ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 220
บทที่220
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังเป็นน้องสาวของไอ้หัวล้านหลิวอีกด้วย ถึงบุคลิกเธอจะดูไม่เหมือนก็เถอะ แต่ยังไงเธอก็ยังเป็นแค่เด็กผู้หญิง พากลับบ้านไปก็คงไม่เป็นไรหรอก ไว้พรุ่งนี้เช้าค่อยพาเธอไปส่งที่ไอ้หัวล้านหลิวก็ได้
หลิวเสียเป็นคนที่ไม่ค่อยถือตัว การที่เขาทำอย่างนี้เธอก็ไม่ได้รู้สึกขัดข้องอะไร แถมยังทำตัวสบายๆ ด้วยซ้ำ
หลิวเสี่ยวอิงเบะปากแล้วทำเสียงฮึดฮัด
หลังผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ไป๋ยี่เฟยได้ส่งหลิวเสี่ยวอิงไปที่หลงหลิงหลิงก่อน จากนั้นค่อยพา หลิวเสียกับไป๋หู่กลับไปที่วิลล่าหลันโปกั่ง
พอลงจากรถ ไป๋ยี่เฟยก็ได้พูดกับหลิวเสียว่า “คุณอยากนอนห้องไหนก็ตามสบายเลยนะครับ พอดีผมมีธุระต้องไปทำก่อน”
พูดจบเขาก็เดินไปทางวิลล่าของหลี่เฉียงตงทันที
หลิวเสียยืนอึ้งอยู่กับที่ จากนั้นก็มองไปที่ไป๋หู่ แล้วพูดออกมาเบาๆ ว่า “พี่ชาย พี่จะไปหาห้องนอนด้วยกันไหมคะ?”
ไป๋หู่มองเธอด้วยสายตาที่เรียบเฉย โดยไม่ได้พูดอะไร จากนั้นเขาก็เดินจากไป
หลิวเสียรีบกะโกนเรียก “นี่พี่ชาย คุณไม่นอนที่นี่เหรอคะ? ทำไมพี่ไปทางนั้นล่ะ?”
ไป๋หู่ไม่หันกลับมามองเลยด้วยซ้ำ
หลิวเสียเบะปาก จากนั้นก็หัวเราะคิกคัก “วิลล่าหลันโปกั่งเอ๋ย! ในที่สุดฉันก็ได้เข้ามาอยู่ในวิลล่าหลันโปกั่งสักที!”
เธอเดินไปข้างหน้า เข้าไปยังวิลล่า จากนั้นก็วิ่งว่อนไปทั่ว
อีกด้านหนึ่ง ไป๋ยี่เฟยมาถึงที่หน้าประตูแล้ว หลี่เฉียงตงเป็นคนมาเปิดประตูให้เขา
“คุณอากลับมาแล้วเหรอคะ?” พอหลี่เสว่เห็นไป๋ยี่เฟย เธอก็รีบวิ่งเข้ามาหาทันที
หลิวจื่อหยุนที่เห็นอย่างนั้นก็ได้พูดขึ้นว่า “ดึกดื่นป่านนี้แล้วค่อยกลับบ้าน งานยุ่งจริงๆ รึเปล่าก็ไม่รู้?”
ไป๋ยี่เฟยยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “แม่ครับ งานที่บริษัทมันเยอะจริงๆ นะครับ”
ส่วนโจวฉวี่เอ๋อที่เห็นว่าไป๋ยี่เฟยกลับมาถึงแล้ว เธอก็ได้ลุกขึ้นยืนและพูดว่า “คุณอา คุณน้าคะ ดึกขนาดนี้แล้ว หนูว่าหนูกลับก่อนดีกว่านะคะ”
“ให้ไป๋ยี่เฟยไปส่งแล้วกัน” หลิวจื่อหยุนพูดขึ้น “เด็กสาวคนเดียวกลับไปตอนนี้มันอันตราย”
หลี่เฉียงตงเห็นด้วย “ก็ดีเหมือนกัน ให้เขาไปส่งนั่นแหละ!”
ความจริงโจวฉวี่เอ๋อก็ไม่อยากรบกวน แต่ก็ไม่อยากขัดใจทั้งสอง จึงต้องลำบากไป๋ยี่เฟยอีกรอบ
………
ณ วิลล่าอีกแห่งในหลันโปกั่ง
หลิ่วจาวเฟิงที่เพิ่งวางสายไป ก็ได้เผยรอยยิ้มออกมา
เขาเพิ่งได้รับข่าวว่าหลี่เสว่ได้กลายเป็นเด็กไปแล้ว มันเป็นเรื่องที่น่าแปลก แต่มันก็ทำให้เขารู้สึกดีใจเหมือนกัน
เด็กสาวคนหนึ่งที่จำอะไรไม่ได้เลย การจะทำให้เธอมาอยู่ในกำมือนั้นมันช่างง่ายดายเหลือเกิน
ตอนนี้ไป๋ยี่เฟยก็ถูกคนของเขาจับตัวไว้ จะมาปกป้องหลี่เสว่ก็ไม่ได้ และตอนนี้เขาก็มีเวลามากพอที่จะไปจัดการเรื่องไป๋ยี่เฟยพอดี
……
เช้าวันต่อมา ไป๋ยี่เฟยได้ตื่นมาก่อน จากนั้นก็ไปปลุกหลิวเสีย หลังจากที่ทั้งคู่เตรียมตัวเสร็จ ทั้งสองคนก็ออกไปพร้อมกัน
“โทรหาพี่ชายของคุณแล้วถามว่าเขาอยู่ไหนหน่อยครับ?” ไป๋ยี่เฟยขับรถไปพูดกับหลิวเสียไป
หลิวเสียทำหน้าจริงจัง “ไม่ค่ะ!”
ไป๋ยี่เฟยอึ้งไป “ถ้าคุณไปโทรหาเขาแล้วผมจะส่งคุณกลับไปได้ยังไงล่ะครับ?”
พอหลิวเสียได้ยินอย่างนั้น เธอก็มองไป๋ยี่เฟยด้วยสายตาที่น่าสงสาร “พี่ค่ะ พี่อย่าส่งฉันกลับไปได้ไหมคะ? พี่ชายของฉันต้องด่าฉันตายแน่เลย! ฉันขอร้องล่ะ!”
ไป๋ยี่เฟยเห็นท่าทางที่เธอแสดงออกมานั้น ดูแล้วเธอก็น่าสงสารจริงๆ นั่นแหละ แต่เขาก็ไม่อยากเก็บตัวปัญหาไว้ข้างตัวเหมือนกัน “ไม่ได้ ถ้าไม่กลับไปที่พี่ชายของคุณ เกิดมีใครเพ่งเป้ามาที่คุณอีกจะทำยังไงครับ?”
“ไม่หรอกค่ะ ฉันจะอยู่กับคุณ คุณมีคนตัวใหญ่คนนั้นคอยปกป้องอยู่ไม่ใช่เหรอคะ? มันต้องปลอดภัยอยู่แล้ว” หลิวเสียพูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
ไป๋ยี่เฟยพูดสวนไป “เขามีหน้าที่คุ้มกันผมไม่ใช่คุณ”
“การปกป้องคุณก็เท่ากับปกป้องฉันแหละค่ะ!” หลิวเสียสวนกลับอย่างหน้าไม่อาย
พอไป๋ยี่เฟยได้ยินอย่างนั้นก็เหยียบเบรคแล้วเอารถไปจอดข้างทางทันที “ช่วยตอบผมหน่อย คุณเป็นน้องสาวของเขาจริงๆ ใช่ไหม? หรือคุณแค่แอบอ้างกันแน่?”
หลิวเสียชะงักไป จากนั้นก็ส่ายหน้า “ฉันไม่ได้แอบอ้างนะคะ ฉันเป็นน้องสาวของเขาจริงๆ!”
“ถ้าอย่างนั้นคุณช่วยโทรหาเขาตอนนี้เลยครับ” ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างเรียบเฉย
หลิวเสียทำหน้าเศร้าสร้อย “ไม่โทรไม่ได้เหรอคะ?”
“ถ้าคุณไม่โทรเดี๋ยวผมโทรเอง” ……
ในวันนี้ หลังจากที่หลี่เสว่กินข้าวเช้าเสร็จ เธอก็เตรียมที่จะไปดูทีวี แต่เสียงกริ่งก็ดังขึ้นก่อน
“ใครคะ?”
หลี่เสว่วิ่งไปเปิดประตูด้วยความสงสัย แล้วเธอก็ได้พบกับชายคนหนึ่งที่สวมชุดสูทสีขาวทั้งตัว ทรงผมที่ถูกหวีจนเงาวับชายคนนั้นก็คือหลิ่วจาวเฟิงนั่นเอง ในมือของหลิ่วจาวเฟิงยังถือกุหลาบแดงช่อใหญ่มาด้วย
ด้านหลังของเขายังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน