ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 329
บทที่329
หลังจากได้รับที่อยู่มาแล้ว ไป๋ยี่เฟยก็สั่งให้ไป๋หู่อยู่คุ้มกันหลี่เสว่ที่บ้าน แล้วให้สวีลั่งออกไปพร้อมกับเขา
รถถูกขับมาหยุดอยู่ที่หน้าทางเข้าย่านเก่าแก่ย่านหนึ่ง ทั้งคู่เดินเข้าไปข้างในพร้อมกัน และพวกเขาก็มาถึงที่ที่เถาเยวบอกมา
“ก๊อกๆๆ ……”
ไม่นาน ประตูก็เปิดออก
ชายอายุประมาณสามสิบที่ดูมีมารยาทมากๆ คนหนึ่งยื่นอยู่หน้าประตู เมื่อเห็นว่าเป็นไป๋ยี่เฟยเขาก็ไม่ได้ดูตกใจอะไรเลย เขาแค่พูดด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยว่า “เข้ามาเถอะครับ”
ส่วนไป๋ยี่เฟยเองก็ไม่เกรงใจ พาสวีลั่งเดินเข้าไปข้างในทันที
ทั้งสามนั่งลงบนโซฟา ชายคนนั้นยกน้ำมาให้ทั้งคู่
ไป๋ยี่เฟยจึงถามขึ้น “คุณชื่ออะไรครับ?”
“จางหัวปินครับ”
“เหมาะกับคุณดี” ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างเรียบเฉย แล้วสำรวจไปรอบๆ เป็นบ้านธรรมดาที่มีสองห้องนอนกับหนึ่งห้องรับแขก บรรยากาศดูอบอุ่นมาก ถ้าไม่รู้ว่าจางหัวปินเป็นใครละก็ ที่นี่ก็จะกลายเป็นเพียงบ้านแสนธรรมดาหลังหนึ่งเท่านั้น
จางหัวปินไม่คิดว่าไป๋ยี่เฟยจะพูดแบบนี้ เขาจึงอึ้งไปแปบหนึ่ง จากนั้นก็พูดเข้าประเด็นว่า ผมรู้ว่าคุณมาหาผมทำไม คุณต้องการมาขอให้ผมเข้าร่วมกับคุณ”
ไป๋ยี่เฟยขำออกมาอย่าไม่สบอารมณ์ “คุณนี่เข้าใจอะไรง่ายดีนะครับ คือ……ผมไม่ได้มาขอให้คุณช่วย แต่……ผมมาเพื่อฆ่าคุณ!”
“ว่ายังไงนะครับ?” จางหัวปินกระเด้งตัวขึ้นมา แต่ก็ถูกสวีลั่งที่อยู่ข้างหลังกดให้นั่งลง จนขยับไปไหนไม่ได้ “ถ้าคุณฆ่าผม คุณเองก็รอดต่อไปได้ไม่นานหรอกครับ”
“คุณจะบอกว่า มีคนกำลังคิดจะฆ่าผมอยู่อย่างนั้นเหรอ?” ไป๋ยี่เฟยพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว
จางหัวปินปิดปาก แววตาเหมือนรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่พูดไป
ไป๋ยี่เฟยถามขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “ผมอยากรู้มากว่าคุณไปเอาข้อมูลพวกนั้นมาจากไหน?”
จางหัวปินฟังจบเขาก็ตอบไปว่า “ผมสามารถเข้าถึงกล้องทุกตัวในเมืองนี้ การจะสืบหาข้อมูลที่ผมอยากได้นั้นมันง่ายนิดเดียว แต่แน่นอนว่ามันไม่ได้มีแค่วิธีนี้หรอกนะครับ”
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกแปลกใจมาก “การที่คุณทำแบบนี้คุณไม่กลัวถูกฆ่าบ้างเหรอ?”
อย่างที่รู้ๆ กัน ยิ่งรู้มากก็ยิ่งตายเร็ว!
“ตอนนี้ผมยังไงใช้ชีวิตอย่างสงบสุขไม่ใช่เหรอครับ?”
ไป๋ยี่เฟยชะงักไป ที่จางหัวปินพูดมาก็ถูก เมื่อเขาคิดที่จะทำแบบนี้แล้ว เขาเองก็ต้องมีวิธีเก็บความลับเหมือนกัน เพราะไม่อย่างนั้นเขาคงอยู่มาจนถึงวันนี้ไม่ได้หรอก
แต่พอมองดูท่าทางที่ซื่อสัตย์ของจางหัวปินแล้ว ไป๋ยี่เฟยก็ได้ยิ้มออกมาอย่างเย็นชา “แต่น่าเสียดาย เดี๋ยวคุณก็ได้ตายแล้ว!”
“ผมสามารถช่วยคุณได้นะ ถ้าคุณอยากรู้ข้อมูลของใครผมก็หาให้คุณได้หมดเลย”
น่าขันสิ้นดี ตอนที่เพิ่งมาถึง เขามั่นใจมากว่าไป๋ยี่เฟยมาเพื่อชักจูงตัวเอง เขาจึงวางตัวไว้สูงเลย
แต่มาตอนนี้ ไป๋ยี่เฟยไม่ได้มาในแบบที่เขาคิด แต่มาเพื่อเอาชีวิตเขา ไม่มีใครไม่ที่ไม่รักชีวิตหรอก ดังนั้นเขาจึงทำตัวให้ต่ำลง มันต่ำจนน่าสงสารเลยล่ะ
ไป๋ยี่เฟยขำออกมา “ผมไม่ได้สนใจมันเลยสักนิด เรื่องอะไรที่ผมอยากรู้ผมสามารถหาเองได้”
จางหัวปินอึ้งไปเลย และร้อนรนมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อความตายกำลังใกล้เข้ามาทุกที แต่เขากลับไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าจะทำยังไงดี สิ่งที่เขาพอทำได้ก็มีเพียงเท่านี้แล้วจริงๆ
ไป๋ยี่เฟยนั่งเงียบอยู่พักหนึ่ง ในตอนที่เขากำลังจะเปิดปากพูด ประตูห้องหนึ่งก็เปิดออก
ไป๋ยี่เฟยกับสวีลั่งต่างมองยังที่เดียวกัน คนที่เปิดประตูคนผู้หญิงที่อยู่ในชุดอยู่บ้านธรรมดาคนหนึ่ง หน้าตาไม่ได้โดดเด่นอะไรแต่ก็ไม่ได้แย่ ท่าทางดูอบอุ่นมาก แล้วเธอก็พูดขึ้นว่า “ฉันหิวน้ำจังเลย”
“อืม รอแปบหนึ่งนะ เดี๋ยวผมเอาน้ำให้” จางหัวปินมองมาที่ไป๋ยี่เฟยทีหนึ่ง จากนั้นก็เดินไปที่ห้องครัว เพื่อเทน้ำให้ภรรยาของตัวเอง
“ระวังด้วยนะ” จางหัวปินพูดด้วยน้ำเสียงที่แสนอบอุ่น
หญิงสาวรับแก้วน้ำไป “ถ้าอย่างนั้นฉันเข้าไปฟังทีวีต่อแล้วนะ”
“อืม ไปเถอะ!” จางหัวปินพยักหน้า แล้วมองตามแผ่นหลังของภรรยาไป
รอจนเธอปิดประตูลง จางหัวปินถึงไปหันกลับมา “ภรรยาของผม เธอ……”
“ผมเห็นแล้ว”
ดวงตาของภรรยาเขาใช้การไม่ได้แล้ว เพราะไม่อย่างนั้น หากเธอเห็นสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าเป็นแบบนี้ เธอก็คงไม่มาถามหาน้ำจากสามีหรอก
พอไป๋ยี่เฟยพูดจบเขาก็นั่งเงียบ ภาพนี้มันทำให้เขานึกถึงหลี่เสว่ เพราะเขารู้สึกถึงความรักที่จางหัวปินมีต่อภรรยาจริงๆ
ถ้าเป็นเขาละก็ เขาจะไม่มีทางลากคนรักของตัวเองให้มาตกอยู่ในอันตรายด้วยเด็ดขาด แต่การกระทำทุกอย่างของจางหัวปินในตอนนี้ มีเรื่องไหนบ้างที่ทำแล้วไม่ดึงให้พวกเขาเข้าไปอยู่ในอันตราย?
“คุณเคยคิดบ้างไหม ว่าการกระทำของตัวเองอาจทำร้ายเธอจนตายได้?” ไป๋ยี่เฟยถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ
จางหัวปินตอบไปแบบจนปัญญา “มันเป็นงานของผม ผมจำเป็นต้องทำเพื่อความอยู่รอดครับ”
“เพื่อความอยู่รอดเหรอ? หึ……” ไป๋ยี่เฟยขำอย่างดูแคลน “เพื่อความอยู่รอด แล้วมันจำเป็นต้องทำเรื่องที่มันอันตรายแบบนี้ด้วยเหรอ? ต่อให้คุณไปทำงานก่อสร้างผมว่ามันยังดูดีกว่านี้อีก!”
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกหงุดหงิด ในเมื่อภรรยาของตัวเองสำคัญขนาดนั้น ก็ไม่ควรที่จะดึงเธอเข้ามาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อันตรายแบบนี้สิ
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาไม่เคยกล้าที่จะพาหลี่เสว่ให้เข้าไปอยู่ในอันตรายเลย แม้เพียงน้อยนิดเขาก็ไม่กล้า!
จางหัวปินไม่ได้อธิบายต่อ “คุณอย่าฆ่าผมได้ไหมครับ? ผมสามารถตามไปรับใช้คุณอย่างซื่อสัตย์ได้นะครับ”
การมีคนที่สามารถเข้าถึงกล้องทุกตัว คนที่สามารถควบคุมข่าวสารทั้งหมดไว้ในกำมือแบบเขามาเป็นพวก สำหรับไป๋ยี่เฟยแล้วมันคือพรรคพวกที่ไม่มีทางหาได้อีกแล้ว
ไป๋ยี่เฟยมีความตั้งใจที่จะขยายอิทธิพลของตัวเองอยู่แล้ว การที่มีคนอย่างเขามาอยู่ในหน่วยข่าวกรองแบบนี้ มันน่าจะทำให้เรื่องทุกอย่างง่ายขึ้นมากเลยล่ะ
ก่อนที่ไป๋ยี่เฟยจะได้เอ่ยถามอะไรบางอย่างไป จางหัวปินก็ได้พูดขึ้นว่า “แต่ผมมีเรื่องหนึ่งที่อยากให้คุณทำ”
“ปกป้องภรรยาของคุณเหรอ?” สิ่งที่ไป๋ยี่เฟยนึกออกมีเพียงเท่านี้
จางหัวปินส่ายหน้า “มีชีวิตรอดรอดให้ถึงพรุ่งนี้ ถ้าพรุ่งนี้คุณยังไม่ตาย ผมก็จะทำตามคำพูดที่ให้ไว้กับคุณ!”