ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 261
บทที่ 261
พอชายคนนั้นได้ยินว่าจะแจ้งตำรวจ ก็ตกใจจนตัวสั่น “พี่ชาย……โปรดเมตตาด้วย โปรดเมตตาด้วย……คุณ……คุณ……ไม่อย่างนั้น……ก็ตัดมือผมไปข้างหนึ่งเถอะ……ขอแค่อย่าแจ้งตำรวจ……”
ในฐานะนักฆ่า ชีวิตคนที่ติดตัวเขาไม่ใช่แค่คดีสองคดี หากถูกตำรวจจับได้ พวกเขาคงได้แต่ถูกยิงเท่านั้น
สวีลั่งไม่ตอบ แต่มองไปรอบๆ แทน
เวลานี้ ในรถเก๋งคันหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลนัก มีชายตาเล็กแต่งตัวสไตล์ฮิปฮอปนั่งอยู่
ชายตาเล็กมองเห็นทั้งหมดนี้แล้ว จึงพูดกับหูฟังบลูทูธว่า “เป็นสวีลั่ง! เป็นของปลอมจริงๆ! ”
มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังมาจากหูฟัง “โชคดีที่ไม่ได้เคลื่อนไหว ไม่อย่างนั้นคนที่ตกหลุมพรางก็คือพวกเราแล้ว”
“อืม” ชายคนนั้นพูดอีกว่า “พวกเราลองดูอีกหน่อย ไม่แน่ไป๋ยี่เฟยอาจจะอยู่ใกล้ๆ นี่”
เฉินห้าวแจ้งตำรวจแล้ว จากนั้นก็กลับมาที่รถอย่างรวดเร็ว แต่สวีลั่งยังอยู่ที่นอกรถ คอยจับตาดูสถานการณ์
รออยู่นาน การจราจรค่อยๆ คลายตัว รถราเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ
นักฆ่าสองคนนั้นเห็นสถานการณ์เช่นนี้ ก็รู้ว่าหากพวกเขายังไม่ไปอีก ก็จะไม่มีโอกาสแล้ว ดังนั้นทั้งสองจึงสบตากัน
สวีลั่งดวงตาแหลมคม จึงเห็นแล้วเช่นกัน
นักฆ่าทั้งสองกำลังเตรียมจะกระโดดออกไปจากรั้วกั้นถนน ก็ถูกสวีลั่งคว้าคอเสื้อด้านหลังเอาไว้ แล้วลากกลับมา
“ขี้กลัวขนาดนี้ เป็นนักฆ่าภาษาอะไรกัน? มันเป็นการดูถูกอาชีพนี้! ” น้ำเสียงเย็นชาของสวีลั่งดังขึ้นข้างหูคนทั้งสอง
คนทั้งสองหวาดกลัวจนสิ้นท่า “ที่พี่ชายพูดคือ เราไม่เหมาะเป็นนักฆ่า พี่ชายปล่อยเราไปเถอะ! ”
“พี่ชาย พวกเราผิดไปแล้วจริงๆ ปล่อยเราไปเถอะ!”
สวีลั่งไม่สนใจ หิ้วตัวคนทั้งสองเดินไปข้างหน้า
เฉินห้าวค่อยๆ ขับรถตรงมาหา
ในรถบ้านที่อยู่ด้านหลัง ไป๋ยี่เฟยรู้สึกว่ารถเคลื่อนตัว จึงหลับตาลง “จัดการหรือยัง”
พูดเหมือนตั้งคำถาม แต่เขามั่นใจมาก เพราะเขาเชื่อในตัวสวีลั่ง
หลิวเสี่ยวอิงไม่ได้เอ่ยอะไร เพียงแค่มองไปที่หน้าต่างรถ จากนั้นก็มองไป๋ยี่เฟยอีกครั้ง
“การฝังเข็มไม่มีประโยชน์กับคุณแล้ว”
ไป๋ยี่เฟยส่งเสียงอืมออกมา “ผมรู้”
……
จู่ๆ ชายตาเล็กที่อยู่ในรถเก๋งก็เห็นว่ารถบ้านยี่ห้อโฟล์คสวาเกนขับตามมาตลอดทาง ในสมองก็พลันกระจ่างแจ้งขึ้นมาทันที
“เวรเอ๊ย!”
“ทำไมเหรอ?” เสียงถามดังออกมาจากหูฟังบลูทูธ
ชายตาเล็กกล่าวว่า “แม่ง! ไป๋ยี่เฟยนี่มันเจ้าเล่ห์จริงๆ ฉันยังนึกว่าเขาจะซ่อนอยู่ในที่ที่ไม่เตะตา แต่ที่ไหนได้ดันนั่งอยู่ในรถบ้านที่เห็นโจ่งแจ้งขนาดนี้!”
“นายกำลังบอกว่าไป๋ยี่เฟยอยู่ในรถบ้าน?”
“ใช่! รถบ้านคันนั้นขับตามรถเฉินห้าวมาตลอด คอยรักษาระยะห่างไม่ใกล้ไม่ไกลนัก หากไม่ระวังก็คงไม่ถูกพบเข้าหรอก”
“เจ้าเล่ห์มากจริงๆ!”
“ในเมื่อเขาอยู่ที่นี่ งั้นเราก็เริ่มแผนการต่อได้”
“อืม ฉันจะไปปล้นรถก่อน เดี๋ยวเธอคอยเป็นกำลังเสริมให้ฉัน” คนผู้ชายกล่าว
“ได้ นายระวังด้วย อย่าให้ถูกจับได้”
“วางใจ อีกไม่นานเขาก็จะตายแล้ว ไม่มีเวลามาสนใจฉันหรอก” คนผู้ชายตอบ
“อืม”
ชายตาเล็กจงใจปล่อยให้รถของตนเองเข้าใกล้รถบ้าน
เขาจงใจใช้รถของตนเองกระแทกกับรถบ้าน ทำให้รถบ้านต้องจอด
ในรถ ไป๋ยี่เฟยกับหลิวเสี่ยวอิงมองสบตากัน
หลังชายตาเล็กเห็นคนขับรถบ้านจึงลงมาเช่นกัน
“ขอโทษด้วย เมื่อกี้ผมไม่ได้ตั้งใจ มีตรงไหนเสียหายหรือเปล่า?” เขาพูดอย่างรู้สึกผิดเป็นพิเศษ
คนขับรถได้ยินก็ส่ายหน้า “ไม่เป็นไร”
พูดจบ คนขับรถเพิ่งจะหมุนตัวกลับขึ้นไปบนรถ ด้านหลังก็ถูกปืนจ่อไว้ “อย่าขยับ! กลับขึ้นไปบนรถ ฉันจะตามขึ้นไปกับนาย แล้วทำตามที่ฉันพูด”
คนขับรถย่อมไม่อยากตาย จึงออกแรงพยักหน้า
ทำตามคำสั่งของชายตาเล็ก คนทั้งสองก็มาถึงห้องคนขับ จากนั้นก็ให้คนขับรถขับรถไปต่อ
เพียงไม่นาน รถก็เคลื่อนตัวไปต่อ
ไป๋ยี่เฟยกับหลิวเสี่ยวอิงที่อยู่ในรถบ้านเงียบไม่ส่งเสียง
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
“แย่แล้ว!”
เฉินห้าวเพิ่งรู้สึกตัวว่ารถบ้านที่ตามอยู่ด้านหลังหายไปแล้ว
“ทำไมหรือ?”
“พวกพี่ไม่ได้ตามมาด้วย” เฉินห้าวกล่าวด้วยสีหน้าขาวซีด
สวีลั่งมุ่นหัวคิ้ว “กลับไป”
“กลับไป?” เฉินห้าวชะงักเล็กน้อย “แต่ตรงนี้เป็นทางด่วน……”
น้ำเสียงสวีลั่งต่ำลงอีกหลายส่วน “กลับไป”
เฉินห้าวคิดถึงความร้ายกาจของสวีลั่ง จึงไม่กล้าพูดมาก เลี้ยวรถกลับไปทันที
แต่รถบ้านที่อยู่ในความควบคุมของชายตาเล็ก คนขับรถได้ขับออกจากทางด่วนแล้ว กำลังขับออกไปที่เขตนอกเมือง
เพียงไม่นาน รถบ้านก็จอดยังที่เปลี่ยวร้างไม่มีแม้แต่เงาคน
หลังชายตาเล็กให้คนขับรถหยุด ก็ใช้มือข้างหนึ่งตีคนขับรถจนสลบ จากนั้นตัวเขาก็เดินเข้าไปในรถบ้าน
“โอ้ น่าสงสารขนาดนี้เชียว?” น้ำเสียงหยอกล้อของชายตาเล็กดังเข้ามา
หลิวเสี่ยวอิงตกใจอย่างมาก “แกเข้ามาได้ยังไง?”
ไป๋ยี่เฟยพิงโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หลังเห็นชายตาเล็ก ก็รู้สึกตระหนกอยู่บ้าง เป็นเขา เขาก็คือคนที่วางยาคนนั้น!
ชายตาเล็กเคลื่อนสายตามามองยังไป๋ยี่เฟย “ท่าทางจะตายไม่ตายแหล่แบบนี้ แกว่าแกยังคิดจะไปเมืองหลวงอีกเหรอ เพ้อเจ้อ ฉันว่าแกยังไม่ทันไปถึง ก็คงจะซี้แหงแก๋ก่อนแล้ว!”
“ใครจะตายก็ยังไม่แน่” ไป๋ยี่เฟยตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ชายตาเล็กเย้ยหยันออกมา “แกเห็นฉัน ก็น่าจะรู้ ฉันมาเพื่อฆ่าแก และตอนนี้พวกเราอยู่ในที่เปลี่ยวร้าง ใครจะมาช่วยแกกัน?”