ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 351
บทที่351
เย่อ้ายนึกว่าคำพูดนี้จะสามารถข่มขู่ไป๋ยี่เฟยได้ แต่ไป๋ยี่เฟยก็ยังยิ้มออกมาอย่างไม่รู้สึกอะไร “ที่แห่งนี้ ไม่มีใครหายเจอหรอกครับ”
ที่นี่คือโรงพยาบาลโว่หลง โรงพยาบาลที่เพิ่งเปิดใหม่ เป็นฐานลับของเขา การที่จะเจอที่นี่แล้วพาตัวเย่อ้ายไปนั้นมันแทบเป็นไปไม่ได้เลย
จากนั้นไป๋ยี่เฟยก็เหมือนอยากพูดอะไรต่อ แต่ฉินหัวก็โทรมาซะก่อน
“ตอนเที่ยงไปกินข้าวกัน”
ไป๋ยี่เฟยแปลกใจเล็กน้อย “วันนี้มันวันทำงานไม่ใช่เหรอ? ว่าขนาดนั้นเลย?”
ฉินหัวรู้สึกเกรงใจ “คู่หมั้นของผมไปด้วย” พอพูดมาอย่างนั้น ไป๋ยี่เฟยก็เข้าใจความหมายในทันที “ได้ ที่ไหน ผมจะไปเดี๋ยวนี้”
หลังวางสาย ไป๋ยี่เฟยก็คิดว่าต้องโทรไปบอกหลี่เสว่สักหน่อย เพราะยังไงคนที่จะแต่งงานกับฉินหัวก็เป็นเพื่อนรักของหลี่เสว่
……
พอไปยี่เฟยไปรับหลี่เสว่มา เขาก็ตั้งใจสังเกตท่าทีของหลี่เสว่ สงสัยเธอคงยังไม่รู้แน่ๆ ว่าคนที่โจวฉวี่เอ๋อจะแต่งงานด้วยคือใคร คิดไปคิดมา เขาก็ตัดสินใจที่จะไม่พูดดีกว่า พอถึงเวลาเธอก็รู้เองแหละ
พอมาถึงที่ภัตตาคารระดับกลางๆ แห่งหนึ่ง ฉินหัวก็ได้เปิดห้องวีไอพีไว้โดยเฉพาะ
พอทั้งสองคนถึงไป ฉินหัวกับโจวฉวี่เอ๋อก็ลุกขึ้นมาต้อนรับทันที “ในที่สุดพวกคุณก็มา”
หลี่เสว่จ้องไปที่ฉินหัวทันที เธอรู้สึกว่าคนๆ นี้หน้าตาคุ้นมาก
ฉินหัวถูกจ้องจนทำตัวไม่ถูก เขาเชิญไป๋ยี่เฟยนั่ง
โจวฉวี่เอ๋อเองก็รู้สึกเกรงใจไม่ต่างกัน “ถ้าอย่างนั้นเราก็ไม่ต้องแนะนำตัวกันแล้วเนาะ?”
ฉินหัวกับไป๋ยี่เฟยนับถือกันเป็นพี่น้องกัน ส่วนเธอกับหลี่เสว่ก็เป็นเพื่อนสนิทกัน ความสัมพันธ์ของพวกเขา มันก็ไม่จำเป็นต้องแนะนำตัวให้มันมากความแล้ว
แต่หลี่เสว่กลับทำหน้างง “ทำไมถึงไม่แนะนำล่ะ?”
โจวฉวี่เอ๋อชะงักไป เนื่องจากเขินเกินไป เธอจึงลืมไปว่าหลี่เสว่จำอะไรไม่ค่อยได้แล้ว สำหรับฉินหัวนั้น หลังจากที่หลี่เสว่ความจำเสื่อมไป เธอก็เคยเจอเขาแค่ผ่านๆสองครั้งเท่านั้น เลยจำไม่ค่อยได้
ไป๋ยี่เฟยชิงพูดขึ้นมาก่อน “นี่ฉินหัว พี่น้องของผม เขาเป็นตำรวจ คุณเคยเจอเขาแล้ว สงสัยจะจำไม่ได้”
หลี่เสว่พยายามนึก จากนั้นก็เหมือนจะนึกออก เธอจึงพยักหน้า “ค่ะ……”
ฉินหัวยิ้มๆ “สั่งอาหารกันเถอะครับ!”
ไม่นาน อาหารที่สั่งก็มาเสิร์ฟแล้ว ทั้งสี่คนที่นั่งล้อมอยู่รอบโต๊ะ ทั้งๆ ที่ทุกคนต่างก็คุ้นเคยกันดี แต่กลับไม่มีใครพูดอะไรเลย แม้แต่โจวฉวี่เอ๋อที่ปกติจะพูดมาก็ยังนั่งเงียบ
อาหารหนึ่งมื้อผ่านไปด้วยความเงียบ ฉินหัวมีงานที่โรงพักจึงต้องไปก่อน ที่บริษัทของโจวฉวี่เอ๋อก็งานยุ่งเหมือนกัน ทั้งสองจึงขอตัวไปก่อน ตอนนี้จึงเหลือแค่หลี่เสว่กับไป๋ยี่เฟยเท่านั้น
ในที่สุดหลี่เสว่ก็มีโอกาสสักที “คือว่า ฉินหัวเขาสนิทกับคุณมากเลยเหรอคะ?”
“ครับ” ไป๋ยี่เฟยพยักหน้า เขารู้ว่าเธอเป็นห่วงโจวฉวี่เอ๋อ เขาจึงพูดขึ้นมาว่า “คุณก็รู้ว่าเขาเป็นตำรวจ เรื่องคุณสมบัตินั้นคุณไม่ต้องเป็นห่วง แถมเขายังช่วยผมไว้ตั้งหลายครั้ง พึ่งพาได้ครับ”
ความจริงหลี่เสว่รู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่างขัดใจอยู่ แต่มันพูดไม่ออก เธอแค่รู้สึกว่า ตัวเองควรทำตัวตื่นเต้นมากกว่านี้แต่ก็รู้สึกว่าไม่ควรแสดงออกอย่างตื่นเต้นแบบนั้น
อาจเป็นเพราะขาดความทรงจำระหว่างพวกเขาไป มันจึงทำให้เกิดความรู้สึกแบบนี้ออกมามั้ง!
……
ไป๋ยี่เฟยกลับไปที่โหวจวี๋
หลังจากไม่ได้เข้ามาที่โหวจวี๋เดือนหนึ่ง ก็เกิดความรู้สึกมากมายขึ้นในใจของไป๋ยี่เฟย
พอนึกถึงช่วงก่อนที่โหวจวี๋เกือบจะล่มสลาย ตัวเองก็โดนพิษจนอยู่ต่อได้อีกไม่กี่วัน จนมาตอนนี้ ที่จัดการกับคนไม่หวังดีพวกนั้นไป ทั้งๆ ที่มันใช้เวลาไม่นาน แต่มันกลับเหมือนผ่านไปแล้วเนิ่นนาน
เขานั่งอยู่ในห้องทำงานของตัวเอง แล้วมองทอดออกไปนอกหน้าต่าง เขาสามารถมองเห็นเมืองเทียนเป่ยที่แสนคึกคักและวุ่นวาย แต่น่าเสียดายที่มีไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่าต่อจากนี้มันจะเปลี่ยนไปยังไง