ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 383
บทที่ 383
เย่ฮวนเหงื่อแตกพลั่กออกมาจากหลังของเขา และเขาก็เข้าใจได้ในทันทีว่า ที่เขานี่แหละเป็นกับดัก!
พวกเขาทําให้เขาคิดว่าไป๋ยี่เฟยไปหาฉุงโยวเวย แต่ความจริงแล้ว แม่งเอ๊ยพวกมันมาหาตัวเขาต่างหาก!
ทันทีที่จางเถ่หลินก้าวเท้าไป คนพวกนี้ก็จ้องเขม็งไปที่จางเถ่หลินทันที
เขาไม่มีจางเถ่หลินคอยช่วย และJackแค่คนเดียวไม่เพียงพอด้วย
เลขาฯหญิงเห็นว่าสถานการณ์ถ้าจะไม่ดี จึงรีบตะโกนออกมาทันทีว่า “ปกป้องท่านประธาน!”
บอดี้การ์ดล้อมเย่ฮวนไว้ทันที และJackก็ยืนอยู่ด้านหน้า พร้อมกับมองพวกเขาอย่างระแวดระวัง
เย่ฮวนเห็นดังนั้นก็ถามด้วยเสียงเย็นชาว่า “พวกนายจะฆ่าฉันงั้นเหรอ? ”
“อย่าลืมว่า นายคือฉุงโยวเวย ไม่ใช่ฉัน!”
เฉินห้าวยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ “เรารู้ แต่นายก็มีส่วนร่วมด้วยเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? ”
เย่ฮวนคิดไม่ออก เขามีส่วนร่วมก็จริง แต่เขาก็แค่เปิดโปงข่าวบางอย่างเท่านั้น แล้วส่งอู๋ปิ้งและหูเทียนจิ่นไป แต่อู๋ปิ้งและหูเทียนจิ่นก็ตายไปแล้ว
พูดง่ายง่ายก็คือ เขาสูญเสียคนไปแล้วหนึ่งคน
ส่วนด้านไป๋ยี่เฟย ก็สูญเสียสาวสวยสุดแห่งหลิงหนานไปแล้วคนหนึ่ง ที่ซึ่งความสัมพันธ์ของเขากับไป๋ยี่เฟยก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่ และมีเพียงคุณตำรวจฉินหัว ที่ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส และเละจนเป็นผัก
หากพูดตามเหตุและผลแล้ว ไม่ถึงกับว่าวางเขาไว้บนที่ตายถึงจะถูก!
เย่ฮวนขมวดคิ้วแล้วถามขึ้นว่า “แล้วตอนนี้ไป๋ยี่เฟยอยู่ที่ไหนกันล่ะ? ”
เฉินห้าวยักไหล่ “ผมก็ไม่รู้สิ ไม่ใช่ว่าพวกคุณก็ไปหาแล้วหรอกเหรอ? พวกเราก็อยู่ที่นี่มาตั้งนานแล้วนิ และขาดการติดต่อจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิงแล้ว”
ในตอนนั้นเอง จางเถ่หลินก็วิ่งกลับมา
พอเห็นจางเถ่หลิน เย่ฮวนก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก จางเถ่หลินยังอีกด่าว่า “ไป๋ยี่เฟยแม่งเจ้าเล่ห์จริงจริง! ”
“เกือบแล้วหลงกลมันแล้ว!”
เย่ฮวนพยักหน้า แล้วหันไปมองไป๋หู่พวกเขาอีกครั้ง และเขาก็ตะลึงตาค้างไปครู่หนึ่ง
ท่าทีในการฆ่าคนเมื่อครู่ของคนกลุ่มนี้หายไปไหนกันหมด?
ไอ้ที่ดูทิวทัศน์ก็ดู ทำหน้าเหม่อลอยก็ทำ นอนหลับก็มี ส่วนไอ้ที่เล่นไพ่โป๊กเกอร์ก็ยังคงเล่นอยู่เช่นเคย
เย่ฮวนกัดฟัน แม่งเอ้ย!
ไอ้คนกลุ่มนี้ช่างโง่เง่าเสียจริง เมื่อจางเถ่หลินออกไป พวกเขาก็จะลงมือ แต่พอจางเถ่หลินไม่ไป ก็กลับแสร้งทําเป็นโง่ต่อไป และบอกว่าจะเจรจากัน เจรจากับตูดอะไรวะ!
เย่ฮวนแทบจะกระอักเลือดออกมากับคนพวกนี้!
……
ด้านนอกคฤหาสน์ตระกูลฉุง มีรถแท็กซี่คันหนึ่งจอดอยู่และมีคนสามคนลงจากรถคันนั้นพวกเขาก็คือพวกไป๋ยี่เฟยที่ไม่มีใครรู้ร่องรอยนั่นเอง
แต่ทันทีที่พวกเขาลงจากรถ จางหัวปินก็ได้รับโทรศัพท์จากผู้แจ้งเบาะแสของพวกเขา
“ฉุงโยวเวยไม่ได้อยู่ที่คฤหาสน์เพราะว่าเขาไปที่ไนต์คลับซิงคงแล้ว”
หลังจากพูดจบ ไป๋ยี่เฟยก็รีบยื่นมือออกมาและคว้ารถแท็กซี่ที่กําลังจะออกไปทันที จากนั้นรถแท็กซี่ก็เหยียดเบรกอย่างรวดเร็ว “บ้าเอย! ไอ้น้อง จะทําอะไรน่ะ? อยากตายเหรอ! ”
“ขอโทษครับ พวกเรายังต้องไปอีกที่หนึ่ง”
20 นาทีต่อมา ทั้งสามคนนั้นก็มาถึงที่ไนต์คลับซิงคง
ก่อนที่จะเข้าไป จางหัวปินก็สูดหายใจเข้าลึกลึก “เพราะหลังจากที่เข้าไปแล้วมันจะไม่มีการหันหลังกลับ”
ไป๋ยี่เฟยขึ้นพูดว่า “ผมไม่เคยคิดจะหันหลังกลับเลย” ”
“ดี” จางหัวปินพยักหน้า พอพูดจบ เขาก็หยิบลูกบอลสีดําลูกเล็กออกมาลูกหนึ่ง แล้วยื่นไปให้ไป๋ยี่เฟย “ของสิ่งนี้สามารถปิดกั้นสัญญาณรอบรอบภายในห้าเมตรได้ชั่วคราว”
ไป๋ยี่เฟยจึงหยิบลูกบอลสีดำลูกเล็กนั้นขึ้นมาและศึกษาดูมันไปครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่พบอะไร เขาจึงยื่นของสิ่งนั้นให้โจวฉวี่เอ๋อ “เอาไปเถอะ กลัวว่าจะดูไม่เหมาะ
จากนั้นไม่นาน พวกเขาทั้งสามคนจึงเดินเข้าไปด้วยกัน
“สวัสดีพวกคุณทั้งสาม ไม่ทราบว่าพวกคุณมีห้องพิเศษ แล้วหรือยังครับ หรือว่าคุณต้องการจองห้องพิเศษ? ” พนักงานถาม
ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างเฉยชาว่า “พวกเราเป็นเพื่อนของคุณชายฉุง”
พนักงานคนนั้นผงะไปครู่หนึ่ง แล้วยกยิ้ม “ที่แท้ก็เป็นเพื่อนของคุณชายฉุงนั่นเอง มาครับ เชิญทางนี้”
ในความเป็นจริงพนักงานคนนั้นรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก เพราะว่าฉุงโยวเวยมักจะมาบ่อยบ่อย ดังนั้นจึงค่อนข้างคุ้นเคยกับเพื่อนเพื่อนของฉุงโยวเวย แต่ทำไมทั้งสามคนที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นเขากลับรู้สึกไม่คุ้นเคยเอาสะเลย
แต่น่าเสียดายที่เขาเป็นเพียงพนักงานตัวเล็กเล็กคนหนึ่งเท่านั้นแล้วเขาจะสามารถไปพูดอะไรได้ล่ะ? บางทีพวกเขาอาจเป็นเพื่อนของคุณชายฉุงจริงจริงก็ได้ และนี่อาจเป็นครั้งแรกที่พวกเขามาหรือเปล่า? แต่ยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องดีที่จะต้องไปยุ่งด้วยหรอก
ไม่นาน พนักงานก็พาไป๋ยี่เฟยพวกเขาไปที่ห้องพิเศษบนชั้นสอง
นอกห้องพิเศษ ทั้งพวกบอดี้การ์ดและชายชราชุดสูทถังต่างก็เห็นพวกเขาทั้งสามคน และพบว่าพวกเขาหยุดอยู่ตรงหน้าห้อง พิเศษของตน และเขาก็เริ่มรู้สึกระแวดระวังทันที
“พวกแกคือใคร” ชายชราชุดสูทถังถาม
พนักงานถึงกับผงะ ซวยแล้ว ไม่มั้ง? พวกเขาไม่รู้จักหรอกเหรอ?
ก่อนที่พนักงานจะพูดออกไป ไป๋ยี่เฟยก็เงยหน้าขึ้น และพูดว่า “มาหาฉุงโยวเวย”
“คุณคือ… ” เนื่องจากชายชราชุดสูทถังเคยเห็นรูปถ่ายของไป๋ยี่เฟยบนข้อมูลเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงแค่รู้สึกคุ้นคุ้น และไม่เคยมีเลยสักครั้งที่เขาจะรู้ว่าไป๋ยี่เฟยคือไป๋ยี่เฟย
“ไป๋ยี่เฟย” ไป๋ยี่เฟยเริ่มบอกชื่อของเขาด้วยตัวเอง
เมื่อพูดจบ ชายชราชุดสูทถังก็เบิกตาโพลงขึ้นมาทันที และพูดด้วยความตกใจว่า “ไป๋ยี่เฟย!”
ในขณะเดียวกันนั้น บอดี้การ์ดทั้งสี่ต่างก็ปิดกั้นประตูห้องพิเศษไว้อย่างแน่นหนา และจะไม่ปล่อยให้ไป๋ยี่เฟยก้าวเข้ามาใกล้อย่างเด็ดขาด
ชายชราชุดสูทถังตื่นตระหนกตกใจเป็นอย่างมาก และในขณะนั้นเอง เขาก็คิดอะไรได้หลายอย่าง
ในตอนแรกไป๋ยี่เฟยบอกว่าเขาต้องการจัดการตระกูลเย่ และทำให้พวกเขาสับสนอยู่อย่างนั้น กระทั่งเหลียงเหว่ยชาวก็ยังมาบอกอีกว่าไป๋ยี่เฟยต้องการจัดการตระกูลเย่ และสุดท้ายพวกเขาก็เชื่อ
ซึ่งต่อมา ไป๋ยี่เฟยก็ได้ส่งวิดีโอที่เย่อ้ายโดนกลั่นแกล้งให้กับเย่ฮวน และเขายังขอให้เย่ฮวนมาเจรจากับเขา บวกกับที่คนของพวกเขาทั้งหมดไปที่นั่น และยิ่งไปกว่านั้นก็คือทำให้ทุกคนเชื่อ ว่าไป๋ยี่เฟยต้องการจัดการเย่ฮวนนั่นเอง
แต่ความจริงแล้ว คนที่เขาอยากจะจัดการก็คือฉุงโยวเวย!
เห็นได้ชัดว่าเขาออกไปแล้ว และทิ้งคนของเขาไว้ที่ไนต์คลับ ซึ่งเย่ฮวนก็มาด้วย และทั้งสองฝ่ายต่างก็คอยยับยั้งกันและกัน และไม่มีใครสามารถที่แตะต้องใครได้
เช่นนั้น สิ่งเดียวที่ทำได้คือการที่ไป๋ยี่เฟยหายตัวไป!
คิดไม่ถึงเลยว่าไป๋ยี่เฟยจะใช้วิธีนี้ตามหาตัวฉุงโยวเวยจนเจอ!
แต่ไป๋ยี่เฟยกลับนำคนเพียงแค่สองคนมาซึ่งเมื่อรวมตัวเขาแล้วก็มีเพียงแค่สามคนเท่านั้น และยังเป็นแค่คนสามคนที่ไม่มีกำลังจะต่อสู้ใดใดอีกด้วย
หลังจากที่ชายชราชุดสูทถังนั้นตกใจไปครู่หนึ่งเขาก็กลับรู้สึกโล่งใจลงอีกครั้ง ซึ่งไม่ต้องพูดเลยถึงตัวเขาเลย แค่บอดี้การ์ดพวกนี้ก็สามารถรับมือกับพวกเขาได้อย่างง่ายดาย
“แกช่างกล้าหาญจริงจริง มากับคนแค่สองคนและยังจะกล้ามาหานายน้อยของฉันอีก”
ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างเฉยชา “ทำไมไม่เข้าไปคุยด้วยกันก่อนล่ะ?”
ชายชราชุดสูทถังถึงกับต้องตะลึง เพื่อความปลอดภัยของฉุงโยวเวยแล้ว ทางที่ดีที่สุดก็คืออย่าให้ไป๋ยี่เฟยเข้าไปโดยเด็ดขาด แต่ถ้าอยู่นอกทางเดินแบบนี้ มันก็จะทำให้มีคนมุงดู และในที่สุด ถ้าฆ่าไป๋ยี่เฟยก็อาจถูกคนเห็นเข้า ซึ่งมันเป็นอะไรที่ไม่สะดวกเลยจริงจริง
หลังจากยืนยันครั้งแล้วครั้งเล่าว่าไป๋ยี่เฟยไม่ได้มีใครตามมาด้วยจริงจริง ชายชราชุดสูทถังก็พูดว่า “ช้าก่อน ฉันจะไปรายงานให้นายน้อยทราบก่อน”
หลังจากพูดจบ ชายชราชุดสูทถังก็หันกลับมาและเคาะประตู จากนั้นก็ดันประตูแล้วเข้าไป
ทันทีที่ประตูเปิดออก แม้ว่าจะมีบอดี้การ์ดร่างสูงใหญ่สองสามคนอยู่ตรงหน้าเขา แต่ไป๋ยี่เฟยก็สามารถมองทะลุช่องว่างที่จะเกิดเหตุอันน่าสะพรึงกลัวภายในได้ และได้กลิ่นเหม็นคาว
ไม่นาน ประตูห้องพิเศษ ก็ถูกปิดลง
“นายน้อย” ชายชราชุดสูทถังก็ก้มศีรษะลงและไม่ได้เหลือบตามอง
ฉุงโยวเวยรู้สึกกระวนกระวายใจ และรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก “จะทำอะไร? จะปล่อยให้ฉันสนุกได้หรือยัง?”
ชายชราในชุดยังยังคงก้มศีรษะลง และพูดว่า “นายน้อย ไป๋ยี่เฟย …. ”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ ปฏิกิริยาแรกของฉุงโยวเวยเมื่อเขาได้ยินคำว่าไป๋ยี่เฟยคือ “ไป๋ยี่เฟยตายแล้วเหรอ? ฮา ฮา…เยี่ยมมาก! เจ้าเด็กบ้านนอกคนนี้ยังจะกล้ามาแก้แค้น! ช่างไม่วัดกำลังตัวเองดูเลย!”
“นายน้อย ไป๋ยี่เฟยมาแล้ว” ชายชราชุดสูทถังพูดอีกครั้ง