ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 313
บทที่ 313
อีกอย่างตอนนั้นไป๋หยุนเผิงเองก็พูดเช่นกัน บททดสอบที่มอบให้เขา ก็คือการเป็นที่หนึ่งในเป่ยไห่ หากมีหวังไห่อยู่ล่ะก็ การจะไปถึงจุดนั้นพูดได้ว่าง่ายดายอย่างมาก
“เงื่อนไขอะไร?”
ไป๋ยี่เฟยไม่เชื่อในเรื่องลาภลอย ดังนั้นเงื่อนไขของหวังไห่จะต้องไม่ง่ายดายแน่
หวังไห่หัวเราะฮ่าๆ จากนั้นก็พูดว่า “คนอย่างผมน่ะ ชอบอาหารอร่อย และก็ชอบคนที่ทำอาหารอร่อย ผมได้ยินว่าเมื่อก่อนคุณเคยเรียนทำอาหาร ก็น่าจะเป็นพ่อครัวฝีมือดี ดังนั้น……”
“เงื่อนไขของผมก็คือ สามารถทำอาหารอร่อยอย่างหนึ่งให้ผมพอใจได้”
ล้อเล่นอะไรกัน?
ทำอาหาร?
เมื่อก่อนไป๋ยี่เฟยไม่เคยเรียนทำอาหาร ตอนที่เพิ่งจะเริ่ม ฐานะทางบ้านยากจน ตัวเขาทำเป็นแต่หุงข้าวเท่านั้น ต่อมาอยู่ที่บ้านหลี่เสว่ เพื่อทำให้พวกเขาพอใจ จึงตั้งใจไปเรียนโดยเฉพาะ แถมยังทำได้หลากหลายอีกด้วย นับเป็นความสำเร็จเล็กๆ อย่างหนึ่งก็ว่าได้
แต่สำคัญคือ หวังไห่รู้ได้อย่างไร?
แล้วก็ อาหารอร่อยหนึ่งอย่างที่ทำให้เขาพอใจ แลกกับที่ยืนของโหวจวี๋ เห็นได้ชัดว่าไม่คุ้มกันเอาเสียเลย
ถ้าอย่างนั้นหวังไห่ทำเช่นนี้มีจุดประสงค์อะไรกันแน่? มีเจตนาดีหรือไม่ดีกัน?
หวังไห่หัวเราะฮ่าๆ “ผมพูดจริง ไม่เชื่อคุณก็ไปสืบดูได้เลย สืบแล้วก็จะรู้เอง”
ไป๋ยี่เฟยหรุบตาลง เขากล้าพูดเช่นนี้ ย่อมวางใจที่จะให้เขาสืบ แน่นอนว่า เขายังคงต้องสืบ แต่ในเมื่อฝ่ายตรงข้ามไม่บอกจุดประสงค์ อีกทั้งดูไปแล้ว ก็เป็นผลดีต่อโหวจวี๋ รับปากแล้วจะเป็นไรไป?
“ได้ ผมรับปาก”
……
สองสามวันมานี้ ซูต้าหลิวถูกจางหรงพาไปเสพสุขทั่วทุกที่ สถานบันเทิงในแถบเทียนเป่ยก็แทบจะพาไปเที่ยวหมดแล้ว
วันเวลาเช่นนี้ ทำให้ซูต้าหลิวเกือบจะลืมไปแล้วว่าหลายสิบปีก่อนตนเองได้ทำอะไรไปบ้าง
ท้ายที่สุด หลังใช้ชีวิตฟุ่มเฟือยมาหลายวัน ซูต้าหลิวก็ราวกับตระหนักได้ว่าตนเองยังคงเป็นท่านประธานคนหนึ่ง ท่านประธานสมควรที่จะจัดการเอกสารมากมายในบริษัท
“เหล่าจาง ฉันว่าฉันทำตัวแบบนี้คงไม่ดีมั้ง ควรจะทำงานบ้างหรือเปล่า?” ซูต้าหลิวทำหน้าซื่อ
จางหรงเหยียดมุมปาก จากนั้นก็กลับคืนสู่สภาพเดิม
กล่าวว่า “ท่านประธานคิดมากไปแล้ว เรื่องเหล่านั้น คนข้างล่างทำกันได้ ไม่ต้องให้คุณเปลืองแรงหรอก คุณแค่เสพสุขให้มากๆ ก็พอ”
“เพราะอย่างไร คุณก็เป็นคนจ่ายเงินเดือนให้พวกเขา พวกเขาไม่ทำงาน คุณกลับทำแทน แบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน!”
ซูต้าหลิวฟังแล้วถึงกับรู้สึกว่ามีเหตุผล “จริงด้วย……”
ด้วยเหตุนี้ ซูต้าหลิวจึงถูกจางหรงโน้มน้าวไว้ได้อีกแล้ว จึงเอาเรื่องของโหวจวี๋โยนทิ้งไปจากสมอง
วันนี้ ซูต้าหลิวกับจางหรงมาที่ไดมอนด์คลับอีกครั้ง คิดจะหาความสำราญให้มากๆ สักเที่ยว
เดินมาจนถึงโถงใหญ่ ก็มีสาวสวยสวมชุดกี่เพ้า รูปร่างเย้ายวนมีเสน่ห์เดินเรียงเป็นแถว ในมือพวกหล่อนถือถาดอาหาร กำลังเดินเยื้องย่างเข้าไปด้านใน
น้ำลายของซูต้าหลิวจวนจะหกลงบนพื้นแล้ว มองเห็นขาอ่อนปรากฏออกมาตอนที่สาวสวยเหล่านั้นกำลังเดิน ไหนจะสะโพกงอนที่บิดไปมานั่นอีก เขาจึงเดินไปทางนั้นอย่างเก็บอารมณ์ไม่อยู่
จางหรงรีบดึงไว้อย่างรวดเร็ว “ท่านประธาน พวกเราไปที่หน้าฟร้อนต์กันก่อน……”
“ไม่ ไม่ต้องแล้ว” ซูต้าหลิวตัดบทคำพูดของจางหรง “คุณกลับไปก่อนเถอะ! ผมรู้สึกว่าผมต้องการความเงียบสงบสักหน่อย”
เชื่อกับผีสิ!
แต่จางหรงเข้าใจความคิดของซูต้าหลิว จึงไม่ได้พูดอะไรมากอีก “จริงสิ ผมนึกได้ว่ามีธุระต้องไปจัดการ ถ้าอย่างนั้นผมกลับก่อนนะ?”
“ได้ๆๆ มีธุระก็ต้องจัดการทันที รีบไปเถอะ!” ความคิดจิตใจของซูต้าหลิวล้วนถูกสาวสวยในชุดกี่เพ้าเหล่านั้นล่อลวงไปหมดแล้ว ไม่มองแม้แต่จางหรง เดินตามไปที่นั่นทันที
เดินตามสาวงามขึ้นมาชั้นบน จนถึงนอกห้องส่วนตัวห้องหนึ่ง
ซูต้าหลิวไหนเลยจะยังสนใจว่าควรหรือไม่ควรอะไรอีก เพราะการเสพสุขมาหลายวันนี้ ทำให้เขาคิดว่า ในฐานะท่านประธานของโหวจวี๋ ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้
“ผลัวะ!”
ซูต้าหลิวถีบประตูห้องเปิดราวกับพวกนักเลงอันธพาล
ด้านในห้อง มีขายคนหนึ่งกำลังนอนหงายอยู่บนเตียง บนตัวกึ่งเปลือย มีสาวสวยในชุดกี่เพ้าสองคนนั่งอยู่ข้างเตียง กำลังบีบนวดให้กับชายคนนั้น
ซูต้าหลิวมองเห็นภาพนี้ ในใจก็คันคะเยอ หากถูกนวดแบบนี้บ้าง คงสำลักความสุขตายแน่ พอนวดเสร็จยังสามารถใช้ค่ำคืนวสันต์กับพวกสาวสวยได้อีก แบนนี้ไม่ดีเกินไปหน่อยเหรอ!
เวลานี้ คนในห้องต่างมองมาที่นี่กันหมดแล้ว และชายคนนั้นคือหลี่ฝาน
แต่ซูต้าหลิวกับหลี่ฝาน ทั้งสองคนไม่รู้จักกัน
หลี่ฝานเห็นซูต้าหลิว ก็ขมวดคิ้ว “แกเป็นใคร บุกเข้ามาในห้องฉันทำไม?”
ซูต้าหลิวไม่ได้สนใจมากมายขนาดนั้น ประกาศฐานะตัวเองออกมาทันที พร้อมกับชี้ไปที่สาวสวยสองคน “ฉันคือท่านประธานของโหวจวี๋ นายไปด้านข้างสิ ส่วนเธอ เธอ ตามฉันมา!”
พอหลี่ฝานได้ยินก็หัวเราะฮึฮึ “ที่แท้ก็เป็นท่านประธานของโหวจวี๋นี่เอง! ได้ยินชื่อเสียงมานาน ได้ยินชื่อเสียงมานาน!”
ซูต้าหลิวเห็นท่าทีของเขา ก็วางท่าขึ้นมา ที่สุดแล้ว ฐานะท่านประธานของโหวจวี๋มันช่างดีมากจริงๆ ขอเพียงยกฐานะนี้ออกมา ก็รับรองได้ว่าพวกเขาจะพยักหน้าเออออตาม
หลี่ฝานยังไม่ได้ลุกขึ้นจากเตียง แต่กล่าวยิ้มๆ ว่า “ท่านประธาน หากคุณต้องการผมสามารถให้คุณได้ แต่ทางผมยังมีสถานที่ที่ดีอีกแห่งหนึ่ง รับรองว่าเด็ดกว่าที่นี่เยอะ”
ได้ยินถึงตรงนี้ ดวงตาของซูต้าหลิวก็ละจากสาวสวยในชุดกี่เพ้าสองคนมองมาทางนี้ “จริงหรือ”
ยังมีเด็ดกว่าที่นี่อีกหรือ?
ซูต้าหลิวเริ่มจินตนาการถึงภาพนั้นแล้ว จากนั้นก็เผยรอยยิ้มลามกออกมาทันที “อยู่ไหน รีบพาฉันไปเร็ว!”
หลี่ฝานหัวเราะฮึฮึ “ไม่ต้องรีบร้อน จะพาท่านประธานไปเดี๋ยวนี้ แต่ต้องขออภัยท่านประธานอย่างมาก เพราะขาข้างนี้ของผมไม่สะดวกเท่าไหร่นัก”
ซูต้าหลิวทำหน้าสงสัย
ต่อมาก็เห็นหลี่ฝานอยู่ใต้การประคองของสาวสวยสองคน มานั่งอยู่ตรงหัวเตียง จากนั้นสาวสวยหนึ่งในนั้นก็เข็นรถเข็นที่อยู่ด้านข้างมา เพื่อให้หลี่ฝานนั่งบนรถเข็น
“นี่คุณ……” ซูต้าหลิวรู้สึกตกตะลึงอยู่บ้าง เขาเห็นเพียงสาวสวย ไม่ได้สังเกตเลยว่าในห้องยังมีรถเข็นอยู่อีกคัน หากไม่ใช่เพราะพวกเขาเข็นออกมา ก็คงไม่ได้สังเกต
หลี่ฝานก้มหน้าลง เพื่อปกปิดความดำมืดในแววตา “ไม่เป็นไร พวกเราไปกันเถอะ!”
ซูต้าหลิวเองก็ไม่ใช่คนที่ชอบถามซอกแซกอะไร อีกทั้งที่เขาสนใจที่สุดยังคงเป็นการใช้ค่ำคืนวสันต์ร่วมกับสาวสวย นี่ถึงจะสำคัญกว่า ดังนั้นจึงเดินขึ้นหน้าทันที เป็นฝ่ายเข็นหลี่ฝานออกไปข้างนอกด้วยตนเอง
กว่าครึ่งชั่วโมงให้หลัง หลี่ฝานก็พาซูต้าหลิวมาถึงโรงแรมเทียนเป่ย
ซูต้าหลิวชะงักไป “ที่นี่? มาผิดที่หรือเปล่า?”
หากเขาจำไม่ผิดล่ะก็ นี่คือโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในเทียนเป่ย ขณะเดียวกันก็เป็นโรงแรมที่มีกฎเข้มงวดเช่นกัน ไม่มีทางจะมีสถานรื่นเริงเช่นนั้น!
หลี่ฝานกล่าวยิ้มๆ “วางใจได้ เตรียมพร้อมไว้นานแล้ว อยู่ในโรงแรมจะเหมาะสมกว่า”
ซูต้าหลิวคิดถึงบางอย่างขึ้นมา ก็หัวเราะฮึฮึ “จริงด้วยๆ พวกเราไป……”
ผ่านไปไม่นาน คนทั้งสองก็มาถึงห้องส่วนตัวห้องหนึ่ง จากนั้นหลี่ฝานก็กล่าวกับซูต้าหลิวว่า “คุณรอสักครู่ ผมจะไปตามคนมาเดี๋ยวนี้”
“ได้ๆๆ” ซูต้าหลิวพยักหน้ารับคำ
พอหลี่ฝานไปแล้ว ซูต้าหลิวก็ยืนอยู่ในห้องเดินไปเดินมา เห็นได้ว่าอดใจรอไม่ไหว รอจนกระสับกระส่ายอยู่บ้าง
ไม่กี่นาทีต่อมา สาวสวยสองคนก็ผลักประตูเดินเข้ามา
ซูต้าหลิวหันไปมองทันที จากนั้นก็เห็นขาอ่อนขาวผ่องสองข้าง รวมถึงหน้าอกที่เกือบจะล้นออกมาคู่นั้น เขาก็กลืนน้ำลายทันที
“นี่……”
“ช่างเป็นของดีจริงๆ!”
สาวสวยคนหนึ่งเดินขึ้นมาข้างหน้า ดึงซูต้าหลิวมานั่งบนโซฟาแบบพิเศษ กล่าวเสียงนุ่มว่า “พี่ชายอยากเล่นเกมอะไรคะ?”
“เล่นเกม?” ซูต้าหลิวชะงักเล็กน้อย จากนั้นก็พยักหน้า “ดีๆ เล่นเกม”