ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 20
บทที่ 20
คำพูดของนายท่านหลี่พูดจบ จากนั้นคนงานปิดไฟทันที ปิดผ้าม่านไว้ ทันทีนั้นห้องรับแขกตกอยู่ในความมืด
ต่อจากนี้อยู่ตรงที่ของพิธีกรบนเวที จู่ๆสว่างขึ้นมาวงหนึ่ง ส่องสว่างใหญ่ไปมากวงหนึ่ง
ถ้าหากว่าไม่ใช่ห้องรับแขกใหญ่เกินไปล่ะก็ เชื่อว่าส่องสว่างให้ทั่วทั้งห้องล้วนไม่มีปัญหา
“โอ้ว! งดงามเหลือเกิน!”
“นี่ลงทุนมาก!”
“ไข่มุกราตรีนี้ดูแล้วก็มีมูลค่ามาก! ย่อมมีมูลค่าหลายสิบล้านอย่างแน่นอน !”
แต่หลังจากไป๋ยี่เฟยได้เห็นแล้ว ใบหน้าเข้มลงทันที เดิมทีเขาคิดว่าหลังจากผ่านวันนี้แล้วค่อยไปตรวจสอบอีก ตอนนี้ดูแล้วน่าจะไม่ต้องไปตรวจสอบแล้ว!
นั่นทั้งๆที่เป็นของขวัญวันเกิดที่พ่อแท้ๆของเขาส่งให้เสว่เอ๋อ ตอนนี้กลับถูกคนคนนี้ยกออกมาตั้งไว้โอ้อวด ช่างหน้าด้านเหลือเกินจริงๆ!
ในเวลานี้ หลี่เสว่ที่ยืนอยู่ข้างกายเขาไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ จู่ๆถามว่า “ไป๋ยี่เฟย คุณรู้มานานแล้วว่างานเลี้ยงในวันนี้พวกเขาไม่ได้เรียนเชิญพวกเราใช่หรือไม่?”
ไป๋ยี่เฟยชะงักไปหนึ่งที พยักหน้ากล่าวว่า “ใช่ครับ”
หลี่เสว่ถอนหายใจหนึ่งที “แท้ที่จริงแล้วไม่จำเป็นต้องมา” มาแล้วก็มีแต่ได้รับความโมโห
ไป๋ยี่เฟยกลับส่ายหัวกล่าวว่า “ไม่ครับ เสว่เอ๋อ ผมพูดไปแล้ว วันนี้คือวันเกิดของคุณ ผมจะจัดงานวันเกิดที่พิเศษอย่างหนึ่งให้คุณ”
หลี่เสว่ สงสัย แต่ว่าก็เป็นเวลาขนาดนี้แล้ว ยังจะจัดงานเลี้ยงอะไรอีกหรือ?
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้ทำการอธิบายมากกว่านี้ เพียงแค่ยิ้ม
ในเวลานี้ นายท่านหลี่หัวเราะ เฮอะๆ กล่าวว่า “ไข่มุกราตรีที่สว่างเช่นนี้ คิดว่าทุกคนย่อมไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็นล่ะ?”
ก็จริงนะ? เดิมทีไข่มุกราตรีจากธรรมชาติก็เห็นได้ยากกว่าอยู่แล้ว ยังเป็นลูกใหญ่ขนาดนี้ แสงสว่างเต็มเปี่ยมขนาดนี้
แต่ว่าคนทั้งหลายยังใส่ใจว่าตกลงคือใครให้มามากกว่า? อันนี้น่าจะราคาไม่เบานะ
นายท่านหลี่ ดูเหมือนได้เห็นความสงสัยของทุกคน ก็กล่าวว่า “ตอนนั้นนี่คือได้รับจากงานเลี้ยงวันเกิดของผม คือประธานกรรมการของหลิ่วซื่อกรุ๊ปส่งแทนหลิ่วจาวเฟิงคุณชายหลิ่ว”
หลิ่วซื่อกรุ๊ปหรือ?
ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ช่างลงทุนมากจริงๆนะ!
หลิ่วซื่อกรุ๊ปแม้ว่าเทียบกับโหวจวี๋กรุ๊ปไม่ได้ แต่ว่าก็ยังเป็นบริษัทใหญ่ อยู่ในเมืองเทียนเป่ยก็ได้รับฐานะเท่าเทียมกัน นับจากกำลังทรัพย์ของหลิ่วซื่อกรุ๊ปส่งของขวัญแบบนี้ออกมาพอเหมาะพอสม
แค่ทำให้คนนึกไม่ถึงคือ หลิ่วซื่อกรุ๊ปดูเหมือนไม่มีอะไรเกี่ยวพันกันกับตระกูลหลี่ ทำไมลงมือก็คือลงทุนมากขนาดนี้หรือ?
หลิ่วจาวเฟิงที่อยู่ข้างล่างเวทีในใจตื่นตกใจเล็กน้อย ตอนนั้นเขาแค่ยืมดอกไม้ถวายพระ หลังจากนั้นกลับไปถามแล้ว แท้ที่จริงก็ไม่ใช่พ่อของเขาให้!
นายท่านหลี่พูดเป็นเช่นนี้ ถ้าหากว่าทำให้พ่อเขารู้แล้ว ย่อมถูกตีอย่างแน่นอน!
แต่ตอนที่คนมาล้อมรอบหลิ่วจาวเฟิงยิ่งมายิ่งเยอะ พูดจาสรรเสริญเยินยอด้วยความประจบประแจง ในใจหลิ่วจาวเฟิงลอยขึ้นมา ก็เลยทำตามธรรมชาติไป
“คุณชายหลิ่วช่างลงทุนมากเหลือเกินล่ะ!”
“ใช่แล้ว คุณชายหลิ่วลงมือใจกว้างจริงๆ!”
หลิ่วจาวเฟิงหัวเราะ ฮ่าๆกล่าวว่า “ที่ไหน ที่ไหนล่ะ? เพียงแค่ไข่มุกราตรีอันหนึ่ง ต่อหลิ่วซื่อกรุ๊ปมากล่าวแล้ว อาหารจานเล็กจานหนึ่ง ไม่มีค่าควรแก่การเอ่ยถึง”
ในเวลานี้ หลี่ฝานถือแก้วไวท์เดินเข้ามา สรรเสริญเยินยอด้วยความประจบประแจงกล่าวว่า “คุณชายหลิ่วหน้าตาหล่อดูดี ทั้งใจกว้างเช่นนี้ อนาคตยังเป็นผู้สืบทอดของหลิ่วซื่อกรุ๊ปอีก เทียบกับคนที่เกาะเมียกินบางคนเก่งกว่าเยอะเลย”
หลิ่วจาวเฟิงมองตามสายตาไป มองเห็นไป๋ยี่เฟยที่อยู่ข้างโน้น พูดอย่างพอใจว่า “เพียงแค่ผู้สืบทอดคนหนึ่งเท่านั้น แต่ว่าก็ดีกว่าคนที่เป็นคนบ้านนอกคนหนึ่งเล็กน้อยเช่นนั้นจริงๆ”
หลี่ฝานหัวเราะ ฮ่าๆ พูดกับไป๋ยี่เฟยว่า “ไป๋ยี่เฟย! คนอย่างมึงแบบนี้ กลัวว่าไม่เคยมางานเลี้ยงระดับสูงแบบนี้ล่ะ? ดูสิที่มึงใส่ ไม่เข้ากันกับงานเลี้ยงแม้แต่นิด ถ้ามึงรู้ตัว ก็ควรรีบออกไปเร็วๆหน่อย !”
“เสว่เอ๋อ เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องของคุณ ผมเสียดายแทนคุณมากเหลือเกิน คุณลองดูคุณชายหลิ่วซิ แล้วไปดูไป๋ยี่เฟยอีก คนแบบนี้ กลัวว่าไปเป็นควายเป็นม้าให้คนชั่วชีวิต คาดว่าจะแลกเสื้อผ้าตัวหนึ่งที่อยู่บนกายของคุณชายหลิ่วก็ยังไม่ได้! สวะไอ้ขยะแม้แต่สู้ขยะก็ไม่ได้แบบนี้ จะคู่ควรกับคุณได้ยังไงหรือ?”
เสียงของหลี่ฝานนับว่าไม่เบา คนบริเวณนั้นได้ยินแล้ว ล้วนหันมาดู
พอดีอยู่ในเวลานี้ ไฟในห้องรับแขกสว่างขึ้นมาอีกครั้งทำให้คนเห็นการแต่งกายของไป๋ยี่เฟยได้ชัด
“การแต่งกายของคนคนนี้ช่างไร้รสนิยม!”
“ใช่สิ! คาดว่าเป็นสินค้าข้างถนนล่ะ…….”
“สมองก็ไม่มีแม้แต่นิด มาในงานแบบนี้ ก็ไม่รู้จักแต่งตัวสักหน่อย”
เสียงแต่ละเสียงเหมือนดั่งหนามเสียบอยู่บนกายของหลายคนนั้น ทำให้คนไม่สบายกายทั้งตัว
ใบหน้าของหลี่เสว่ร้อนจนแสบ
ไป๋ยี่เฟยกลับยิ้มอย่างไม่สนใจ “ในสุภาษิตกล่าวว่า งาช้างไม่งอกออกจากปากสุนัข?”
คนทั้งหลายได้ยินสีหน้าเข้มลงทันที นี่ไม่ใช่พูดว่าพวกเขาล้วนเป็นหมาหรือ?
ยิ่งจะทำให้คนตื่นตะลึงก็คือ ทั้งๆที่เป็นคนคนหนึ่งที่สวมใส่สินค้าแบบขยะ คิดไม่ถึงว่ากล้าที่จะด่าพวกเขาถึงขนาดนี้!
สีหน้าหลี่ฝานเคร่งขรึม ยังไม่ทันที่จะพูด หลิ่วจาวเฟิงก็พูดเสียงเย็นชาว่า “คนชั้นต่ำที่ไร้ปัญญาจึงจะงาช้างไม่งอกออกจากปากสุนัข ก็เหมือนอย่างมึง”
เห็นหลิ่วจาวเฟิงก็พูดถึงไป๋ยี่เฟยขนาดนี้แล้ว หลี่ฝานจ้องมองไป๋ยี่เฟยอย่างพอใจหนึ่งที “ไม่รู้ว่าใครคือหมาล่ะ?”
ไป๋ยี่เฟยจ้องมองหลี่ฝาน ทั้งจ้องหลิ่วจาวเฟิงหนึ่งที “ใช่สิ! ใครคือหมาในใจคนนั้นชัดเจน ”
ความหมายของสายตานั้นชัดเจนเกินกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว หลี่ฝานก็เป็นหมาของหลิ่วจาวเฟิงไม่ใช่หรือ?
หลี่เสว่ที่อยู่ข้างๆเมื่อได้เห็นดังนั้น ก็ไม่เข้าใจมองไปยังไป๋ยี่เฟย ไป๋ยี่เฟยทำไมต้องสู้กับคนมากมายขนาดนี้ล่ะ?
แต่ก็พบเห็นว่า ไป๋ยี่เฟยไม่สนใจเต็มใบหน้า
แต่ว่าหลี่ฝานโมโหจนสั่นไปทั้งตัวแล้ว ความโมโหไม่มีที่ระบายกล่าวว่า “สู้กับมึงสวะไอ้ขยะที่แต่งเข้าแบบนี้ช่างเสียแรงเปล่าๆจริงๆ ลูกกะหรี่ความสามารถที่แท้จริงไม่มี แต่หน้ากลับหน้าหนามาก! อีกสักครู่กูก็ให้คนตีมึงจนพิการค่อยโยนทิ้งออกไปอีก! ดูสิวันหลังมึงยังกล้าต่อปากต่อคำหรือไม่!”
พูดจบ ตอนที่ หลี่ฝานกำลังคิดว่าจะเรียกยามรักษาความปลอดภัยมา รุมตีไป๋ยี่เฟยอยู่ต่อหน้าคนทั้งหลายสักครั้ง
นายท่านหลี่ที่อยู่บนเวทีเอ่ยปากพูด ทำให้เขาจำเป็นต้องหยุด “แน่นอน งานในครั้งนี้นะ ยังมีเรื่องสุดท้ายที่จะประกาศ นั่นก็คือพวกเรากิจการผลไม้หลี่ซื่อกรุ๊ปกับ อสังหาริมทรัพย์ของหลันโปกั่งที่อยู่ภายใต้โหวจวี๋กรุ๊ปได้ร่วมมือกันสำเร็จก็โชคดีว่าได้เรียนเชิญประธานกรรมการของโหวจวี๋กรุ๊ปมา”
คนทั้งหลายหลังจากได้ยินแล้วอดไม่ได้สูดลมหายใจเย็นๆเข้าลึกๆหนึ่งครั้ง
ประธานกรรมการของโหวจวี๋กรุ๊ป!
ตามเวลาก่อนหน้านั้นได้ยินว่าโหวจวี๋กรุ๊ปเปลี่ยนประธานกรรมการเป็นชายหนุ่มคนหนึ่ง แต่ไม่มีคนรู้ว่าประธานกรรมการคนนั้นคือใคร แม้แต่ข่าวเล็กน้อยก็ไม่มี
นี่ทำให้ทุกคนประหลาดใจขึ้นมา ประธานกรรมการคนใหม่ของโหวจวี๋กรุ๊ปคนนี้ตกลงว่าคือใครหรือ?
ทุกคนมองซ้ายมองขวาอยู่ในห้องรับแขก ก็ไม่ได้เห็นประธานกรรมการคนนั้น
“ต่อมา ให้พวกเราเรียนเชิญ ประธานกรรมการที่มีความสามารถและหนุ่มที่สุดขอโหวจวี๋กรุ๊ปในเมืองเทียนเป่ยขึ้นบนเวทีกล่าวสุนทรพจน์ !”
นายท่านหลี่พูดจบ สีหน้าตื่นเต้นพร้อมกับปรบมือ
ในเวลาเดียวกัน ตาแก่ของเขากวาดมอง อดไม่ได้อยากเห็นท่าทีสง่างามของประธานกรรมการโหวจวี๋กรุ๊ป!
คนอื่นๆที่อยู่หน้างาน ก็อดไม่ได้ออกเสียงกรี๊ดออกมา ดูเหมือนอยากใช้วิธีเช่นนี้ มาแสดงถึงการชอบพอชื่นชมที่มีต่อเถ้าแก่ลึกลับคนนี้
ไป๋ยี่เฟยจัดคอเสื้อง่ายๆสักหน่อย ตายี๋ สีหน้าเย็นชามองไปยังหลี่ฝานกับหลิ่วจาวเฟิง สุดท้ายค่อยๆเดินขึ้นไป