายออก เพราะถือว่าเห็นแก่นายท่านหลี่ นายทำตัวดีๆให้ฉันก็พอ อย่าทำตัวอวดดีอีก! ไม่เช่นนั้น นายก็ออกไปจากหลี่ซื่อได้เลย!”
ภายในห้องประชุมเงียบกริบทันที
สุดท้ายไป๋ยี่เฟยกระแอมขึ้น “โอเค งั้นตามนี้ สิ่งที่ผมพูดมีผลทันที”
เมื่อพูดจบ ไป๋ยี่เฟยจูงมือหลี่เสว่ออกไปจากห้องประชุมทันที
ทุกคนต่างพากันมองหน้ากันไปมา
นายท่านหลี่ถอนหายใจอย่างจนปัญญา
หลังจากไป๋ยี่เฟยออกไป ผ่านไปนานสักพัก จู่ๆหลี่ฝานเงยหน้าขึ้น พูดต่อว่า: “ไป๋ยี่เฟย! นายมันเป็นใครกัน? เรื่องของหลี่ซื่อนายมีสิทธิ์พูดด้วยเหรอ?”
“หุบปาก!” หลี่ต้าไห่พูดตะคอก “ยังขายหน้าไม่พองั้นเหรอ?”
“ไป๋ยี่เฟยเขา…”
นายท่านหลี่ตบโต๊ะ “หุบปากเดี๋ยวนี้!”
……
บนรถ หลี่เสว่หันหลังไปถาม: “ทำไมนายถึงตัดสินใจเรื่องการแต่งตั้งบุคลากรในหลินซื่อได้ล่ะ? นายมีเรื่องปิดบังฉันอยู่ใช่ไหม?”
ไป๋ยี่เฟยหัวเราะจากนั้นพูดขึ้น: “มีที่ไหนล่ะ? อะไรที่ควรบอกก็บอกไปหมดแล้ว”
“หึ!” หลี่เสว่เบ้ปาก “งั้นนายก็เล่ามาว่าทำไมฉันต้องไปเป็นประธานของหลี่ซื่อ? และไม่ยอมบอกฉันล่วงหน้าสักคำ”
“อันที่จริงนี่ถือเป็นการตัดสินใจกะทันหันของฉัน แต่เธอเหมาะสมจริงๆ เมื่อก่อนเธอเคยเป็นผู้จัดการโครงการของหลี่ซื่อไม่ใช่เหรอ? มีความเข้าใจหลี่ซื่อบ้างแล้ว รับตำแหน่งนี้ไปคงทำงานง่ายขึ้น”
หลี่เสว่ตกใจ “ตัดสินใจกะทันหัน?” “ไม่สิ การตัดสินใจกะทันหันแบบนี้ นายตัดสินใจกะทันหันได้แบบไม่ต้องปรึกษากับโหวจวี๋เลย?”
“ฉันก็คือประธานของโหวจวี๋กรุ๊ป ฉันคิดจะทำอะไรก็ทำได้”
เมื่อหลี่เสว่ได้ยินเช่นนั้น หัวเราะเหอะๆ: “ช่างเถอะ นายก็ใช้มุกนี้มาเล่นตลกกับฉันอีกแล้ว”
ไป๋ยี่เฟยจนปัญญา ปีนี้ พูดความจริงอะไรก็ไม่มีใครเชื่อ จะโทษเขาไม่ได้นะ!
ทั้งสองขับรถกลับถึงบ้าน
เมื่อเพิ่งเข้าไปในบ้าน กลับเห็นเงาดำของใครบางคนกระโดดข้ามกำแพงไป ทั้งสองตกใจตะลึง
ขโมย? ไม่น่าจะใช่? ที่นี่เป็นถึงเขตบ้านพักของหลันโปกั่ง
ทันใดนั้น มีเงาดำปรากฏขึ้นอีกครั้ง แต่เขากลับไม่ได้กระโดดข้ามกำแพงออกไป กลับกำลังหาอะไรบางอย่าง
ไม่นานนัก เงาดำนั้นก็เห็นรถของไป๋ยี่เฟยและหลี่เสว่ จึงค่อยๆเดินเข้ามา
ไป๋ยี่เฟยและหลี่เสว่ตกใจขึ้นมาทันที เพราะพวกเขารู้จักคนนั้น
คือฆาตกรที่เคยจะฆ่าไป๋ยี่เฟยเมื่อครั้งที่แล้ว
เมื่อเดินเข้าไป เห็นเขาใส่ชุดกันหนาวสีดำทั้งตัว ผมยุ่งเหยิง ใบหน้ารกรุงรังไปด้วยหนวดเคราที่ไม่ได้โกน ดูเหมือนเป็นคนเร่ร่อน
แต่พวกเขารู้ดีว่า นี่คือฆาตกร
หลี่เสว่ถามด้วยความตื่นตกใจ: “จะกลับรถขับออกไปไหม?”
ไป๋ยี่เฟยส่ายหน้า เขาเห็นสีหน้าอารมณ์ของฆาตกรคนนั้น เขาไม่มีแววตาที่ต้องการฆ่าเขาเหมือนตอนแรก คงเป็นเพราะตอนนี้ไม่มีความคิดจะฆ่าเขาอีกแล้ว
เมื่อเห็นฆาตกรเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้ารถ จากนั้นเคาะกระจกหน้าต่าง
ไป๋ยี่เฟยเปิดประตูจะเดินลงไป แต่กลับถูกหลี่เสว่เรียกให้หยุด: “ไป๋ยี่เฟย!”
“สบายใจได้ ไม่เป็นไรหรอก” ไป๋ยี่เฟยมองหลี่เสว่ด้วยท่าทีอ่อนโยน จากนั้นเปิดประตูลงจากรถ
ไป๋ยี่เฟยมองตรงไปที่ฆาตกรตรงหน้ารถ ถามขึ้น : “มาฆ่าฉันเหรอ?”
ฆาตกรส่ายหน้า: “ไม่ใช่ มาช่วยคุณครับ”
ไป๋ยี่เฟยเลิกคิ้วขึ้น “ช่วยฉัน?”
เห็นได้ชัดว่า ไป๋ยี่เฟยไม่เชื่อ ฆาตกรไม่ฆ่าเขา ยังจะมาช่วยเขา? เป็นไปได้ยังไง?
ฆาตกรพูดอธิบาย: “ช่วยคุณเพราะผมอยากฆ่าคุณเอง ผมจะได้รับเงินรางวัล”
ไป๋ยี่เฟยเงียบไปสักพัก ถามขึ้น: “ยังมีคนจะฆ่าฉันอีก?”
ฆาตกรไม่ปฏิเสธ “เมื่อครู่ผมช่วยคุณไล่เขาออกไปแล้ว”
ไป๋ยี่เฟยระมัดระวังตัวมากขึ้น ในเมื่อไล่ฆาตกรอีกคนออกไปแล้ว งั้นต่อไปก็จะลงมือจัดการตัวเองแล้วใช่หรือไม่?
เมื่อเห็นท่าทางของไป๋ยี่เฟย ฆาตกรจึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเนิบนิ่ง “สบายใจได้ ตอนนี้ผมยังไม่ฆ่าคุณ”
“ห้ะ?” ไป๋ยี่เฟยสงสัย
ฆาตกรพูดต่อ: “ผมจะฆ่าคุณตอนฆาตกรคนนั้นปล่อยตัวตามสบาย”
เมื่อพูดจบ เขาก็จากไปโดยไม่หันกลับมา
ไป๋ยี่เฟยตกใจตะลึง คนนั้น? ไป๋หู่?
หลี่เสว่เห็นว่าฆาตกรออกไปแล้ว จึงลงจากรถ ถามขึ้น: “ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
ไป๋ยี่เฟยส่ายหน้า “ไม่เป็นไร”
ทั้งสองเข้าไปในบ้าน หลี่เสว่ดื่มน้ำที่ห้องรับแขก จากนั้นขึ้นไปพักผ่อนด้านบน
ไป๋ยี่เฟยนั่งอยู่บนโซฟาห้องรับแขก ครุ่นคิดถึงคำพูดของฆาตกร จะมีคนมาฆ่าเขาอีก? คนที่จ้างฆ่าคนนั้นหานักฆ่ามือใหม่มา หรือมีคนอื่นจ้างให้ฆาตกรมาฆ่าเขา?
หึ นี่มาหากันถึงบ้านเชียวเหรอ ดูไปแล้วแค่ไป๋หู่คนเดียวคงไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว! หรือจะหาบอดี้การ์ดเพิ่มอีกสองคน จะได้ป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น
ทันใดนั้น หลี่เสวเดินไปที่บันได จากนั้นพูดกับไป๋ยี่เฟย: “ฉันไปอาบน้ำก่อนนะ มีอะไรก็เรียกฉัน”
ปกติแล้วหลี่เสว่ไม่พูดเยอะขนาดนี้ แต่ตอนนี้ไป๋ยี่เฟยได้รับบาดเจ็บอยู่ ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ ดังนั้นจึงตั้งใจพูดกับเขาเช่นนี้
ไป๋ยี่เฟยตอบกลับ จากนั้นได้ยินเสียงของหลี่เสว่กลับเข้าห้อง ตัวเองกลับนั่งพิงโซฟาครุ่นคิดเรื่องราวต่อ
หลังจากคิดเรื่องทุกอย่างเสร็จ หยิบมือถือขึ้นมาดู พบว่าเวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมงกว่าแล้ว เขายังสงสัยว่าตัวเองกึ่งหลับกึ่งคืนอยู่รึเปล่า
เขาลุกขึ้นมานั่งดื่มน้ำ ทันใดนั้น เหลือบไปเห็นผงสีขาวบางอย่างที่ข้างแก้วชาบนโต๊ะ เหมือนเป็นเศษผงยาที่หลุดออกมา และน้ำในแก้ว
เขาจำได้ว่า เมื่อครู่ก่อนที่หลี่เสว่จะขึ้นไปหล่อนดื่มไปสองคำ
ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้วขึ้นทันที
มองดูผงบนโต๊ะ ไป๋ยี่เฟยหยิบถุงพลาสติกมาใส่ผงพวกนั้นเข้าไป จากนั้นปิดผนึกอย่างดี รอให้คนเอาไปตรวจพรุ่งนี้
หลังจากที่เก็บของเสร็จ ไป๋ยี่เฟยขึ้นไปด้านบน เข้าไปในห้องของหลี่เสว่
ไป๋ยี่เฟยได้ยินเสียงน้ำไหล ตอนแรกไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ต่อมากลับตกใจเป็นอย่างมาก นี่ผ่านไปชั่วโมงกว่าแล้ว หลี่เสว่ยังอาบน้ำอยู่?
เดินเข้าไปในห้องน้ำ ไป๋ยี่เฟยเคาะประตู “เสว่เอ๋อ?”
ไม่มีคนตอบกลับ
“เสว่เอ๋อ?”
ยังคงไม่มีใครตอบกลับ
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกใจคอไม่ดี ไม่สนใจอะไรพังประตูเข้าไปทันที กระแทกสามสี่ครั้ง จึงจะเปิดประตูออก