ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 163
บทที่163
บรรดาผู้บริหารต่างก็แอบส่องดู แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ!
ใบหน้าของไป๋ยี่เฟยนั้นขาวสะอาด ไม่เพียงไม่มีไฝ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแผลเป็นอันนั้นเลย
“ณ ตอนนี้ ผมว่าเรื่องทั้งหมดก็ได้กระจ่างแล้ว งั้นผมอยากจะขอเชิญให้คุณช่วยพาพวกคนของคุณกรุณาไสหัวไปออกไปด้วย!”
พอจางหรงได้ยินอย่างนั้นเขาก็รีบเปลี่ยนสีทันที “ใช่ รีบไสหัวไปเลย โหวจวี๋ไม่ต้อนรับพวกแก!”
ไป๋ยี่เฟยมองไปที่จางหรง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
จางหรงเองก็สังเกตเห็นสีหน้าของไป๋ยี่เฟย ในใจก็รู้สึกกลัวเป็นอย่างมาก ใครจะไปคิดล่ะว่าหลี่ฝานจะไม่เอาไหนขนาดนี้? มาซะใหญ่โต แต่กลับกลายเป็นแค่เรื่องตลกเนี่ยนะ!
สีหน้าของหลี่ฝานกับคนของหลี่ซื่อนั้นดูไม่ได้เลย
“คุณทนาย กิจการผลไม้หลี่ซื่อกรุ๊ป……”
หลี่ฝานอยากจะพูดว่า ในเมื่อตำแหน่งประธานบริษัทของโหวจวี๋ยังคงเป็นของไป๋ยี่เฟยอยู่ งั้นกิจการผลไม้หลี่ซื่อกรุ๊ปก็ยังต้องเป็นของหลี่ฝานอยู่
“สัญญาได้ถูกเซ็นไปแล้ว และมีผลบังคับใช้แล้วด้วยครับ”
สรุปก็คือ ประธานบริษัทของโหวจวี๋ยังคงเป็นของไป๋ยี่เฟย แต่กิจการผลไม้หลี่ซื่อกรุ๊ปนั้นได้กลายเป็นของไป๋ยี่เฟยไปแล้วนั่นเอง
หลี่ฝานกับคนของหลี่ซื่อรู้สึกมืดบอดขึ้นมาทันที
พวกเขาไม่เพียงไม่สามารถยึดโหวจวี๋มาอยู่ในกำมือได้ แต่ยังเอากิจการผลไม้หลี่ซื่อกรุ๊ปยกให้เขาไปด้วย!
งั้นพวกเขาก็ไม่เหลืออะไรแล้วสิ?
“ไม่ ไม่ได้สิ! ไป๋ยี่เฟยยังเป็นประธานของโหวจวี๋อยู่ งั้นผมก็ยังต้องเป็นประธานของกิจการผลไม้หลี่ซื่อกรุ๊ปอยู่สิ!” หลี่ฝานตะคอกเสียงดัง
ไป๋ยี่เฟยยิ้มเจือนๆ “คุณหลี่ฝานครับ เราต่างก็ลงนามไปแล้ว คุณอยากจะกลับคำอย่างนั้นเหรอครับ? งั้นเราก็มาจัดการให้มันเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดเถอะครับ”
สัญญาที่มีผลบังคับใช้แล้วนั้นย่อมต้องมีกฎหมายคุ้มครองด้วย หลี่ฝานอยากที่จะเถียง แต่มันต้องขึ้นศาลและไม่มีทางที่เขาจะชนะเลย
หัวใจของหลี่ฝานนั้นเต้นไม่หยุด และเขาก็กำลังกระวนกระวายเป็นอย่างมาก
ถ้าตระกูลหลี่เสียกิจการผลไม้หลี่ซื่อกรุ๊ปไป แล้วคนในตระกูลมากมายขนาดนั้นจะใช้ชีวิตต่อยังไง?
ไม่ต้องคิดก็รู้อยู่แล้ว พอเขากลับไป เขาจะต้องถูกคุณปู่ พ่อและคนอื่นๆ ในตระกูลต่อว่าอย่างแน่นอน ดีไม่ดีเขาอาจจะถูกขับไล่ออกจากตระกูลเลยด้วยซ้ำ
พอคิดถึงตรงนี้ หลี่ฝานก็ร้อนรนเป็นอย่างมาก หายใจหนักหน่วงขึ้นมาเรื่อยๆ
จากนั้น ไป๋ยี่เหยก็พูดต่อ “คุณหลี่ฝานครับ คุณมันโง่ โง่จนผมไม่ต้องใช้สมองเลยด้วยซ้ำก็สามารถเอาชนะคุณได้แล้ว”
“และผลลัพธ์ทั้งหมดนี้คุณก็เป็นคนเลือกเองทั้งหมด”
ตอนนี้ไป๋ยี่เฟยรู้สึกสะใจเป็นอย่างมาก ตอนนี้เขายังไม่ลืมภาพที่มันทำให้หลี่เสว่สะเทือนใจจนเป็นลมไปเลย ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากเอาคืน เพียงแค่เขายังไม่มีโอกาส แต่ตอนนี้เขาเสนอตัวขึ้นมาให้ตัวเองโดนจัดการเองแบบนี้ แล้วจะให้มันปฏิเสธได้ยังไงล่ะ?
“นี่คุณ!” หลี่ฝานชี้หน้าไป๋ยี่เฟยแล้วพูดออกมาเพียงแค่คำเดียว จากนั้นเขาก็สลบไป
“พี่ฝานครับ” เห่าเจี้ยนรีบก้าวเข้ามาข้างหน้าแล้วประคองตัวหลี่ฝานเอาไว้
พอไป๋ยี่เฟยเห็นอย่างนั้นก็ได้ขำออกมา “มีความอดทนเพียงแค่นี้ ยังคิดจะมาต่อกรกับฉันอีก?”
เมื่อเหล่าผู้บริหารได้เห็นด้านนี้ของไป๋ยี่เฟยแล้ว แล้วทุกคนต่างก็พากันเกรงกลัว ประธานคนนี้ถึงแม้อายุยังน้อย แต่ไหวพริบดีมาก ทำให้พวกเขาต้องมองเขาใหม่อีกรอบแล้ว และในเวลาเดียวกัน พวกเขายังต้องพิจารณาพฤติกรรมที่ตัวเองปฏิบัติต่อท่านประธานคนนี้ใหม่แล้ว
จางหรงตกใจกับคำพูดของไป๋ยี่เฟยเป็นอย่างมาก เมื่อกี้การทางเขาทำตัวเป็นนกสองหัวที่เอียนเอียงไปทั้งสองฝั่งนั้นไป๋ยี่เฟยจะต้องจัดการกับเขาแน่ๆ คราวนี้เขาคงจบเห่แล้วจริงๆ!
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้สนใจใครอื่น เขาแค่บอกกับ เห่าเจี้ยนว่า “ตอนนี้รีบพาหลี่ฝานไสหัวออกไปจากโหวจวี๋เดี๋ยวนี้”
พอคนของหลี่ซื่อเห็นอย่างนั้น ก็พากันพยุงหลี่ฝานที่อ้วนท้วนขึ้นมาเตรียมที่จะไป
แต่ในตอนนั้น ไป๋ยี่เฟยก็ได้พูดขึ้น “รอเดี๋ยว!”
ทุกคนหยุดลง “คนอื่นๆ ออกไป แต่เหลือหลี่ฝานไว้”
“นี่……ไม่ดีมั้งครับ?” เห่าเจี้ยนพูดขึ้นเบาๆ
ไป๋ยี่เฟยถลึงตา เห่าเจี้ยนก็รีบตอบกลับมา “เหมาะครับเหมาะ เราจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละครับ”
เห่าเจี้ยนกับคนของหลี่ซื่อและทนายความสองคนก็ได้เดินจากไป
เหลือไว้เพียงแค่หลี่ฝานที่นอนกองอยู่ที่พื้น
จางหรงพอเห็นอย่างนั้นจึงรีบถามขึ้นมาอย่างคนจนตรอกว่า “ท่านประธานครับ แล้วท่านจะจัดการกับหลี่ฝานยังไงครับ?”
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้ตอบ แต่หันไปบอกกับเหล่าผู้บริหารว่า “พวกคุณมีอะไรให้ทำก็ไปทำเถอะครับ”
พอบรรดาผู้บริหารได้ยินอย่างนั้นก็พากันลุกขึ้นแล้วพาไปทำงานของตัวเอง
ส่วนจางหรงนั้นพยายามบอกลาไปหลายครั้ง แต่ไป๋ยี่เฟยก็ไม่ได้สนใจเขา
นี่สรุปท่านประธานจะจัดการเขา? หรือปล่อยเขาไปกันนะ?
หลังทุกคนไปหมดแล้ว ตอนนี้ในห้องก็เหลือเพียงแค่ไป๋ยี่เฟย หลงหลิงหลิงกับหลี่ฝานที่นอนอยู่ตรงพื้นเท่านั้น
“ท่านประธานค่ะ คุณหลี่ฝานเขา……”
รอให้เขาตื่นขึ้นมาก่อนค่อยว่ากัน” ไป๋ยี่เฟยพูดออกมาอย่างเรียบเฉย “คุณช่วยไปเอาเอกสารมาให้ผมที่ห้องประชุมนี่ที”
หลงหลิงหลิงรีบพยักหน้า แล้วก้าวออกจากห้องประชุมไป
ไป๋ยี่ฝานจ้องไปยังหลี่ฝานที่นอนอยู่บนพื้น แล้วขำออกมา ตอนแรกเขาก็อยากจะปล่อยให้หลีฝานออกไปพร้อมกับพวกเขา แต่เขาก็รู้สึกว่ามันยังไม่สาแก่ใจ
ตอนอยู่ที่หลี่ซื่อ หลี่ฝานก็ทำให้หลี่เสว่สลบไปแบบนี้
ตอนอยู่ที่วิลล่า หลี่ฝานก็โทรไปหาหลี่เสว่ จนทำให้เธอหมดสติไปอีก
และในครั้งนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะหลี่ฝานปล่อยรูปนั้นออกมา เย่อ้ายก็คงไม่ไปหาหลี่เสว่ และพูดจาทำร้ายเธอมากมาย เธอก็คงไม่มีทางรู้เรื่องพวกนี้เด็ดขาด
และยิ่งไม่มีทางหมดสติไปเพราะเรื่องแบบนี้ จนทำให้ร่างกายอ่อนแอลงไปอีก!
ดังนั้น เขาไม่มีทางที่จะปล่อยตัวหลี่ฝานไปง่ายๆ อย่างแน่นอน
จากนั้นเขาก็หยิบมือถือขึ้นมาโทรหา ไอ้หัวล้านหลิว
“เดี๋ยวเขาจะออกไปจากโหวจวี๋ คุณช่วยสะกดรอยตามเขาไปก่อน แล้วหาที่ๆ ไม่มีคนจัดการเขาซะ เอาเขาให้หนัก”
“ได้ครับท่าน!” ไอ้หัวล้านหลิวรับคำสั่ง แล้วถามต่อ “หนักที่ว่านี่หนักขนาดไหนเหรอครับ?”
“เอาให้ขาสองข้างของมันพิการไปเลย” ไป๋ยี่เฟยตอบด้วยเสียงที่ทุ้มลึก ถ้าเป็นอย่างนั้นมันก็จะต้องนอนอยู่บนเตียงตลอดไป แล้วดูสิว่ามันยังจะไปทำร้ายหลี่เสว่ได้อีกหรือเปล่า
พอวางสาย ไป๋ยี่เฟยก็ขำออกมาอย่างเย็นเยือก “หลี่ฝาน ของขวัญที่ผมจะมอบให้คุณ คุณควรรักษามันให้ดีๆ นะครับ!”
ไม่นาน หลงหลิงหลิงก็ได้กลับเข้ามาพร้อมกับเอกสารในมือ ไป๋ยี่เฟยก็ได้พูดขึ้น ที่ดินตรงชานเมืองทางใต้กำลังจะเปิดประมูลแล้วใช่ไหมครับ?”
หลงหลิงหลิงพยักหน้า “ตอนแรกกำหนดการคือวันมะรืนนี้ แต่ก็ได้ยินว่ามีการเลื่อนออกไปแล้วค่ะ วันที่แน่ชัดยังไม่ได้ถูกประกาศออกมาด้วยค่ะ”
ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้ว “การประมูลแบบนี้ใครเป็นคนควบคุมครับ?”
“น่าจะเป็นทางรัฐบาลค่ะ”
ไป๋ยี่เฟยพยักหน้า “เข้าใจแล้วครับ คุณไปทำงานเถอะครับ ถ้ามีอะไรให้ช่วยเดี๋ยวผมจะเรียกคุณเองครับ”
พอฟังจบ หลงหลิงหลิงก็ได้พูดขึ้นอย่างลังเลว่า “ท่านประธานคะ ทั้งหมดนี้คุณได้เตรียมการเอาไว้ก่อนแล้วใช่ไหมคะ? แล้วทำไม……”
แล้วทำไมถึงไม่ยอมบอกให้เธอรู้ก่อน? ปล่อยให้เธอนอนเครียดอยู่ทั้งคืน จนเธอเกือบจะตัดสินใจลาออกแล้วนะเนี่ย
“เรื่องนี้มันเป็นเรื่องส่วนตัวของผม จึงไม่จำเป็นต้องดึงคุณมาเกี่ยวข้องด้วย ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกมันต้องการก็คือผม”
หลงหลิงหลิงพยักหน้า แต่ในใจก็ยังรู้สึกใจหายอยู่
แล้วไป๋ยี่เฟยก็พูดต่อ “ความจริง ในบริษัทนี้ คุณเป็นเพียงคนเดียวที่ผมไว้ใจ ไปเถอะครับ!”
หลงหลิงหลิงพยักหน้า แล้วเดินจากไป
หัวใจเต้นรัว นี่เธอเป็นเพียงคนเดียวในบริษัทนี้ที่เขาไว้ใจ นี่มันหมายความว่าเธอพิเศษกว่าคนอื่นไม่ใช่เหรอ?
ในระหว่างที่กำลังคิดอยู่ มือถือของหลงหลิงหลิงก็ดังขึ้น