ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 357
บทที่357
เหมือนจะเป็นเพราะแหวนวงหนึ่งนะ?
พอไป๋ยี่เฟยได้ยินอย่างนั้นเขาก็ก้มลงไปมอง มือของหลี่เสว่กอดแขนเขาเอาไว้ บนนิ้วสวมแหวนที่มีเพชรสีน้ำเงินประดับไว้ เขาจำได้ว่าแหวนวงนี้เป็นสิ่งตอบแทนที่ผู้หญิงคนนั้นให้มา
ก่อนจะออกเดินทาง เขาคิดว่ามันสวยดีเลยให้หลี่เสว่สวมมันไว้
เขาไม่นึกเลยว่าแหวนวงนี้จะมีพลังอำนาจขนาดนี้ จนทำให้เย่ฮวนกับฉุงโยวเวยถึงกับกังวลขนาดนั้น
ถึงจะยังไม่เข้าใจ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เขารู้แล้วว่ามันทำให้พวกเขาเป็นกังวลได้ ไปยี่เฟยก็่งอกลงไปมาก “หยุดทำไม?”
พอได้ยินอย่างนั้นเขาก็พูดอะไรไม่ออก นี่พี่ชาย ถึงที่มาของแหวนวงนี้จะไม่ธรรมดา แต่ก็ไม่ต้องกร่างขนาดนั้นก็ได้มั้ง? ถ้าสองคนนั้นเกิดไม่สนอะไรแล้วจะหาเรื่องให้ถึงที่สุดขึ้นมาจะทำยังไง?
เย่ฮวนกับฉุงโยวเวยที่กำลังเป็นกังวล หลังหันมาสบตากัน ทั้งคู่ก็เข้าใจความต้องการของอีกฝ่ายทันที
“ประธานไป๋ เมื่อกี้มัน เราเพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก เราแค่อำคุณเล่นเท่านั้น คุณอย่าใส่ใจเลยนะครับ” ฉุงโยวเวยยิ้มแห้งๆ
เย่ฮวนพยักหน้า “ใช่ครับ แค่อำเล่นเท่านั้น เราจะได้สนิทกันเร็วๆ ไงครับ!”
สองคนนี้พูดเหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้เป็นแค่ภาพหลอนที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สีหน้าก็เปลี่ยนได้เร็วซะจริง หาพิรุธไม่เจอเลยสักนิด
ไป๋ยี่เฟยสบถในใจ: หน้าด้านกันซะจริง!
“สรุปมันคือของขวัญสำหรับการพบกันครั้งแรกใช่ไหมครับ?” ไป๋ยี่เฟยยิ้มอย่างไม่ชอบใจ
ฉุงโยวเวยยิ้มแล้วพยักหน้า “ใช่ครับ ทุกคนต่างก็เป็นสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองหลวงนี่นะจริงไหม? มันก็ต้องแตกต่างออกไปสิครับ!”
เย่ฮวนขมวดคิ้วเบาๆ เขายังไม่รีบพูดแทรก แต่เขากำลังคิดหาวิธีเอาตัวรอดอยู่ เมื่อกี้ก่อเรื่องไว้ใหญ่โตเลย แค่คำพูดคำสองคำมันฟังไม่ขึ้นหรอก
แล้วก็เป็นไปตามคาด
ไป๋ยี่เฟยทำเสียงฮึดฮัด “ถ้าอย่างนั้นในชีวิตนี้ผมก็ยินดีที่จะไม่รู้จักคุณดีกว่า!”
“ที่สำคัญคือ ผมซีเรียสมาก”
เย่ฮวนกัดฟัน ถ้าไม่ใช่เพราะแหวนวงนี้ละก็ คืนนี้พวกเขาก็จะเป็นผู้ชนะที่แท้จริง!
หลินขวางที่เห็นฉุงโยวเวยกำลังถูกกดดันก็ได้หัวเราะออกมา “คุณเห็นสีหน้าของตัวเองตอนนี้รึเปล่า? มันดูตลกมากเลยจริงๆ นะ!”
“หุบปากไปเลย!” ฉุงโยวเวยตะคอกออกมา
เดิมทีหลินขวางก็เป็นคนที่ไม่ค่อยสนอะไรอยู่แล้ว เขาจึงพูดไปอย่างไม่เกรงกลัวว่า “ผมไม่หยุด! แล้วคุณล่ะ เมื่อกี้ยังบอกอยู่เลยว่าจะร่วมมือกับคนอื่นเพื่อทำลายโหวจวี๋ แล้วขึ้นเป็นประธาน แล้วทำไมถึงหยุดทำล่ะ?”
“ไม่กล้าเหรอ?”
ในตอนนั้น เย่ฮวนก็ได้พูดขึ้นว่า “ประธานไป๋ วันนี้เป็นวันครบรอบของโหวจวี๋กรุ๊ปใช่ไหมครับ? เราอย่ามัวมาเสียเวลาอยู่เลยครับ รีบเปิดงานเถอะครับ คุณว่าดีไหม?”
“ใช่ครับ ประธานไป๋ งานเลี้ยงควรจะเริ่มได้แล้วนะครับ” ฉุงโยวเวยพยักหน้า
ไป๋ยี่เฟยขำออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ “ผมต่างหากที่เป็นประธานบริษัทของโหวจวี๋กรุ๊ป งานเลี้ยงจะเริ่มเมื่อไหร่ผมจะเป็นคนตัดสินใจเอง พวกคุณเป็นใคร? ส่วนเรื่องเมื่อกี้……”
“เห็นว่าผมสู้ไม่ได้ ก็จะจัดการโหวจวี๋ พอเห็นว่าผมมีคนหนุนหลังที่ใหญ่กว่าเดิม พวกคุณก็มาบอกว่าเป็นแค่การอำเล่นเหรอ? ผมไม่ได้โง่นะ ที่จะไปเชื่อคำโกหกโง่ๆ ของพวกคุณ!”
“ในตอนนี้ ด้วยตำแหน่งประธานบริษัทของโหวจวี๋ที่ผมมีจะบอกอะไรให้ โหวจวี๋กรุ๊ปไม่ต้อนรับพวกคุณ ขอเชิญพวกคุณให้ออกจากงานเลี้ยงนี้ทันทีครับ!”
พูดจบ เสียงสะอื้นก็ดังไปทั่วห้องโถง
การดวลดาบกันเมื่อกี้เห็นกันทุกคน แค่ไม่กล้าส่งเสียเท่านั้น ประเด็นคือ ตอนแรกคือว่าโหวจวี๋กรุ๊ปคงจบสิ้นแล้วแน่ๆ แต่สถานการณ์กลับมาพลิกซะได้
สองคนที่อวดเบ่งในตอนแรก จู่ๆ ก็ยอมแพ้ไป แถมยังบอกว่าเป็นแค่เรื่องล้อเล่นด้วยนี่สิ?
นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?
ดูตอนนี้สิ ประธานไป๋กับสีหน้าที่เย็นชา แถมยังพูดจาไม่ไว้หน้าเลยแม้แต่นิดเดียว พวกเขาแค่อยากรู้ว่าประธานไป๋ไปเอาความกล้านี้มาจากไหนเท่านั้น
ต่อให้คนที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลังจะใหญ่มากแค่ไหนก็ตาม แต่ก็ไม่จำเป็นต้องทำให้ความสัมพันธ์มันเสียขนาดนี้ก็ได้นี่จริงไหม? มีคนเคยพูดไว้ว่า ไม่ว่าทำอะไรก็ไม่ควรให้มันเกินไป เหลือช่องว่างไว้สักนิดก็ยังดี!
คนหนึ่งเป็นคุณชายตระกูลเย่ ประธานบริษัทของเย่ซื่อกรุ๊ป ส่วนอีกคนก็คุณชายตระกูลฉุง รองประธานสหพันธ์ธุรกิจประจำมณฑล ถ้าเกิดไปมีเรื่องกับทั้งสองคนนี้พร้อมกันต่อไปชีวิตต้องไม่ราบรื่นแน่!
หลินขวางคนนี้ไม่ได้สนใจหรอกว่าเรื่องจะใหญ่ “ไม่ได้ยินเหรอ? ยังยืนนิ่งอยู่ทำไม? ยังไม่ไปอีก?”
เมื่อหมดหนทาง เย่ฮวนก็มองไป๋ยี่เฟยอย่างไม่พอใจ “ถ้าอย่างนั้นก็ขอให้งานเลี้ยงของประธานไป๋ราบรื่นนะครับ”
พูดจบ เขาก็เดินจากไปทันที
ฉุงโยวเวยก็ทำท่าจะไปเหมือนกัน แต่ก่อนจะไปเขาก็ได้เหลียวมองเถาเยวแวบหนึ่ง ดวงตาหมุนวน แล้วคิดอะไรบางอย่างออก จากนั้นเขาก็พูดพร้อมรอยยิ้มว่า “ประธานไป๋ ผมเองก็ขออวยพรให้งานเลี้ยงราบรื่นเหมือนกันครับ ตอนมาผมเองก็ไม่ได้พกอะไรติดมือมาด้วย ถ้าอย่างนั้น ผมว่าผมมอบเธอให้คุณเป็นของไถ่โทษแล้วกันนะครับ”
เถาเยวถูกฉุงโยวเวยดึงตัวมา แล้วผลักไปทางไป๋ยี่เฟย
ส่งผู้หญิงกันโจ่งแจ้งแบบนี้เลยเหรอ? นี่ภรรยาของประธานไป๋ยังอยู่ตรงนี้อยู่เลยไม่ใช่เหรอ?
หลินขวางทำเสียงดูถูก “ทำไมคุณถึงได้หน้าด้านแบบนี้? เขามีภรรยาแล้ว แล้วคุณยังจะมามอบผู้หญิงให้เขาต่อหน้าภรรยาแบบนี้อีก?”
“เดิมทีผู้หญิงคนนี้ก็เป็นภรรยาของประธานไป๋อยู่แล้วนี่ไม่ใช่เหรอ?” ฉุงโยวเวยเหลียวมองหลี่เสว่ด้วยแววตาที่แฝงไปด้วยความนัย
ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้ว สีหน้าที่เฉยชามาก แต่คำตอบของเขากลับอยู่นอกเหนือความคาดหมายของทุกคน “ได้ ผมจะรับไว้เอง”
“อะไรนะ?”
ทุกคนต่างตื่นตกใจ
กล้ารับหญิงอื่นต่อหน้าภรรยาตัวเองแบบนี้ นี่เขาใจกล้าขนาดไหนกันเนี่ย?
คำเดียวที่อยากพูดก็คือ: คนมีเงินนี่ช่างรู้จักสนุกซะจริง!
“ถ้าอย่างนั้นผมก็ไม่รบกวนแล้วนะครับ”
พูดจบ ฉุงโยวเวยก็เดินจากไปอย่างภาคภูมิใจ