ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 217
บทที่217
“คุณโอเคไหม? เงินจำนวนสามสิบล้านมันก็ไม่ใช่เงินน้อยๆ แต่ถ้าคุณยอม ต่อไปต้าส้งคนนี้จะเป็นคนปกป้องคุณเอง!”
ไป๋ยี่เฟยพยักหน้า “ตกลงครับ”
ว่าแล้ว ต้าส้งก็สั่งให้ลูกน้องเอามือถือของไป๋ยี่เฟยมา “บอกให้คนเอาเงินมาส่ง! แต่ผมขอเตือนไว้ก่อนนะว่าอย่าคิดแจ้งตำรวจ ไม่อย่างนั้นคุณได้ตายอย่างอนาถแน่!”
ไป๋ยี่เฟยส่ายหน้า “ผมยังไม่อยากตายครับ คุณเป็นคนโทรก็ได้ เดี๋ยวผมคุยเอง”
ต้าส้งขำในลำคอ อย่างที่เขาบอก คนที่ขึ้นชื่อว่ารวยนี่มันกลัวตายทุกคนจริงๆ!
“มันปลดล็อกยังไง?” ต้าส้งถามขึ้นโดยถือโทรศัพท์ไว้ในมือ
“ไม่ต้องปลดล็อกก็ได้ แค่โทรสายด่วนก็พอครับ คุณกดหนึ่งมันก็โทรได้แล้วครับ”
ต้าส้งมองไป๋ยี่เฟยด้วยความระแวง “ปกติสายด่วนเขามีไว้แจ้งตำรวจกับขอความช่วยเหลือไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่ครับ มันเป็นเบอร์ผู้ช่วยของผม คุณเองก็น่าจะรู้นะครับว่าคนที่เป็นเจ้านายจำเป็นต้องใช้งานผู้ช่วยอยู่ตลอด” ไป๋ยี่เฟยอธิบายไป
พอต้าส้งได้ฟังก็รู้สึกว่ามันสมเหตุสมผลดี จึงได้กดไปที่เลขหนึ่ง แล้วก็มีคนรับสายแทบจะในทันที เพียงแต่คนฝั่งนั้นยังไม่ยอมพูดอะไรเท่านั้น
ต้าส้งมองมาที่ไป๋ยี่เฟย ไป๋ยี่เฟยจึงรีบพูดไปว่า “ผู้ช่วยไป๋ นี่คุณเป็นอะไรเนี่ย? ทำไมรับสายผมแล้วถึงไม่ยอมพูดอะไรเลย คุณไม่สบายรึเปล่า? ช่างเถอะ คุณช่วยไปเบิกเงินสามสิบล้านที่การเงินให้ที ผมมีเรื่องต้องรีบใช้เงิน”
พอพูดจบ คนทางนั้นก็วางสายไปในทันที
ต้าส้งเบิ่งตาแล้วถามไป๋ยี่เฟยไปว่า “ผู้ช่วยของคุณคนนี้นิสัยแย่ขนาดนี้เลยเหรอ?”
ไป๋ยี่เฟยพูดไปยิ้มไป “พอดีผมมีผู้ช่วยอยู่แค่คนเดียว เขาคงคิดว่าผมขาดเขาไม่ได้ล่ะมั้ง!”
ต้าส้งขมวดคิ้ว แล้วยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ บวกกับรอยแผลเป็นบนใบหน้า มันยิ่งทำให้เขาดูชั่วร้ายขึ้นไปอีก “หือ ผู้ช่วยคนนี้น่าจะทำหน้าที่หลายอย่างให้เจ้านายเลยสินะครับ?”
“ผู้ช่วยของผมเป็นผู้ชายครับ” ไป๋ยี่เฟยตอบกลับ
ต้าส้งอึ้งไป จากนั้นก็มองไป๋ยี่เฟยด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป “ที่แท้คนมีเงินเขามีรสนิยมแบบนี้นี่เอง!”
“ฮาฮา……” หลิวเสี่ยวอิงทนไม่ไหวแล้ว นี่มันตลกเกินไปแล้ว
ไป๋ยี่เฟยหันไปมองหลิวเสี่ยวอิงอย่างไม่สบอารมณ์นัก อยู่เฉยๆ ไม่เป็นหรือไง? จะทำให้ตัวเองเป็นจุดสนใจทำไม!
เพราะเสียงหัวเราะนั้น จึงทำให้ต้าส้งหันไปสนใจหลิวเสี่ยวอิงแทน แล้วแววตาของเขาก็เป็นประกายขึ้นมา “นี่น้องชายสาวสวยคนนี้เป็นผู้หญิงของคุณเหรอ?”
พอได้ยินอย่างนั้น ไป๋ยี่เฟยจึงตอบกลับไปอย่างจริงจังว่า “ใช่ครับ”
หลิวเสี่ยวอิงชะงักไปแปบหนึ่ง แล้วยิ้มออกมา “ใช่ค่ะ ฉันเป็นแฟนของเขา”
พอต้าส้งได้ยินอย่านั้นเขาก็ต้องรู้สึกเสียดาย ผู้หญิงที่สวยขนาดนี้ ถ้าได้นอนด้วยสักครั้งก็จะต้องสุดยอดแน่ๆ แต่น่าเสียดาย เธอดันมีเจ้าของไปแล้ว แถมยังเป็นผู้หญิงของมหาเศรษฐีอีก”
จากนั้น สายตาของต้าส้งก็หันไปสนใจที่หลิวเสีย “คนนี้ก็ไม่เลวนะ”
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกขยะแขยง พอเห็นผู้ก็คิดแต่จะกินลูกเดียว ถึงสองคนนี้จะน่าสนจริงๆ ก็เถอะ แต่ก็ไม่ต้องทำตัวหิวขนาดนี้ก็ได้มั้ง?
“นี่พี่ชาย คุณแน่ใจแล้วเหรอครับ?” ไป๋ยี่เฟยถามขึ้น “เธอเป็นน้องสาวของไอ้หัวล้านหลิวไม่ใช่เหรอ? ถ้าเขารู้เข้ามันจะยุ่งเอาได้นะครับ”
หลิวเสียก็รู้สึกกลัวเหมือนกัน จึงได้รีบพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ใช่ๆ ถ้าพี่ฉันรู้เข้า เดี๋ยวคุณก็เจอดีหรอก!”
ต้าส้งที่รู้สึกรำคาญจึงถ่มน้ำลายลงพื้น “แม่งเอ๊ย! พวกเราไป!”
ต้าส้งกับพวกลูกน้องเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกโล่งอก แต่หลิวเสี่ยวอิงกลับขำออกมา “คุณยอมรับแล้วสินะว่าฉันเป็นแฟนคุณ” นี่เจ๊ เมื่อกี้ที่ทำไปก็เพื่อช่วยคุณนะครับ” ไป๋ยี่เฟยอธิบาย
หลิวเสียที่มองดูอยู่ข้างๆ ถามขึ้นมาด้วยความสงสัย “งั้นก็หมายความว่า พวกคุณไม่ใช่แฟนกันเหรอคะ?”
“เมื่อกี้มันอยู่ในสถานการณ์ที่คับขัน ผมจำเป็นต้องตอบไปแบบนั้น อย่างจริงจังกับมันเลย เพราะผมแต่งงานแล้วครับ”
“โอ้ย! ฟังแล้วเจ็บปวดหัวใจ!” หลิวเสี่ยวอิงถอนหายใจเบาๆ
ที่นอกห้อง ต้าส้งนั่งอยู่บนโซฟาและจุดบุหรี่ขึ้นมาอีกมวน
“พองานสามสิบล้านมาถึงฝั่งชิงหยูก็จะเรียบร้อย จากนั้นค่อยไปจัดการโซนอื่น เมื่อถึงตอนนั้นเมืองเทียนเป่ยก็จะกลายเป็นของเราอย่างสมบูรณ์!”
“ขอแสดงความยินดีกับพี่ใหญ่ล่วงหน้าครับ!”
และในตอนนั้นเอง ก็ได้มีลูกสมุนคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “พี่ใหญ่ ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ ผมว่าเศรษฐีคนเมื่อหน้าคุ้นๆ นะครับเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน?”
“แกเคยเจอเขาเหรอ? ที่ไหน?”
ลูกสมุนคนนั้นพยายามนึก จู่ๆ เขาก็เบิ่งตากว้าง แล้วเอาแต่กลืนน้ำลาย “พี่ใหญ่ เหมือนเราจะไปหาเรื่องคนที่ไม่ควรไปยุ่งด้วยแล้วนะครับ!”
“แกต้องการจะสื่ออะไร? พูดให้มันชัดเจนซิ!” ต้าส้งรู้สึกร้อนรนขึ้นมา และยังมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเท่าไหร่
ลูกสมุนคนนั้นเป็นคนที่ดูข่าวอยู่บ่อยครั้ง เขาจึงพยายามนึกต่อ จากนั้นก็นึกออกว่าเขาเคยเห็นไป๋ยี่เฟยจากที่ไหน ซึ่งก็คือเหตุการณ์ครั้งนั้นที่ออกข่าวใหญ่โตนั่นเอง!
“พี่ใหญ่ คนๆ นั้นเหมือนจะเป็นประธานบริษัทของโหวจวี๋กรุ๊ปนะครับ!” ลูกสมุนคนนั้นพูดด้วยแววตาที่เอื่อยเฉื่อย
พูดจบ ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็เงียบไป
แล้วลูกสมุนอีกคนก็ได้สวนขึ้นมาว่า “นี่แกกำลังล้อเล่นอะไรอยู่? คนอย่างประธานบริษัทของโหวจวี๋กรุ๊ปจะมาถูกเราจับตัวง่ายๆ แบบนี้ได้ยังไง?”
“ใช่ๆ! แกจำผิดคนแล้วมั้ง?”
ประธานบริษัทของโหวจวี๋กรุ๊ปนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ห้ามไปมีเรื่องด้วยเด็ดขาดเลยนะ บนเส้นทางที่สุจริตเขาถือเป็นคนที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดแล้ว และมันก็ยังหมายความว่า อำนาจใต้ดินของเขาก็ต้องไม่ธรรมดาเหมือนกัน
เพราะไม่อย่างนั้น เขาจะขึ้นไปเป็นผู้นำของเมืองเทียนเป่ยได้ยังไงล่ะ? ถ้าไม่มีอำนาจมากพอเขาก็คงอยู่ไม่ได้หรอก?
หัวใจของต้าส้งตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม “นี่แกมั่นใจใช่ไหม?”
“มั่นใจครับ!” ลูกสมุนคนนั้นพยักหน้า จากนั้นก็รีบหยิบมือถือออกมาเพื่อค้นหาข่าววันนั้น แล้วส่งให้ต้าส้งดู
ต้าส้งอ่านตั้งแต่ต้อนจนจบ ใจก็เสียลงไปเรื่อยๆ
แม่ง นี่มันประธานบริษัทของโหวจวี๋กรุ๊ปจริงๆ นี่หว่า!
ต้าส้งสายตาเลื่อนลอย เขากำลังสับสน สุดท้ายสมองก็ประมวลออกมาเป็นคำว่า ทำยังไงดี?