ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 428
บทที่ 428
หลังจากไป๋ยี่เฟยรีบไปถึงโรงแรมพุ่งตรงไปยังห้องนอน มองเห็นบอดี้การ์ดทั้งสองยืนอยู่นอกประตู ไม่พูดสักคำ เข้าไปก็เตะสองที
บอดี้การ์ดสองคนยังไม่ทันมีปฏิกิริยา ก็ถูกไป๋ยี่เฟยหนึ่งคนหนึ่งทีเตะลอยไปเลย
ไป๋หู่ที่ตามมาทีหลังมีความตกตะลึงจนอ้าปากค้างเล็กน้อย
รู้ว่าในหนึ่งเดือนนี้ไป๋ยี่เฟยไปฝึกฝนแล้ว แต่ไม่รู้ว่าไป๋ยี่เฟยฝึกฝนอะไรอยู่เลย แต่เห็นในปัจจุบันนี้ ผลการฝึกฝนของไป๋ยี่เฟยดีมาก
ตามเมื่อก่อน จะให้ไป๋ยี่เฟยหนึ่งทีเตะลอยหนึ่งคน นั่นก็เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
“ปั้ง!”
อีกหนึ่งทีไป๋ยี่เฟยเตะประตูห้องออก
ในห้อง เฝิงหย่งก้างกำลังหมอบอยู่บนกายของหลี่เสว่ กระชากเสื้อของหลี่เสว่อยู่ หลี่เสว่ร้องอยู่ ดิ้นรนอยู่อย่างหมดหนทาง
หลังจากไป๋ยี่เฟยเห็นฉากนี้แล้ว ตาทั้งคู่แดงขึ้นในฉับพลัน
หลังจากเฝิงหย่งก้างได้ยินเสียงหมุนตัวไป กำลังจะซักถามว่าคือใครรบกวนความสุขเปี่ยมล้นของเขา ไป๋ยี่เฟยสองสามเก้าเดินเข้าไป มือหนึ่งจับไหล่ของเฝิงหย่งก้างไว้ อีกมือหนึ่งตบไปหนึ่งที
“เพี๊ยะ!”
เสียงดังมาก พลังแรงมาก
“อ่า!”
เฝิงหย่งก้างร้องน่าเวทนาเสียงหนึ่ง มุมปากมีเลือดไหล ถ้าหากว่าไม่ใช่ไป๋ยี่เฟยกดทับเขาไว้ เป็นไปได้อาจจะนั่งอยู่บนพื้นโดยตรงแล้ว
ตบไปหนึ่งฝ่ามือยังไม่พอ ไป๋ยี่เฟยยกมือขึ้นอีกครั้ง
“มึง……..”
“เพี๊ยะ!”
“กู…….”
“เพี๊ยะ!”
“เพี๊ยะ!”
“……”
ไป๋ยี่เฟยเหมือนดั่งถูกปีศาจควบคุม ตบหน้าเฝิงหย่งก้างไม่หยุด หน้าของเฝิงหย่งก้างก็เริ่มค่อยๆมีเลือดไหลด้วย บวมขึ้นมาอย่างมาก
หลี่เสว่ที่อยู่บนเตียงน้ำตาไหล ตอนที่เห็นไป๋ยี่เฟยในเวลานั้น เธอได้เห็นความหวังใหม่อีกครั้ง
ในเวลานี้ บอดี้การ์ดที่ถูกไป๋ยี่เฟยเตะลอยไปนั้นเข้ามาแล้ว
แต่น่าเสียดาย ไป๋หู่เฝ้าอยู่ข้างประตู หนึ่งหมัดหนึ่งคน ซ้อมคนจนพิการโดยตรง หมอบอยู่บนพื้นจะลุกขึ้นมาล้วนไม่ไหว
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ในที่สุดไป๋ยี่เฟยก็หยุดมือแล้ว
ใบหน้าของเฝิงหย่งก้างบวมจนดูหน้าตาไม่ออกแล้ว ก็เหมือนดั่งคำพูดนั้น: ตบจนพ่อแม่ของคุณล้วนจำคุณไม่ได้!
ไป๋ยี่เฟยหอบอยู่ เตะโดนน้องชายของเฝิงหย่งก้างหนึ่งที
“อ่า!”
เสียงร้องน่าเวทนาร้องเสียงนี้เห็นสภาพคือเจ็บถึงหัวใจ ใจฉีกปอดขาด เจ็บปวดจนแทบไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป
จากนั้น เฝิงหย่งก้างล้มสลบไปเลย
ไป๋ยี่เฟย ฮึ เย็นชาเสียงหนึ่ง จากนั้นเดินไปยังข้างกายของหลี่เสว่ ถอดเสื้อคลุมของตนเองออก สวมอยู่บนกายของหลี่เสว่
“สามีจ๋า……….”
หลี่เสว่กอดไป๋ยี่เฟยไว้ทันที ร้องไห้เสียงดังอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ
ไป๋ยี่เฟยเจ็บปวดใจเหลือเกิน แทบอยากจะดึงเฝิงหย่งก้างไอ้เหี้ยคนนั้นขึ้นมาทุบตีอีกหนึ่งยกใจจะขาด
“ไม่เป็นไรแล้ว ไม่เป็นไรแล้ว……..” ไป๋ยี่เฟยปลอบโยนด้วยเสียงเบาๆอยู่
หลี่เสว่กอดไป๋ยี่เฟยไว้ไม่ยอมปล่อยมือ อยู่ในก่อนหน้านั้นที่ไป๋ยี่เฟยยังไม่มา เธอสิ้นหวังแล้วจริงๆ อีกทั้งยังคิดว่า เธอถูกเปรอะเปื้อนแล้ว เธอไม่มีหน้าที่จะเผชิญกับไป๋ยี่เฟย รอหลังจากเสร็จแล้ว เธอจะฆ่าตัวตายโดยตรง
โชคดี ไป๋ยี่เฟยมาทันเวลา
ไป๋ยี่เฟยก็ยังเหมือนดั่งแต่ก่อน เพียงแค่เธอเจอกับอุปสรรค เจอกับอันตราย เขามักจะรีบมาเป็นคนแรก แก้ไขปัญหาให้กับเธอ ช่วยเธอ
ปลอบโยนไปสักพัก อารมณ์ของหลี่เสว่สงบเล็กน้อยแล้ว ก็เลยรู้สึกเขินถอยออกจากอ้อมอกของไป๋ยี่เฟย
“พวกเรากลับบ้านกัน”
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้ไปสนใจเฝิงหย่งก้าง เขาทุบตีหนึ่งยกไปแล้ว ความโมโหตอนนี้ระบายออกแล้ว แต่จากนี้ไป เขาจะทำให้เฝิงหย่งก้างรู้ แตะต้องผู้หญิงของเขาไป๋ยี่เฟย จะต้องเจอกับสภาพอะไร!
ไป๋หู่ขับรถ ส่งไป๋ยี่เฟยกับหลี่เสว่กลับบ้าน
ทันทีที่หลี่เสว่กลับถึงก็พุ่งไปยังห้องน้ำ ขยี้ตนเองอย่างรุนแรงอยู่ภายใต้น้ำไหล อยากจะขยี้ความรู้สึกที่ขยะแขยงแบบนั้นออกไป
ไป๋ยี่เฟยอยู่ในเวลานี้โทรหาจางหัวปิน
“ไปสืบเฝิงหย่งก้างคนนั้นให้ผมดีๆ”
จางหัวปินขานรับ “อีกสักครู่จะส่งข้อความให้คุณ”
วางสายลง ไป๋ยี่เฟยนั่งอยู่ห้องรับแขก ดวงตาขึงลับ หลี่เสว่คือเส้นตายของเขา กลับมักจะมีคนชอบมาเตะต้องเส้นตายของเขา เขาจะอดทนไหวได้ยังไงหรือ?
ยังมี หนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ ไม่รู้ว่าสภาพการณ์ในตอนนี้เป็นยังไงแล้ว เขาต้องการรู้ข่าวใหม่ที่สุด จึงสามารถวางแผนก้าวต่อไปจะเดินยังไง
ในเวลาวิกฤตินี้ เขาต้องการไปพบกับคนคนหนึ่งก่อน……
หลังจากหลี่เสว่อาบน้ำเสร็จออกมา ไป๋ยี่เฟยอาบน้ำเสร็จอยู่อีกห้องหนึ่งแล้ว ในเวลานี้กำลังนั่งอยู่ข้างเตียงเล่นมือถืออยู่ ตามความจริงคือกำลังอ่านเอกสารที่จางหัวปินส่งให้เขาเมื่อกี้
หลังจากไป๋ยี่เฟยมองเห็นหลี่เสว่ออกมา ก็ไม่ดูมือถือแล้วด้วย แต่คือดึงหลี่เสว่นอนอยู่บนเตียง
หลี่เสว่ดิ้นรนเล็กน้อย ยังมีความกลัวเล็กน้อย
เดิมทีไป๋ยี่เฟยคิดอยู่ ทั้งเดือนตนเองล้วนไม่ได้เจอภรรยาแล้ว นี่อยู่ห่างกันช่วงสั้นเพื่อพบกันอีกจะยิ่งรักกันมากกว่าเพิ่งแต่งงาน แน่นอนจะต้องพะเน้าพะนอสักหน่อยแล้ว แต่จอบไปจอบมาพบเห็นว่าหลี่เสว่มีความผิดปกติเล็กน้อย หยุดทำทันที
หลี่เสว่มีความสั่นระริกเล็กน้อยพูดว่า “ฉัน……ฉันกลัว …….”
พูดจบ ดวงตาของไป๋ยี่เฟยขึงลับในฉับพลัน เฝิงหย่งก้างที่สมควรตาย แม่มึงเอ่ยทำให้หลี่เสว่เกิดการต่อต้านกับเรื่องนี้แล้ว พรุ่งนี้กูไม่ไปสั่งสอนเขาก็ไม่ใช่นามสกุลไป๋!
บนใบหน้ากลับพูดว่า “งั้นพวกเรานอนเถอะ!”
หลี่เสว่เห็นสภาพมีความรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่เพิ่งประสบกับเรื่องแบบนั้น เงามืดที่อยู่ในใจยังอยู่ ดังนั้นจะเกิดการต่อต้านและหวาดกลัวโดยจิตใต้สำนึก
ไป๋ยี่เฟยก็เข้าใจถึงความรู้สึกของหลี่เสว่ด้วย เจ็บปวดใจอย่างมาก อีกทั้งยังแอบด่าตนเองเหมือนดั่งเดรัจฉาน จากนั้นก็กอดหลี่เสว่ไว้อย่างซื่อตรงนอนหลับแล้ว
……
ตอนเช้าตื่นนอน ทั้งสองคนกินอาหารเช้าเสร็จ ไป๋ยี่เฟยส่งหลี่เสว่ไปบริษัทก่อน กลับไม่ได้ไต่ถามว่าบริษัทของหลี่เสว่เป็นยังไงแล้วเลย
หลี่เสว่ก็รู้สึกเกรงใจจะพูดเรื่องเหล่านี้กับไป๋ยี่เฟยด้วย มักจะรู้สึกว่าทุกครั้งล้วนพึ่งพาอาศัยเขาตลอดไม่ได้
หลังจากไป๋ยี่เฟยส่งหลี่เสว่เสร็จแล้วไปร้านกาแฟแห่งหนึ่งก่อน ที่นั่นนัดคนคนหนึ่งไว้
ในมุมร้านกาแฟ ผู้ชายผอมๆคนหนึ่งดื่มกาแฟอย่างรู้สึกเซ็งมากอยู่
ไป๋ยี่เฟยเดินเข้าไปนั่งลงโดยตรง ก็ไม่ได้สั่งกาแฟเช่นกัน
“นานแล้วไม่ได้พบกัน”
คนที่อยู่ข้างหน้าอึ้งชะงักไปสักพัก จึงมีปฏิกิริยาขึ้นมา “ใช่นานแล้วไม่ได้พบกัน คุณล้วนเปลี่ยนไปแล้ว”
ไป๋ยี่เฟยพยักหน้าอย่างราบเรียบ “ใช่แล้ว วันนี้ให้คุณเข้ามา ก็คืออยากให้คุณติดต่อเหลียงหมิงเยว่ว่าผมเปลี่ยนไปแล้วสักหน่อย ”
ใช่สิ คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเป็นหยางหนิว คนของเหลียงหมิงเยว่สหพันธ์ธุรกิจเมืองหลวง