ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 439
บทที่ 439
ไป๋ยี่เฟยวางสายแล้ว สีหน้าขึงลับพูดกับจางหัวปินว่า “ผมยังมีธุระ รอพี่สะใภ้ออกมาไม่ได้แล้ว คุณดูแลพี่สะใภ้ให้ดีๆนะ”
จางหัวปินรู้ว่าเมืองเทียนเป่ยเกิดเรื่องแล้ว ดังนั้นพยักหน้า “พวกเราเสร็จแล้วก็จะกลับไปทันทีเช่นกัน”
จากนั้นไป๋ยี่เฟยกับหลิวเสี่ยวอิงสบตากันหนึ่งที หมุนตัวออกจากโรงพยาบาลหลวงอย่างรวดเร็ว
เมื่อกี้สวีลั่งโทรบอกเขาว่าตอนเที่ยงหลี่เสว่ไปกินข้าวที่บ้านหลิวจื่อหยุนหลังจากกลับมาถึงคฤหาสน์ของตนเองโดนคนล้อมรอบแล้ว แต่โชคดีสวีลั่งกับไป๋หู่พบเห็น จัดการคนที่อยู่ข้างนอกเหล่านั้น
แต่ยังมีอีกคนหนึ่ง อาจจะต้องการให้ไป๋ยี่เฟยออกมาจัดการด้วยตนเอง
ไป๋ยี่เฟยร้อนใจมาก สวีลั่งไม่ได้บอกกับเขาว่าคนนั้นคือใครเลย ดังนั้นจำเป็นต้องรีบกลับไปทันที เขาไม่อยากให้หลี่เสว่มีอันตราย
ระหว่างทาง หลิวเสี่ยวอิงเองไม่ได้พูดอะไรกับไป๋ยี่เฟยเลย
แต่ว่าก่อนขึ้นรถหลิวเสี่ยวอิงโทรหาเฝิงจั๋ว ให้เขารออยู่ข้างถนนก่อน
อย่างรวดเร็ว ไป๋ยี่เฟยมองเห็นเฝิงจั๋วที่อยู่ข้างถนน เพราะว่าต้องไปทำงานที่เมืองข้างเคียง เฝิงจั๋วนำกระเป๋าใหญ่หนึ่งใบ ใส่เสื้อผ้ากับของใช้ประจำวันของเขา
“ขึ้นรถ”
เฝิงจั๋วโยนกระเป๋าเป้เข้าไปในหลังรถ ตัวเองก็เข้าไปนั่งเช่นกัน ยังตื่นเต้นดีอกดีใจเต็มใบหน้าด้วย “คิดไม่ถึงผมยังมีวันที่จะได้นั่งรถแพงขนาดได้ โชคดีเหลือเกิน”
“มีอนาคตหน่อยได้ไหม?” หลิวเสี่ยวอิงอารมณ์ไม่ดีพูดว่า “ยิ่งแพงกว่านี้ก็ยังมี!”
เฝิงจั๋วแฮ่ๆหัวเราะหนึ่งที “ผมก็คือไม่เอาไหนไง ไม่งั้นก็จะไม่ต้องอาศัยการขายยาเลี้ยงดูชีวิตแล้ว”
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้พูด เพราะว่าเขาเป็นห่วงหลี่เสว่ ในเวลาเดียวกัน ก็ได้นึกถึงที่เจอการดักฆ่าในเมื่อกี้ที่อยู่ในร้านบะหมี่เล็กๆด้วย เขากำลังคิดว่า จะเป็นกลุ่มเดียวกันใช่หรือไม่?
ถ้าหากว่าใช่ เขารู้สึกว่าไม่จำเป็นเลย สาวน้อยคนนั้นมีความเกี่ยวข้องกับฉุงโยวเวย ถ้าไม่อย่างนั้น จะฆ่าก็ต้องมาฆ่าเขา เกี่ยวอะไรกันกับเสว่เอ๋อล่ะ?
หรือว่าในใจเธอบิดเบี้ยวจนจะฆ่าหลี่เสว่แล้ว จะทำให้เขาไป๋ยี่เฟยก็ได้ลิ้มรสถึงความเจ็บปวดทรมานที่คนรักที่สุดโดนคนฆ่าหรือ?
นึกถึงที่นี่ เหงื่อเต็มหลังของไป๋ยี่เฟย ถ้าหากว่าเป็นเช่นนี้จริงๆ งั้นในตอนนี้หลี่เสว่ย่อมอันตรายมากอย่างแน่นอน
ในฉับพลันนั้นไป๋ยี่เฟยเพิ่มความเร็วรถถึงขีดสุด ทำให้เฝิงจั๋วตกใจจนสีหน้าซีดเผือด ล้วนไม่กล้าพูด
หลิวเสี่ยวอิงนั่งอยู่ข้างคนขับ จ้องมองไป๋ยี่เฟยหนึ่งทีเตือนสติพูดว่า “อย่าเป็นว่าเสว่เอ๋ออยู่บ้านดีๆ คุณกลับตายอยู่บนถนนแล้วล่ะ”
“พี่สาวน้อย ปากของคุณรุนแรงมากนะ!” เฝิงจั๋วอดไม่ได้เอ่ยปากพูดคำหนึ่ง
หลิวเสี่ยวอิงลืมตาขาวจ้องมองเขาหนึ่งทีจากกระจกหลัง “เกี่ยวเหี้ยอะไรกับคุณ!”
……
เดิมทีที่ต้องใช้ระยะทางสองชั่วโมงกว่า โดนไป๋ยี่เฟยขับเหลือชั่วโมงครึ่งอย่างฝืนๆ
ในที่สุดก็ถึงคฤหาสน์หลันโปกั่ง ไป๋ยี่เฟยให้หลิวเสี่ยวอิงพาเฝิงจั๋วไปโรงพยาบาลโว่หลง ตนเองจึงขับรถกลับไปที่คฤหาสน์
สายตาไป๋ยี่เฟยมองเข้าไป ไต่ถามไป๋หู่กับสวีลั่ง
สวีลั่งพูดอย่างราบเรียบว่า “เข้าไปดูเองเถอะ!”
ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าเขาใบ้อะไรอยู่ แต่ว่าดูลักษณะแล้ว หลี่เสว่ปลอดภัยอยู่เป็นเวลาชั่วคราว
ไป๋ยี่เฟยผลักประตูออกเดินเข้าไป พบเห็นหลี่เสว่กำลังนั่งอยู่บนโซฟา และฝั่งตรงข้ามของเธอมีคนหนึ่งที่เขาคาดคิดไม่ถึงนั่งอยู่ ไม่ ก็ไม่ถูก นอกเหนือจากการคาดคิด อยู่ภายใต้เหตุผลและน้ำใจ
“หวังโหลว” ไป๋ยี่เฟยเรียกเสียงหนึ่งเสียงเย็นชา เดินไปยังข้างกายหลี่เสว่
หลี่เสว่เห็นไป๋ยี่เฟยกลับมาแล้ว หัวใจที่แขวนวางกลับไปในท้องแล้ว “คุณกลับมาแล้วหรือ? ไม่มีอะไรใช่ไหม?”
“ผมไม่มีอะไร” ไป๋ยี่เฟยส่ายหัว จากนั่นนั่งอยู่ข้างๆหลี่เสว่ จ้องมองหวังโหลว
หวังโหลวไม่เหมือนกันกับแต่ก่อนแล้ว แต่ก่อนทันที่ที่มองไปก็จะรู้สึกว่าคนคนนี้ซื่อตรงใสสะอาด แต่ว่าตอนนี้ ความรู้สึกที่ให้คนกลับเป็นขึงลับและมองไม่ออก
หวังโหลวไม่สนใจการพินิจพิเคราะห์ของไป๋ยี่เฟย ในเวลาเดียวกันดูเหมือนไม่มีความประหลาดใจต่อไป๋ยี่เฟยที่อยู่ดีๆปรากฏตัวเลย เพียงแค่พูดอย่างราบเรียบว่า “ผมมาเยี่ยมพี่สะใภ้หน่อย”
“เสว่เอ๋อเป็นภรรยาของผม ไม่จำเป็นต้องให้คุณมาเยี่ยม!” ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างรุนแรง ตอนนี้เขายังจำได้ว่าผู้หญิงคนนั้นพูดถึงหวังโหลว เป็นหวังโหลวให้ข่าวกรอง คนเหล่านั้นจึงรู้เบาะแสของเขา เข้าไปดักฆ่าเขา!
หวังโหลวหยุดชะงัก หัวเราะขมหนึ่งที อยากจะพูดอะไร กลับถูกไป๋ยี่เฟยตัดคำ “ผมเหนื่อยแล้ว จะต้องพักผ่อน ไม่ส่งแล้ว”
“รู้แล้ว” หวังโหลวลุกขึ้นมา จ้องมองไป๋ยี่เฟยหนึ่งทีอย่าลึกล้ำ นี่จึงออกไป
หลี่เสว่มีความสงสัยงงงวยเล็กน้อย หวังโหลวกับไป๋ยี่เฟยไม่ใช่เป็นเพื่อนกันเหรือ?ทำไมเป็นแบบนี้ละ?
“พวกคุณ……เป็นยังไงกันแล้วหรือ?” หลี่เสว่ถามไปคำหนึ่ง
ไป๋ยี่เฟยได้ยินคำพูดขยี้ระหว่างคิ้ว ขยี้แล้วขยี้อีก ส่ายหัวต่อๆกัน“ไม่มีอะไร เมื่อกี้เขามาทำอะไรล่ะ?”
หลี่เสว่ตอบกลับว่า “ก็แค่มาพูดคุยเป็นเพื่อนกับฉันสักพัก”
ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้ว เขายังจำได้ว่าตอนนั้นอยู่ในโรงเรียน ความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดก็คือพวกเขาทั้งสอง จากนั้นเข้าสู่สังคม การประสบพบของพวกเขาก็ไม่แตกต่างกันมาก มีความปรารถนามุ่งมาดเต็มอกเปล่าๆ กลับไม่มีหนทาง พบเจอแต่กับอุปสรรค
จนถึงเขานั่งอยู่บนที่นั่งของประธานกรรมการโหวจวี๋กรุ๊ป เขาให้โอกาสหวังโหลว ให้เขาก่อตั้งคริสทัลกรุ๊ป มีตำแหน่งกับสถานะในตอนนี้
แต่ว่า ทุกอย่างล้วนเปลี่ยนไปแล้ว เขาไม่รู้ว่าหวังโหลวเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เปลี่ยนจนเขาไม่รู้จักแล้วอีกทั้งยังไม่ดีต่อเขา
ตอนนี้นึกขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก่อนมีประเด็นสำคัญที่นึกไม่ออกเล็กน้อยล้วนนึกออกแล้ว ส่วนประเด็นสำคัญที่สุดก็คือหวังโหลว เขาดูแล้วเหมือนไม่ค่อยมีอะไร กลับเกิดผลถึงจุดที่สำคัญที่สุด ยิ่งมากกว่านี้ มีบางเรื่อง ก็คือเขาผลักดันอยู่เบื้องหลัง
วันนี้เขามาที่นี่เพราะว่าคือการเยี่ยมหลี่เสว่ เขาไม่เชื่ออย่างเด็ดขาด แต่ก่อนมีเวลามากมายขนาดนั้นไม่มา จงใจมาวันนี้ จะบอกว่าไม่มีปัญหา เป็นไปไม่ได้!
“คุณจะไปบริษัทใช่ไหม?” ไป๋ยี่เฟยข้ามปัญหานี้
หลี่เสว่พยักหน้า “อืม ฉันต้องไปแล้ว”
“งั้นก็รีบไปเถอะ ผมพักผ่อนสักหน่อย”
……
ไป๋ยี่เฟยนอนอยู่บนโซฟาเพียงลำพังพักผ่อนสักพัก จากนั้นลุกขึ้นไปยังโรงพยาบาลโว่หลง
หลิวเสี่ยวอิงวางแผนให้เฝิงจั๋วเสร็จเรียบร้อยแล้ว เนื่องเพราะการเรียกร้องของเฝิงจั๋ว ยังเก็บห้องทดลองแห่งหนึ่งให้กับเขาโดยเฉพาะอีกทั้งเฝิงจั๋วเรียกร้องว่า เนื่องเพราะเป็นสูตรลับเพียงเจ้าเดียว ดังนั้นตอนที่เขาผลิตยาอยู่ไม่อนุญาตให้ใครๆเข้ามา
สำหรับข้อนี้หลิวเสี่ยวอิงแสดงให้เห็นว่า “ใครจะอยากเห็นว่าคุณผลิตยายังไงล่ะ?”
เฝิงจั๋วยิ้มแล้วยิ้มอีกอย่างลึกลับ ไม่พูด
ไป๋ยี่เฟยมาถึงที่นี่เดินเล่นไปหนึ่งรอบ หลังจากไม่มีความผิดปกติอะไรแล้วจึงไปโหวจวี๋กรุ๊ป
ตอนนี้เขาจะสืบเรื่องบางอย่าง แต่จางหัวปินยังอยู่ในเมืองข้างเคียง รอถึงเขากลับมาคาดว่าก็ต้องเป็นอีกหลายวันแล้ว ดังนั้นไป๋ยี่เฟยไม่อาจจะรอเพิ่มอีกหลายวัน
……
ก่อนที่ไป๋ยี่เฟยจะกลับมา สาวน้อยที่นั่งรถอเนกประสงค์คนนั้นก็มาถึงเมืองเทียนเป่ยแล้วเช่นกัน อีกทั้งไปยังโรงแรมเทียนเป่ยแล้ว
นอกโรงแรม ฉางเชี่ยวสวมใส่ชุดสูทสีน้ำเงินเข้มทั้งตัว ยืนตรงรอสาวน้อยลงมาอยู่
“ลี่หย่า”
ฉุงลี่หย่ายิ้มลงจากรถ “ทำให้พี่ฉางเชี่ยวรอนานแล้ว”
ฉางเชี่ยวเห็นสภาพขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณไม่สมควรมา”
“ทำไมจะไม่มาล่ะ?” ฉุงลี่หย่า ฮึ เสียงเบาๆหนึ่งที “จะให้ฉันมองดูคนที่ฆ่าพี่ของฉันเป็นอิสระไม่มีข้อผูกมัดใดๆทั้งสิ้นหรือ?”
ฉางเชี่ยวรู้ว่าฉุงลี่หย่าคืออยากจะแก้แค้นให้กับฉุงโยวเวย แต่ไป๋ยี่เฟยตอนนี้เป็นคนที่สหพันธ์ธุรกิจเมืองหลวงปกป้องคุ้มครอง ฉุงลี่หย่าถ้าหากว่าไปฆ่าไป๋ยี่เฟยอย่างโจ่งแจ้ง ตระกูลฉุงจะถูกพัวพันไปด้วย
“พวกเราเข้าไปแล้วค่อยพูด” ฉางเชี่ยวดึงฉุงลี่หย่าเข้าไปในห้องพิเศษอย่างจนใจ
ทันทีที่เข้าไปในห้องพิเศษ ฉุงลี่หย่าก็อดไม่ได้แบ่งปันเรื่องที่เกิดในวันนี้ของเธอ “พี่ฉางเชี่ยว วันนี้ฉันให้คนไปฆ่าไป๋ยี่เฟยแล้ว แต่ว่าทำให้คนหนีไปได้”
ฉางเชี่ยวได้ยินคำพูดลูกตาหดทันที “คุณทำไมบุ่มบ่ามขนาดนี้ล่ะ?ข้างกายไป๋ยี่เฟยมีคนปกป้องอยู่ คนทั่วไปไม่ใช่คู่ต่อสู้แม้แต่น้อย!”
“ไม่ล่ะ ฉันคือตั้งใจหาตอนที่ข้างกายเขาไม่มีคนปกป้องค่อยไป แต่น่าเสียดายทำให้คนหนีไปได้” ฉุงลี่หย่าพูดอยู่มีความรู้สึกเสียดายเล็กน้อย