ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 40
บทที่40
ณ ห้องประชุมของโหวจวี๋กรุ๊ป
“บริษัทที่ลงทุนก่อนหน้านี้หลายแห่งเริ่มดีขึ้นแล้ว ขณะนี้อยู่ในสถานะกำลังพัฒนา ผลกำไรจึงค่อนข้างต่ำ แต่เมื่อถึงขั้นเติบโตเต็มที่แล้วผลกำไรจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า……”
“ดูจากปัจจุบัน บริษัทของพวกเราอยู่ในลำดับที่สิบของจังหวัด ห่างจากลำดับที่หนึ่งยังค่อนข้างไกลอยู่ ยังต้องไปเข้าซื้อกิจการบริษัทที่มีแนวโน้มอีกมาก…..”
“ตามสถิติที่ประเมินเบื้องต้น บริษัทที่สามารถเข้าซื้อได้มี::ตงโย่วกรุ๊ป,นิวซีกรุ๊ป,วัสตุหงหยวน……”
ผู้บริหารระดับสูงรายงานทุกอย่างเสร็จทีละคน จากนั้นต่างมองมาทางไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยลืมเปลือกตาขึ้นมาอย่างขี้เกียจ เหมือนเพิ่งจะตื่น ยังหาวออกมา”พูดได้ดีมาก!สรุปได้อย่างครบถ้วน ทำตามนี้เลย!”
“……”
หลงหลิงหลิงจนปัญญามาก คนมากมายพูดไปตั้งนาน เขาล้วนนึกเป็นเพลงกล่อมหลับหรือเปล่า?ยังนึกว่าเขาจะตั้งใจขึ้นมาหน่อย แต่ดูแล้วตนเองคงคิดมากไป!
ไป๋ยี่เฟยลุกขึ้นมาเดินออกจากห้องประชุม เพิ่งจะถึงห้องทำงาน ก็ได้รับโทรศัพท์ของหลี่เสว่
“ไป๋ยี่เฟย เกิดเหตุขึ้นแล้ว!”
จากนั้น ไป๋ยี่เฟยก็วางสาย แล้วก็นึกถึงผลการรายงานของการประชุมเมื่อกี้นี้ จึงเรียกหลงหลิงหลิงมาถามว่า”การประชุมเมื่อกี้นี้ได้กล่าวถึงนิวซีกรุ๊ปใช่ไหม?”
หลงหลิงหลิงพยักหน้า”ค่ะ นิวซีกรุ๊ปเป็นบริษัทที่มีศักยภาพมาก แต่เนื่องจากช่วงนี้เงินหมุนเวียนไม่ทัน บริษัทค่อนข้างจะดำเนินต่อไปไม่ได้ พวกเรากำลังคุยปรึกษากับพวกเขา ถ้าตกลงกันได้ก็จะรับซื้อเลย”
เมื่อกี้นี้หลี่เสว่บอกว่าเริ่มตั้งแต่ครั้งก่อน โครงการใหม่ของกิจการผลไม้หลี่ซื่อกรุ๊ปก็พบปัญหาตลอด ตอนเพิ่งมีปัญญายังสามารถจัดการได้อยู่ แต่ยิ่งมาก็ยิ่งร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ
แต่ช่วงนี้ก็คือนิวซีกรุ๊ปทำสงครามราคากับพวกเขาอย่างไร้สาเหตุ ไม่เพียงเท่านี้ ยังแพร่ข้าวอยู่บนโซเชียลว่า วัตถุดิบสินค้าที่กิจการผลไม้หลี่ซื่อกรุ๊ปขายออกนั้นมีปัญญา แถมก่อนหน้านี้วัตถุดิบของซัพพลายเออร์ร้านนั้นก็มีปัญหาจริงๆ ทันใดนั้นยอดขายของกิจการผลไม้หลี่ซื่อกรุ๊ปก็ลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว บนโซเชียลก็เต็มไปด้วยคำวิจารณ์ที่ไม่ดีต่อกิจการผลไม้หลี่ซื่อกรุ๊ป
ไป๋ยี่เฟยก็นึกว่าในนี้มีปัญญาแฝงอยู่ นิวซีกรุ๊ปเผชิญกับวิกฤต แต่ยังกล้ามาต่อสู้กับกิจการผลไม้หลี่ซื่อกรุ๊ปอย่างแข็งแกร่งอีก ทำสงครามราคา นี่มันคิดจะตายหรือ?
แน่นอนว่าเขาไม่ได้เป็นห่วงกิจการผลไม้หลี่ซื่อกรุ๊ป สิ่งสำคัญก็เพื่อหลี่เสว่
โครงการที่หลี่เสว่รับผิดชอบอยู่ในตอนนี้ ถ้าเกิดปัญญาขึ้นมา จะต้องถูกคนอื่นๆในตระกูลหลี่ตำหนิแน่นอน แถมยังมีเงินลงทุนร้อยล้านอันนั้นอีก เขาก็ควรที่จะเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้แล้ว
เมื่อสั่งกับหลงหลิงหลิงเสร็จ ไป๋ยี่เฟยก็รีบวิ่งไปข้างนอก เพื่อคิดจะไปหาหลี่เสว่ปรึกษารายละเอียด แต่รีบเดินเกินไป เพิ่งเดินออกจากหน้าประตูโหวจวี๋กรุ๊ปก็เผลอไปโดนกับหนุ่มชายคนหนึ่ง
ไป๋ยี่เฟยกรีดฟู่ออกมาเสียงหนึ่ง จากนั้นรีบกล่าวคำขอโทษ”ขออภัย……”
คำขอโทษยังพูดไม่จบ ผู้ชายก็พูดอย่างหยิ่งว่า”เดินไม่มองหรือไง?ไม่เห็นมีคนอยู่หรือ?อีสัตว์ แกทำจนเสื้อผ้าของฉันยับ!”
พอไป๋ยี่เฟยได้ยินคำพูดพวกนี้ ขมวดคิ้ว แล้วมองไปทางชายหนุ่มคนนั้น เขาใส่เสื้อสูทที่พอมีราคา หน้าตายังพอใช้ได้ แต่ท่าทีที่หยิ่งยโสของเขา ทำให้คนอื่นรู้สึกไม่สบายใจ
สายตาที่ผู้ชายมองไปทางไป๋ยี่เฟยเต็มไปด้วยความรังเกียจ โดยเฉพาะเมื่อเขาเห็นเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งไม่มีราคาบนร่างกายของไป๋ยี่เฟย ก็ยิ่งดูถูกกว่าเดิม เขาดูเหมือนจะขี้เกียจไปคุยกับไป๋ยี่เฟยแล้ว จึงตะโกนพูดกับผู้รักษาความปลอดภัยหน้าประตูว่า” เฮ้ พวกแกทำอะไรอยู่เนี่ย บริษัทที่ใหญ่เช่นกับโหวจวี๋ ปล่อยให้คนเข้าไปมั่วซั่วได้ยังไงวะ?คนขอทานคนนี้พวกแกไม่ไล่เลยหรือ?”
ผู้รักษาความปลอดภัยไม่สนใจเลย อย่าเพิ่งไปพูดถึงว่าผู้ชายคนนี้คือใครยังไม่รู้เลย เพียงเห็นแต่ท่าทีที่ดูหยิ่งขนาดนี้ ก็ไม่มีใครจะไปฟังคำสั่งของเขาหรอก
ผู้ชายคนนั้นยิ่งโมโหกว่าเดิม”รปภ.อย่างพวกแกทำไมถึงไร้ประโยชน์เช่นนี้ เชื่อไหมว่าฉันจะสามารถทำให้พวกแกถูกไล่ออกทันที?”
“ไม่เชื่อ”รปภ.สองคนที่อยู่หน้าประตูตอบอย่างราบเรียบมาก
สีหน้าของผู้ชายนิ่งอึ้งไปทันที จากนั้นก็มืดมนขึ้นมา
ไป๋ยี่เฟยหัวเราะออกมา แอบกดไลค์อยู่ในใจให้รปภ.สองคนนี้
ผู้ชายกำลังจะโมโหขึ้นมา แต่มีผู้ชายอีกคนเดินมาจากข้างหลัง ดูเหมือนจะโตกว่าคนนี้อีกหลายขวบ และมีความสุขุมใจเย็นกว่าผู้ชายคนนี้ด้วย
“เสี่ยวเทียน ยืนอยู่ตอนนี้ทำอะไร?”
เฉินเสี่ยวเทียนหันไปดูผู้ชายที่อยู่ข้างหลัง ความโกรธบนใบหน้ามากขึ้นกว่าเดิม”พี่เขย ฉันเพิ่งจะเข้าไปก็ถูกไอ้บ้านนอกคนนี้ชน รปภ.สองคนนี้ก็เช่นกัน ให้พวกมันไปไล่คนนี้ออก แต่พวกมันไม่ขยับเลย!”
ผู้ชายคนนั้นใช้สายตากวาดทั้งสามคนเบาๆ ไม่ได้ใส่ใจพวกเขาเพียงสักนิดเลย”โกรธคนต่ำต้อยเหล่านี้ไปทำไมล่ะ?เดี๋ยวเจอพี่สาวของคุณ ให้เธอไล่พวกเขาออกไปก็พอ”
“เฮ่อ!พวกแกรอดูเถอะ!เดี๋ยวรอพี่สาวฉันมาแล้ว พวกแกล้วนต้องถูกไล่ออก!”เฉินเสี่ยวเทียนหยิ่งมาก
ไป๋ยี่เฟยสนใจขึ้นมาทันที”พี่สาวของคุณ?พี่สาวของคุณมีตำแหน่งในโหวจวี๋กรุ๊ปสูงมากหรือ?”
“ไม่เพียงแค่สูง ถ้าพูดออกมาแล้วพวกแกต้องหวาดกลัวแน่ๆ!”สีหน้าของเฉินเสี่ยวเทียนหยิ่งมาก
ไป๋ยี่เฟยจนคำพูดทันที ทำให้คำพูดนี้ฟังแล้วน่าขำจังเลย?
รปภ.มีความลังเลสักนิด ถ้าหากว่าเป็นแบบนี้จริงๆ นั้นคำพูดเดียวของหัวหน้าก็จะสามารถตัดสินความอยู่ไปของพวกเขาได้ แต่พวกเขาไม่อยากไป เงินเดือนทุกอย่างของโหวจวี๋กรุ๊ปล้วนดีมากทีเดียว ไม่มีใครอยากจะไปหรอก
“อย่าสนใจพวกเขาแล้ว ขึ้นไปหาพี่สาวของคุณเถอะ!”ผู้ชายไม่อยากพูดเยอะกับคนพวกนี้ เพื่อมิให้ตัวเองต้องลดระดับลง
ไป๋ยี่เฟยเห็นเช่นนี้ก็พูดกับรปภ.ว่า”ห้ามพวกเขาไว้ ห้ามให้เข้า!”
“แกพูดอะไรวะ?ไอ้บ้านนอก แกกล้ามาห้ามฉันได้ยังไงวะ?”เฉินเสี่ยวเทียนชี้ไปที่ไป๋ยี่เฟยอย่างโกรธขรึม
ผู้ชายคนนั้นก็ขมวดคิ้ว แล้วมองไปทางไป๋ยี่เฟยด้วยความไม่พอใจ
รปภ.สองคนนั้นลังเลสักนิด แต่ในที่สุดก็ยังขึ้นไปห้ามเฉินเสี่ยวเทียนและผู้ชายคนนั้น
“อีสัตว์!พวกแกกล้ามาห้ามจริงด้วย?”เฉินเสี่ยวเทียนโกรธสุดๆ”โอเค แกรอดูเถอะนะ ฉันจะให้พี่สาวฉันลงมาทันที ฉันอยากเห็นจังเลยว่า เดี๋ยวพวกแกจะต้องร้องไห้ยังไง?”
“พี่สาว คุณลงมาเป๊ะ พวกเราถูกรปภ.อีกโง่สองคนห้ามไว้ไม่ให้เข้า”เฉินเสี่ยวเทียนโทรสายไป
หลังจากวางสายแล้ว เฉินเสี่ยวเทียนก็อิ่มอกอิ่มใจมาก”พวกแกรอดูเถอะ!เดี๋ยวรอให้พี่สาวฉันลงมา พวกแกจะต้องร้องไห้แน่นอน!”
ผู้ชายใช้สายตาที่ดูถูกมองไปทางไป๋ยี่เฟยและรปภ.สองคนนั้น ดูเหมือนว่าเขารู้ชะตากรรมในอีกไม่นานนี้ของทั้งสามคนแล้ว จึงไม่ได้ใส่ใจสิ่งเล็กๆนี้เลย
รปภ.เห็นเช่นนี้ก็เริ่มหวาดกลัวอยู่ในใจอีก ภาวนาอยู่ในใจอย่างต่อเนื่องว่า ขอให้ตำแหน่งของไป๋ยี่เฟยคนนี้สูงกว่าพี่สาวในปากของผู้ชายคนนี้ ไม่นั้นพวกเขาก็ต้องซวยแล้ว
หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที หลงหลิงหลิงก็ใส่รองเท้าส้นสูงและสวมชุดสูทมืออาชีพเดินลงมา
“พี่สาว ทางนี้!”เพียงแค่ตาเดียวเฉินเสี่ยวเทียนก็มองเห็นหลงหลิงหลิง
หลงหลิงหลิงก็ได้เห็นเฉินเสี่ยวเทียนและคู่หมั้นของเธอ และได้เห็นไป๋ยี่เฟยด้วย เลยขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
รปภ.สองคนเห็นเช่นนี้ ก็รู้อยู่ในใจว่าตนเองต้องซวยแล้ว
หลงหลิงหลิงเป็นใคร ในโหวจวี๋กรุ๊ปไม่มีใครไม่รู้จัก เป็นผู้ช่วยของประธาน นอกจากประธานแล้ว เธอเป็นคนที่มีอำนาจทางวาทกรรมในบริษัทสูงที่สุด!
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกตกใจเล็กน้อย พี่สาวของเฉินเสี่ยวเทียนเป็นหลงหลิงหลิงนี่เอง พอตอนนี้มองอย่างละเอียดอีกที พวกเขาคล้ายกันจริงด้วย
หลงหลิงหลิงเดินมาทางนี้ ยังไม่ได้พูดอะไร เฉินเสี่ยวเทียนก็เริ่มฟ้อง”พี่สาว คุณดูสิ รภป.ที่บริษัทจ้างนั้นขยะขนาดไหน ไม่ห้ามไอ้บ้านนอกคนนี้ไว้ กลับไปฟังคำสั่งของมันห้ามพวกเราไว้ ไม่ให้พวกเราเข้าไป!”
“พี่สาว คุณรีบไล่ไอ้บ้านนอกคนนี้ออกไปเร็ว จากนั้นไล่รปภ.โง่เขลาสองคนนี้ออกไปด้วย!เพื่อไม่ให้ภาพลักษณ์ของบริษัทเสียหายเพราะมันสองคนนี้!”
พอเฉินเสี่ยวเทียนก่อความวุ่นวายแบบนี้ขึ้นมาเสร็จ หลงหลิงหลิงเพิ่งคิดจะพูด แต่คาดไม่ถึงว่าไป๋ยี่เฟยพูดออกมาทันที
“แกเป็นใคร?คุณคิดจะไล่ออกก็ไล่?เรื่องของโหวจวี๋จะถูกคนนอกมากล่าวว่าได้ด้วยหรือ?”ไป๋ยี่เฟยยืนอยู่ข้างหน้าของรปภ. และถ้ามเฉินเสี่ยวเทียนอย่างราบเรียบ
“ฉันเป็นคนนอก แต่พี่สาวฉันไม่ใช่!พี่สาวฉันเป็นผู้ช่วยของประธาน แกรู้ไหมว่าคือตำแหน่งอะไร?คำพูดเดียว ก็สามารถไล่คนออกไปได้!”เฉินเสี่ยวเทียนพูดอย่างไม่เกรงกลัวใดๆ
หลงหลิงหลิงกัดฟัน น้องชายอีโง่ ไม่รู้เหรอว่านี่มันเป็นการทำร้ายเธอ?
เป็นอย่างที่คาดเดาจริงด้วย ไป๋ยี่เฟยหันมามองหลงหลิงหลิง”ผู้ช่วยหลงคำพูดเดียว ก็สามารถไล่คนออกไปได้เหรอ?”
เหงื่อของหลงหลิงหลิงไหลไม่หยุด”มันขึ้นอยู่กับการแสดงออกส่วนบุคคลและความเห็นชอบของฝ่ายบุคคลค่ะ”