ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 328
บทที่328
หลี่เสว่แปลกใจกับคนถามนั้น เธอจึงส่ายหน้าไป
พอเห็นอย่างนั้น สีหน้าของชายคนนั้นก็บิดเบี้ยวไปเล็กน้อย จากนั้นก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “นี่คนสวย เรามีวาสนาที่ได้มาเจอกัน เรามาแรกเบอร์กันเอาดีครับ?”
หลี่เสว่เข้าใจถึงเป้าหมายของขายคนนี้ในทันที
“ไม่จำเป็นค่ะ” พูดจบหลี่เสว่ก็ลุกขึ้น เตรียมที่จะไปให้ไกลๆ จากชายคนนี้
ชายคนนั้นรีบคว้ามือของหลี่เสว่ไว้อย่างรวดเร็ว “อย่าเพิ่งไปสิครับ! ฮึฮึ ของมีระดับขนาดนี้ต้องไปตกอยู่ในมือของไอ้ชาติหมาอย่างไป๋ยี่เฟย มันช่างเสียของจริงๆ!”
“คุณพูดว่าอะไรนะ?” หลี่เสว่รีบหันมามองเขาเพราะได้ยินคำว่าไป๋ยี่เฟย
ชายคนนั้นไม่ได้อธิบายอะไร เขาแค่พูดว่า “ผมบอกว่า คุณไปอยู่กับเจ้านายผมเอาไหม? เจ้านายของผมเขามีฐานะสูงส่งกว่าไป๋ยี่เฟยเป็นไหนๆ ในเมืองหลวงไม่มีใครกล้าหาเรื่องเขาทั้งนั้น!”
“หรือจะอยู่กับผมก็ได้นะ! ผมจะดูแลคุณเป็นอย่างดีเลย!”
“ผม………โอ้ย!”
ในขณะที่ชายคนนั้นยังพูดไม่ทันจบ เขาก็ถูกไป๋ยี่เฟยชกเข้าที่หน้าด้านซ้ายอย่างจัง
ไป๋ยี่เฟยดึงหลี่เสว่ให้มาหลบอยู่ข้างหลังตัวเอง “อยู่ให้ห่างภรรยาของผมนะ!”
“แม่งเอ๊ย!” ชายคนนั้นเอามือกุมอยู่ที่หน้าของตัวเอง จากนั้นเขาก็เข้ามาประชิดตัวไป๋ยี่เฟยในทันที แล้วกระซิบเบาๆ ว่า “ให้ผมเอาเรื่องที่คุณฆ่าหวังไห่ป่าวประกาศออกไปดีไหม?”
พอไป๋ยี่เฟยได้ยินอย่างนั้น รูม่านตาของเขาก็หดเล็กลง จากนั้นก็ตอบไปอย่างใจเย็นว่า “คุณพูดเรื่องอะไร? จีบสาวไม่ติดแล้วยังคิดจะมาให้ร้ายผมอีกอย่างนั้นเหรอ?”
ชายคนนั้นขำออกมา “อย่าแกล้งโง่หน่อยเลย คุณรู้อยู่แก่ใจว่าผมพูดถึงเรื่องอะไร”
ไป๋ยี่เฟยหรี่ตา “ถ้าอย่างนั้นเราไปที่สงบๆ คุยกันดีไหม?”
“ได้สิ” ชายคนนั้นพยักหน้า
พูดจบ ไป๋ยี่เฟยก็บอกให้หลี่เสว่รออยู่ตรงนั้น จากนั้นเขาก็พาชายคนนั้นไปที่ห้องทำงานส่วนตัวของเขา
พอเข้ามาในห้อง ชายคนนั้นก็มองไปรอบๆ “อื้ม ห้องทำงานของคุณนี่มันไม่เลวเลยนะ!”
“เชิญตามสบาย” ไป๋ยี่เฟยไม่มีท่าทีว่าจะไปเทน้ำให้ชายคนนั้นเลย แต่เขากลับถามขึ้นมาตรงๆ ว่า “คุณต้องการอะไร?”
ชายคนนั้นเอามือกอดอก “ถ้าอย่างนั้นคุณก็ยอมรับแล้วสินะว่าคุณเป็นคนฆ่าหวังไห่?”
“ไม่ ผมไม่ได้ฆ่า” ไป๋ยี่เฟยตอบไปอย่างเรียบๆ
ชายคนนั้นชะงักไป “โกหก! ถ้าคุณไม่ได้ฆ่าแล้วใครเป็นคนฆ่าล่ะ? อย่าคิดมาหลอกผมเลย! ไป๋ยี่เฟย! คุณนี่มันช่างกล้าจริงๆ! ถ้าเรื่องนี้หลุดออกไปคุณก็เตรียมไปนอนคุกได้เลย!”
“แล้วคุณต้องการอะไร?” ไป๋ยี่เฟยถาม
พอเห็นแบบนี้ชายคนนั้นก็ได้หยิบมือถือของตัวเองขึ้นมา พอโทรติดเขาก็พูดด้วยท่าทางและน้ำเสียงที่สุภาพว่า “ครับ เจอเขาแล้วครับ”
“ได้ครับ” พอชายคนนั้นวางสาย เขาก็หันมาพูดกับไป๋ยี่เฟยในทันทีว่า “คุณรู้ไหมว่าคนที่ผมโทรหาคือใคร? เขาก็คือรองประธานของสหพันธ์ธุรกิจในเป่ยไห่ ฉุงโยวเวย”
พอไป๋ยี่เฟยได้ยินแบบนั้น นิ้วเขาก็ขยับไปมา เขาคือหนึ่งในคู่นอนของเถาเยวอย่างนั้นเหรอ? เป็นรองประธานสหพันธ์ธุรกิจเนี่ยนะ!
แต่ไป๋ยี่เฟยก็ยังคงทำหน้าเรียบเฉย “แลัวมันจะทำไม? หรือผมต้องทำท่าตกใจมากอย่างนั้นเหรอ?”
ชายคนนั้นถึงกับไม่รู้จะตอบโต้ยังไงไปพักหนึ่ง สุดท้ายเขาก็สวนไปด้วยเสียแข็งไปว่า “ท่านรองประธานบอกมาว่า ยังไงคุณก็ต้องมีคำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้าไม่อย่างนั้น เขาจะทำให้โหวจวี๋ของคุณหายสาบสูญไปจากเมืองเทียนเป่ยทันที!”
ไป๋ยี่เฟยจ้องไปที่ชายคนนั้น และยังไม่มีท่าทีอะไรเปลี่ยนแปลงเหมือนเดิม “ผมไม่มีคำอธิบายอะไรทั้งนั้น”
พอชายคนนั้นฟังจบ เขาก็อึ้งไปก่อน จากนั้นก็พูดด้วยท่าทีที่เยาะเย้ยว่า “ไป๋ยี่เฟยแกนี่มันช่างใจกล้าจริงๆ! แต่ยังไงแกก็ต้องชดใช้ในความกล้าที่ไม่เข้าเรื่องของแก!”
“แกคิดว่าการที่แกฆ่าประธานสหพันธ์ธุรกิจไปแล้วแกจะไม่สนใจรองประธานแบบเขาอย่างนั้นเหรอ? ฉันจะบอกอะไรให้นะ ท่านรองประธานเขาไม่เหมือนกับประธานเลยสักนิด หวังไห่เขามีที่พึ่งแค่อำนาจจากสหพันธ์ธุรกิจระดับประเทศเท่านั้น ความจริงแล้วตัวเขาเองไม่มีความสามารถอะไรเลยสักนิด!”
“แต่ท่านรองประธานของเรานั้น เขามีอิทธิพลมากมายอย่างที่แกจินตนาการไม่ออกเลยล่ะ อย่าว่าแต่โหวจวี๋ของแกเลย แม้แต่หวังไห่ยังไม่กล้ามีเรื่องกับท่านรองประธานเลยด้วยซ้ำ!”
“แกคอยดูเถอะ! ฉันจะเอาทุกคำพูดของแกไปเล่าให้ท่านรองประธานฟัง พอเขารู้เรื่อง โหวจวี๋ของแกก็จะหายสาบสูญไปในทันที!”
ไป๋ยี่เฟยหรี่ตามองเขา “ที่คุณจะพูดก็คือ รองประธานคนหนึ่งร้ายกาจยิ่งกว่าประธานเสียอีกสินะ? นี่ไม่เท่ากับเป็นการสื่อแบบอ้อมๆ ว่าเขามีเรื่องไม่ดีมากมายที่ไม่อาจเปิดเผยได้อย่างนั้นเหรอ?”
“สามหาว! แกอย่ามาพูดมั่วๆ นะ!” ชายคนนั้นเริ่มร้อนรน เขาไม่ได้ต้องการจะสื่อแบบนั้นจริงๆ
ไป๋ยี่เฟยขำในลำคอ ต่อให้รู้แล้วมันจะทำไม? คนก็ฆ่าไปแล้ว และไม่รู้จะอธิบายยังไงให้ฟังขึ้นด้วย
ชายคนนั้นได้พูดอย่างได้ใจอีกครั้ง “อยากพูดอะไรก็ตามใจเลย! ยังไงแกก็คงมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกไม่นานแล้ว!”
“แต่ฉันพอมีวิธีที่จะทำให้แกพอต่อชีวิตออกไปได้อีกหน่อย”
ไป๋ยี่เฟยฟังจบเขาก็ถามไปว่า “วิธีอะไร?”
“เมียของแกหน้าตาสวยใช้ได้เลย ท่านรองประธานของเรานั้นชื่นชอบสาวงามมาก แกลองส่งตัวเมียของแกไปเป็นของขวัญให้ท่านรองประธานก็ได้นะ ถ้าเขาเกิดชอบขึ้นมา ไม่แน่เขาอาจจะปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปก็ได้นะ”
“แกอย่าเสียดายไปเลย ผู้หญิงน่ะมีเยอะแยะไป ค่อยหาใหม่ก็ได้ แถมการทำแบบนี้ยังสามารถช่วยชีวิตตัวเองได้อีก มันคุ้มจะตายไป!”
ตอนที่ชายคนนี้กำลังพูด ไป๋ยี่เฟยก็ได้ทำหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา
“มีแค่วิธีนี้วิธีเดียวเท่านั้นเหรอ?” ไป๋ยี่เฟยกัดฟันพูด
พอชายคนนั้นได้ยิน เขาก็หัวเราะคริคริ “แน่นอนว่าต้องมีวิธีอื่นอยู่แล้ว วีธีนั้นก็คือ เอาใจฉันยังไงล่ะ ถ้าท่านรองประธานเห็นแกแบ่งหุ้นของโหวจวี๋มาให้ฉัน พอฉันมีหุ้นอยู่ในโหวจวี๋เขาก็น่าจะเบามือลงบ้างได้”
“แต่ว่านะ การที่จะทำให้ท่านรองประธานสงบลงได้ ก็คงต้องส่งเมียของแกให้เขาไปเท่านั้น เพราะลำพังแค่นี้มันไม่เพียงพอที่จะหยุดไม่ให้เขาเล่นงานโหวจวี๋ได้หรอก”
ไป๋ยี่เฟยกำหมัดของตัวเองแน่น จากนั้นก็คลายมือออก “ถ้าเป็นแบบนี้ละก็……ผมก็คงต้องกัดการกับเรื่องด้วยวิธีการของผมแล้วล่ะ”
ชายคนนั้นทำท่าหัวเราะเยาะ “วิธีของแกอย่างนั้นเหรอ? นี่แกยังไม่เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ดีใช่ไหม? ตอนนี้แกไม่มีแม้แต่สิทธิ์ที่จะพูดด้วยซ้ำ!”
แล้วไป๋หู่ก็เปิดประตูเข้ามาพอดี
“จัดการให้เรียบร้อย” ไป๋ยี่เฟยพูดจบเขาก็เดินจากไปเลย
ชายคนนั้นยืนอึ้งอยู่กับที่ จากนั้นก็ตะโกนด่าตามหลังไป “ไป๋ยี่เฟย นี่แกคิดจะทำอะไร? แกคิดจะฆ่าฉันรึไง? แกกล้าฆ่าฉันเหรอ? แกไม่รู้ซะแล้วว่าฉันเป็นใคร?”
“ฉันเป็นคนสนิทของท่านรองประธานเลยนะ ถ้าแกกล้าทำอะไรฉันละก็ แก………”
ไป๋ยี่เฟยเดินออกจากห้องไปโดยที่ไม่หันกลับมามองเลยด้วยซ้ำ ในจังหวะที่ประตูปิดลง เขาก็ได้ยินเสียงร้องโอดครวญของชายคนนั้น แล้วเขาก็ได้ขำออกมาอย่างไม่ใส่ใจพร้อมกับเดินจากไป
พอมาเจอหลี่เสว่ ไป๋ยี่เฟยก็ได้เรียกสวีลั่งมา เพื่อให้เขาขับรถพาทุกคนไปส่งที่วิลล่าเหมือนเดิม
พอได้ถึงที่หมาย สวีลั่งก็ได้รับสายจากเถาเยว
“ฉันติดต่อคนๆ นั้นให้แล้ว คุณช่วยบอกเจ้านายคุณให้ที เขาจะรอเขาอยู่ที่บ้าน เดี๋ยวฉันส่งที่อยู่ให้”
สวีลั่ง “อืม” แล้ววางสายไป จากนั้นก็รีบรายงานเรื่องนี้ให้ไป๋ยี่เฟยทันที “เถาเยวบอกว่าจะรอคุณอยู่ที่บ้าน เดี๋ยวเธอจะส่งที่อยู่มาให้ครับ”
สิ่งแรกที่ไป๋ยี่เฟยให้ความสนใจคือท่าทีของหลี่เสว่ แต่หลี่เสว่ก็แค่หยิบรีโมทขึ้นมาเพื่อที่จะเปิดทีวีเท่านั้น และไม่ได้เหลือบมองเขาเลยสักนิด
จากนั้นไป๋ยี่เฟยก็หันไปพูดกับสวีลั่งว่า “ผมเข้าใจแล้ว เดี๋ยวคุณช่วยส่งที่อยู่ให้ผมด้วย”
จากนั้นเขาก็พูดต่อด้วยความไม่สบายใจว่า “ครั้งหน้าช่วยพูดให้มันชัดเจนกว่านี้หน่อย อย่าพูดให้คนเขาเข้าใจผิดง่ายๆ แบบนี้”