ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 140
บทที่ 140
หลังจากนั้นสองชั่วโมง หลงหลิงหลิงพาคนแก่อายุห้าสิบปีเข้ามาในห้องทำงาน
บนใบหน้าของจิตรกรมีรอยเหี่ยวย่น ผมดำขาวผสมกัน แต่ดูอบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาที่ได้สัมผัสคนใหญ่คนโตในระยะใกล้ชิดแบบนี้ ค่อนข้างตื่นเต้นไปชั่วขณะ
ไป๋ยี่เฟยไม่พูดจาไร้สาระกับเขา พูดความต้องการโดยตรง จากนั้นให้คนเริ่มวาด
หลังจากนั้นสองชั่วโมงกว่า จิตรกรระบายๆแก้ไขภายใต้ความต้องการของไป๋ยี่เฟย เด็กหนุ่มอายุยี่สิบกว่าปีที่มีดวงตาเล็กๆคู่หนึ่ง ดั้งแหมบ ริมฝีปากบางปรากฏขึ้นอย่างมีชีวิตชีวาอยู่บนกระดาษ
หลังจากที่ไป๋ยี่เฟยได้เห็นรู้สึกว่าเหมือนประมาณแปดสิบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว ก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ
จิตรกรเช็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆที่ผุดอยู่บนหน้าผากเล็กน้อย อยู่ต่อหน้าท่านประธาน ยังต้องวาดภาพต่อเนื่องกันยาวนานขนาดนี้ สำหรับคนที่อายุห้าสิบกว่าปีแล้ว เป็นการใช้แรงงานอย่างหนึ่ง
และหลงหลิงหลิงที่อยู่ด้านข้างมีข้อสงสัยมากอยู่ตลอดเวลา ท่านประธานวาดคนๆนี้ทำอะไร? มองดูแล้วอายุน้อยมาก หรือว่าจะเกี่ยวข้องกับเถ้าแก่เฉา? คงจะไม่ได้เป็นลูกชายของเขาหรอกมั้ง? หรือว่าลูกนอกสมรส?
…
ได้รับแบบร่างภาพ
ไป๋ยี่เฟยนัดเจอกับฉินหัวที่ร้านกาแฟ
หลังจากที่ฉินหัวมาถึง ไป๋ยี่เฟยนำภาพเหมือนให้กับฉินหัวในทันที “คนๆนี้ ช่วยฉันหาหน่อย”
“นี่ใคร?” ฉินหัวเลิกคิ้วเอ่ยถาม “ทำความผิด?”
ไป๋ยี่เฟยใบหน้าเคร่งขรึม เล่าเรื่องราวออกไปอย่างง่ายๆ
ฉินหัวก็คือมีสีหน้าที่เหลือเชื่อ “ที่แกพูดคือความจริง? นี่สมัยไหนแล้ว วางยา? โดนยาพิษ?”
ไป๋ยี่เฟยกลอกตามองบน “ตอนที่แกหาคนพยายามทำตัวไม่ให้เป็นจุดสนใจหน่อย หากฝ่ายตรงข้ามรู้ว่าเป็นสำนักงานตำรวจกำลังตามหา จะเกิดการระวังตัวในใจขึ้น ถึงเวลาหากมันหนีออกไปจากเมืองเทียนเป่ย งั้นฉันก็หมดหนทางจริงๆแล้ว”
ฉินหัวพยักหน้าตอบรับ “เข้าใจแล้ว”
ส่งฉินหัวจากไป ไป๋ยี่เฟยนั่งอยู่ที่นั่นไม่ได้ไปไหน แต่โทรศัพท์ไปหาไอ้หัวล้านหลิวแทน
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง ไอ้หัวล้านหลิวก็ปรากฏตัวที่ร้านกาแฟในแบบเดียวกัน
“บอส คุณหาผมมีเรื่องอะไรหรอครับ?”
ไป๋ยี่เฟยหยิบเอาภาพเหมือนใบหนึ่งออกมาอีก “คนๆนี้ ช่วยฉันหา”
“ขอเพียงแค่มีเบาะแสของคนๆนี้ รางวัลสองล้าน หากจับคนๆนี้ได้ รางวัลสิบล้าน”
ดวงตาของไอ้หัวล้านหลิวเป็นประกาย “บอส วางใจครับ จะต้องหาให้บอสได้อย่างแน่นอน!”
…
ตอนบ่าย หลี่เสว่บอกกับไป๋ยี่เฟย ว่าคุณแม่ได้นำบ้านขายออกไปแล้ว ขั้นตอนต่างๆก็ทำเสร็จแล้วเช่นเดียวกัน
แต่หลังจากนั้นหลี่ฝานก็โทรศัพท์เข้ามาราวีเป็นช่วงๆอยู่ตลอดเวลา ทำให้หลี่เสว่รำคาญจนทนไม่ไหว
“หลี่ฝาน ฉันรู้ว่าคุณจะพูดเรื่องอะไร บ้านนั่นเป็นของพวกเรา พวกเราอยากจะจัดการยังไงก็ได้”
หลี่ฝานตะคอกใส่ด้วยความโมโหในทันทีว่า “หลี่เสว่!เธอแม่งมีสิทธิ์อะไรมาจัดการบ้านหลังนั้น บ้านหลังนั้นเป็นของตระกูลหลี่ของพวกเรา พวกแกมีสิทธ์อะไรขายออกไป?”
“แก หลี่เฉียงตง พวกแกทั้งครอบครัว ต่างก็ไม่ใช่คนตระกูลหลี่ แม่งก็ไม่มีสิทธิ์มาจัดการทรัพย์สินของตระกูลหลี่!พวกแกจนจนบ้าไปแล้วใช่หรือเปล่า?”
“ฉันจะบอกพวกแกให้ เงินที่ขายบ้านทิ้งเอามาให้ตระกูลหลี่ซะดีๆ ไม่อย่างนั้นฉันจะฟ้องพวกแกข้อหาแลกเปลี่ยนซื้อขายทรัพย์สินของบ้านคนอื่นเป็นการส่วนตัว ให้พวกแกทั้งครอบครัวไปเข้าคุก!”
หลี่เสว่ได้ยินคำพูดของหลี่ฝาน ริมฝีปากก็สั่นขึ้นมา “หลี่ฝาน!คุณพูดจาอย่าไม่น่าฟังขนาดนั้นได้หรือเปล่า? ไม่ว่าพวกคุณจะยอมรับหรือไม่ พวกเราต่างก็คือคนตระกูลหลี่ คุณมีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้?”
“หึ เธอยังไม่รู้ล่ะมั้ง?” หลี่ฝานเอ่ยขึ้นอย่างได้ใจ “ฉันจะบอกเธอให้ ตอนนี้ฉันถึงจะเป็นผู้ที่ใหญ่สุดของบ้านตระกูลหลี่ เรื่องของตระกูลหลี่ฉันพูดคำไหนคำนั้น!”
“อะไรนะ?” หลี่เสว่ตกใจ “งั้นคุณปู่ล่ะ?”
“คุณปู่? คนที่ใกล้จะลงโลงคนหนึ่ง แน่นอนว่ากลับไปนอนให้สบายแล้ว!”หลี่ฝานเอ่ยขึ้นอย่างไม่แยแส
“ใช่แล้ว ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ฉันต้องแจ้งให้พวกแกได้ทราบ ฉันตัดสินใจว่า ครอบครัวของหลี่เฉียงตง นับจากวันนี้ ถูกตระกูลหลี่ตัดชื่อ!ต่อไปไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับตระกูลหลี่อีก!”
“คุณ…” หลี่เสว่โมโหจนหอบหายใจไม่ทัน คำพูดยังไม่ได้พูดจบ ก็หมดสติลงไปแล้ว
บังเอิญกับเวลาที่ไป๋ยี่เฟยเดินเข้ามาใกล้ประตูบ้าน เห็นหลี่เสว่หมดสติล้มลงไปพอดี
หลี่เสว่ล้มลงไปบนโซฟา พร้อมกับโทรศัพท์มือถือที่ตกลง หน้าจอแสดงผลว่ากำลังต่อสายกับหลี่ฝานอยู่
ไป๋ยี่เฟยโมโหอย่างรุนแรง หยิบเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น “หลี่ฝาน ฉันจะบอกแกเอาไว้ เดิมทีฉันคิดจะให้หลี่ซื่อกรุ๊ปเกิดขึ้นและดับสูญไปด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้ ฉันเปลี่ยนความคิดแล้ว ฉันจะทำให้พวกแกหายไปจากเมืองเทียนเป่ย!”
หลี่ฝานทางนั้นอยู่ๆได้ยินเสียงของไป๋ยี่เฟย ตกใจเสียยกใหญ่ แต่หลี่ฝานตอนนี้มีแบ็คเป็นเย่ซื่อ จึงไม่หวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย “ไป๋ยี่เฟย แกนึกว่าแกเป็นใคร? แกยังคิดจะทำให้หลี่ซื่อกรุ๊ปหายไป? กำลังฝันอยู่จริงๆ