ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 316
บทที่ 316
เวลาผ่านไปอีกสองสามวัน อาการบาดเจ็บของไป๋ยี่เฟยหายดีมากแล้ว สามารถเดินไปไหนมาไหนได้แล้ว แต่ไม่อาจเคลื่อนไหวหักโหมได้ ยิ่งกว่านั้นการเดินก็ทำได้เพียงเดินอย่างช้าๆ เท่านั้น ไม่อย่างนั้นอาจจะสะเทือนถึงหน้าอกได้
รถฉางอานคันหนึ่งมาจอดยังลานจอดรถของโรงพยาบาลเอกชนอย่างไร้สุ้มเสียง
เฉินห้าวกับไป๋ยี่เฟยลงจากรถ ก็มองเห็นหลงหลิงหลิงกับหลิวเสี่ยวอิงที่นั่งรออยู่ด้านในมาหลายชั่วโมงแล้ว
“ท่านประธาน” หลงหลิงหลิงลุกขึ้นกล่าวทักทาย จะว่าไป เธอรู้สึกว่าจะไม่ได้เห็นท่านประธานมานานมากแล้ว
หลิวเสี่ยวอิงกลับไม่ได้จริงจังอะไรนัก เธอยิ้มกว้างกล่าวทักทายแทน “เฮ้ ไม่เจอกันนานเลย!”
ไป๋ยี่เฟยยิ้ม “ใช่ ไม่เจอกันนานเลย คราวนั้นจู่ๆ คุณก็ไปโดยไม่บอกลา เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
สิ้นคำ ทุกคนต่างมองไปที่หลิวเสี่ยวอิง เพราะที่หลิวเสี่ยวอิงพูดตอนนั้นคือจะออกไปส่งป้าสองของเธอ แล้วจากนั้นก็ไป ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไปทำอะไร ทุกคนจึงแปลกใจอยู่บ้าง
หลิวเสี่ยวอิงชะงักไปพักหนึ่ง รอยยิ้มบนใบหน้าหายไป ทั้งยังถลึงตาใส่ไป๋ยี่เฟยอีกด้วย “เกี่ยวอะไรกับคุณ?”
ไป๋ยี่เฟยถูกด่าไปคำหนึ่ง ในใจย่อมกระอักกระอ่วนอย่างมาก
“ฉันพูดอะไรผิดไปเหรอ?” ไป๋ยี่เฟยมองเฉินห้าวอย่างไร้เดียงสา เฉินห้าวส่ายศีรษะ เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
หลิวเสี่ยวอิงแค่นเสียงออกมาคำหนึ่ง ลากหลงหลิงหลิงหมุนตัวเดินจากไป
หลงหลิงหลิงจนปัญญาอยู่บ้าง ได้แต่กล่าวกับไป๋ยี่เฟยว่า “ท่านประธานคะ พวกเราไปก่อนนะคะ”
“อืม ไปเถอะ!” ไป๋ยี่เฟยพยักหน้า กล่าวกับเฉินห้าวว่า “นายเองก็ไปได้แล้ว เดี๋ยวฉันค่อยๆ เดินไปเอง”
ต่อมา ไป๋ยี่เฟยก็ค่อยๆ ขึ้นลิฟท์ไปยังโถงชั้นหนึ่งอย่างช้าๆ
ในโถงใหญ่เป็นพื้นที่ไว้ใช้สอบถามข้อมูล ลงทะเบียนและพักผ่อนหย่อนใจโดยเฉพาะ แม้จะเป็นวันทำงาน แต่คนในโรงพยาบาลก็ไม่ถือว่าน้อยเลย พยาบาลเดินไปเดินมาเต็มไปหมด
ไป๋ยี่เฟยเพิ่งจะเดินไปถึงโซนสอบถามข้อมูล กำลังคิดจะแกล้งทำตัวเป็นผู้ป่วยทั่วไปที่มาสอบถามปัญหา เพียงแต่ยังไม่ทันที่จะพูดอะไรออกมา ก็มองเห็นชายคำหนึ่งทั้งร่างเต็มไปด้วยฝุ่น เสื้อผ้าเปรอะไปด้วยคราบน้ำมันสีดำเป็นบางจุดพุ่งเข้ามาพอดี
และในอ้อมแขนของเขา คือเด็กชายเลือดท่วมตัวคนหนึ่ง อายุน่าจะประมาณสิบสองสิบสามเท่านั้น
ชายคนนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงลนลานว่า “ช่วยเขาด้วย ช่วยเขาด้วย ต้องช่วยเขาให้ได้นะครับ”
“วางใจได้ค่ะ อย่าเพิ่งร้อนใจนะคะ ทางเราจะรีบเตรียมการผ่าตัดทันที” ดูเหมือนพยาบาลจะพบเห็นเรื่องเช่นนี้จนเคยชิน จึงไม่มีอาการลนลานและร้อนใจแม้แต่น้อย
พอชายคนนั้นได้ยินเช่นนี้ ในใจจึงสงบลงอย่างมาก
ผ่านไปไม่นาน ก็มีพยาบาลนำเตียงหามมาที่นี่ ภายใต้การช่วยเหลือของพยาบาล จึงวางเด็กชายที่สลบไสลไม่ได้สติ พร้อมกับมีเลือดท่วมตัวขึ้นเตียงได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อถึงประตูห้องฉุกเฉิน ก็มีชายวัยกลางคนอายุประมาณสี่สิบคนหนึ่งมารอแล้ว เขาก็คือนายแพทย์คนหนึ่ง เตรียมทำการผ่าตัดให้เด็กชายคนนี้
นายแพทย์แซ่จาง มากประสบการณ์ ปกติอยู่ในโรงพยาบาลนับว่ามีชื่อเสียงอยู่บ้าง
ทางหนึ่งหมอจางเดินไปด้านข้างพลางสวมผ้าปิดปากไว้บนหน้า ทางหนึ่งก็กล่าวว่า “คนไข้เป็นอะไร?”
“รถชนครับ หมอ คุณต้องช่วยเขาให้ได้นะครับ!” ชายคนนั้นรีบตอบ บนหน้าเต็มไปด้วยความเป็นห่วงและร้อนใจ และยังมีความกังวลเล็กน้อยอย่างยากที่จะสังเกตเห็น
หมอจางพยักหน้า “พวกเราจะทำสุดความสามารถ คุณเอาเงินไปจ่ายก่อน พวกเราก็จะผ่าตัดทันที”
สิ้นคำ ชายคนนั้นก็กล่าวว่า “หมอครับ คุณผ่าตัดก่อน ผม……ตอนนี้ผมไม่ได้นำเงินมามากมายขนาดนั้น จะไปนำมาเดี๋ยวนี้แหละครับ”
หมอจางเห็นแล้วก็ขมวดคิ้ว “ขอโทษด้วย กฎของโรงพยาบาลเป็นแบบนี้ ต้องชำระเงินก่อน ค่อยทำการผ่าตัด”