ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 264
บทที่ 264
“ไป๋ยี่เฟย! แกหยุดมือ! หยุดมือ!” หญิงสาวตะโกนอย่างร้อนใจ
ไป๋ยี่เฟยไม่ฟังโดยสิ้นเชิง แถมยังโยนหูฟังบลูทูธทิ้งไปบนโซฟา ปล่อยให้คนที่อยู่ในนั้นตะโกนโหวกเหวกไป
ผ่านไปนาน ชายตาเล็กไม่ได้ส่งเสียงอีก หญิงสาวที่อยู่ในหูฟังบลูทูธก็ไม่ได้ส่งเสียงเช่นกัน
ตายแล้วใช่ไหม?
หญิงสาวคิด เอามือวางลง มีพริบตาหนึ่ง เธอรู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนโง่
ไป๋ยี่เฟยคำรามเสียงต่ำ “ไม่มีใครสามารถขู่ฉันได้”
“ต่อให้ฉันต้องตาย ก็จะไม่มีใครขู่ฉันได้เช่นกัน”
สิ้นคำ ไป๋ยี่เฟยก็สั่งให้ไป๋หู่ทำลายหูฟังทิ้ง จากนั้นก็โยนลงไปบนพื้น
เสียงของหญิงสาวจึงไม่ดังขึ้นมาอีก
“ฆ่าเขาซะ!”
“ไม่! อย่า!” ชายตาเล็กมองไป๋หู่ที่ค่อยๆ เดินเข้ามาหาเขาทีละก้าวอย่างหวาดกลัว
เมื่อครู่ไป๋หู่เพียงแค่ใช้มีดแทงต้นขาเขา แต่ครั้งนี้ จะเป็นการฆ่าจริงๆ แล้ว
ชายตาเล็กรีบพูดว่า “ไป๋ยี่เฟย แกยื้อไว้ได้อีกไม่นานแล้ว ที่ฉันมียาแก้พิษชั่วคราว แกจะฆ่าฉันไม่ได้! ฆ่าฉันไม่ได้!”
“ที่แกบอกคืออันนี้ใช่ไหม?” ไป๋ยี่เฟยหยิบขวดกระเบื้องเล็กใบนั้นออกมา
ชายตาเล็กเบิกตากว้างทันที “แก……”
ตอนนี้เขาเพิ่งจะได้สติขึ้นมา พวกนั้นจะต้องอาศัยตอนที่เขาสลบไปเมื่อกี้ค้นตัวเขาแน่ ยาแก้พิษอยู่ในมือพวกเขานานแล้ว แต่ที่ไป๋ยี่เฟยต้องการคือยาแก้พิษที่ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ
ไป๋ยี่เฟยไม่อยากพูดมาก จึงกล่าวกับหลิวเสี่ยวอิงว่า “พวกเราลงไปกันเถอะ!”
หลิวเสี่ยวอิงพยักหน้า ประคองไป๋ยี่เฟยลงจากรถ
ส่วนในรถบ้านจะเกิดอะไรขึ้น หลิวเสี่ยวอิงไม่อยากจะไปสนใจ ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดยังคงเป็นสุขภาพของไป๋ยี่เฟย
ทว่า สุดท้ายไป๋ยี่เฟยก็ยื้อไว้ไม่ไหว พริบตาที่เพิ่งจะเดินลงจากรถบ้าน ก็หมดสติไปบนตัวหลิวเสี่ยวอิงทันที
“ไป๋ยี่เฟย!”
……
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกว่าตัวเองตายไปแล้ว ความรู้สึกเช่นนั้น ไม่ได้มีความสมจริงเลย ทั้งตัวราวกับล่องลอยอยู่ในห้วงอากาศ
นี่คือการที่วิญญาณของฉันออกจากร่างใช่ไหม?
ไป๋ยี่เฟยคิดเช่นนี้
แต่ ทำไมวิญญาณถึงรู้สึกหนาวล่ะ?
หนาวมากเหลือเกิน!
ดูเหมือนเขาจะรู้สึกถึงความอบอุ่นได้จางๆ ต่อให้มีเพียงเล็กน้อยก็ยังดี
เขาคิดถึงน้องสาว และยังคิดถึงหลี่เสว่ด้วย
เสว่เอ๋อตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง?
เธอจะถูกจิ้งจอกเฒ่าฝูงนั้นรังแกหรือไม่?
อ่า เขาน่าจะมองไม่เห็นสินะ?
……
ไป๋ยี่เฟยล่องลอยอยู่ในความคิด ตอนที่ฟื้นขึ้นมาก็ยังไม่ได้สติ
หลังผ่านไปนานโขถึงได้สติขึ้นมา “ฉันยังไม่ตาย?”
เวลานี้ มีคนสามคนยืนอยู่ด้านข้างโซฟาคือ ไป๋หู่ สวีลั่งและเฉินห้าว
เฉินห้าวตอบว่า “พี่ ตอนนี้พี่ยังอยู่ดีแล้ว”
ไป๋ยี่เฟยร้องอ้ออย่างใจลอย มองคนเหล่านั้นอีกครั้ง “เสี่ยวอิงล่ะ?”
เห็นดังนี้ ทั้งสามต่างสบตากันและกัน จากนั้นไป๋หู่ก็กล่าวว่า “โหวจวี๋เกิดเรื่อง เย่อ้ายกำลังพาซุนฮุยมารับซื้อโหวจวี๋ อาการของคุณนายก็ถูกเย่อ้ายเปิดโปงออกมาแล้ว”
……
จะว่าไปแล้ว เย่อ้ายก็ทราบข่าวที่ไป๋ยี่เฟยแหกคุกแล้วเช่นกัน ประกอบกับซุนฮุยเป็นฝ่ายเข้ามาใกล้ชิดก่อน ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงร่วมมือกัน จากนั้นก็พาคนมาที่โหวจวี๋
หลงหลิงหลิงเห็นพวกเขาพาคนมามากมายขนาดนี้ กระทั่งกลุ่มนักกฎหมายเฉพาะทางก็ยังพามาด้วย จึงรู้ว่าเรื่องนี้คงจะจัดการไม่ง่ายเสียแล้ว
ในเวลานี้เอง กรรมการเหล่านั้นก็ทราบข่าวนี้แล้วเช่นกัน จึงต่างรีบรุดมายังโหวจวี๋
เวลานี้ ในห้องประชุมของโหวจวี๋ มีกลุ่มกรรมการของโหวจวี๋ เย่อ้ายและกลุ่มนักกฎหมายของเธอ รวมถึงซุนฮุยและเลขาของเขานั่งอยู่ด้วยกัน
สงครามใหญ่ขนาดนี้ ผู้ช่วยคนหนึ่งอย่างเธอย่อมควบคุมไม่ไหว เธอทำได้แค่พาหลี่เสว่มา ต่อให้ถูกคนมองอะไรออกก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ยังช่วยได้สักพัก
หลังเย่อ้ายเห็นหลี่เสว่ก็รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง หลี่เสว่นั่งอยู่ในตำแหน่งไป๋ยี่เฟย เท่านี้ก็ใช้ได้แล้ว?
เห็นคนอยู่กันพร้อมหน้า เย่อ้ายจึงเป็นฝ่ายพูดก่อน
เธอพูดว่า “ผู้ช่วยหลง การรับซื้อโหวจวี๋ที่เสนอไปเมื่อคราวก่อน ไม่รู้ว่าท่านประธานกรรมการคิดเห็นอย่างไรบ้าง?”
สิ้นคำ ยังไม่ทันที่หลงหลิงหลิงจะตอบ เย่อ้ายก็กล่าวอีกครั้งว่า “ขออภัย ฉันถามผิดไป ตอนนี้ไป๋ยี่เฟยแหกคุกออกมาแล้ว คิดว่าคงยังไม่รู้เรื่องนี้สินะ?”
“ถ้าอย่างนั้น ไม่ทราบว่าคุณนายที่นั่งอยู่ตรงตำแหน่งของไป๋ยี่เฟย ตัดสินใจว่ายังไงคะ?”
พอพูดคำนี้ เหล่ากรรมการของโหวจวี๋ต่างตกตะลึงกันหมด
“อะไรนะ?”
“แหกคุก?”
“ประธานกรรมการทำผิดจริงๆ หรือ?”
“ถึงกับแหกคุกด้วย?”
“……”
เย่อ้ายกับซุนฮุยมองทุกคนวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นาๆ มุมปากโค้งขึ้นแล้ว
ตอนนี้กรรมการเหล่านี้รู้ความจริงของเรื่อง ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเริ่มใคร่ครวญถึงผลประโยชน์กันแล้ว พวกกรรมการนั้นพูดง่ายมาก แต่ที่ยากมีเพียงหลี่เสว่คนเดียว
ไป๋ยี่เฟยไม่อยู่ ถ้าอย่างนั้นคนที่จะเซ็นก็คือหลี่เสว่
เพียงแต่ตอนนี้เย่อ้ายไม่แน่ใจว่าตกลงหลี่เสว่หายดีแล้ว หรือยังไม่หายกันแน่ หากหายแล้ว นั่นคงจะยุ่งยากอย่างมาก หากไม่หาย ฮึ ย่อมจัดการได้ง่ายดาย
หลงหลิงหลิงสีหน้าซีดขาวเล็กน้อย กว่าเธอจะปิดบังเรื่องไว้ไม่ง่ายเลย ถูกเย่อ้ายพูดไม่กี่คำก็เปิดโปงออกมาได้แล้ว คราวนี้จะทำยังไงดี?
พวกกรรมการเริ่มซักถามหลงหลิงหลิง
“ผู้ช่วยหลง นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
“ไหนคุณบอกว่าประธานกรรมการจัดการเรื่องส่วนตัวอยู่อย่างไรล่ะ?”
“คุณนายประธานกรรมการ คุณโปรดชี้แจงกับเราด้วย”
“……”
มือที่วางอยู่บนโต๊ะของหลี่เสว่กำจนกลายเป็นหมัดแล้ว เธอไม่รู้เลยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่พอได้ยินพวกเขาพูดถึงไป๋ยี่เฟย ในใจเธอก็สับสนและหวาดกลัวอย่างมาก