ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 421
บทที่ 421
ตอนที่ทุกคนกำลังต่างคนต่างวิพากษ์วิจารณ์อยู่ ประตูของห้องประชุมถูกเปิดออกแล้ว
คนทั้งหลายมองตามเสียงไป ทันทีนั้นสูญลมหายใจหนึ่งที
โอ้พระเจ้า นี่คือคนสวยมาจากที่ไหนหรือ? สวยเหลือเกิน!
ที่จริงแล้วหวังเทาที่อยู่ข้างในก่อนนั้นก็เคยเห็นหลี่เสว่ ดังนั้นก็ยังคงใจเย็นอยู่มาก แต่ในใจยังมีความตื่นตะลึงและสงสัยงงงวยไม่น้อยเหมือนเดิม
ที่นี่นะเป็นห้องประชุม คนสวยคนนี้เข้ามาทำอะไรหรือ?
หรือว่าอยากจะมาหาเขา มาหาจนถึงที่นี่เลยหรือ?
นี่ทำอย่างนี้ไม่ได้นะ! แม้ว่าจะดีใจมากที่มีคนสวยมาหาตนเองแต่ตอนนี้เป็นเวลาประชุม พูดได้อีกว่า ยังมีผู้จัดการคนใหม่คนหนึ่งที่จะมา ถูกเห็นแล้วจะไม่ดีต่อเขา
“คุณทำไมมาที่นี่เลยล่ะ?” หวังเทาลุกขึ้นมาอย่างไม่พอใจ “คุณอยากจะออกไป รอผมประชุมเสร็จก่อน ค่อยวางแผนงานให้กับคุณ”
พูดจบ สายตาของคนทั้งหลายจ้องมองไป
“นี่เป็นพนักงานมาใหม่ของบริษัทหรือ?”
“ผมทำไมไม่รู้ว่ามีพนักงานคนใหม่มาล่ะ?”
“ที่นี่เป็นห้องประชุม เดินมาผิดที่แล้วใช่หรือไม่?”
“……”
หนิวจินได้ยินเสียงถกกันของทุกคนแล้วอึ้งชะงักหนึ่งที นี่เป็นสภาพการณ์อะไรกันนะ? หรือว่าหวังเทาก็รู้จักภรรยาของประธานกรรมการหรือ? แต่ไม่ถูกนะ หวังเทายังอยากจะวางแผนงานให้กับผู้จัดการล่ะ?
หลี่เสว่หลังจากมองเห็นหวังเทาแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย และไม่ได้ตอบคำถามของหวังเทาด้วย แต่เดินตรงไปยังที่นั่งประธานของห้องประชุม
ทุกคนเห็นสภาพต่างคนต่างเงียบ ยังมีบางคนที่มีสีหน้าทนความรำคาญไม่ได้อยู่บนใบหน้า พนักงานใหม่คนนี้เป็นอะไรกันหรือ?ถึงขนาดยังกล้าเดินเข้ามาล่ะ? ฟังคำพูดไม่เข้าใจใช่หรือเปล่า?
หน้าของหวังเทาขรึมทันที “หลี่เสว่ ยังไม่รีบออกไป นี่เป็นห้องประชุม ไม่ใช่สถานที่ที่คุณควรมา”
หนิวจินหยุดชะงัก เข้าใจแล้วในฉับพลัน
อีเหี้ยยยยย หวังเทานี่เป็นคนโง่คนหนึ่งหรือ? รู้จักหลี่เสว่อาจจะรู้จักจริง แต่แม่มึงเอ่ยไม่รู้จักสถานะของหลี่เสว่ล่ะ! ถึงขนาดยังคิดว่าหลี่เสว่เป็นพนักงานใหม่!
หลี่เสว่ยืนอยู่บนที่นั่งของผู้จัดการแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะนั่งลงทันทีเลย แต่จ้องมองไปยังหวังเทาพูดอย่างราบเรียบว่า “อันดับแรก ฉันรู้ว่าที่นี่คือห้องประชุม”
“ที่สอง คนที่ไม่ควรมาสถานที่นี่ ไม่ใช่ฉัน แต่เป็นคุณ!”
พูดจบ คนบางคนเสียงดังขึ้นฉับพลันในทันที วันนี้เป็นวันที่ผู้จัดการคนใหม่มาอยู่ประจำตำแหน่ง อีกทั้งก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งด้วย มองดูลักษณะพลังที่เธอพูดกลับจุดที่เขายืนอยู่ ในฉับพลันนั้นคาดเดาได้ถึงสถานะของหลี่เสว่แล้ว
แต่ว่าหวังเทายังไม่ทันมีปฏิกิริยาขึ้นมา หลังจากได้ยินคำพูดหลี่เสว่ก็โมโหแล้ว “ผมคือรองผู้จัดการของบริษัท สถานที่ใดๆของบริษัทผมล้วนไปได้ คุณเป็นพนักงานใหม่คนหนึ่ง ไม่มีคนอื่นอยู่ในสายตาเกินไป จิตสำนึกของระดับบนล่างสักนิดก็ไม่มี!”
“พนักงานอย่างคุณแบบนี้พวกเราเอาไว้ไม่ได้!”
“แน่นอน ถ้าหากว่าคุณยินยอมที่จะทำการเปลี่ยนแปลง ผมก็ยังสามารถเก็บคุณไว้อยู่ข้างๆผมได้ ไม่อย่างนั้นละก็ คุณก็มีแต่ออกจากบริษัทของพวกเรา!”
คนที่คาดเดาถึงสถานะของหลี่เสว่ ต่างคนต่างชำเลืองตามอง มีคนที่เห็นใจยังมีคนที่อยากจะแอบให้สัญญาณแก่หวังเทา แต่หวังเทาล้วนมองไม่เห็น
หลี่เสว่หัวเราะเย็นชาเสียงหนึ่ง “เป็นรองผู้จัดการของบริษัท แต๊ะอั๋งพนักงานหญิงในบริษัท ไม่เคารพต่อผู้นำ ไม่มีจิตสำนึกระดับบนล่างแม้แต่น้อย พนักงานอย่างคุณแบบนี้ บริษัทเอาไว้ไม่ได้”
เธอคืนคำพูดให้แก่หวังเทาหมดเลย
หวังเทาฟังจนอึ้งชะงักแล้วอึ้งชะงักอีก ตอบสนองไปแล้วสักพัก อยู่ดีๆเบิกตาโพลงทั้งคู่ จ้องมองหลี่เสว่ด้วยใจที่วุ่นวาย
เวลานี้ในที่สุดหวังเทาก็คาดเดาได้ถึงสถานะของหลี่เสว่แล้ว นึกถึงคำที่ก่อนหน้านั้นพูดอยู่ในลิฟต์กับเมื่อกี้ที่อยู่ในห้องประชุม หวังเทาแทบอยากจะตบหน้าของตนเองสองทีใจจะขาด
แต๊ะอั๋งใครก็ได้ แต๊ะอั๋งผู้จัดการที่มาใหม่ เมื่อกี้ยังใช้คำพูดที่มีน้ำเสียงกดอัดคนแบบนั้นอีก เป็นการไปหาความตายจริงๆ เลย!
หลี่เสว่ไม่มองหวังเทาอีก แต่พูดกับทุกคนว่า “สวัสดีทุกๆคน ฉันชื่อว่าหลี่เสว่ ผู้จัดการที่มาใหม่”
“ก่อนที่จะมา ฉันได้ทำความเข้าใจคร่าวๆกับบริษัทแล้ว แต่ฉันคิดไม่ถึงว่า พนักงานของบริษัทจะเป็นแบบนี้ อีกทั้ง ยังเป็นผู้นำคนหนึ่ง”
“บริษัทเป็นสถานที่เพื่อจะสร้างผลประโยชน์กับความล้ำค่า แต่ไม่ใช่เป็นสถานที่ที่เอามาให้ความบันเทิงฆ่าเวลาแก่ตนเอง ถ้าหากว่าผู้นำทุกคนล้วนเป็นอย่างหวังเทาแบบนี้แต๊ะอั๋งพนักงานหญิง อีกทั้ง ใช้กติกาซ่อนเร้นกับพนักงานหญิง งั้นบริษัทก็ไม่จำเป็นต้องเปิดอีกต่อไปแล้ว!”
“เปิดเป็นสถานบันเทิงสักแห่งเสียเลยก็แล้วๆไป!”
“ดังนั้น เรื่องที่ฉันจะทำเป็นเรื่องแรก ก็คือทำการกวาดล้างบริษัท ขอให้เป็นคนที่มีความคิดลามก ล้วนไสหัวออกไปจากบริษัทให้หมด!”
พูดจบ ในใจคนทั้งหลายดังกุ๊กๆเสียงหนึ่ง ไม่ได้เนื่องเพราะตนเองมีความคิดลามก แต่เนื่องเพราะลักษณะพลังของหลี่เสว่
อย่างนี้ดูแล้ว ผู้จัดการที่มาใหม่คนนี้จะไม่ใช่เจ้านายที่ถูกรังแกได้ง่ายแบบนั้นอย่างแน่นอน วันหลังจะต้องซื่อตรงหน่อย
แน่นอน คนบางคนคงไว้ด้วยจิตใจยังคงโชคดีอยู่ คิดว่านี่เพียงแค่เจ้าหน้าที่ใหม่ไฟแรง รอไฟนี้ผ่านไปแล้ว วันหลังจะเป็นเช่นไร ยังพูดได้ไม่แม่นล่ะ!
ทันทีที่หวังเทารู้จักสถานะของหลี่เสว่นั้นกลายเป็นประจบขึ้นมา “เรื่องนั้น ประธานหลี่ ผมก็คือหยอกล้อกับท่านล่ะ ท่านอย่าคิดว่าเป็นเรื่องจริงอย่างเด็ดขาด…….”
หลี่เสว่ตอบกลับอย่างราบเรียบว่า “คุณคิดว่าฉันเป็นคนโง่หรือ?อยู่ในลิฟต์ คุณคิดว่าฉันเป็นพนักงานที่มาใหม่ของบริษัท ก็พูดจาแทะโลม อีกทั้งยังอยากจะใช้กติกาซ่อนเร้นกับฉัน รู้ว่าฉันเป็นผู้จัดการแล้ว ก็บอกว่าเป็นเรื่องหยอกล้อหรือ?”
สีหน้าของหวังเทาดูไม่ดีในทันที อึดอัดใจเหลือเกิน “ประธานหลี่…….ผม…….”
“ไม่ต้องพูดแล้ว คำพูดเมื่อกี้ฉันไม่อยากพูดครั้งที่สอง” หลี่เสว่ตัดคำหวังเทาเลย “เชิญคุณตอนนี้ ทันทีนี้ ออกจากบริษัทเดี๋ยวนี้ คุณถูกฉันไล่ออกแล้ว”
“ประธานหลี่!” หวังเทาเบิกตาโพลงทั้งคู่ “ประธานหลี่ คุณทำเช่นนี้ เด็ดขาดเกินไปแล้วใช่หรือไม่?”
“ผมมีความชอบเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้สร้างผลเสียกับบริษัทเลย คุณมีสิทธิอะไรที่จะไล่ผมออกหรือ?”
หลี่เสว่พูดราบเรียบว่า “ก็เป็นสิทธิที่ฉันคือผู้จัดการของบริษัท แต่คุณ เป็นเพียงแค่รองผู้จัดการคนหนึ่งเท่านั้น”
“ประธานหลี่ คุณอยากจะใช้อำนาจกดข่มพวกเขาสักหน่อยหรือ?” หวังเทาก็คิดว่าเข้าใจแล้วด้วย วันนี้เป็นตนเองซวยได้พบเจอกับหลี่เสว่ แต่เขาอยู่ในบริษัทนี้นานขนาดนี้แล้ว ทำจนถึงอยู่ในที่นั่งของรองผู้จัดการได้อย่างไม่ง่ายเลย เขาไม่อยากเสียงานนี้เลย
“คุณสามารถดำเนินการปรับปรุงกับบริษัทได้ แต่ไม่จำเป็นว่าทันทีที่มาถึงก็ลงมือกับผม!”
คำพูดของหวังเทาพูดอย่างตรงไปตรงมา บางคนที่มีความสัมพันธ์ดีกับ หวังเทาต่างคนต่างพยักหน้ายังเอ่ยปากห้ามปราม
“ประธานหลี่ รองประธานหวังอยู่ในบริษัทนานมากแล้ว ทำงานอยู่ในบริษัทก็เหนื่อยทั้งใจเหนื่อยทั้งกายด้วย ไล่เขาออกไม่เหมาะสมจริงๆ”
“ใช่สิ ประธานหลี่ล้วนเป็นผู้ชาย มีความชอบเล็กน้อยล้วนเป็นธรรมดาด้วย วันหลังเจียมตัวสักหน่อยก็พอแล้ว”
“อยู่ในบริษัท เพียงแค่ตั้งใจทำงาน สร้างผลประโยชน์ก็พอแล้ว ที่จริงแล้วที่เหลือล้วนไม่จำเป็นต้องถือสาขนาดนั้น”
“……”
หลี่เสว่ฟังคำพูดของคนเหล่านี้อยู่ ไม่ได้ตอบกลับ
หนิวจินมีความเป็นห่วงเล็กน้อย ถ้าบังเอิญคนเหล่านี้ร่วมมือต่อต้านหลี่เสว่ด้วยกัน งั้นหลี่เสว่จะไม่ใช่ต้องถูกรังแกหรือ? จากนั้นถ้าถูกท่านประธานกรรมการรู้อีกล่ะ เขาคนนี้ที่ถูกย้ายมาคาดว่าจะต้องกระทำการใดต้องคำนึงถึงผลที่จะตามมาด้วย
“ผมเห็นด้วยกับคำพูดที่ประธานหลี่พูด” หนิวจินเอ่ยปาก “บริษัทที่ดีแห่งหนึ่ง กระแสความนิยมเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ท่าทีการทำงานเช่นนี้ ไม่เหมาะสมกับบริษัทจริงๆ”
พูดจบ ทุกคนล้วนคิดว่าหนิวจินก็เป็นคนที่มาใหม่เช่นกันอย่างเป็นธรรมชาติดังนั้นคิดอยากจะเหนี่ยวเกาะประธานหลี่ที่มาใหม่ จึงเอ่ยปากช่วยประธานหลี่
หวังเทาเห็นสภาพขมวดคิ้วขึ้นมา จากนั้นพูดอีกว่า “ประธานหลี่ คุณจะไล่ผมออกจริงๆหรือ? คุณคิดดีแล้วหรือ? ผมไม่เพียงแค่เป็นรองผู้จัดการยังเป็นผู้นำของแผนการขาย”
“ในมือของผมนะ จับกุมทรัพยากรของลูกค้าส่วนใหญ่ ถ้าหากคุณใจเด็ดที่จะไล่ผมออก งั้นผมก็จะพาลูกค้าทั้งหมดออกไปด้วยเลย!”
นี่ถือว่าคุกคาม ก็เป็นเช่นนั้นด้วยจริงๆ ทรัพยากรลูกค้าที่อยู่ในมือของผู้นำแผนการขายคนหนึ่ง เทียบกับทรัพยากรของพนักงานการขายทั่วไปมากกว่าเยอะเลย
ถ้าหากว่าเขาเอาทรัพยากรไปหมดเลย งั้นบริษัทจะสูญเสียลูกค้าเป็นชุดใหญ่ ถึงเวลานั้น บริษัทได้ไม่คุ้มเสียล่ะ!
คนทั้งหลายได้ยินหวังเทาพูดเช่นนี้ ก็นั่งไม่อยู่แล้วเช่นกัน
“ประธานหลี่ ก็ให้รองประธานหวังอยู่ต่อเถอะ!”
“ใช่สิประธานหลี่ ทรัพยากรส่วนใหญ่ของบริษัทเราล้วนอยู่กับรองประธานหวัง ที่นั่น ถ้าหากว่าเอาไปหมดแล้ว บริษัทจะบริหารอีกต่อไปได้ยังไง? พูดได้อีกว่า ไปหาลูกค้าใหม่อีก จะต้องใช้พลังคนพลังวัตถุอย่างมากมาย กลัวว่าต้านทานไม่ไหวล่ะ!”
“จะไม่ใช่หรือ? ประธานหลี่ คิดอีกทีเถอะ!”
หวังเทาเห็นสภาพยิ้มอย่างภูมิใจแล้ว เป็นผู้จัดการมาใหม่คนหนึ่ง อยู่ในบริษัทไม่มีความสัมพันธ์ใดๆเลย อยากจะไล่รองผู้จัดการอย่างเขาคนนี้ออก เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้!
ถึงแม้ว่าเธอไม่ชอบเขาขนาดไหน ก็เป็นไปไม่ได้จะให้บริษัทตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ด้วย ไม่งั้นละก็ เธอจะเป็นผู้จัดการได้ยังไงหรือ ล้มละลายแล้วๆไปเสียเลย!
หลี่เสว่ไร้สีหน้า ในใจกลับมีความตื่นเต้นเล็กน้อย ไม่ได้เนื่องเพราะหวาดกลัวแต่เนื่องเพราะตื่นเต้นดีอกดีใจ จะพูดยังไงดีล่ะ เธอเผชิญหน้ากับสภาพการณ์เช่นนี้ไม่ใช่ครั้งแรกแล้ว เนื่องเพราะเธอมีความจำตอนที่เธอเป็นเด็กช่วงนั้น
ในเวลานั้น เธอใจเด็ดรีบไปเป็นภรรยาของประธานกรรมการแบบนั้นล่ะ อีกทั้งในเวลานั้นยังมีไอคิวเพียงแค่ห้าหกขวบเท่านั้น ฟังไม่เข้าใจว่าคำพูดของคนเหล่านั้นพูดอะไรอยู่
แต่คณะกรรมการเหล่านั้นในเวลานั้น ยังมีคำพูดที่ยกตนข่มท่านของเย่อ้ายพวกเขา เธอยังมีภาพแห่งความทรงจำนั้นอยู่ บัดนี้ สิ่งเหล่านี้ที่เผชิญหน้าในวันนี้ กับสภาพการณ์ของวันนั้น ไม่คุ้มค่าที่จะเอ่ยถึง
พูดขึ้นมาแล้ว ในเวลานั้นไป๋ยี่เฟยเนื่องเพราะโดนยาพิษล้วนใกล้จะตายแล้ว ยังรีบมาช่วยเธอ ใจเจ็บปวดด้วยจิตใต้สำนึกขึ้นมาหนึ่งที และนึกขึ้นมาได้ว่าไป๋ยี่เฟยตอนนี้อยู่ที่ไหนอีก ใจลอยไปหนึ่งทีโดยไม่รู้สาเหตุ
ตอนที่รอให้คืนสติ ทุกคนล้วนจ้องมองเธออย่างเงียบๆอยู่